ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 338 เขตแดนปีศาจช่างน่ากลัวนัก!
บทที่ 338 เขตแดนปีศาจช่างน่ากลัวนัก!
……….
บทที่ 338 เขตแดนปีศาจช่างน่ากลัวนัก!
หลิงเยว่ใช้แผนปลูกผักชี โปรยเสน่ห์ด้วยอาหารเลิศรสจนสามารถรวบรวมเหล่าสมุนน้อยใหญ่แห่งเผ่าปลาหมัวอินไว้มากมาย แผนการของนางกำลังดำเนินไปอย่างสวยงาม ทว่ากลับไม่ราบรื่นสำหรับโม่จวินเจ๋อที่แปลงร่างเป็นมังกรปีศาจเสียแล้ว
ผู้นำเผ่าปลาหมัวอินและมหาปุโรหิตไล่ตามเขามาอย่างไม่ลดละ และเบื้องหลังยังมีเหล่านักรบปลาติดตามมาเป็นขบวนใหญ่ ปรากฏร่างเป็นเงาดำทะมึนบนท้องฟ้า พวกมันไม่เพียงแต่ไล่ตาม แต่ยังส่งเสียงรบกวนไม่หยุด
แม้เสียงคำรามของพวกมันจะแหลมบาดแก้วหู แต่โม่จวินเจ๋อกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน ทว่าเหล่าปีศาจที่โชคร้ายบังเอิญผ่านมาต่างได้รับผลกระทบจากคลื่นเสียงจู่โจม พวกมันลากร่างอันบอบช้ำที่โกรธแค้นจนขีดสุดไล่ตามไปสมทบ
กองทัพบนท้องฟ้าและบนพื้นดินขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เสียงคำรามแห่งโทสะและเสียงคำรามโจมตีดังก้องไปทั่วไม่หยุดหย่อน
ปลาผู้นำมองไปเบื้องหลังเพียงแวบเดียว ต้องตกตะลึงแทบสิ้นสติ เบื้องหลังมีศัตรูหน้าคุ้นเคยไล่ตามมาเป็นขบวน ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด
แต่เมื่อเห็นร่างของมังกรปีศาจที่อยู่เบื้องหน้า พวกที่ไล่ตามหลังมาพลันสงบเสงี่ยมและสิ้นหวัง
มังกรปีศาจ… ปรากฏตัวอีกแล้ว!
พวกมันควรหนีดีหรือไม่?
เหล่าปีศาจบางส่วนตัดสินใจหลบหนี ขณะส่วนที่เหลือยังคงตัดสินใจไล่ตามต่อไป
คราวนี้มิใช่การไล่ล่าเผ่าปลาหมัวอิน แต่เป็นการไล่ล่ามังกรปีศาจงั้นหรือ?
“ท่านผู้นำ เหตุใดพวกเราไม่ร่วมมือกับพวกมัน ช่วยกันสังหารมังกรปีศาจเลยเล่า? เมื่อถึงคราวที่ราชาปีศาจสอบถาม เขาจะได้ไม่ต้องตำหนิเพียงแค่เผ่าปลาหมัวอินเท่านั้น”
ผู้นำปลานักรบพูดด้วยแววตาไร้เดียงสา
มหาปุโรหิตและผู้นำปลาสบตากัน พลันถอนหายใจอย่างจนปัญญา ราชาปีศาจจะมีทางตำหนิได้อย่างไร? มีแต่จะโบกมือแล้วทำลายล้างเผ่าพันธุ์พวกเขาให้สิ้นซากน่ะสิ
อย่างไรเสีย มังกรปีศาจยังมีสถานะเป็นนางสนมที่สี่ของราชาปีศาจ หากนางตายในเขตทะเลสาบ สิ่งมีชีวิตที่นี่ก็อย่าหวังจะมีชีวิตรอด!
ความหวังที่จะสังหารมังกรปีศาจได้จางหายไปแล้ว สติของพวกมันค่อย ๆ กลับคืนมา เพียงแค่ขับไล่นางออกจากทะเลสาบชั่วคราวก็เพียงพอแล้ว หากจะทำมากกว่านั้น เขาคงไม่มีปัญญา
เว้นแต่ว่าจะจัดการราชาปีศาจไปพร้อมกัน!
ผู้นำเผ่าปลาหมัวอินและมหาปุโรหิตต่างรู้ดีว่าชาตินี้ชาติหน้า รวมถึงชั่วลูกชั่วหลานก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายคือราชาปีศาจ ไม่ว่าสายตาของเขาทอดไปที่ใด ทุกสิ่งล้วนดับสูญ ดังนั้นการจัดการเขาน่ะหรือ?
เผ่าปลาหมัวอินคงมีแต่จะทำลายล้างตัวเองเสียยิ่งกว่า!
“ส่งเสด็จสนมองค์ที่สี่!”
เสียงจากเบื้องหลังดังกึกก้องสะเทือนฟ้า จนมังกรปีศาจยังรู้สึกหูแทบดับ โม่จวินเจ๋อเหลียวหลังเห็นเผ่าปลาหมัวอินที่ไล่ตามนางมาพลันชะงักหยุด แม้แต่เผ่าพันธุ์อื่นที่ถูกเสียงที่สะกดใจจนคลุ้มคลั่งและไล่ตามมาหมายต่อสู้ให้ตายไปข้างหนึ่งก็พลอยหยุดตามไปด้วย
พวกมันคุกเข่าลงเป็นทิวแถว ประจบเอาใจอย่างถึงที่สุด!
มังกรปีศาจสีดำสนิทลอยนิ่งอยู่กลางเวหา หันกลับมามองเผ่าพันธุ์ปีศาจที่คุกเข่าอยู่เบื้องล่าง โม่จวินเจ๋อนิ่งงันมิเอ่ยวาจา ทำเอาเหล่าปีศาจที่คุกเข่าอยู่รู้สึกใจคอไม่สงบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำเผ่าปลาหมัวอินและมหาปุโรหิต
หรือว่า… พวกมันจะต้องส่งอาหารไปให้ นางถึงจะยอมปล่อยพวกมันไป?
ไม่! ครั้งนี้มันจะไม่มีทางยอมสละเผ่าพันธุ์ของตนเพื่อเอาชีวิตรอดเป็นอันขาด!
หากมังกรปีศาจผู้นี้กล้าเอ่ยปาก พวกมันก็พร้อมจะสู้ตายถวายชีวิต!
เผ่าพันธุ์อื่นต่างคิดเช่นเดียวกัน…
โม่จวินเจ๋อมิได้เอ่ยอันใด เพียงหันหลังแล้วกระโจนหายเข้าไปในหมู่เมฆดำ
เมื่อเหล่าปีศาจในทะเลสาบแน่ใจแล้วว่ามังกรปีศาจคงจะไม่หวนกลับมาในเร็ววันนี้ จึงได้แต่ทรุดกายลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง
แม้พวกมันจะไม่ทราบว่าเหตุใดครานี้นางสนมที่สี่จึงยอมผ่อนปรนให้เช่นนี้ แต่การยืดเวลาโยกย้ายทั้งเผ่าพันธุ์ได้เช่นนี้ นับว่าเป็นโชคอันยิ่งใหญ่แล้ว!
เหล่าปีศาจที่อาศัยในพื้นที่แห่งนี้ ล้วนตัดสินใจอพยพถิ่นฐานในทันทีที่ได้พบกับมังกรปีศาจ พวกมันจะไปเสาะหาสถานที่อันเร้นลับยิ่งกว่านี้ เพื่อหลบซ่อนตัว
แต่ความจริงแล้ว หากนางสนมที่สี่ของราชาปีศาจต้องการจะตามหาพวกมัน ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ใด นางย่อมหาพวกมันเจออย่างแน่นอน
ผู้นำเผ่านกปีศาจจระเข้ ผู้เป็นทั้งเพื่อนบ้านและศัตรูกับเผ่าปลาหมัวอินมองด้วยแววตาโศกเศร้า อาหารอันโอชะของนางสนมปีศาจที่สี่ มิใช่มีเพียงเผ่าปลาหมัวอินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ในทะเลสาบแห่งนี้ด้วย!
เพียงแค่อำนาจจากสายเลือดของนางสนมปีศาจที่สี่ก็มากพอที่จะดับไฟแห่งการต่อต้านในใจของพวกมัน จนต้องยินยอมพร้อมใจเป็นอาหารอันโอชะแต่โดยดี
พวกมันมิอาจเป็นอื่นใด นอกจากอาหารของมังกรปีศาจ…
“จริงด้วย ตราบใดที่นางยังปรารถนาจะกินพวกเรา นางย่อมตามหาพวกเราจนพบ…”
ความหวังสุดท้ายพลันมลายสิ้น เหล่ายปีศาจที่เคยคิดจะเปิดศึกกับเผ่าปลาหมัวอินต่างถอดใจ ค่อย ๆ เดินกลับถิ่นฐานของตนด้วยสีหน้าหม่นหมอง
ข่าวการปรากฏตัวของนางสนมปีศาจที่สี่แพร่สะพัดไปทั่วเขตแดนปีศาจ และยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับน้องสาวของนาง นั่นคือ นางสนมปีศาจลำดับที่หก
“พี่หญิงกลับมาจากแดนมนุษย์แล้วรึ?”
หญิงสาวผู้งดงามราวกับเทพธิดาในชุดยาวสีขาวบริสุทธิ์ลุกขึ้นจากเตียง
“จริงหรือ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นโดยไม่ปรากฏร่าง
“เช่นนั้นพวกเราไปเชิญท่านพี่กลับวังกันเถิด”
หญิงสาวสวมเสื้อคลุมสีม่วงอ่อนแล้วเดินตรงออกจากห้อง นางสูดดมกลิ่นอาย พลันรู้สึกได้ถึงร่องรอยพลังของมังกรปีศาจตนนั้นทันที
การที่นางกลับมาเช่นนี้ หมายความว่าเขตแดนมนุษย์คงจะยุ่งเหยิงไปหมดแล้วกระมัง?
ใต้ชายแขนเสื้อ นางสนมปีศาจที่หกกำมือแน่น ดวงตาฉายแววเย็นเยียบเพียงชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาอ่อนโยนบริสุทธิ์ดุจเทพธิดาเช่นเดิม
“ไปกันเถิด”
สิ้นคำ พลันปรากฏราชรถอันวิจิตรตระการตาขึ้นเบื้องหน้า บริเวณนั้นรายล้อมไปด้วยทหารปีศาจและนางกำนัลคอยรับใช้ หลังจากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนพลมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบปีศาจทันที
ระหว่างทางที่ผ่านเมืองปีศาจราวกับสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง นางสนมปีศาจที่หกจึงมองลอดผ้าคลุมบางเบาลงไปยังเบื้องล่าง
ในขณะเดียวกัน ผู่ตานที่อยู่ในเมืองปีศาจก็เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า
ความงุนงงวูบผ่านดวงตาของเขา เขาแน่ใจว่ารู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองเขาอยู่ แต่พอมองขึ้นไปแล้วกลับไม่เห็นผู้ใดเลย…
“เจ้ากำลังมองอะไรอยู่หรือ?” หญิงสาวรูปร่างเย้ายวนข้าง ๆ ถามผู่ตานอย่างสงสัย
“เจ้าเป็นกอเอี๊ยะหรือไง ถึงได้ติดหนึบขนาดนี้! ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปสักที!”
ผู่ตานโกรธจนควันออกหูทันทีที่เห็นหญิงคนนี้ เขารู้ว่าตัวเองหล่อเหลาและมีเสน่ห์…
“กอเอี๊ยะคืออะไร?” หญิงสาวยิ่งสงสัยมากขึ้น
“ก็เจ้านั่นแหละ!”
“เขตแดนปีศาจของพวกเจ้าไม่มีผู้ชายแล้วหรือไร? อย่าคิดว่าช่วยข้าครั้งเดียวแล้วข้าจะยอมแต่งงานด้วยนะ!”
ผู่ตานระบายอารมณ์ใส่หญิงสาวอย่างไม่ยั้ง ถ้าเป็นคุณหนูในโลกมนุษย์คงร้องไห้วิ่งหนีไปแล้ว แต่คนตรงหน้านี้ ยิ่งด่าเท่าไหร่ยิ่งสนุก ถึงเขาจะรู้แต่ก็อดด่าไม่ได้จริง ๆ
“ไม่มีใครน่าสนใจเหมือนเจ้าหรอก พวกเขาไม่กล้าด่าข้า ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน”
ยิ่งผู่ตานโกรธ รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวก็ยิ่งสดใส
“…” ผู่ตานรู้สึกหมดคำพูด
ศิษย์น้องหญิงห้าเจ้าอยู่แห่งหนใด รีบมาช่วยข้าที หากไม่ได้ เป็นโม่จวินเจ๋อก็ยังดี บุรุษผู้นั้นก็งดงาม หญิงผู้นี้คงจะพึงใจเขาเช่นกัน!
น่าเสียดายที่หลิงเยว่มิได้ยินสิ่งที่ผู่ตานร่ำร้องในใจ เพราะนางกำลังยุ่งอยู่กับการสอนศิษย์คนใหม่
ส่วนโม่จวินเจ๋อ เขากำลังลำบากใจเพราะน้องสาวของเขามาปรากฏตัว และกำลังเชิญเขากลับสู่วังมาร
“ข้ายังมีภารกิจที่ต้องทำ คงกลับไปในตอนนี้ไม่ได้”
โม่จวินเจ๋อเลียนเสียงมังกรปีศาจ พลันปฏิเสธอย่างหนักแน่น!
“ภารกิจที่ท่านพี่มอบให้ พี่หญิงก็ทำให้สำเร็จแล้วมิใช่หรือ เหตุใดจึงยังมีภารกิจอีกเล่า?”
นางสนมปีศาจลำดับที่หกไม่ยอมกลับไปง่าย ๆ เสียงบ่นของนางช่างอ่อนหวาน ไพเราะราวกับสายฝนโปรยปราย ทำเอาผู้คนรอบข้างเคลิบเคลิ้ม
แต่สำหรับโม่จวินเจ๋อแล้ว เสียงของนางช่างน่ารำคาญยิ่งนัก!
“เรื่องที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม!” โม่จวินเจ๋อแววตาเยือกเย็น ปล่อยจิตสังหารของมังกรออกมา ทำให้บริวารปีศาจที่ติดตามนางสนมปีศาจลำดับที่หกคุกเข่าลงไปเป็นแถว ส่วนตัวของนางผู้ที่อยู่ตรงนั้นเหงื่อกาฬพลันไหลริน
“น้องมิบังอาจแล้วเพคะ…”
“รู้เช่นนั้นก็ดี!” โม่จวินเจ๋อสะบัดหางด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง ก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าทะลุเมฆจากไปด้วยความเร็วราวกับหนีตาย
เขตแดนปีศาจช่างน่ากลัวเกินไป!
เขาอยากกลับไปยังแดนมนุษย์แล้ว…
……….