ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1008 คู่แข่ง
ตอนที่ 1008 คู่แข่ง
……………………………………………………………………..
เมื่อหลินโรวโร่วคิดถึงเย่เชียนมากที่สุดในเวลานี้จู่ๆเย่เชียนก็ปรากฏตัวต่อหน้าต่อตาของเธอจนทำให้หลินโรวโร่วรู้สึกประหลาดใจและดีใจพร้อมๆกันแต่หลังจากมึนงงอยู่ครู่หนึ่งสีหน้าของเธอก็แสดงรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา
เหว่ยเถ่าก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปกับการแสดงออกอย่างกะทันหันของหลินโรวโร่ว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการแสดงออกของหลินโรวโร่วเพราะที่ผ่านมาหลินโรวโร่วแสดงออกอย่างสุภาพกับเขาเสมอ ถึงแม้ว่าเธอจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแต่ก็ไม่ใช่รอยยิ้มที่มีความสุขแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าทำให้เขารู้สึกถึงระยะห่างและความแตกต่างและตอนนี้หลินโรวโร่วก็แสดงท่าทางดังกล่าวซึ่งทำให้เหว่ยเถ่าประหลาดใจอย่างมาก เพราะจากสายตาของหลินโรวโร่วนั้นร่างของเย่เชียนเหมือนกับจมอยู่ในดวงตาและจิตใจของหลินโรวโร่ว
การแต่งตัวไม่ได้ดูดีและเรียกได้ว่าดูโทรมไปหน่อยแต่เหว่ยเถ่าเป็นยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมอาหารมีชื่อเสียงในประเทศจีนและดูมีเกียรติมาก ในสายตาของเขาเย่เชียนไม่สามารถเทียบกับเขาได้ แต่อย่างไรก็ตามรอบๆตัวเย่เชียนกลับมีบางอย่างที่ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
เมื่อเห็นการแสดงออกของหลินโรวโร่วแล้วเหว่ยเถ่าก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่างและเห็นได้ชัดว่าหลินโรวโร่วนั้นยิ้มให้กับเย่เชียน
จากนั้นหลินโรวโร่วก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มและทักทายเย่เชียนแล้วพูดว่า “ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”
“อะไรกันคุณไม่อยากให้ผมมาเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและแน่นอนว่าเต็มไปด้วยความสุขในใจ “ผมบังเอิญผ่านมาเจอคุณโดยบังเอิญผมก็เลยมาหา..ฉินหยูบอกว่าคุณอยู่ที่หยุนหนานไม่ใช่เหรอแล้วทำไมคุณถึงมาอยู่ที่เมืองซีหนิงล่ะ?..คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?..คุณทำงานหนักไปหรือเปล่าคุณดูผอมลงนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ดูเป็นห่วงเป็นใยแบบนี้หลินโรวโร่วก็รู้สึกว่าการทำงานหนักของเธอนั้นคุ้มค่าและนี่แหละคือธรรมชาติของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงเพราะหลังจากทำบางอย่างให้คนที่เรารักแล้วพวกเขาก็มักจะหวังว่าจะได้รับคำชมและความเป็นห่วงจากคนรักซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าความพยายามของพวกเขานั้นคุ้มค่า
หลินโรวโร่วจับแขนของเย่เชียนอย่างเป็นธรรมชาติแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าพี่สาวหยูไปที่บ้านของตระกูลของคุณหรอ..ตอนแรกฉันคิดว่าจะไปหาคุณที่เมืองซานย่าเพื่อไปพบแม่ของคุณแต่พี่หลันของกับฉันว่าคุณมาที่เมืองซีหนิงเพราะงั้นฉันก็เลยมาที่นี่ ตอนแรกฉันอยากจะเซอร์ไพรส์คุณแต่คุณกลับเซอร์ไพรส์ฉันซะก่อน”
“รู้ใจใช่มั้ยล่ะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและดวงตาของเขาก็หันไปหาเหว่ยเถ่าซึ่งไม่คุ้นเคยแต่ดูจากออร่าอันสูงส่งและการแต่งตัวแล้วเขาต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลในเมืองซีหนิงอย่างแน่นอน
“โรวโร่วเขาคือ?..ทำไมคุณไม่แนะนำให้ผมรู้จักล่ะ?” เหว่ยเถ่ายืนขึ้นและเหลือบมองเย่เชียนและพูดด้วยรอยยิ้ม หลินโรวโร่วนั้นรู้ดีว่าเหว่ยเถ่าคิดอะไรอยู่แต่เขาไม่ได้โกรธเมื่อเห็นผู้ชายอีกคนโผล่มาหาหญิงที่เขากำลังไล่ตามจีบอยู่ เขานั้นสงบสงบสติอารมณ์และสังเกตอย่างระมัดระวังและมองหาความขัดแย้งระหว่างทั้งสองแล้วใช้สิ่งนั้นทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสอง สำหรับเหว่ยเถ่านั้นเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจีบสาวอย่างมาก
เหว่ยเถ่าผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามคลื่นลูกใหม่แห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีสถานะที่สูงอย่างไม่ต้องสงสัยและถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีอิทธิพลเท่ากับลูกหลานผู้มีอิทธิพลในเมืองปักกิ่งก็ตามแต่เขาก็ยังเป็นบุคคลที่โด่งดังในเมืองนี้ เขารู้ดีว่าหลินโรวโร่วแตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ ดังนั้นวิธีที่เขาใช้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเพราะเขาไม่สามารถใช้เงินกับเธอได้ซึ่งนั่นจะไม่มีผลอะไรเลย
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินโรวโร่วก็อดไม่ดื้ที่จะขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจที่เหว่ยเถ่าเรียกเธอห้วนๆแบบนั้นแต่เธอก็อยู่ในแวกวงธุรกิจมาสักระยะหนึ่งแล้วดังนั้นเธอจึงรู้วิธีซ่อนความคิดที่แท้จริงของเธอเอาไว้และถึงแม้ว่าเธอจะไม่พอใจแค่ไหนก็ตาม
มุมปากของเย่เชียนก๊ฉีกยิ้มขึ้นและดูมีเสน่ห์มาก จากนั้นเขาก็พูดว่า “ผมชื่อเย่เชียนที่แปลว่าอ่อนน้อมถ่อมตน”
“ผมเหว่ยเถ่า..ผู้จัดการบริษัทเรนสโตนอินเตอร์เนชันแนล” เหว่ยเถ่ายื่นมือออกมาอย่างสุภาพและพูด
“เรนสโตนอินเตอร์เนชันแนล?..โอโห้นี่เป็นบริษัทจัดงานเลี้ยงรายใหญ่และผู้นำเข้าอาหารขยะจากต่างประเทศมาสู่ประเทศจีนใช่หรือเปล่า?” เย่เชียนพูด “ผมชอบอาหารจีนของเราที่สุดเพราะมันอร่อยมาก” หลังจากที่เขาพูดจบเย่เชียนก็เหลือบมองหลินโรวโร่วและพูดว่า “เรานั่งคุยกันเถอะ..ยืนแบบนี้มันปวดหลังมาก!”
เหว่ยเถ่าก็ดึงมือกลับมาพร้อมกับสีหน้าที่เขินอาย ซึ่งเหว่ยเถ่าก็ไม่ได้แสดงความโกรธต่อความเย่อหยิ่งและความเฉยเมยของเย่เชียนเพราะถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกหลานครอบครัวที่ร่ำรวยแต่เขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่ได้มีความสุขในการเหยียบย่ำผู้คนไม่อย่างนั้นเขาจะไม่วันประสบความสำเร็จเหมือนในวันนี้ แต่เมื่อได้ยินประโยคถัดไปของเย่เชียนแล้วเหว่ยเถ่าก็ตกตะลึงเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะไม่พอใจ
“ไม่ทราบว่าคุณเย่ทำงานอะไรหรอครับ?” หลังจากนั่งลงทัศนคติของเหว่ยเถ่าก็ดูถ่อมตัวและถามอย่างสุภาพ
“ผมเหรอ..ผมไม่มีงานทำแต่โรวโร่วก็ดูแลผมมาตลอด” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและพูดโดยไม่รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่น้อยและมันก็ดึงดูดใจให้ทุกคนในร้านหันมามองเขา ซึ่งถึงแม้ว่าผิวของเย่เชียนจะไม่ขาวไม่เหมือนดาราชายเหล่านั้นแต่มีความเป็นชายบนเรือนร่างที่ทำให้ผู้หญิงหลงใหลมากจนเหล่าหญิงสาวบางคนก็อดไม่ได้ที่จะมองเย่เชียนโดยไม่กะพริบตา
คำพูดของเย่เชียนเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวเพราะเขาไม่ได้ยึดติดกับอาชีพใดๆและในสายตาของบางคนเขาอาจจะดูโง่ไปหน่อยเมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียน แต่หลินโรวโร่วก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของเธอ “แล้วคุณจะไม่ดูแลฉันบ้างหรอ?” หลินโรวโร่วหันไปมองเย่เชียนและถาม
“ไม่..ผมจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต” หลินโรวโร่วพูด
เหว่ยเถ่าก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งและการแสดงออกของเขาดูขมขื่นเล็กร้อยและเขาก็แอบคิดในใจว่าหลินโรวโร่วดูอ่อนโยนและใจดีมาก จากนั้นเหว่ยเถ่าก็พูดว่า “คุณเย่อย่าล้อผมเล่นสิ”
“ไม่ผมพูดจริงๆ” เย่เชียนพูด “ทำไมสมัยนี้มันหาเงินได้ง่ายๆโดยไม่จำเป็นต้องทำงาน..ผมก็แค่ทำเรื่องบ้าๆบอๆและเผชิญหน้ากับพ่อแม่และห้าข้ออ้างไปวันๆแต่โชคดีที่โรวโร่วไม่ดูถูกผมไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ”
“ถ้านายเย่ไม่ว่าอะไรผมก็ยินดีที่จะช่วยคุณเข้าทำงานที่บริษัทเรดสโตนอินเตอร์เนชันแนลได้..ผมคิดว่าผู้ชายอย่างเราควรมีอาชีพการงานที่มั่นคงเพื่อที่เราจะได้ดูแลผู้หญิงที่พวกเรารักได้..โรวโร่วเธอนิสัยดีและมีจิตใจที่เมตตาเพราะงั้นเธออาจจะสับสนอยู่ในช่วงนี้..แต่แล้วหลังจากที่เธอคิดได้ล่ะ” เหว่ยเถ่าพูดและเห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะบอกหลินโรวโร่วว่าเธอไม่สามารถพึ่งพาผู้ชายที่ไม่มั่นคงได้
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมซาบซึ้งในน้ำใจของคุณเหว่ยมาก..แต่ผมคุ้นเคยกับชีวิตแบบนี้มาหลายปีแล้วและเกรงว่าผมจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันได้”
เหว่ยเถ่าก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นดวงตาของหลินโรวโร่วที่มองไปที่เย่เชียนเพราะดวงตาคู่นั้นดูตกหลุมรักอย่างแท้จริง ณ เวลานี้ IQ ของผู้หญิงกลายเป็นศูนย์โดยสมบูรณ์และเธอก็ไม่สามารถฟังเหตุผลใดๆได้อีกต่อไป ดังนั้นเหว่ยเถ่าจึงล้มเลิกความพยายามไปและพยายามอย่างหนักที่จะคิดทบทวนความคิดและทัศนคติของหลินโรวโร่ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเหว่ยเถ่านั้นไม่เคยล้มเหลวบนเส้นทางแห่งความรักตลอดหลายปีที่ผ่านมาและเขาก็ไม่ต้องการที่จะพ่ายแพ้ในครั้งนี้และจะไม่ยอมแพ้ให้กับคนอย่างเย่เชียนเด็ดขาด
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเหว่ยเถ่าก็หันมาและพูดว่า “โรวโร่วพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของคุณและผมก็เตรียมงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณแล้ว”
“คุณรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นวันเกิดของฉัน?” ใบหน้าของหลินโรวโร่วไม่ได้แสดงออกอย่างมีความสุขแต่มีความไม่พอใจ
“ผมขอโทษจริงๆ..ผมไม่ควรตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของคุณ..แต่ผมทำแบบนี้เพื่อประโยชน์ของคุณเอง..ผมหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธ..ในฐานะเพื่อนแล้วผมควรช่วยคุณและปาร์ตี้ครั้งนี้จะมีบุคคลสำคัญในเมืองซีหนิงเข้าร่วมด้วยและผมก็คิดว่างานนี้จะสามารถช่วยกองทุนเพื่ออนาคตของคุณได้เป็นอย่างดี” เหว่ยเถ่าพูด
หลินโรวโร่วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเธออยากจะปฏิเสธแต่เย่เชียนส่งสัญญาณให้เธอโดยการสะกิดขาเธอใต้โต๊ะแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อคุณเหว่ยมีน้ำใจแบบนี้เราจะปฏิเสธได้ยังไง?..ผมคิดว่าคุณเหว่ยต้องการสร้างมิตรภาพที่ดีในแบบเจ้าบ้านเพราะงั้นอย่าปฏิเสธเลย”
หลินโรวโร่วก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าเห็นด้วยแต่เธอก็ปฏิเสธที่จะเชิญแขกมางานมากมายเพราะท้ายที่สุดบุคลิกของหลินโรวโร่วไม่ชอบสถานการณ์ที่เสแสร้งแบบนี้ เดิมทีเธอแค่ต้องการจัดงานเลี้ยงสำหรับคนสนิทใกล้ตัวเธอเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เรื่องต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้วและเหว่ยเถ่าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปและเขาก็ลุกขึ้นกล่าวคำอำลากับเย่เชียนและหลินโรวโร่วแล้วหันหลังเดินจากไป จากนั้นก็เริ่มคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะหักหน้าเย่เชียนอย่างไรแล้วปล่อยให้หลินโรวโร่วตื่นขึ้นแล้วตาสว่าง ในฐานะคลื่นลูกใหม่แห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือแล้วเขาจะแพ้ชายหนุ่มอย่างเย่เชียนได้อย่างไร? ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปมันจะไม่ดีต่อเขาอย่างมาก
“ทำไมคุณถึงตกลงกับเขาล่ะ..ฉันเกลียดคนประเภทนี้มากที่สุดเพราะฉันคิดว่ามันเห็นแก่ตัวราวกับว่าผู้หญิงทุกคนในโลกรอที่จะแต่งงานกับเขาแทบไม่ไหวแล้ว” หลินโรวโร่วบ่นขณะมองเหว่ยเถ่าเดินออกไปจากร้านอาหาร
เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เพราะเขาแค่ต้องการทำให้ผมอับอายขายหน้า..ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นโอกาสรับเงินสนับสนุนให้กองทุนเพื่ออนาคตอีกด้วย..ไม่ต้องกังวลไปเพราะพรุ่งนี้ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเองและจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”
นี่คือคำตอบที่หลินโรวโร่วต้องการและเธอก็หวังโดยธรรมชาติว่าเย่เชียนจะมากับเธอ หลังจากหยุดไปชั่วขณะหลินโรวโร่วก็ถามว่า “ทำไมคุณถึงมาที่เมืองซีหนิงล่ะ..มีอะไรผิดปกติที่นี่งั้นเหรอ?”
.
.
.