ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 327 บรรพบุรุษของพวกเขาแตกสลาย!
บทที่ 327 บรรพบุรุษของพวกเขาแตกสลาย!
บทที่ 327 บรรพบุรุษของพวกเขาแตกสลาย!
“หุบปาก!”
“อ๊าก! ข้าฆ่าเจ้า ออกไปแล้วข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
“เนื้อของข้า!”
เหล่าปลาในบ่อส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าสังเวช พวกมันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งอยู่ในบ่อลงทัณฑ์ อุตส่าห์เฝ้ารอมาเนิ่นนานกว่าจะได้ลิ้มรสเนื้อของตนเองเพียงน้อยนิด แต่ตอนนี้กลับถูกแย่งชิงไปต่อหน้าต่อตา ใครบ้างจะทนไหว!
ภายในบ่อลงทัณฑ์ น้ำสาดกระเซ็น เสียงโจมตีจากพลังเสียงดังก้องกังวานจนศีรษะของหลิงเยว่รู้สึกราวกับถูกกระหน่ำตีด้วยค้อนไม่หยุดหย่อน ร่างกายของนางเหมือนถูกฝูงมดจำนวนนับไม่ถ้วนกัดกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ศีรษะของนางปวดร้าวและชาไปหมด…
สมกับเป็นเผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังโจมตีทางเสียง ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก!
หลิงเยว่รู้สึกอ่อนแรง นางมองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ทิ้งตัวพิงโครงกระดูกของบรรพบุรุษปลาที่อยู่ด้านหลัง
โครม!
โครงกระดูกขนาดมหึมาล้มครืนลงมา พร้อมกับร่างของหลิงเยว่ที่ล้มลงไปทับโครงกระดูกปลาจนแตกกระจายออกเป็นเสี่ยง ๆ ลูกตากลมโตของปลากลิ้งหลุน ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าของนางพอดี
หลิงเยว่ “…”
ความวุ่นวายพลันเงียบสงัด บรรดาปลาทั้งหลายต่างจ้องมองหลิงเยว่ที่นอนทับโครงกระดูกปลาด้วยความตกตะลึง
โครงกระดูกบรรพบุรุษของพวกมันแตกสลายแล้ว!
คราวนี้แย่แน่! พวกมันคงต้องติดอยู่ในบ่อลงทัณฑ์อีกหลายร้อยปีเป็นแน่
“ยังพอมีทางแก้ไขหรือไม่?” ปลาในบ่อตัวหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ มันเหลือเวลาอีกเพียงสิบวันก็จะพ้นโทษแล้ว หากถูกจับได้ว่าทำลายโครงกระดูกบรรพบุรุษ โทษทัณฑ์คงจะถูกขยายออกไปอีก การออกไปข้างนอกคงเป็นเพียงความหวังอันริบหรี่แล้ว!
“แตกขนาดนี้แล้ว จะมีทางแก้ไขได้อย่างไร?”
“โทษฐานของพวกเจ้าแท้ ๆ หากไม่ร้องโวยวาย คงไม่ทำให้โครงกระดูกบรรพบุรุษแตกสลายหรอก!”
“ข้าเหลือเวลาอีกสามสิบปีก็จะพ้นโทษแล้ว ข้าจะสู้ตายกับพวกเจ้า!”
บรรดาปลาในบ่อต่างเริ่มรุมทึ้งกันอีกครั้ง…
ส่วนบรรดาปลาที่ที่ถูกลากมานั้นจ้องมองปลาในบ่ออย่างโง่งม จากนั้นก็รีบดื่มน้ำแกงที่เหลือจนหมดเกลี้ยง บางตัวยังกลืนกินชามไม้และช้อนเข้าไปด้วย เพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนจะรีบหนีไปให้ไกล
หากปล่อยให้พวกมันหนีไป แผนการของนางจะไม่ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มหรอกหรือ?
“หากพวกเจ้าหนี ข้าจะไปฟ้องบรรพบุรุษทันทีว่าพวกเจ้าทำร้ายและกินเลือดกินเนื้อเผ่าพันธุ์เดียวกัน และยังให้พวกมันฆ่ากันเองด้วย…”
หลิงเยว่ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟ้องร้องได้เปิดไพ่แล้ว!
ซึ่งผลลัพธ์นั้นดีมาก ปลาที่หนีไปจนไม่เห็นเงาต่างกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาโดยไม่ขาดไปสักตัว
“ใช่ ฟ้องพวกมันว่าตอนที่ข้าติดอยู่ในบ่อลงทัณฑ์ พวกมันตัดเนื้อข้าไปกิน!”
“ถ้าไม่เชื่อก็เปิดแผลให้ดูได้เลย!”
พวกมันมองปลาที่ถูกลากมาด้วยสายตาดุร้าย อยากจะฉีกพวกมันเป็นชิ้น ๆ แล้วเคี้ยวกลืนลงท้องเสียให้ได้!
เนื้อของตัวเองกินไปแค่ชิ้นเดียว แต่ไอ้พวกสิบกว่าตัวข้างบนนั้นกลับแย่งกินไปตั้งเยอะ มันจะระเบิดแล้ว!
พวกปลาที่ถูกตัดเนื้อไม่ได้โทษหลิงเยว่ที่พาปลาพวกนั้นมา แต่กลับเทความแค้นทั้งหมดลงบนเผ่าพันธุ์เดียวกันที่อยู่ตรงหน้าแทน
“พวกเจ้าต้องตัดเนื้อชดใช้ หรือไม่ก็รอเข้ามาเป็นเพื่อนพวกข้าที่นี่!”
ปลาที่ถูกลากมาต่างพากันน้อยใจยิ่งนัก พวกมันอยากจะแข็งข้ออยู่หรอก แต่ครั้นเห็นปลาในบ่อลงทัณฑ์ อีกทั้งยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดกอดหัวกะโหลกบรรพบุรุษไว้ในอ้อมแขน ทำท่าจะนำความไปฟ้องร้อง พวกมันคงสู้ไม่ได้เป็นแน่!
“วางใจเถิด ผ่าตัดเอาเนื้อไปเพียงครึ่งหนึ่ง พวกเจ้าไม่ตายหรอก”
หลิงเยว่เอ่ยพลางลูบหัวกะโหลกบรรพบุรุษ ปลาที่ถูกลากมาได้ยินดังนั้นต่างเสียวสันหลังวาบ พวกมันกลัวว่าหากนางเผลอพลั้งไป หัวกะโหลกของเหล่าบรรพบุรุษจะแตกสลาย หากเป็นเช่นนั้น พวกมันคงมิได้ชดใช้เพียงแค่เนื้อครึ่งตัวเป็นแน่ แต่จะต้องติดอยู่ในบ่อลงทัณฑ์ไปชั่วชีวิต!
“แน่นอน นอกจากชดใช้เนื้อแล้ว ข้ายังต้องการให้พวกเจ้าช่วยเหลืออีกเรื่อง”
หลิงเยว่แจ้งแผนการของตนต่อหน้าปลาทั้งสองฝ่าย พวกมันต่างพากันเบิกตากว้าง มองนางราวกับนางเป็นคนบ้า แผนการเช่นนี้ แตกต่างจากการไปตายอย่างไรกัน!
ย่อมแตกต่างสิ เพราะก่อนตายพวกมันจะได้กินอาหารจนอิ่มหนำสำราญ
ความเงียบแผ่ปกคลุมไปทั่วสุสาน ในที่สุดปลาในบ่อก็เป็นฝ่ายเอ่ยปาก
“เจ้าหนู รอข้าสักห้าวันเถอะ ห้าวันหลังจากนี้ข้าก็เป็นอิสระแล้ว ข้ารับรองว่าจะทำตามแผนให้สำเร็จ!”
“สิบวันได้หรือไม่? ข้าเหลือโทษอีกเพียงสิบวันเท่านั้น!”
“หนึ่งปี…” ปลาตนหนึ่งเอ่ยปากว่าจะให้หลิงเยว่รอหนึ่งปี ทันใดนั้นก็ถูกปลาตัวอื่นผลักตกลงไปในบ่อลงทัณฑ์ ใครเล่าจะรอได้ตั้งหนึ่งปี ตัวมันเองยังเหลือเวลาอีกแค่สามเดือนก็เป็นอิสระแล้ว!
ปลาที่ทำผิดกฎอีกหลายสิบหลายร้อยปีไม่กล้าส่งเสียง พวกมันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง หากได้พบกับหลิงเยว่เสียก่อน พวกมันคงไม่ทำเรื่องโง่เขลาจนถูกทำโทษถึงร้อยปี
น่าเสียดายยิ่งนัก!
พวกปลาที่ถูกลากมายังคงไม่เอ่ยคำใด เห็นได้ชัดว่ากำลังครุ่นคิดว่าการกระทำที่แลกกับความตายนั้นคุ้มค่าหรือไม่…
ระหว่างที่พวกมันกำลังครุ่นคิด หลิงเยว่ได้นำไข่นกปีศาจสีดำที่เหลือออกมา เนื้อในของไข่นกปีศาจนั้นใสแวววาวเป็นสีเทา ส่วนไข่แดงนั้นมีสีดำสนิท ช่างมีกลิ่นอายของเผ่าพันธุ์ปีศาจอย่างชัดเจน
ด้วยความไม่ยอมให้สิ่งใดสูญเปล่า หลิงเยว่จึงตัดสินใจนำไข่เหล่านั้นมาทำเป็นแพนเค้กไข่แบบง่าย ๆ
เมื่อได้เห็นไข่แดงของไข่นกปีศาจที่ใหญ่โตเช่นนั้น จิตใจของเหล่าปลาที่ถูกลากมาก็ยิ่งสั่นไหวหนักขึ้นไปอีก พวกมันยังคงฝืนใจไม่ขยับเขยื้อน จนกระทั่งในตอนที่กลิ่นหอมของแพนเค้กไข่โชยออกมาก็มีปลาตัวหนึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ข้าจะไปตามพวกพ้องมาเดี๋ยวนี้!”
“รอเดี๋ยวนะ ข้าจะรีบกลับมา!”
ในชั่วพริบตา ปลาที่ถูกลากมาทั้งสิบแปดตัวก็หายวับไปจนหมดสิ้น กลิ่นหอมของแพนเค้กไข่ขนาดยักษ์ที่หลิงเยว่กำลังทอดอยู่บนก้อนหินนั้นยิ่งหอมมากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นหอมของไข่ผสมผสานกับกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวของหญ้าหมัวอิน…
หญ้าหมัวอินจะมีกลิ่นหอมเช่นนี้ได้อย่างไร!
เหล่าปลาที่ชุมนุมกันอยู่ริมบ่อน้ำลงทัณฑ์ต่างเคลือบแคลงใจ แต่ไม่อาจควบคุมน้ำลายที่ไหลออกจากมุมปากได้ ระดับน้ำในบ่อดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อยจากน้ำลายของพวกมัน
“ข้าขอชิมสักหน่อยได้หรือไม่ แค่นิดเดียวพอ!”
“ให้ข้าเลียสักทีก็ยังดี…”
หลิงเยว่ไม่ได้ตระหนี่ ขนมแพนเค้กไข่ที่ทอดจนนุ่มฟู ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าหัวปลาของพวกมันเสียอีก นางนำมาแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนจะโยนลงไปในสระน้ำแห่งบทลงทัณฑ์ให้กับเหล่าปลาที่อ้าปากรออยู่
ขนมแพนเค้กเข้าไปในปาก ลิ้นของพวกมันม้วนเพียงครั้งเดียวก็แหลกละเอียด จากนั้นกลิ่นหอมเข้มข้นของไข่นกปีศาจ กลิ่นหอมสดชื่นของหญ้าหมัวอิน และกลิ่นหอมหวานพลันกระจายไปทั่วทั้งปาก ก่อนจะไหลลงสู่ท้อง
เหล่าปลาที่ได้ลิ้มรสขนมหวานเป็นครั้งแรก เกือบกัดลิ้นตัวเองแล้ว เพราะเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากเนื้อของพวกมัน แต่ก็ทำให้พวกมันไม่อาจลืมเลือนและอยากลิ้มลองอีกสักคำ
“ข้ายังไม่ได้กินเลย!”
“โยนมาอีกชิ้น!”
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาของปลาที่กำลังอ้อนวอน หลิงเยว่กลับไม่แสดงความสงสารแม้แต่น้อย เผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินมีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ไม่เหมาะกับการทำท่าทางน่าสงสาร ความน่าสงสารของพวกมัน ทำให้นางอยากจะตบหน้าพวกมันสักสองสามครั้ง และเหยียบย่ำพวกมันอีกสองสามที!
อย่างไรก็ตาม นางยังคงโปรยแพนเค้กชิ้นที่สองที่ทอดเสร็จแล้วลงไป
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังให้อาหารปลาในสวนเช่นนี้?
“นี่มันเป็นของดีจริง ๆ หรือ!?”
“ข้าอยู่มานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้กลิ่นหอมเช่นนี้!”
เมื่อแพนเค้กไข่ชิ้นที่สองถูกโปรยลงไป ปลาโตเต็มวัยไม่ต่ำกว่ายี่สิบตัวก็พุ่งเข้ามาในสุสาน เป็นปลาที่ถูกลากมาตัวแรกที่จากไปก่อนหน้านี้พามา
พวกมันเพิ่งมาถึง กลุ่มปลาโตเต็มวัยอีกกลุ่มก็วิ่งเข้ามา ตามด้วยกลุ่มที่สาม ที่สี่…
หลิงเยว่ที่กำลังทอดแพนเค้กไข่ยักษ์สิบชิ้นพร้อมกันถูกล้อมไปด้วยกลุ่มปลาถึงสามชั้น ไม่มีตัวไหนที่ไม่น้ำลายไหล พื้นดินบริเวณนั้นเปียกชื้นเพราะน้ำลายของพวกมัน
“ขอเพียงให้พวกข้าได้กิน จะให้ทำอะไรก็ได้!”
หลิงเยว่ที่หน้าตาดำทะมึนพลันยิ้มแย้มแจ่มใสทันที นี่คือสิ่งที่นางต้องการได้ยิน!
เพียงแต่ทำไมพวกมันถึงตัวสั่นและถอยหลังออกไปแบบนั้นเล่า?