ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 907 โอนหุ้น
ตอนที่ 907 โอนหุ้น
ถึงแม้ว่าชางกวนซินหยางจะโกรธมากแต่เขาก็ต้องหุบปากอย่างเชื่อฟังในเวลานี้เพราะยิ่งอายุมากขึ้นเขาก็ยิ่งกลัวความตายมากขึ้นและนั่นเป็นเพราะเขายังมีภาระและพันธะอีกหลายๆอย่างที่ต้องแบกรับเอาไว้และชางกวนซินหยางก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาเชื่อว่าตราบใดที่ชางกวนอู๋เต๋อกลับมาเขาก็จะปลอดภัย ตอนนี้เป็นการดีที่สุดที่จะไม่เผชิญหน้ากับชางกวนเจ้อที่ตอนนี้กำลังบ้าไปแล้ว
“พาเขาไปที่ห้องใต้ดินและขังเขาไว้และห้ามเลือดของเขาด้วย..ฉันไม่อยากให้เขาตายเร็วๆ..อย่างน้อยๆก็จะใช้เวลาอีกสองหรือสามวันและเมื่อซ่างกวนอู๋เต๋อกลับมามันจะมีการแสดงสนุกๆให้พวกเราชม” ชางกวนเจ้อพูดกับพวกลูกน้องของเขา
หลังจากได้ยินคำพูดของชางกวนเจ้อแล้วลูกน้องก็ตอบรับและลากชางกวนซินหยางไปที่ห้องใต้ดิน จากนั้นชางกวนเจ้อก็ยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วพูดว่า “ติดต่อสมาชิกตระกูลชางกวนทุกคนและให้พวกเขามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมประชุมตระกูลในเช้าวันพรุ่งนี้..ย้ำไปว่านี่เป็นคำสั่งจากชางกวนซินหยาง” หลังจากนั้นชางกวนเจ้อก็เดินขึ้นไปชั้นบน
เมื่อมาถึงโต๊ะของชางกวนซินหยางแล้วชางกวนเจ้อก็เปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มเข้าสู่โปรแกรมด้วยการแฮ็คและพยายามที่จะเจาะรหัสผ่านของชางกวนซินหยางเพื่อโอนทรัพย์สินต่างๆไปยังชื่อของเขาเอง
แน่นอนว่าชางกวนอู๋เต๋อกับเย่เชียนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองหลวงเพราะหลังจากที่ชางกวนอู๋เต๋อช่วยชีวิตชางกวนหยานยู่ได้เขาก็รีบกลับไปที่บ้านของซงหยานเจิ้ง ซึ่งซงหยานเจิ้งก็รออยู่ที่ห้องนั่งเล่นและเมื่อเขาเห็นพวกเขากลับมาเขาก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มออกมาเพราะในที่สุดก้อนหินในใจของเขาก็ถูกปล่อยลง ซึ่งถ้าชางกวนหยานยู่ยังคงอยู่ในกำมือของเย่เชียนล่ะก็เขาจะไม่กล้าดำเนินการใดๆ แต่เมื่อชางกวนหยานยู่ได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยแล้วซงหยานเจิ้งก็จะไร้ความปรานีใดๆและสั่งคนของเขาไปโจมตีคาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์ได้
“เป็นไงบ้าง?..เป็นอะไรมากมั้ย?” ซงหยวนเจิ้งทักทายเขาและถาม
“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี” ชางกวนอู๋เต๋อพูด “พวกนั้นมั่นใจเกินไปจนส่งแต่พวกขยะมาเฝ้าแค่ไม่กี่คนเพราะงั้นมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนของคุณซงเลย..หยานยู่ขอบคุณซงสิ..ถ้าไม่ใช่เพราะเขาชีวิตของแกคงจะจบลงที่นั่น”
“ขอบคุณครับคุณซง” ซางกวนหยานยู่พูด ถึงแม้ว่าเขาจะพูดอย่างจริงใจแต่แววตาของเขากลับดูถูกเหยียดหยามและเขาก็แอบคิดในใจว่า ‘บ้าจริงถึงจะไม่มีแกฉันก็อยู่อย่างสบายได้”
“เราคนกันเองเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอก” ซงหยานเจิ้งพูดด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ลูกน้องที่อยู่ข้างหลังชางกวนอู๋เต๋อและพูดว่า “พวกนายคงเหนื่อยเพราะงั้นกลับไปพักผ่อนและไปหาแม่บ้านเพื่อรับรางวัล..ตราบใดที่พวกนายติดตามฉันต่อไปฉันรับประกันว่าพวกนายจะเพลิดเพลินไปกับความมั่งคั่งและความสุขอย่างไม่รู้จบ”
“เป็นโชคก้อนใหญ่จริงๆสำหรับพวกเขาที่มีเจ้านายอย่างคุณซง” ซางกวนอู๋เต๋อพูดประจบประแจง ซึ่งคนเหล่านั้นก็พยักหน้าและขอบคุณจากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกไป
ซงหยานเจิ้งก็ดึงชางกวนอู๋เต๋อนั่งลงบนโซฟาแล้วพูดว่า “ตอนนี้ลูกชายของคุณก็ได้รับการช่วยเหลือแล้วเพราะงั้นเราจะเริ่มดำเนินการกันต่อ..หืม..เย่เชียนมันหยิ่งผยองเกินไปเพราะงั้นจัดการแสดงชุดใหญ่ให้มันสักหน่อย..มันจะได้รู้สักทีว่ามาเก๊านั้นเป็นที่ของใคร!”
“ใช่ครับเย่เชียนมันอวดดีเกินไป..ลูกชายของผมต้องทนทุกข์ทรมานเพราะมัน..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมต้องจัดการมันให้ได้..คุณต้องการให้ผมทำอะไรก็บอกมาได้เลยผมจะไม่ปฏิเสธ” ชางกวนอู๋เต๋อตบหน้าอกแล้วพูดอย่างมั่นใจ
“เอาล่ะเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเราหรอก” ซงหยานเจิ้งพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ซงหยานเจิ้งก็พูดต่อ “ฉันชื่มชมตระกูลชางกวนเสมอมาแต่ฉันก็ไม่มีเวลาไปที่เมืองหลวงเพื่อเยี่ยมชมธุรกิจของตระกูลชางเลย..ในฐานะที่พวกคุณเป็นตระกูลของเมืองหลวงเพราะงั้นสำหรับคุณแล้วการพัฒนาของมาเก๊าเทียบไม่ได้กับเมืองหลวงเลย..ดังนั้นผมสามารถกำจัดคาสิโนฟอลเลนพาราไดซ์ได้และถ้าหากคุณชางกวนต้องการผมจะให้คุณบริหารจัดการคาซิโนเอง”
“อันที่จริงการพัฒนาของบริษัททะเลสี่ทิศของเราค่อนข้างซบเซาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและเราต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย หากเราสามารถหาวิธีอื่นในการตั้งหลักในอุตสาหกรรมการพนันได้มันคงจะเป็นทางเลือกที่ดีจริงๆ..ขอบคุณครับคุณซงสำหรับความเมตตาของคุณ..ผมจะไปบอกเรื่องนี้กับพ่ออย่างแน่นอนหลังจากที่ผมกลับไป..ผมคิดว่าพ่อของผมต้องมีความสุขมากแน่ๆ” ชางกวนอู๋เต๋อพูด
ซงหยานเจิ้งพูดว่า “ดีมากถ้าทุกคนให้ความร่วมมือในอนาคตจะไม่มีใครกล้ามาท้าทายพวกเรา”
“แน่นอนมาเก๊าเป็นโลกของตระกูลซงและถ้าคุณซงจัดการเรื่องไหนมันต้องออกมายอดเยี่ยมเสมอ” ชางกวนอู๋เต๋อพูด “ที่จริงแล้วคุณน่าจะลองอาจพิจารณาลงทุนในปักกิ่งด้วยนะ..ท้ายที่สุดมันอยู่ใต้เท้าของจักรพรรดิใช่มั้ยล่ะครับ..ถ้าคุณซงขยายอำนาจไปยังเมืองหลวงในอนาคตมันจะเป็นประโยชน์มากอย่างแน่นอน”
ซงหยานเจิ้งหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่..จริงๆแล้วผมก็อยากไปที่ปักกิ่งเพื่อขยายขอบเขตอำนาจมาโดยตลอดแต่ผมยังหาโอกาสที่เหมาะสมไม่ได้เลย..แต่ตอนนี้ถ้ามีคุณชางกวนให้ความช่วยเหลือมันคงจะดีมาก..เอาล่ะมาเถอะเรามาดื่มชาแทนไวน์กันเถอะและขอให้ความร่วมมือของเราเป็นไปอย่างรุ่งโรจน์”
ขณะที่พูดเขาก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาจากบนโต๊ะกาแฟและทั้งสองก็ชนแก้วกันและหัวเราะกันอย่างมีความสุขราวกับว่าทั้งมาเก๊าและปักกิ่งเป็นของทั้งคู่แล้ว แต่อย่างที่ทุกคนรู้มาเก๊าและปักกิ่งนั้นไม่ใช่ที่ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
“หยานยู่เองก็ลำบากมามากแล้วเพราะงั้นผมคิดว่าคุณชางกวนควรพาเขาขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบนก่อน..ผมจัดห้องเอาไว้เรียบร้อยแล้วและเราค่อยมาหารือรายละเอียดความร่วมมือกันอย่างถี่ถ้วน” ซงหยานเจิ้งพูดแล้วหัวเราะ
“งั้นเดี๋ยวเจอกันครับ” ชางกวนอู๋เต๋อพูดแล้วหันไปมองชางกวนหยานยู่และทั้งสองก็ลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นบน
เมื่อมาถึงห้องชางกวนอู๋เต๋อก็เหลือบมองไปที่ชางกวนหยานยู่แล้วพูดว่า “เป็นยังไงบ้าง..อาการบาดเจ็บไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรใช่ไหม?..มันน่าผิดหวังจริงๆฉันให้กำเนิดคนอ่อนแอแบบนี้มาได้ยังไง..เอาเถอะพักผ่อนไปซะ..พรุ่งนี้เราจะบินกลับปักกิ่งทันที..ฉันเกรงว่าปู่และแม่ของแกจะเป็นห่วง”
หลังจากพูดแล้วชางกวนอู๋เต๋อก็หันกลับมาและเมื่อกำลังจะเดินจากไปจู่ๆชางกวนหยานยู่ก็พูดขึ้นมาว่า “พ่อครับเดี๋ยวก่อน!..ผมมีเรื่องจะบอก”
“มีอะไร..เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ” ชางกวนอู๋เต๋าหันกลับมาแล้วพูด
“พ่อครับ..พ่อเป็นเจ้าของหุ้น10%ของบริษัททะเลสี่ทิศใช่มั้ยครับ?” ชางกวนหยานยู่พูด
ชางกวนอู๋เต๋อก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ใช่พ่อไม่มีหุ้น10%อยู่ในมือ..ทำไมเหรอเกิดอะไรขึ้น?”
“พ่อครับหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นผมก็รู้ตัวว่าผมผิดไปแล้วผมเอาแต่กินดื่มและเที่ยวอยู่ตลอดเพราะงั้นผมขอสัญญาว่าผมจะเป็นคนใหม่ในอนาคตและดูแลบริษัทให้ดี..เราต้องทำให้บริษัททะเลสี่ทิศแข็งแกร่งยิ่งขึ้น” ชางกวนหยานยู่พูด
“นั่นเป็นสิ่งที่ดีและในที่สุดที่แกก็สามารถคิดได้..พ่อหวังว่าแกจะสามารถทำในสิ่งที่แกพูดได้..อนาคตของตระกูลชางกวนจะถูกส่งมอบให้แกเพราะงั้นถ้าแกตั้งใจพวกเราจะโล่งใจมาก” ชางกวนอู๋เต๋อพูดและในทันใดนั้นชางกวนหยานยู่ก็ดูสบายใจขึ้น
“พ่อครับพ่อช่วยโอนหุ้นของพ่อให้ผมจะได้ไหม” ชางกวนหยานยู่พูด
ชางกวนอู๋เต๋อก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “แกต้องการหุ้น10%นี้ไปทำไม?..ที่แกพูดก่อนหน้านี้จุดประสงค์ก็เพื่อหุ้น10%ของฉันเนี่ยนะ?..ฉันจะบอกแกให้ว่าหุ้น10%ของบริษัททะเลสี่ทิศนั้นสำคัญมากเพราะงั้นถ้าแกใช้มันอย่างผิดๆธุรกิจของบริษัทจะเสียหายอย่างมาก”
“พ่อกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย?..ทำไมพ่อถึงไม่เชื่อผมเลย” ชางกวนหยานยู่พูด “พ่อก็รู้ว่าปู่ไม่ค่อยถามเกี่ยวกับบริษัทเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพราะถ้าผมไม่มีอำนาจมากพอมันก็ยากที่จะพูดอะไรในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพราะงั้นพ่อต้องโอนหุ้น10%ให้กับผม..มันจะแตกต่างกันมากถ้าผมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดรองจากคุณปู่..ซึ่งผู้ถือหุ้นเหล่านั้นก็จะทำตามผมอย่างแน่นอนและผมก็จะสามารถพัฒนาบริษัทได้อย่างอิสระและสมบูรณ์แบบที่สุด”
ชางกวนอู๋เต๋อก็มองไปที่ชางกวนหยานยู่อย่างไม่เชื่อและพยายามตัดสินว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงหรือเท็จจากการแสดงออกบนใบหน้าของเขา “พ่อครับทำไมพ่อถึงไม่เชื่อใจผมเลย..มันยากนะที่ผมจะคิดแบบนี้ขึ้นมาได้แล้วทำไมพ่อถึงไม่สนับสนุนผมบ้างล่ะ..ผมจะบอกแม่ว่าพ่อไม่ต้องการให้ผมเติบโตเป็นผู้ใหญ่สักที” ชางกวนหยานยู่เอนกายลงต่อหน้าชางกวนอู๋เต๋อแล้วแสร้งพูดด้วยความผิดหวัง
ชางกวนอู๋เต๋อก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “แกต้องทำตามที่พูดให้ได้..อย่าปล่อยให้ความพยายามของปู่กับพ่อต้องสูญเปล่า..รหัสผ่านตู้เซฟคือวันเกิดแม่ของแกและแกก็สามารถโอนให้เป็นของแกได้..เอาล่ะเงยหน้าขึ้นได้แล้วเพราะพ่อจะเตือนแกเอาไว้อย่างหนึ่งว่าถ้าแกกล้าใช้หุ้นบริษัทไปทำอะไรสกปรกๆล่ะก็อย่าโทษพ่อที่โหดร้ายกับแกก็แล้วกัน..ตอนนั้นไม่ว่าใครจะปกป้องแกมันก็ไร้ประโยชน์”
ชางกวนอู๋เต๋อนั้นรู้ว่าชางกวนหยานยู่เป็นคนแบบไหนและถึงแม้ว่าเขาจะไร้สาระและเที่ยวไปวันๆแต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องปกติเพราะเขาเชื่อว่าลูกชายของตัวเองจะไม่กล้าทำอะไรมากจนเกินไปและเชื่อว่าชางกวนหยานยู่จะไม่ทำอะไรกับหุ้นของบริษัททะเลสี่ทิศอย่างแน่นอน
“ขอบคุณครับพ่อ..พ่อไม่ต้องห่วงผมจะทำให้พ่อเห็นเอง” ชางกวนหยานยู่พูด “พ่อก็ยังเป็นพ่อและพ่อก็รักลูกมากที่สุดผมรู้..ผมเองก็รักพ่อครับ”
ชางกวนอู๋เต๋อก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป ซึ่งสีหน้าของชางกวนหยานยู่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจและเมื่อมองดูพ่อของเขาแล้วเขาก็เต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูกเหยียดหยาม