ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 910 ไล่ล่า
ตอนที่ 910 ไล่ล่า
เกาะเรบุนในฮอกไกโดหรือที่เรียกว่าเกาะดอกไม้ลอยน้ำที่มีดอกไม้มากกว่า 300 ชนิดบนเกาะและเป็นเกาะที่อยู่เหนือสุดของประเทศและมีอากาศหนาวตลอดทั้งปี ที่นี่เป็นแหล่งอาหารทะเลและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยซึ่งมีพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วบริเวณ
ทางเหนือของเกาะเรบุนเป็นป่าดงดิบที่มีป่าทึบและส่วนใหญ่เป็นป่าสนซึ่งที่นี่ยังไม่ได้รับการพัฒนาและรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นก็ได้คำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาและได้ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาป่าแห่งนี้เอาไว้ บนเขาใหญ่ลูกนี้ชาวบ้านบางคนจะมาล่าสัตว์และสร้างเอาไว้โดยนายพรานบนภูเขาซึ่งง่ายต่อการล่าสัตว์อย่างมาก
ในส่วนลึกของป่าสนทางทิศเหนือในกระท่อมไม้เก่าๆที่ชิงเฟิงและนากาจิมะชินนะและกำลังย่างปลาที่จับได้สดๆด้วยไฟ สมาชิกเขี้ยวหมาป่านั้นล้วนผ่านการฝึกฝนการเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมนี้มาแล้ว ดังนั้นในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ชิงเฟิงก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
“แม่งเอ๊ยที่นี่หนาวมากจนจะแข็งตายอยู่แล้วเนี่ย..โชคดีที่มันยังมีกระท่อมเล็กๆอยู่ที่นี่ไม่งั้นเราคงหนาวตายอยู่ข้างนอก” ชิงเฟิงพึมพำอย่างหดหู่
นากาจิมะชินนะไม่พูดและเข้าใกล้ชิงเฟิงอย่างช้าๆและความหมายนั้นก็ชัดเจนมากและชิงเฟิงก็เข้าใจแล้วสวมกอดนากาจิมะชินนะเอาไว้ในอ้อมแขนของเขาเพื่อให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกันด้วยอุณหภูมิร่างกาย “ฉันเสียใจมากที่พี่น้องของเราต้องตายไปตั้งหลายคน..เราสูญเสียมากมายในคราวเดียว..ถ้าหลี่เหว่ยรู้เรื่องนี้ไอ้หมอนั่นคงจะหัวเราะเยาะฉันแล้ว” ชิงเฟิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “พวกมันจะต้องชดใช้..อีกไม่นานฉันจะเอาคืน”
“เอาล่ะไม่ต้องบ่นแล้วเราควรหาทางออกจากญี่ปุ่นโดยเร็วที่สุด” นากาจิมะชินนะพูด “มือถือแบตเตอรี่หมดแล้วเราไม่มีทางติดต่อกับภายนอกได้เลย..ฉันเชื่อว่าการตรวจค้นและการไล่ล่าของรัฐบาลญี่ปุ่นข้างนอกยังเข้มงวดมาก..ฉันเกรงว่าพวกนั้นจะพบพวกเราทันทีที่เราออกไป”
“ใช่!..คราวนี้ปัญหามันหนักหนาสาหัสจริงๆเพราะองค์กรใหญ่ๆหลายแห่งร่วมมือกัน..เฮ้อน่าเสียดายที่ตอนนี้เราไม่มีทางติดต่อบอสได้เลย..ไม่งั้นเรื่องต่างๆคงไม่เป็นแบบนี้” ชิงเฟิงพูด
“อย่ากังวลไปเลย..พี่สาวหลันอยู่ในเมืองหลวงเพราะงั้นฉันเชื่อว่าเธอน่าจะเห็นเบาะแสบางอย่างจากสิ่งเหล่านี้ได้” นากาจิมะชินนะพูด “ยังไงก็เถอะเราควรหาทางออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุดเพราะที่นี่ไม่ใช่ที่จะอยู่ได้นานๆ..เพราะถ้าเรื่องมันบานปลายก็จะยิ่งมีผลกระทบต่อพี่สาวหลันมากเท่านั้น”
“ฉันอยากรู้จริงๆว่าใครที่อยู่เบื้องหลัง..เฮ้อ” ชิงเฟิงพูดและถอนหายใจยาวๆแล้วพูดต่อ “ฉันไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใครแต่มันมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมมากในการทำให้องค์กรเหล่านั้นในประเทศญี่ปุ่นละทิ้งความเกลียดชังและความแค้นต่อกันได้..ศัตรูครั้งนี้ไม่ธรรมดาเลย”
นากาจิมะชินนะก็พยักหน้าเล็กน้อยและขมวดคิ้วแน่นเพราะเธอเองก็นึกไม่ออกเลยว่าใครสามารถทำให้องค์กรใหญ่ๆเหล่านี้ละทิ้งความเกลียดชังต่อกันได้ เธอนั้นเขาก็หันไปมองเซี่ยจือยี่ที่นอนอยู่ข้างในจากนั้นนากาจิมะชินนะถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า “ชิงเฟิงแล้วอาการบาดเจ็บของเธอเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรมาก..ฉันเอาหัวกระสุนออกมาแล้วและใช้กับสมุนไพรบรรเทาอาการ..แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันยากที่จะยอมรับได้เพราะงั้นเธอจึงหมดสติไป” ชิงเฟิงพูด “ฉันไม่ มีสิ่งนั้น วิธีเดียวที่จะช่วยเธอได้คือการพึ่งพาเธอทั้งหมด”
นากาจิมะชินนะก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า “พ่อของเซี่ยจือยี่และแก๊งฝูชิงถูกกวาดล้างไปหมดแล้วแต่เธอโชคช่วยที่หนีรอดมาได้ด้วยความบังเอิญ..ฉันคิดว่าหัวใจของเธอจะแหลกสลาย..เฮ้อ..ภารกิจในญี่ปุ่นของเราครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า”
“ใช่!..นี่มันเลวร้ายมาก..คราวนี้เราเสียพี่น้องไปตั้งกี่คนและจะเหลือรอดสักกี่คนกัน?..ต่อให้พวกเราจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่มันก็สู้จำนวนคนที่มากกว่าไม่ได้อยู่ดี..ฉันไม่คิดเลยว่าพวกมันจะรวมตัวกันได้อย่างรวดเร็วและบุกโจมตีพวกเราทางทุกทางแบบนี้” ชิงเฟิงพูด “ยังไงก็เถอะพวกเราก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้..ถ้าฉันกลับไปฉันคงโดนคนอื่นหัวเราะเยาะอย่างแน่นอน..ฉันอยากจะขุดหลุมฝังตัวเองแล้วลืมมันไปจริงๆ”
“ชีวิตคนเราย่อมมีขึ้นมีลง..หากการเดินทางทั้งหมดราบรื่นมันก็ขาดรสชาติของชีวิตไม่ใช่เหรอ?..ฉันเชื่อว่าผู้ชายที่ฉันเลือกคือผู้ชายที่จะลุกขึ้นเมื่อล้มลงทุกเมื่อและรู้จักใช้ความล้มเหลวให้เป็นประสบการณ์และสามารถทนต่อความพ่ายแพ้ได้จนกลายเป็นคนที่กล้าหาญจากความพ่ายแพ้” นากาจิมะชินนะแสดงความรักอันแรงกล้าของเธอโดยไม่ลังเล
ชิงเฟิงก็ยิ้มอย่างพึงพอใจและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเหตุผลที่คนล้มเหลวควรจะทำ..ไม่ต้องกังวลไปเพราะตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ฉันจะปกป้องเธอเอง..ให้พวกมันได้รู้ว่าพวกเราแข็งแกร่งแค่ไหน”
“อ่ะ…อ่ะ…” เสียงไอของเซี่ยจือยี่ดังมาจากด้านหลังและจากนั้นชิงเฟิงกับนากาจิมะชินนะก็รีบหันกลับไปมอ เมื่อเห็นว่าเซี่ยจือยี่ตื่นแล้วพวกเขาก็รีบไปหา จากนั้นชิงเฟิงวางมือบนหน้าผากของเซี่ยจือยี่เพื่อตรวจไข้ของเธอ “ไข้ลดลงแล้วคุณเซี่ยคุณอยากดื่มน้ำหรือเปล่า”
“ที่นี่ที่ไหน” เซี่ยจือยี่รู้สึกเหนื่อยล้าและไม่สามารถออกแรงใดๆได้แม้กระทั่งการพูดก็ยังไม่มีแรงจะพูด
“ที่นี่คือเกาะเรบุนและตอนนี้องค์กรใหญ่ๆในประเทศญี่ปุ่นกำลังตามหาตัวพวกเราอยู่และเราไม่สามารถออกไปได้ในตอนนี้..ดังนั้นเราจึงต้องซ่อนที่นี่ไปก่อน” ชิงเฟิงพูด “ไม่ต้องกังวลไปพี่สะใภ้..คุณเป็นภรรยาของม่อหลงเพราะงั้นถึงแม้ว่าจะต้องเสี่ยงแค่ไหนผมก็จะไม่ปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับคุณหรอก”
“พ่อของฉันอยู่ที่ไหน?..แล้วพี่น้องคนอื่นๆของแก๊งฝูชิงล่ะ?” เซี่ยจือยี่ถาม
ชิงเฟิงและนากาจิมะชินนะก็ชำเลืองมองกันและกันและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วพูดว่า “คุณควรพักรักษาอาการบาดเจ็บของคุณก่อนแล้วค่อยพูดถึงเรื่องนี้กันในภายหลัง..ผมจะไปเอาน้ำมาให้” หลังจากพูดชิงเฟิงก็หันไปหยิบน้ำ อันที่จริงเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเซี่ยจือยี่อย่างไรหรือจะตอบคำถามนี้อย่างไร เพราะถ้าเขาบอกเซี่ยจือยี่ในตอนนี้เขากลัวว่าเธอจะไม่สามารถทนต่อความจริงและอาการบาดเจ็บจะทรุดลงได้
แน่นอนว่าเซี่ยจือยี่เองก็รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เธอก็ลังเลและไม่เต็มใจที่จะเชื่อและรู้สึกขัดแย้งในใจ เธอหวังว่าชิงเฟิงจะพูดว่าพ่อของเธอและแก๊งฝูชิงนั้นไม่เป็นอะไรแต่สิ่งต่างๆได้พัฒนามาถึงจุดนี้และถ้าเธอไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เธอก็คงจะไม่ใช่เซี่ยจือยี่คนนี้
“ร่างกายของคุณยังบาดเจ็บอยู่แต่เมื่อคุณอาการดีขึ้นเราจะออกไปจากที่นี่แล้วหาทางติดต่อบอสให้ได้..แต่ไม่ต้องกังวลไปตราบใดที่เราอยู่ที่นี่คุณจะไม่เป็นอะไร” นากาจิมะชินนะมองไปที่เซี่ยจือยี่และพูดอย่างหนักแน่น เพราะเธอเป็นผู้หญิงดังนั้นเธอจึงสามารถเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของเซี่ยจือยี่ได้ดีในขณะนี้และเธอก็ชัดเจนมากว่าเธอต้องสงบสติอารมณ์ของเซี่ยจือยี่
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าไอพวกนั้นมันคิดยังไงถึงได้มาซ่อนตัวอยู่ในที่เส็งเคร็งแบบนี้ได้ยังไง..ทางการสั่งให้เรามาค้นหาพวกมันที่นี่เหมือนกลั่นแกล้งกันชัดๆ” เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากข้างนอก
“ไอ้พวกรัฐบาลนี่มันได้แต่ชี้นิ้วสั่งจริงๆ..ในญี่ปุ่นสำนักนินจาอิงะของเราถูกมองว่าเป็นองค์กรเล็กๆเท่านั้น..ถ้าพวกมันต้องการให้เราไปทางตะวันออกเราก็ต้องไปทางตะวันออกตามคำสั่ง” จากนั้นอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น “เฮ้ย?..ตรงนั้นมีกระท่อมไม้แกคิดว่าพวกมันจะซ่อนอยู่ในนั้นหรือเปล่า?”
“ที่นั่นงั้นเหรอมีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดว่าพวกมันซ่อนอยู่ที่นี่..ลืมไปหรือเปล่าคราวที่แล้วเราอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนของแก๊งฝูชิงเราไม่ได้สั่งสอนสาวน้อยนั่นเลย”
“เอาเถอะตอนนี้อากาศมันหนาวมากและกำลังจะมืดแล้วเพราะงั้นเราเข้าไปก่อไฟกันดีกว่า..จากนั้นเราจะกลับไปหลังจากอยู่ที่นี่อีกสักสองวัน..ฉันล่ะเบื่อจริงๆที่พวกนั้นได้สนุกสนานในเมืองแต่พวกเรากลับต้องมาอยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยินการสนทนาดังกล่าวชิงเฟิงและนากาจิมะชินนะก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและกัน “พวกนั้นเป็นนินจาอิงะ!” นากาจิมะชินะพูด
“แม่งเอ๊ยพวกมันเก่งจริงๆ..เรามาซ่อนตัวอยู่ที่นี่แต่พวกมันก็ยังหาเจอ” ชิงเฟิงพึมพำและพูดว่า “เร็วเข้าไปซ่อนก่อน” หลังจากนั้นเขาก็ช่วยนากาจิมะชินนะพยุงเซี่ยจือยี่ขึ้นและทั้งสามก็กระโดดออกมาจากหน้าต่างด้านหลัง
ผ่านไปครู่หนึ่งประตูกระท่อมไม้ก็ถูกผลักเปิดเสียงดังและมีชายห้าคนเข้ามาจากข้างนอก พวกเขานั้นเคยอยู่อย่างสะดวกสบายมาก่อนแต่กลับต้องมาที่นี่พวกเขาจึงไม่สบอารมณ์อย่างมากแต่เมื่อเห็นว่ากองไฟภายในยังคงลุกไหม้อยู่ทั้งห้าคนก็อดไม่ได้จะตกตะลึง
“กองไฟยังใหม่อยู่ดูเหมือนเมื่อกี้นี้จะมีใครอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์พูด
“บัดซบ..พวกมันอยู่ที่นี่จริงๆงั้นเหรอ..ดูเหมือนว่าเราจะจับปลาตัวใหญ่ได้จริงๆและถ้าจับพวกมันได้เราก็จะไม่ต้องลำบากอีกต่อไป” ชายหนุ่มร่างเตี้ยอีกคนพูด “หยิ่งผยองนักไอพวกนี้..ในที่สุดฉันก็จะได้ฆ่าพวกมันสักที”
“พวกมันน่าจะยังไปได้ไม่ไกล..รีบตามพวกมันไปเถอะ” ชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำออกคำสั่ง
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้วพวกเขากล้าที่จะหย่อนหยานที่ไหนและรีบไล่แยกย้ายกันไปตามล่าทันทีเพราะนี่เป็นโอกาสหายากมากดังนั้นพวกเขาจะพลาดได้อย่างไร ตราบใดที่พวกเขาจับชิงเฟิงและคนอื่นๆได้สถานะของพวกเขาในสำนักนินจาอิงะก็จะเพิ่มขึ้นและจากนั้นพวกเขาจะไม่ลำบากอีกต่อไป
ชิงเฟิงรับรู้ได้ว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเข้าไปเพื่อฆ่านินจานินจาอิงะทั้งห้า แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา “นินจาอิงะงั้นเหรอไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เมื่อเสียงนั้นจบลงจู่ๆก็มีชายหนุ่มปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
เมื่อชิงเฟิงเห็นคนที่ปรากฏตัวออกมาเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจและสีหน้าของเขาก็ดูตกตะลึงทันที จากนั้นเขาก็แสดงรอยยิ้มพลางครุ่นคิดอย่างลับๆว่า “ไอ้หมอนี่..หาเราเจอได้ยังไงกัน”
นินจาทั้งห้าของสำนักอิงะก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่งและทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกประหม่าและทุกคนก็มีสีหน้าที่หวาดระแวงและจ้องไปที่คนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาอย่างใกล้ชิด
.