ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 817 เจอคู่ต่อสู้
ตอนที่ 817 เจอคู่ต่อสู้
เอาชนะเขาไม่ได้ก็ชิงแทงตัวเอง ตัวเลือกและการแสดงออกนี้ทำให้โจวเจ๋ออึ้งอยู่บ้าง แต่เถ้าแก่โจวก็คือเถ้าแก่โจว ช่วงไม่กี่ปีมานี้มีพายุฝนอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ
เมื่อเห็นอีกฝ่ายกลับตัวกลับใจใหม่จนเริ่มฆ่าตัวตายแล้ว ถ้าอย่างนั้นเถ้าแก่โจวก็ไม่รังเกียจที่จะก้าวไปดันมีดให้เขา เขาจะได้หลุดพ้นจากทะเลแห่งความทุกข์ทรมานเร็วขึ้น
ใครใช้ให้เราใจอ่อนและมีจิตใจเมตตากรุณาผู้อื่นอยู่เสมอกันล่ะ
เพียงแต่ว่า เมื่อชายหนุ่มเสื้อขนเป็ดสีแดงดึงมีดสั้นออกมา ฉากเลือดสาดในจินตนาการดันไม่ปรากฏขึ้น กลับกลายเป็นของเหลวเหนียวหนืดสีดำเริ่มทะลักออกมาจากบาดแผลบนหน้าอกแทน เพียงครู่หนึ่ง ของเหลวเหล่านี้ก็กระเด็นไปทั่วร่างและพื้นที่วงกว้างใต้ฝ่าเท้าของเขา
หรือจะรู้ว่าฉันเป็นโรครักความสะอาด ถึงได้ใช้วิธีนี้มาขวางไม่ให้ฉันเข้าใกล้เขางั้นเหรอ
จะตำหนิเถ้าแก่โจวที่คิดแบบนี้ไม่ได้ เพราะปฏิกิริยาของคนตรงหน้าในเวลานี้มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ แต่โจวเจ๋อก็ยังร่นระยะห่างให้สั้นลง
ห้าเมตร
สามเมตร
หนึ่งเมตร!
‘วืด!’
ชายหนุ่มเสื้อขนเป็ดสีแดงปล่อยกระแสสีแดงสองสายออกมาจากดวงตา
ทันใดนั้น ของเหลวสีดำรอบๆ ที่เพิ่งพรั่งพรูออกมาจากร่างของเขาทั้งหมดพลันลอยขึ้น และเคลื่อนตัวตรงไปทางร่างของโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อคอยระแวดระวังการเปลี่ยนแปลงประเภทนี้เสมอมา บางทีอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากการต่อสู้และชัยชนะอย่างต่อเนื่องของเด็กชายเมื่อครู่นี้ก็เป็นได้ หรืออาจเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ระหว่างการเดินทางที่เสฉวนทำให้เถ้าแก่โจวเติบโตขึ้น เอาเป็นว่า ตอนนี้เถ้าแก่โจวค่อนข้างมั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยม
เขากางมือซ้ายออก เล็บสีดำทั้งห้าตั้งตรง และเอ่ยเสียงเบาอยู่ตรงนั้น “กาแฟ!”
เสาที่ก่อตัวจากพลังปราณพิฆาตพุ่งขึ้นมารอบๆ โจวเจ๋อ และสกัดกั้นของเหลวสีดำเหล่านี้ออกไป
เสียง ‘พลั่กๆ’ ดังมาไม่ขาดสาย ของเหลวสีดำนี้ดันมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงอย่างมาก
โชคดีที่เถ้าแก่โจวอาศัยพลังปราณพิฆาตของตัวเองเติม ‘กาแฟ’ ใส่แก้วต่อไปเรื่อยๆ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกกัดกร่อน เขายังไม่อยากลองใช้ร่างผีดิบต้านทานกรดซัลฟิวริกจำลองนี้จริงๆ แม้ว่าตัวเองจะไม่ตาย แต่จะอวดเก่งไปจนจบแล้วเนื้อตัวทะลุเป็นหลุมเป็นบ่อไปเพื่ออะไร
ขณะเดียวกัน โจวเจ๋อไม่ได้คิดจะให้โอกาสอีกฝ่ายได้มีบทบาทต่อ บอกตามตรง ชายตรงหน้าคนนี้ยุ่งยากน่ารำคาญจริงๆ ทำเหมือนโดราเอมอนหยิบจับอุปกรณ์พิเศษต่างๆ โผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย
เล็บของโจวเจ๋อเจาะทะลุแผงเกราะป้องกันและแทงใส่คอของอีกฝ่าย
ชายหนุ่มเสื้อขนเป็ดสีแดงหลับตาหงายหลังจนทั้งตัวล้มลงกับพื้น นี่คล้ายกับการเคลื่อนไหวต่อมาหลังจากถูกยิง
เพียงแต่ว่า ขณะนี้ส่วนลึกในดวงตาของโจวเจ๋อดูจริงจังขึ้นมาเป็นครั้งแรก
ผิดปกติ!
‘กี้ดๆ กี้ดๆ กี้ดๆ…’
เสียงเสียดสีแสบแก้วหูอย่างรุนแรง ราวกับกลไกฟันเฟืองที่ทำงานเกินกำลังด้วยแรงม้าที่เพิ่มขึ้น บรรยากาศน่ากังวลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไต่ระดับขึ้นไปท่ามกลางการเสียดสีนี้จนในที่สุดก็ถึงจุดสูงสุด!
‘พรวด!’
มีคำกล่าวไว้ว่าผู้หญิงเกิดมาจากน้ำ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มเสื้อขนเป็ดสีแดงกำลังตีความประโยคนี้ใหม่อย่างลึกซึ้ง ร่างกายของเขาเหมือนจะระเบิดออกมาจนหมด คราบน้ำกระเด็นออกไปเป็นวงกว้าง และคราบน้ำเหล่านี้ก็ก่อตัวเป็นค่ายกลขนาดเล็กในบริเวณห้องนั่งเล่นด้วยความเร็วที่ว่องไวมาก
เถ้าแก่โจวเริ่มถอยหลังออกไปทันทีที่รู้ตัว เขาไม่มีทางทำอะไรเกินตัวเหมือนเจ้าโง่นั่นหรอก ทั้งๆ ที่ตัวเองอ่อนแอมากแต่ดันทุรังอยากรอให้พระพุทธเจ้าปรากฏตัวอยู่ใต้ประตูแห่งพุทธะ
แต่ทว่า โจวเจ๋อยังไม่ทันได้หลบเลี่ยงออกจากบริเวณนี้ไป จู่ๆ เสียงสวดภาษาสันสกฤตก็ดังขึ้น สิ่งที่ตามมาเป็นกลิ่นไม้จันทน์อันน่าสะพรึงกลัวที่เข้มข้นจนแทบจะกลายเป็นน้ำมันให้ขุดออกมา!
“รีบ…หนี…” ทันใดนั้นเสียงเจ้าโง่ดังขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจ เห็นได้ชัดว่าเวลานี้เขาก็ตื่นตระหนกเช่นกัน
โดยทั่วไปแล้ว แม้ว่าในเวลาปกติเรื่องบางเรื่องจะแฝงไปด้วยอันตรายอยู่บ้าง แต่ขอเพียงไม่เกินขีดจำกัดที่โจวเจ๋อสามารถรับมือได้ เจ้าโง่ก็จะเงียบอยู่อย่างนั้น พยายามให้โจวเจ๋อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลงสนามเล่นเกมแบบเล่นคนเดียว แต่จะไม่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงคนรับเก็บเลเวลแทนที่ต้องใช้เวลาทำภารกิจประจำวันอย่างหนักหน่วงในแต่ละวัน
ตอนนี้ในเมื่อเจ้าโง่พูดออกมาแล้ว นั่นก็หมายความว่าสถานการณ์ทั้งหมดพลันแย่ลงอย่างกะทันหัน!
หากเป็นตอนปกติ เขาอาจจะจงใจรอให้โจวเจ๋อขอร้องเขา แต่คราวนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อน
อันที่จริง เถ้าแก่โจวไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้จะไม่มีการเตือนของเจ้าโง่ก็ตาม เมื่อครู่นี้เขามีลางสังหรณ์ไม่ดีเช่นกัน ความรู้สึกหนาวสะท้านตามกระดูกสันหลังวูบหนึ่งยังกระตุ้นเขาลึกๆ ด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้น โจวเจ๋อส่งเสียงคำราม และเปิดใช้งานสภาวะผีดิบอย่างสมบูรณ์ จากนั้นกระโดดพุ่งตัวขึ้น ใช้กำลังฉีกทึ้งเครื่องพันธนาการและออกจากพื้นที่นี้
เมื่อสาวน้อยโลลิที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ด้านข้างมาโดยตลอดจู่ๆ ก็เห็นเถ้าแก่ของตัวเองวิ่งหนี เธอก็ไม่กล้ารีรอ แลบลิ้นแล้วรีบตามออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อร่างของเธอเข้ามาใกล้โจวเจ๋อ โจวเจ๋อก็อ้าแขนออกไปอุ้มเธอและเร่งความเร็วอีกครั้ง!
‘ปัง!’
‘กึงกัง กึงกัง!’
โจวเจ๋อบังคับตัวเองพุ่งออกจากหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน หลังจากร่างทั้งสองลื่นไถลในสวนดอกไม้ไปไกลกว่าสิบเมตร ก็ชนเข้ากับรั้วเหล็กถึงได้หยุดลง
เกือบจะในเวลาเดียวกันนี้ จู่ๆ เปลวไฟขนาดใหญ่ก็ปะทุไปทั่วบ้านหลังนี้!
‘ซี้ด!’
ไม่มีเสียงระเบิด ไม่มีแผ่นดินไหวภูเขาสั่นสะเทือน และไม่มีคลื่นลมพายุม้วนตัว
ไฟเผาไหม้อย่างเงียบๆ แต่ก็ไม่อ่อนโยนเลยสักนิด
เพียงชั่วพริบตา หน้าต่างห้องรับแขก ห้องอ่านหนังสือ และห้องนอนหลายห้องบนชั้นสองก็สะท้อนแสงสีส้มทั้งหมด จากนั้นภายในสามวินาที มันกลับดับมอดลงในชั่วพริบตา..ด้วยวิธีที่แปลกประหลาดยิ่งกว่า!
สาวน้อยโลลิจ้องมองบ้านของเธออย่างเลื่อนลอย และพูดด้วยความไม่เชื่อสายตา “เมื่อกี้มันคืออะไร”
‘เมื่อกี้มันคืออะไร’ โจวเจ๋อถามคำถามนี้ในใจของเขาเช่นกัน
‘ไฟ…กรรม…แห่ง…พุทธ…’
‘คุณรู้ได้ยังไง สมัยคุณไม่มีพระพุทธเจ้าไม่ใช่เหรอ’
‘เดา…เอา…’
‘…’ โจวเจ๋อ
เถ้าแก่โจวไม่เสวนากับคนผู้นั้นต่อ แต่กลับเดินไปข้างหน้า เดินไปที่ริมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน แม้ว่าเปลวเพลิงและปรากฏการณ์เมื่อครู่นี้จะน่ากลัวมาก แต่ผ้าม่านที่หน้าต่างกลับไม่มีร่องรอยของการไหม้เลย
อีกทั้งในบ้านก็ไร้กลิ่นอายไหม้เกรียมใดๆ ไม่หลงเหลือความรู้สึกของแสงไฟ นี่ช่างเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจยาก แต่โจวเจ๋อมั่นใจว่าเมื่อครู่นี้ดวงตาของตัวเองไม่ได้เห็นภาพหลอนอย่างแน่นอน
กระชากม่านเปิดออกแล้วเดินกลับไปจากจุดที่เขาเพิ่งกระแทกแตกออกไป เฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขกไร้การเปลี่ยนแปลงใดๆ และไม่มีร่องรอยควันไหม้ใดๆ สาวน้อยโลลิก็เดินเข้ามาพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ ในตอนนี้ด้วย
อากาศสดชื่นมากจริงๆ!
“เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้ายังง่วนคิดอยู่เลยว่าถ้าพ่อข้ากลับมาเห็นบ้านพักจากน้ำพักน้ำแรงที่ทำงานหนักถูกไฟไหม้ไปจะปลอบเขายังไงดี”
โจวเจ๋อยกมือส่งสัญญาณให้สาวน้อยโลลิหยุดพูด และเอ่ยช้าๆ “รู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลกไปหรือเปล่า”
“อากาศสดชื่นมาก”
“ไม่ใช่แค่นั้น” โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ “สภาพแวดล้อมในตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย”
“เป็นอะไรไป”
“เหมือนกับพาผมย้อนกลับไปถึงความรู้สึกในห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ อีกอย่างดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เวลานี้บ้านของคุณได้รับการฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึง ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนมีหนูอยู่ในบ้านคุณไหม แต่ตอนนี้ผมรับประกันได้เลย ต่อให้คุณจะค้นหาทุกซอกทุกมุมของบ้าน คุณก็หาแมลงตัวเล็กๆ ไม่เจอแม้แต่ตัวเดียว”
เปลวไฟนั้นไม่ได้เผาไหม้สิ่งของธรรมดาทั่วไป แต่ทำให้บริสุทธิ์…อย่างแท้จริง!
ลบล้างทุกชีวิตในบ้านหลังนี้ไปจนหมดสิ้น!
เป็นไปได้ว่า หากตอนนั้นเขาช้าไปก้าวหนึ่งออกจากพื้นที่นี้ได้ไม่ทันเวลา เขาก็คงตกเป็นเป้าของการชำระล้างให้บริสุทธิ์ไปแล้ว
ตอนนี้พอจะเข้าใจความคิดของเจ้าโง่เมื่อครู่นี้แล้ว เขาคงไม่อยากถูกลากไปเป็นหมูหันย่างโดยไม่ได้พูดอะไรเลยสักแอะ เขายังชอบพูดจาประชดประชันอยู่ข้างๆ อย่างสบายใจเฉิบตอนที่โจวเจ๋อค่อยๆ โดนทุบ โดนซ้อม และโดนกดจนหน้าเขียวบวมช้ำเสียมากกว่า
โจวเจ๋ออ้อมโซฟาตัวยาวที่ล้มหงายบนพื้น และเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของห้องรับแขก
บนพื้นมีเสื้อขนเป็ดสีแดง กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน และหน้ากากอนามัยสีดำบางๆ วางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ตรงนั้น ส่วนคนที่สวมใส่พวกมันแต่แรกกลับไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย
หน้ากากนี้น่าสนใจนิดหน่อย ทั้งๆ ที่คนเมื่อครู่ใส่มัน แต่กลับมองเห็นรูปปากหรืออะไรอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน
หากอ้างอิงจากสัญชาตญาณ โจวเจ๋อรู้สึกว่าหน้ากากนี้ไม่ธรรมดา อาจนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้
น่าเสียดายที่เถ้าแก่โจวเป็นโรครักสะอาด โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยที่คนอื่นใช้แล้วประเภทนี้ ความรู้สึกของการใช้หน้ากากของคนอื่นก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้แปรงสีฟันของคนอื่น
แต่ว่าจะทิ้งก็น่าเสียดาย เอากลับไปให้ทนายอันดีกว่า
อืม
เขาน่าจะชอบมันมากทีเดียว
โจวเจ๋อนั่งยองๆ ข้างเสื้อผ้า และใช้เล็บของเขาเปิดเสื้อขนเป็ด ข้างในว่างเปล่า แต่ก็ใช่ว่าไม่พบอะไรเลย นั่นก็คือยังมีเส้นใยหลงเหลืออยู่ด้านในเสื้อขนเป็ดอยู่บ้าง
คิดไม่ถึงว่านี่จะเป็นหุ่นเชิด!
มีคนควบคุมมันให้เคลื่อนไหวโจมตีเขาเมื่อครู่นี้!
แต่ตัวจริงคนนั้นกลับยังคงซ่อนตัวอยู่ ไม่โผล่หัวออกมา
เถ้าแก่โจวไม่เข้าใจสิ่งของประเภทค่ายกลอักขระนี้ แต่อยู่ข้างกายแม่นางสวี่มานานก็พอจะคุ้นเคยกับมันอยู่บ้าง
แต่น่าจะถูกทำลายทิ้งไปแล้ว แถมยังถูกทำลายอย่างรุนแรงมากด้วย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟื้นกลับมาดังเดิม จุดประสงค์ของ ‘ไฟลุกท่วม’ และการชำระล้างเมื่อครู่นี้ นัยหนึ่งอาจเป็นกระบวนท่าสุดท้ายที่ใช้สังหารโจวเจ๋อ ส่วนอีกนัยหนึ่งอาจเป็นการลบร่องรอยทั้งหมดเพื่อไม่ให้ถูกตามล่า
แม้จะอยู่ในมุมมองของ ‘เหยื่อ’ โจวเจ๋อก็รู้สึกว่าผู้โจมตีในครั้งนี้ นอกจากจะฆ่าเขาไม่สำเร็จ และประเมินความสามารถของเขาต่ำไปแล้ว ด้านที่เหลือล้วนสมบูรณ์แบบ
เทียบกันแล้ว สิ่งที่มู่เฉิงเอินเล่นในลี่เจียงตอนนั้น ก็เป็นแค่เกมเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่นิยม
“ข้าเปลี่ยนน้ำแก้วใหม่ให้เจ้า”
“ไม่ต้อง ปลอดเชื้อโรค ข้างนอกไม่มีขาย” เถ้าแก่โจวหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเลียริมฝีปากของเขา
สาวน้อยโลลิตรวจสอบเสื้อผ้าอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง จากนั้นผุดลุกขึ้นมองโจวเจ๋อและถาม “เถ้าแก่ เจ้าคิดว่ายังไง”
“คราวนี้ อาจจะเจอคู่ต่อสู้ของจริงแล้ว”
…
ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งนอกบริเวณบ้าน มีชายคนหนึ่งที่สวมหน้ากากอนามัยพึมพำกับตัวเองพร้อมกับเล่นหุ่นในมือ
“คราวนี้ อาจจะเจอคู่ต่อสู้ของจริงเข้าให้แล้ว”
………………………………………………………………….