ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 877 รู้ความลับ
ตอนที่ 877 รู้ความลับ
เมื่อได้ยินคำพูดของซือจื้อแล้วเย่เชียนก็ขมวดคิ้วและหันไปมองเธอด้วยความประหลาดใจ ต้องบอกเลยว่าผู้หญิงคนนี้ฉลาดมากจนเธอสามารถรับรู้ถึงแผนการของเขาได้อย่างถ่องแท้
“เงินยี่สิบล้านหยวนเป็นเพียงเงินก้อนเล็กๆสำหรับบริษัททะเลสี่ทิศและไม่สามารถทำลายพวกนั้นได้เลย..แต่มันก็มีประโยชน์เหมือนกันเพราะอย่างน้อยๆเรื่องนี้ก็สามารถทำให้ตระกูลชางกวนตัดชางกวนเจ้อออกจากระบบครอบครัวและทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการกำจัดบุคคลไม่ใช่กำจัดบริษัท” ซือจื้อพูด “อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าบริษัททะเลสี่ทิศจะเป็นบริษัทจดทะเบียนก็ตามแต่เนื่องจากเป็นธุรกิจแบบครอบครัวจึงทำให้หุ้นในตลาดที่เหลืออยู่มีเพียง20%เท่านั้น..ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะกวาดหุ้นทั้งหมดในตลาดไปมันก็จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อบริษัททะเลสี่ทิศเลย”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักบริษัททะเลสี่ทิศดีเลยนะ..แล้วถ้าเป็นคุณจะทำยังไง”
ด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซือจื้อก็พูดว่า “มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตอบแทนฉันยังไง..ถ้าคุณทำให้ฉันพอใจฉันก็จะบอกวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ให้กับคุณ”
“จะตอบแทนยังไงน่ะเหรอ..ผมคงให้อะไรคุณไม่ได้หรอกเพราะที่รักของผมคงจะไม่ยอมฮ่าๆ” เย่เชียนพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น
“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นหรอกถึงแม้ว่าฉันจะสนใจคุณมากแต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะใช้วิธีนี้เพื่อดึงคุณมาเคียงข้างฉัน..ความรักมันไม่ใช่เกมเพราะเมื่อมันมีข้อต่อรองเมื่อไหร่มันจะไม่ใช่ความรักอีกต่อไป” ซือจื้อพูด “แต่มันก็ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่สามารถตอบแทนฉันได้เพราะตราบเท่าที่คุณสัญญากับฉันด้วยเงื่อนไขข้อเดียวแค่นั้นก็พอ”
“มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็บอกมาได้เลยว่าเงื่อนไขนั้นคืออะไร”
“ฉันยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันเลยแต่ตราบใดที่คุณสัญญากับฉันเมื่อฉันตัดสินใจได้ในอนาคตคุณก็ค่อยทำตามสัญญาตอนนั้น” ซือจื้อพูด “ฉันคิดว่าคุณเย่จะไม่ปฏิเสธใช่มั้ย?”
“อันที่จริงผมเกลียดคนที่เอาเปรียบและคุกคามผมมากที่สุด” เย่เชียนพูด “ที่จริงแล้วถึงแม้ว่าจะไม่วิธีการอะไรของคุณถึงยังไงผมก็ยังสามารถล้มบริษัททะเลสี่ทิศได้เชื่อมั้ยล่ะ”
“แน่นอนฉันเชื่อ” ซือจื้อพูด “ฉันไม่ได้ข่มขู่คุณเพราะมันเป็นความสมัครใจล้วนๆฉันคิดว่าคุณเย่ควรจะตรวจสอบรายละเอียดของชางกวนเจ้อแล้วใช่มั้ย..อันที่จริงเขายังต้องการที่จะทำลายเครือน่านฟ้ากรุ๊ปด้วยเพราะเป้าหมายสูงสุดของเขาคือการนำบริษัททะเลสี่ทิศมาไว้ในมือของเขาเอง..ดังนั้นเขาจึงเริ่มลงมือที่จะแสดงสิ่งต่างๆให้ตระกูลของเขาเห็นโดยการทำลายคู่แข่งทางธุรกิจ..ดังนั้นเขาจึงมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายอยู่ในมือของเขาและนอกจากเขาแล้วฉันก็เป็นคนเดียวที่มีข้อมูลเหล่านั้น”
“พูดมาตรงๆเลยดีกว่ามัวแต่อ้อมค้อม” เย่เชียนพูด “ผมรับปากว่าจะทำตามเงื่อนไขของคุณแต่เราต้องตกลงกันก่อนว่าผมจะไม่ทำสิ่งที่ขัดกับหลักการของผม”
ซือจื้ก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “คำพูดของคุณเย่ก็ดูระแวงกันเกินไป..การไม่ละเมิดหลักการของคุณนั้นหมายความว่ายังไง..ถ้าไม่ว่าฉันจะขอให้คุณทำอะไรแล้วคุณบอกว่ามันขัดกับหลักการของคุณไปซะทุกอย่างเลยล่ะ..แบบนั้นฉันจะทำยังไง?..คุณจะมาล้อเล่นกับฉันไม่ได้นะ..แต่ก็นะเนื่องจากคุณเย่รักฉันมากขนาดนี้ฉันก็ยอม”
หูวเค่อหันไปมองเย่เชียนอย่างไร้ความปรานีจนเย่เชียนยิ้มอย่างขมขื่นและคิดกับตัวเองว่า ‘ฉันหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ’ อย่างไรก็ตามตัวตนของซือจื้อนั้นทำให้เย่เชียนอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเรื่อยๆเพราะมันไม่ใช่เรื่องดีที่คนแบบนี้จะอยู่ในเครือน่านฟ้ากรุ๊ป
“เท่าที่ฉันรู้มามีหุ้น20%ที่กระจัดกระจายอยู่ในตลาดส่วนที่เหลืออีก80%นั้นเป็นของสมาชิกในตระกูลชางกวนทั้งหมด..หัวหน้าตระกูลชางกวนอย่างชางกวนซินหยางนั้นเป็นเจ้าของ40%..ในส่วนนี้คุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย..คนต่อไปคือชางกวนอู๋เต๋อเป็นเจ้าของ10%และส่วนนี้ก็ยากเหมือนกันแต่ก็เป็นไปได้..ต่อไปก็หลานชายอย่างชางกวนหยานยู่ที่วันๆไม่ทำอะไรเลยแต่ได้ถือหุ้นถึง10%..ฉันไม่คิดว่าหุ้นส่วนนี้จะเป็นปัญหาสำหรับคุณเลย..ส่วนที่เหลืออีก20%ถือโดยญาติๆในตระกูลที่ประจำอยู่ในสาขาอื่นๆของบริษัททะเลสี่ทิศ..ฉันมีข้อมูลที่ชางกวนเจ้อรวบรวมเอาไว้ทั้งหมดเพราะงั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการไล่ยึดหุ้นของพวกเขา” ซือจื้อพูดอย่างช้าๆ “ตามความน่าจะเป็นคุณของหุ้นคือการไล่ซื้อหุ้น20%จากตลาดหุ้นและบวกกับของสาขาอื่นๆอีก20%..จากนั้นก็หุ้นของชางกวนหยานยู่อีก10%..ทีนี้คุณก็จะถือครองหุ้นครึ่งหนึ่งของบริษัททะเลสี่ทิศคือ50%..จากนั้นตราบใดที่คุณได้รับหุ้นในมือของชางกวนอู๋เต๋อล่ะก็บริษัททะเลสี่ทิศก็จะเป็นของคุณ..ส่วนชางกวนซินหยางในฐานะประธานที่ถือครองหุ้นเพียง40%ก็ไม่สามารถทำอะไรได้”
เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะไตร่ตรองอยู่พักหนึ่งและเขาต้องยอมรับเลยว่าคำพูดของซือจื้อนั้นมีเหตุผลอย่างมากเพราะบริษัททะเบียนเป็นธุรกิจเชิงครอบครัวและถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทจดทะเบียนก็ตามแต่หุ้นส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือคนของตระกูลชางกวนอยู่ดี แน่นอนว่าการโจมตีเงินทุนเพียงเท่านั้นคงไม่สามารถสร้างความสูญเสียให้กับบริษัททะเลสี่ทิศได้แต่ก็สามารถกำจัดชางกวนเจ้อได้ ซึ่งนั่นคงไม่เพียงพอสำหรับเย่เชียนเพราะแค่นั้นไม่มีทางที่จะทำลายบริษัททะเลสี่ทิศและนำมันมาอยู่ในมือของตัวเองได้เลย แต่ถ้าหากเย่เชียนปฏิบัติตามวิธีของซือจื้อล่ะก็เขาจะสามารถทำลายหรือครอบครองบริษัททะเลสี่ทิศให้มาอยู่ภายใต้ธงของกงเครือน่านฟ้ากรุ๊ปได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้เกี่ยวกับบริษัททะเลสี่ทิศมากจริงๆ..ผมอดไม่ได้เลยที่จะสงสัยว่าคุณอยากจะกำจัดบริษัททะเลสี่ทิศมานานแค่ไหนแล้ว” เย่เชียนพูด
ซือจื้อก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ถึงแม้ว่าบริษัททะเลสี่ทิศจะเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทชั้นนำของโลกแต่ความสามารถในการแข่งขันของพวกเขาก็ยังไม่แข็งแกร่งสักเท่าไหร่และการพัฒนาในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็ไม่น่าพอใจเลย..ถ้าพูดตรงๆคือบริษัททะเลสี่ทิศไม่มีอนาคตที่แน่นอนเพราะถ้าผู้นำของตระกูลชางกวนฉลาดจริงๆพวกเขาจะพัฒนาได้ดีกว่านี้มาก..อีกอย่างถ้าพวกเขามอบบริษัทให้กับชางกวนเจ้อล่ะก็ทุกอย่างจะราบรื่นแต่พวกเขาไม่ชอบชางกวนเจ้อที่มีความสามารถนี้แต่กลับสนใจในตัวของชางกวนหยานยู่แทนที่วันๆไม่ทำอะไรเลยนอกจากเที่ยวเล่น..ข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบรวมโดยชางกวนเจ้อและถึงแม้ว่าเขาจะเก็บมันเอาไว้อย่างระมัดระวังแต่ฉันก็สามารถรู้ได้อยู่ดีเพราะงั้นฉันจะขายข้อมูลนี้ให้กับคุณ”
“ฉันคุ้นๆเหมือนเราเคยเจอกันที่ไหนเลย” จู่ๆหูวเค่อก็พูดขึ้นมา
ซือจื้อก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ในที่สุดคุณหูวก็จำได้ฮ่าฮ่า..คุณคงจำได้แล้วสินะว่าเราเคยเจอกันที่ไหน”
“หืม..ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะกล้ามาเหยียบประเทศจีนอีกและยังเข้ามาทำงานให้กับเครือน่านฟ้ากรุ๊ปอีก..คุณไม่กลัวว่าจะไม่สามารถกลับไปได้อีกเหรอ?” หูวเค่อพูดอย่างเย็นชา
สิ่งนี้ทำให้เย่เชียนสับสนอย่างมากและเขาก็มองดูพวกเธอด้วยความประหลาดใจและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอกันแน่ อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายเลยที่จะถามคำถามใดๆในตอนนี้
“พูดถึงเรื่องนั้นคุณหูวก็เป็นหนี้บุญคุณอยู่นะ..คุณคงไม่ใจร้ายถึงขนาดไปบอกกับทางการหรอกใช่มั้ย?” ซือจื้อพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยังไงก็เถอะถึงแม้ว่าคุณจะไปแจ้งกับทางการแต่พวกเขาก็ทำอะไรฉันไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันทำงานให้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปที่ถูกต้องตามกฎหมายและฉันก็เชื่อว่าสำนักความมั่นคงแห่งชาติจีนจะไม่ดำเนินการอะไรกับฉัน”
“แต่ฉันไม่นึกเลยว่าตอนนี้คุณจะมีฝีมือถึงขนาดนี้” หูวเค่อพูด “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเข้ามาแทรกแซงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นล่ะก็ฉันคงทำภารกิจสำเร็จไปแล้ว..ที่คุณปล่อยฉันไปในครั้งนั้นเป็นเพราะคุณรู้ว่าคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันสินะ..นั่นมันไม่ใช่บุญคุณเลย”
“ถ้าคุณคิดอย่างนั้นฉันก็ทำอะไรไม่ได้” ซือจื้อถอนหายใจและพูดว่า “ยังไงก็เถอะพวกเราต่างก็มีเป้าหมายและผู้นำเป็นของตัวเองเพราะงั้นเราไม่สามารถบอกได้ว่าใครถูกหรือใครผิด”
“จริงเหรอ..อย่าลืมสิว่าคุณเป็นคนจีนแต่ยังเลือกที่จะหันปืนใส่ประเทศจีนแบบนั้น” หูวเค่อพูด
“ฉันเสียใจมาก..แต่ตอนนี้ฉันเป็นชาวจีนเต็มตัวแล้วและนอกจากนี้รัฐบาลจีนก็ให้ฉันแก้ตัวและทำงานกับพวกเขามาหลายปีแล้ว..ฉันชดใช้ประเทศชาติไปหลายอย่างแล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับความดีความชอบสักที..ตอนแรกฉันก็คิดที่จะฆ่าตัวตายเพราะฉันเหนื่อยกับชีวิตแล้ว” ซือจื้อพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว
“บางทีสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอาจคิดผิดที่ให้คุณกลับเข้าประเทศ” หูวเค่อพูด “นอกจากนี้เหตุผลที่คุณเป็รแบบนั้นมันก็เกิดจากความโลภของคุณเอง..คุณไม่มีสิทธิ์ตำหนิใครได้”
“คุณก็พูดได้นี่เพราะคุณเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยคุณก็เลยไม่กังวลเรื่องอาหารและการประทังชีวิต..แต่แล้วฉันล่ะฉันต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่ออะไร..มันไม่ใช่เพื่อการดิ้นรนสู้ชีวิตหรอกเหรอ?..ฉันต้องเสี่ยงชีวิตทำงานยากๆและถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียวฉันก็ต้องถูกฆ่าตาย..นอกจากนี้ฉันไม่คิดว่าที่ผ่านมาฉันทำอะไรผิดเพราะถึงแม้ว่าฉันจะมีโอกาสเลือกอีกครั้งฉันก็ยังเลือกแบบเดิมอยู่ดี” ซือจื้อพูด
“เดี๋ยวก่อน..ผมไม่เข้าใจสิ่งที่พวกคุณกำลังคุยกันเลย..พวกคุณช่วยอธิบายให้ชัดเจนหน่อยได้มั้ย” เย่เชียนพูดแทรกเข้าไป
“หุบปาก!” หญิงสาวทั้งสองพูดพร้อมกันปรากฏว่าเป็นความเข้าใจกันโดยปริยายจนเย่เชียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีและมองดูพวกเธออย่างว่างเปล่าและทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาดูแปลกแยกเพราะผู้หญิงสองคนดูเหมือนจะตระหนักว่าพวกเขามีความเข้าใจกันโดยปริยายในเรื่องนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและหันหน้าหนีกันอย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่าแผนการที่อเมริกาจะสำเร็จแล้วใช่มั้ย?” หูวเค่อพูด “คุณรู้ถึงผลกระทบของการทำแบบนั้นหรือเปล่า?”
“มันจะเป็นยังไงล่ะ?..ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำไปนั้นถูกแล้วและอย่างน้อยๆตอนนี้ฉันก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากใช่มั้ยล่ะ?..ก่อนหน้านี้ชีวิตฉันอยู่ในกำมือของคนอื่นแต่ตอนนี้ชีวิตของคนอื่นอยู่ในกำมือของฉันแล้ว” ซือจื้อพูด
“แล้วจุดประสงค์ของการมาที่ประเทศจีนในครั้งนี้คืออะไร?..คุณมีแผนอะไรถึงได้แฝงตัวเข้าไปในเครือน่านฟ้า..การที่คุณเข้าใกล้เย่เชียนแบบนี้คุณจะต้องมีความลับที่ซ่อนอยู่ใช่มั้ย?” หูวเค่อพูด
“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย?..นอกจากนี้ฉันก็ไม่ได้จงใจเข้าใกล้เย่เชียนแต่เขาเข้ามาหาฉันเองโดยเจตนา..ถ้าคุณไม่เชื่อฉันคุณก็ลองถามเขาดูสิ” ซือจื้อพูดเบาๆ
.
.
.
.