ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 914 แม่กับลูกเหมือนหมาข้างถนน
ตอนที่ 914 แม่กับลูกเหมือนหมาข้างถนน
“พ่อ!..เป็นอะไรไป?” ชางกวนอู๋เต๋อคลานไปหาชางกวนซินหยางและมองไปที่ชางกวนซินหยางที่นอนอยู่บนพื้นและถามด้วยความเป็นห่วง ด้วยข้อเท็จจริงที่อยู่ข้างหน้าเขาโดยไม่ต้องอธิบายอะไรชางกวนอู๋เต๋อก็สามารถรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ชางกวนเจ้อแล้วพูดว่า “นี่แกทำอะไรลงไป..เขาเป็นปู่ของแกนะ!”
เจิ้งหยาซื่อก็ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าเศร้าๆว่า “ที่รัก!..ทำไมคุณถึงถูกมันจับได้ล่ะ..คุณรู้มั้ยว่ามันทรมานฉันยังไง..คุณต้องแก้แค้นให้ฉันนะ”
ชางกวนอู๋เต๋อพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ถึงแม้ว่าเราจะใจร้ายกับแกแต่อย่างน้อยๆพวกเราก็ไม่ได้ฆ่าแกใช่มั้ย?..แกทำแบบนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
ชางกวนเจ้อก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดว่า “ฮ่าๆ..นี่เป็นผลกรรมที่พวกแกสมควรได้รับ..พวกแกปฏิบัติต่อฉันเหมือนหมาตั้งแต่เด็กจนโตเพราะงั้นพวกแกเคยเห็นฉันเป็นหลานชายและลูกชายหรือคนในครอบครัวบ้างหรือเปล่า?..ในสายตาของพวกแกฉันมันก็เป็นแค่เศษขยะ..ครั้งหนึ่งฉันเคยสัญญาเอาไว้ว่าตราบใดที่มีโอกาสฉันจะเอาคืนพวกแกสิบเท่าร้อยเท่าสำหรับสิ่งที่พวกแกทำ..ฉันคิดมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าฉันต้องมีชีวิตรอดเพื่อแก้แค้นพวกแกเพราะงั้นฉันต้องตอบแทนบุญคุณพวกแกอย่างงั้นเหรอ?”
“แกได้ในสิ่งที่แกต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ” ชางกวนอู๋เต๋อพูด “หืมดูเหมือนว่าฉันคิดไม่ผิดสินะว่าแกมันเป็นไอ้ชาติชั่วและแกก็สมรู้ร่วมคิดกับพวกญี่ปุ่นจริงๆ..เอาสิวะจะฆ่าก็ฆ่าพวกเราซะ!”
“ไม่นะพ่อผมยังไม่อยากตาย!..ผมยังไม่อยากตายตอนนี้!” ชางกวนหยานยู่ถึงกับตกใจและร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
“แกเป็นทายาทของตระกูลชางกวนและไม่มีใครในตระกูลชางกวนกลัวความตาย!..หยานยู่เข้มแข็งเอาไว้เพราะความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวและแกจะกลับมาเกิดใหม่เป็นคนที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง” ชางกวนอู๋เต๋อพูด
“ไม่ผมไม่อยากตาย” ชางกวนหยานยู่คร่ำครวญอย่างเศร้าโศกและเงาแห่งความตายก็ปกคลุมไปทั่วหัวใจของเขาและชางกวน หยานยู่ก็รู้สึกทันทีว่าชีวิตนั้นมีค่ามากเพราะเขาเพิ่งอายุยี่สิบต้นๆเท่านั้นเองและยังมีเวลาเหลืออีกมากมายในการเก็บเกี่ยวความสุขแต่ตอนนี้เขากลับต้องตายเพราะงั้นมันน่าเสียดายเกินไป “เดี๋ยวก่อนพี่ใหญ่..พวกเราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอเพราะงั้นโปรดยกโทษให้ฉันด้วย..จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ไม่ว่าอะไรฉันก็จะทำ” ชางกวนหยานยู่คุกเข่าลงบนพื้นและคลานเข้าไปหาชางกวนเจ้อแล้วอ้อนวอน
เมื่อเห็นฉากดังกล่าวชางกวนอู๋เต๋อก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ไอ้หนูทำแบบนั้นมันจะไปมีประโยชน์อะไร” ชางกวนอู๋เต๋อพูดอย่างประชดประชัน
“อะอะ..ตระกูลชางกวนของเรามีลูกหลานที่ขี้ขลาดและเลวทรามถึงสองคนแบบนี้ฉันละอายใจต่อบรรพบุรุษของตระกูลชางกวนจริงๆ” ชางกวนซินหยางพูดอย่างอ่อนแรงและดวงตาก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเพราะถ้าเขาฆ่าชางกวนเจ้อไปตั้งแต่ตอนแรกเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
“ปัง!” ชางกวนเจ้อเตะชางกวนหยานยู่ออกไปและถุยน้ำลายด้วยความรังเกียจและพูดว่า “พี่ใหญ่เหรอฮ่าฮ่า..แกไม่เรียกฉันว่าลูกนอกคอกหรอกเหรอ..อยู่ๆฉันก็กลายเป็นพี่ใหญ่ของแก..ฉันยินดีที่จะมอบให้โอกาสแกเพราะงั้นถ้าแกเลียพื้นรองเท้าของฉันให้สะอาดบางทีฉันจะปล่อยแกไปก็ได้”
“เอาสิฉันจะเลีย” ชางกวนหยานยู่พยายามลุกขึ้นและคลานไปหาชางกวนเจ้อและพยายามอดทนกับอาการคลื่นไส้จากนั้นก็ก้มหน้าลงเพื่อเลียพื้นรองเท้าของชางกวนเจ้อ เมื่อเห็นฉากดังกล่าวชางกวนอู๋เต๋อก็ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจพรางคิดว่าเขาให้กำเนิดลูกชายแบบนี้ได้อย่างไรมันช่างไร้ความหวังเกินไป
“ฉันก็ยินดีที่จะเป็นสุนัขรับใช้ของนายน้อยเพราะงั้นได้โปรดปล่อยฉันไปด้วยเถอะ” เจิ้งหยาซื่อก็รีบอ้อนวอนราวกับการคว้าฟางเส้นสุดท้ายในการเอาชีวิตรอดเอาไว้
“ฮ่าฮ่า…” ชางกวนเจ้อแสยะยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดว่า “แม่ลูกคู่นี้ไม่เลวเลย..ถึงแม้ว่าเธอจะแก่ไปหน่อยแต่ก็ยังสวยอยู่เพราะงั้นถ้าเอาเธอไปขายล่ะก็ฉันอาจจะทำเงินได้ไม่น้อยเลย”
“ตราบใดที่นายน้อยไม่ฆ่าฉันล่ะก็นายน้อยจะให้ฉันทำอะไรก็ได้” เจิ้งหยาซื่อพูด
“คุณ!..แม่งเอ๊ย!” ชางกวนอู๋เต๋อไม่รู้จะอธิบายยังไงจริงๆเพราะภรรยากับลูกชายสองคนนี้ได้ทำเสียให้ตระกูลชางกวนอับอายอย่างมาก
ชางกวนเจ้อก็หัวเราะอย่างเย่อหยิ่งและมองไปที่ชางกวนอู๋เต๋อข้างหน้าเขาแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าแกคิดยังไงเมื่อแกเห็นสถานการณ์แบบนี้..แกรู้สึกอึดอัดมากมั้ย?..แกรู้สึกไร้ประโยชน์ไร้หนทางบ้างหรือเปล่า..ว่าแต่ใครนะที่เป็นทายาทของตระกูลชางกวน?”
ชางกวนอู๋เต๋ออดไม่ได้ที่จะตะลึงและพูดว่า “แกหมายความว่าไง?”
ชางกวนเจ้อก็หัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยามและมองไปที่เจิ้งหยาซื่อแล้วพูดว่า “นี่นังตัวแสบฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้ดีกว่าฉันใช่ไหมในเรื่องนี้?”
“ใช่ๆ” เจิ้งหยาซื่อดูเหมือนจะจำบางสิ่งได้และพูดว่า “หยานยู่นั้นไม่ใช่คนที่เก่งและมีความสามารถเลยและความจริงก็คือเขาไม่ใช่ทายาทของตระกูลชางกวนเพราะงั้นปล่อยพวกเราไปเถอะ”
“หย่าซื่อคุณหมายความว่าไง?” ชางกวนอู๋เต๋อถามด้วยความประหลาดใจ
“ฉันพูดจริงหยานยู่ไม่ใช่ลูกชายของคุณ..ฉันท้องกับผู้ชายคนอื่น!” เจิ้งหยาซื่อพูดต่อ “คุณมัวแต่ฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกวันโดยไม่สนใจครอบครัวเพราะงั้นคุณเคยคิดเกี่ยวกับความรู้สึกของฉันบ้างไหม..ฉันรู้สึกเหงาเปล่าเปลี่ยวและต้องการใครสักคนที่จะทำให้ฉันมีความสุข”
“ได้ยินไหมได้ยินหรือยังว่าผมไม่ใช่ทายาทของตระกูลชางกวน” ชางกวนหยานยู่พูดอย่างหวาดระแวง “ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลชางกวนเลยเพราะงั้นปล่อยผมไปเถอะ!” แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริงและเขาก็ไม่ได้รู้สึกละอายใจใดๆเลยเพราะเขาเกิดมาจากความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเขากับคนอื่น แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเขาโชคดีมากเพราะตราบใดที่เขาไม่ใช่สมาชิกของตระกูลชาวกวนแล้วชางกวนเจ้อก็จะไม่ฆ่าเขาใช่ไหม? ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชางกวนในอนาคต แต่การพึ่งพาตัวเองในการขายหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์ของชางกวนอู๋เต๋อก็ทำให้เขามีรายได้ถึง 800 ล้านหยวนซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตไปทั้งชีวิตแล้ว นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเอาชีวิตรอดนั่นเอง
“เธอกล้าโกหกฉันได้ยังไง!” ชางกวนซินหยางจ้องไปที่เจิ้งหยาซื่ออย่างโกรธเกรี้ยวและพูด เมื่อเห็นฉากดังกล่าวชางกวนเจ้อก็แสยะยิ้มแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆเพราะเหมือนว่าเขากำลังดูละครอยู่
จากนั้นชางกวนอู๋เต๋อก็เหลือบมองชางกวนซินหยางด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเจิ้งหยาซื่อก็หัวเราะและพูดว่า “ถ้าฉันไม่ได้บอกแบบนั้นพวกคุณจะใจดีกับหยานยู่หรือเปล่า?..ฉันเกรงว่าพวกคุณจะไล่พวกเราออกจากตระกูลไป..ตาเฒ่าแกคิดว่าแกดีนักเหรอถ้าไม่ใช่เพราะทรัพย์สินของตระกูลแล้วแกคิดว่าฉันจะทำอย่างนั้นกับแกงั้นเหรอ?..ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย!”
ชางกวนอู๋เต๋อก็ตกใจและถามด้วยความประหลาดใจว่า “หยาซื่อคุณกำลังพูดอะไรของคุณ?”
“อะไรนะ?..คุณไม่เข้าใจเหรอฉันหมายถึงพ่อของคุณหรือพ่อตาของฉันเนี่ยได้ล่อลวงลูกสะใภ้ของเขาและหลับนอนกับลูกสะใภ้ไง!” เจิ้งหยาซื่อพูด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำพูดเหล่านี้เป็นสายฟ้าฟาดลงกลางใจและทำให้ชางกวนอู๋เต๋อไม่สามารถตั้งสติได้เป็นเวลานานเพราะปรากฏว่าพ่อและภรรยาของเขาเองได้มีเพศสัมพันธ์กันอย่างลับๆ เรื่องแบบนี้ชางกวนอู๋เต๋อจะทำใจได้อย่างไรเพราะในสายตาของเขาพ่อของเขานั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมแต่เขากลับทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ลงไป
ที่ด้านนอกเย่เชียนและคนอื่นๆก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าวที่น่าตกใจเช่นนี้และไม่มีใครคาดคิดว่าสิ่งต่างๆจะกลายเป็นแบบนี้ ซึ่งดูจากการแสดงออกของชางกวนเจ้อเห็นได้ชัดว่าเขารู้เรื่องนี้มานานแล้ว ซึ่งเมื่อลองคิดดูชางกวนเจ้อคนนี้เก็บชางกวนซินหยางเอาไว้โดยไม่ฆ่าก็เพื่อรอวันนี้
“หือ..ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลชางกวนนี่มันยุ่งเหยิงจริงๆ..ชางกวนซินหยางนี่มันเฒ่าหัวงูชัดๆเพราะแม้แต่ลูกสะใภ้ของเขาก็ยังเสร็จเขา” หลี่เหว่ยขมวดคิ้วแล้วพูด
“คนที่น่าสงสารที่สุดคือชางกวนอู๋เต๋อที่เสียทุกอย่างแม้กระทั่งภรรยาที่โดนพ่อของตัวเองแย่งไป” เฟิงหลานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูด
“ชางกวนเจ้อนี่มันมีพิษสงร้ายจริงๆ..ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องนี้มานานแล้วแต่เขาอนทนมาจนถึงวันนี้..ต้องบอกเลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่ดีจริงๆและถ้าเราไม่กำจัดเขาให้เร็วที่สุดเขาจะเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับเราในอนาคตอย่างแน่นอน” เย่เชียนพูด
“ยังไงเขาก็อยู่ได้ไม่นานหรอกเพราะไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์เพราะสำหรับของเขี้ยวหมาป่าแล้วศัตรูทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้าเราจะเป็นเพียงเศษเนื้อในปากของเราเท่านั้น” หลี่เหว่ยพูด
“คอยดูเถอะมันต้องมีการแสดงดีๆอีกแน่” เย่เชียนพึมพำและหันกลับมามองอีกครั้ง
“ถ้าฉันไม่ได้บอกเขาว่าหยานยู่เป็นของฉันและลูกของเราล่ะก็ตาเฒ่าคนนี้จะดีกับฉันและหยานยู่อย่างงั้นเหรอ” เจิ้งหยาซื่อพูด “ตอนที่หยานยู่เกิดพ่อของคุณกับพ่อตาของฉันให้หุ้นบริษัททะเลสี่ทิศกับเขา10%และนั่นก็อธิบายทุกอย่างได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“พ่อ!..มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?” ซ่างกวนอู๋เต๋อหันไปมองชางกวนซินหยางและถามด้วยความเจ็บปวด สำหรับผู้ชายสิ่งที่เศร้าที่สุดคือการโดนพรากภรรยาและเป็นชู้กันอย่างลับหลัง ซึ่งยิ่งผู้ชายอีกคนเป็นพ่อของเขาแล้วเขาก็เศร้ายิ่งกว่าเดิม ซึ่งเขาถูกหักหลังโดยพ่อของเขาเองดังนั้นความโกรธและความขุ่นเคืองในใจเขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลย
.