ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 321 การเป็นปลาช่างมีความสุขนัก!
บทที่ 321 การเป็นปลาช่างมีความสุขนัก!
บทที่ 321 การเป็นปลาช่างมีความสุขนัก!
หลังจากที่โม่จวินเจ๋อสลบไป หลิงเยว่ก็มาถึงยังที่อยู่ของปลาหมัวอิน
นางคิดว่ามันจะอยู่ที่ก้นทะเลสาบเสียอีก ใครจะคิดว่ามันจะอยู่ข้าง ๆ เกาะแห่งนี้
ปลาหมัวอินตัวโตบินลงมา ส่วนล่างกลายเป็นขาของมนุษย์ ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำทอง แต่ส่วนบนยังคงเป็นหัวปลาและลำตัวมีครีบปลาขนาดใหญ่สองข้าง
ช่าง… น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก!
พวกมันปล่อยฟองอากาศคุยกัน หลายตัวกระโดดขึ้นฝั่ง กระโดดไปที่กองหญ้าบนเกาะ จากนั้นก็นอนราบลงบนพื้นหญ้า
ก่อนหน้านี้หลิงเยว่เพียงแต่ดูข้อมูลของปลาหมัวอินอย่างคร่าว ๆ เท่านั้น นางไม่รู้มาก่อนว่าเมื่อโตขึ้นมันจะสามารถแปลงร่างได้ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกปลาหมัวอินกินหญ้าเป็นอาหาร
แน่นอนว่า นั่นไม่ใช่หญ้าธรรมดา แต่มันคือหญ้าหมัวอินซึ่งเติบโตเฉพาะในที่ที่ปลาหมัวอินอาศัยอยู่เท่านั้น เมื่อลูกปลากินเข้าไปไม่เพียงแต่จะทำให้อิ่มท้อง แต่ยังช่วยเร่งการเติบโตได้อีกด้วย
ส่วนรสชาตินั้น หลิงเยว่กัดเข้าไปคำหนึ่งแทบสำรอกออกมา มันทั้งเหม็นคาว แถมยังเหนียวหนืด ขมขื่นจนสุดจะบรรยาย แต่พอมองดูปลาที่นอนราบอยู่ข้าง ๆ พวกมันกลับกินอย่างมีความสุขราวกับกำลังลิ้มรสชาติแสนอร่อย
หลิงเยว่กัดเข้าไปอีกคำ นางเคี้ยวอย่างไร้อารมณ์ จะพูดก็พูดเถอะ… ตอนนี้นางเป็นปลา จึงไม่สามารถแสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาได้
ปลาหมัวอินลิ้นเสียหรือไร ทำไมมันไม่เข้าใจรสชาติความอร่อยกันบ้างเหรอ? นางจำได้ว่าพวกมันล้วนรับรสได้มิใช่หรือ?
หลิงเยว่กลืนหญ้าหมัวอินลงสู่ท้องด้วยความรู้สึกที่สับสน พลางเหลือบมองไปยังโม่จวินเจ๋อในร่างปลาตัวน้อย ที่นอนแน่นิ่งราวกับสิ้นใจ
มิได้การ! บัดนี้นางต้องรีบหาที่ปลอดภัยเพื่อรักษาบาดแผลให้เขาเสียก่อน หากปล่อยเวลาเนิ่นนานไปกว่านี้ เกรงว่าคงจะได้ฝังศพของโม่จวินเจ๋อที่นี่เป็นแน่
หลิงเยว่พยายามเบิกตากลมโตของนางมองไปรอบ ๆ เกาะที่เต็มไปด้วยปลาที่แหวกว่ายไปมา ขณะที่รอบกายมีเพียงปลานอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วไม่มีที่ไหนปลอดภัยเลยสักนิด!
ท่ามกลางความสิ้นหวัง สายตาของนางพลันเหลือบไปเห็นป่าเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลนัก หลิงเยว่ตาลุกวาว ดูเหมือนปลาพวกนี้เลี่ยงที่จะเข้าใกล้บริเวณนั้น เพราะพวกมันต่างพากันว่ายน้ำอ้อมไปด้วยแววตาที่แฝงไว้ด้วยความเคารพยำเกรง ราวกับเกรงว่าจะไปรบกวนบางอย่างที่อยู่ภายในป่านั้น
หรือจะเป็นเขตต้องห้ามของเผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินกระมัง?
เขตต้องห้ามหรือ!
ครั้นนึกถึงเขตต้องห้ามทีไร หลิงเยว่อดรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมามิได้ นางยังคงจำได้ดีถึงเปลวเพลิงภายในเขตต้องห้ามแห่งสำนักหลานเทียนที่น่าสะพรึงกลัว ครานี้เขตต้องห้ามของเหล่าปลาหมัวอินจะเป็นเช่นไรกัน?
แต่ไม่ว่าอย่างไร การรักษาโม่จวินเจ๋อสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเขตต้องห้าม นางก็ต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้!
หลิงเยว่ขยับตัวอย่างยากลำบาก นางคาบโม่จวินเจ๋อไว้ในปาก ก่อนจะกระโดดไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล
เพื่อไม่ให้ปลาตัวโตสังเกตเห็น นางจึงตั้งใจอ้อมไปไกล และเพื่อไม่ให้ปลาเล็กปลาตัวน้อยที่กำลังเล็มหญ้าอยู่ตกใจ นางจึงต้องคอยวางโม่จวินเจ๋อลงเป็นระยะ ๆ เพื่อที่จะได้แกล้งทำเป็นเล็มสาหร่าย กินไปย้ายที่ไป
หลิงเยว่กระโดดไปตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เกล็ดของนางยังคงอยู่ครบถ้วน แต่ใจของนางนั้นเหนื่อยล้าเหลือเกิน
บัดนี้นางมาถึงครึ่งทางแล้ว หลิงเยว่คำนวณความเร็วของตัวเองแล้ว นางคงต้องใช้เวลาอีกสองวันจึงจะไปถึง แต่ตอนนั้นโม่จวินเจ๋อคงกลายเป็นปลาตากแห้งไปเสียก่อน!
หลิงเยว่ส่งพลังวิญญาณเข้าสู่แหวนเร้นกายที่ฝังอยู่ในฟันของนาง เพราะนางต้องการจะพรางตัวเป็นปลาตัวโตเต็มวัย
“ระบบ ทำไมแหวนเร้นกายถึงไม่ทำงาน!?”
[เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วยามถึงจะใช้งานแหวนได้อีกครั้ง]
หลิงเยว่ “…”
เป็นถึงแหวนเร้นกายระดับเทพ แต่กลับใช้งานต่อเนื่องไม่ได้หรือ ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี!
ยิ่งไปกว่านั้น แหวนเร้นกายงี่เง่านี่ยังด้อยกว่าชาแปลงกายของหลิงเยว่ด้วยซ้ำ เพราะมันทำได้แค่เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แม้แต่พลังก็ถ่ายทอดมาได้เพียงหนึ่งในสิบ มิเช่นนั้น ข้าคงไม่ถูกหางปลาฟาดจนกลับมาบนฝั่งตั้งแต่เช้าหรอก!
แต่ความจริงแล้ว นางไม่ควรเลือกปลอมตัวเป็นปลาที่ยังไม่โตเต็มวัยเพื่อประหยัดพลังวิญญาณเพียงเล็กน้อย เพราะหากปลอมเป็นปลาโตเต็มวัย นางคงกระพือครีบบินขึ้นฝั่งได้ไปนานแล้ว!
เมื่อหลิงเยว่กระโดดจนเหนื่อย นางจึงต้องนอนพักชั่วคราว รอเวลาให้หายเหนื่อยสักหน่อย นางเชื่อว่านี่ต้องเป็นการชี้นำจากสวรรค์แน่นอน!
นางแกว่งหางโอบลูกปลาตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด โม่จวินเจ๋อน่าจะทนได้อีกสักครึ่งชั่วยามกระมัง?
“ระบบ ทำไมบาดแผลของโม่จวินเจ๋อถึงรักษายากนัก?”
[เขาถูกพิษจากกรงเล็บมังกรอสูร ด้วยระดับความสามารถในการรักษาของเจ้าในตอนนี้ ยากที่จะกำจัดได้หมดในครั้งเดียว แต่ครั้งที่สองน่าจะฟื้นฟูได้อย่างสมบูรณ์]
“แล้วมีโอสถใดบ้างหรือไม่…”
เบื้องหน้าของนางปรากฏโอสถสองชนิด ชนิดหนึ่งราคาห้าหมื่นล้านค่าพลังวิญญาณ ส่วนอีกชนิดราคาสามหมื่นล้านค่าพลังวิญญาณ
หลิงเยว่เหลือบมองค่าพลังวิญญาณของตนเองที่มีเพียงสามพันล้าน นางใช้ซื้อยันต์เคลื่อนย้ายระดับเทพเพื่อหนีตายไปหมดแล้ว “ข้าขอติดไว้ก่อนได้หรือไม่?”
[ไม่ได้]
ระบบปฏิเสธอย่างเลือดเย็น
“เหตุใดเล่า?” หลิงเยว่คาดคั้น
[เจ้าผ่านช่วงคุ้มครองไปแล้ว นับแต่นี้ไปจะไม่สามารถติดไว้ได้อีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจ้าไม่รีบชำระหนี้ให้หมดด้วย]
คำว่ามิอาจชำระหนี้ได้หมด ทำให้หลิงเยว่รู้สึกถึงอันตราย นี่คือเขตแดนปีศาจ ไร้ซึ่งพลังวิญญาณ ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงหินวิญญาณเลย เพราะพวกปีศาจใช้หินปีศาจในการซื้อขายแลกเปลี่ยน
นี่เป็นเหตุผลที่นางไม่ยอมใช้พลังวิญญาณมากเกินไปเพื่อแปลงร่างเป็นปลาที่โตเต็มวัย อีกทั้งตอนนี้หลิงเยว่ยังต้องแบ่งพลังวิญญาณให้กับแหวนเร้นกายสองวงด้วย
สิ่งเดียวที่สามารถเติมเต็มปราณวิญญาณได้ คือหินวิญญาณของหลิงเยว่ แต่ตอนนี้มีเพียงไม่กี่ก้อนเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม นางยังมีค่าพลังวิญญาณสามพันล้าน ซึ่งสามารถแลกเป็นหินวิญญาณได้!
หลิงเยว่ไม่รู้ว่าฮวนฮวนและผู่ตานถูกพัดพาไปที่ใด…
[พวกเขาทั้งหมดถูกพัดแยกจากกัน แต่สถานการณ์ของพวกเขาดีกว่าเจ้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์พี่สี่ของเจ้า]
ผู่ตานเป็นคนโชคร้ายยิ่งกว่านาง แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับดีกว่านางเหรอ!
“พวกเขาอยู่ที่ไหน!” หลิงเยว่รีบถาม แต่ความกังวลในใจก็คลายลงไปมากแล้ว
ระบบไม่ตอบตามคาด แต่เลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อแทน
[ภารกิจหลักที่ 19 ใช้วัตถุดิบของเผ่าปีศาจอย่างเหมาะสม ทำอาหารปีศาจระดับพิเศษขึ้นไปสิบจาน และขายเพื่อหาเงินหนึ่งแสนล้านหินปีศาจ รางวัลคือค่าพลังวิญญาณ +10,000,000,000 และอายุขัย +10,000 วัน ส่วนการลงโทษจะเพิ่มเป็นสองเท่า]
“!!!”
นานแล้วที่หลิงเยว่ไม่ได้รับภารกิจทำอาหาร นางจึงเหม่อลอยไปชั่วครู่…
ระบบต้องการให้นางใช้อาหารวิญญาณพิเศษยึดครองเผ่าปีศาจรึ?
หินปีศาจหนึ่งแสนล้านก้อน…
แค่ฟังก็รู้ว่ายากยิ่ง โดยเฉพาะตอนที่คิดภาพว่าต้องใช้พวกปลาหน้าตาน่ากลัวไปทำเป็นอาหาร
แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!
แม้ตำราปรุงอาหารจะบอกว่าเนื้อปลาพวกนั้นสดใหม่ แต่ตอนนี้ หลิงเยว่ยังไม่คิดจะลงมือกับเผ่าพันธุ์เดียวกัน รอให้ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันก่อน นางค่อยพิจารณาอีกที…
ทะเลสาบกว้างใหญ่เช่นนี้ ปลาหมัวอินก็ล้นทะเลไปหมด หากกินไปนิดหน่อย คงไม่มีใครสังเกตเห็นกระมัง?
ดวงตาไร้วิญญาณของหลิงเยว่พลันเบิกกว้าง หนึ่งชั่วยามผ่านไปแล้ว!
ในขณะที่นางกำลังจะเปิดใช้งานแหวนเร้นกาย พวกปลาบนเกาะก็เริ่มเก็บลูกปลาที่กินจนอิ่ม พวกมันสะบัดครีบใหญ่เพียงครั้งเดียว ลูกปลาก็ถูกโยนลงไปในทะเลสาบทันที
มิเช่นนั้น หากหลิงเยว่มิได้รั้งโม่จวินเจ๋อไว้ พวกเขาทั้งสอง คงต้องพรากจากกันดุจปลาที่ถูกแยกจากน้ำแล้ว!
ตูม!
เหล่าลูกปลาตัวน้อยตกลงผืนน้ำ เสียงดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย หลิงเยว่เองไม่อาจหลีกเลี่ยง จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ยิ่ง เมื่อเหล่าปลาตัวน้อยถูกโยนลงสู่ผืนน้ำจนหมดสิ้น เกาะแห่งนี้ก็เคลื่อนไหว!
ดุจดังเรือที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาก็หายลับไปในความมืดมิด
“นี่มันอะไรกัน!” หลิงเยว่ร้องออกมาด้วยความตกใจ