ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 814 ก็แค่มุทะลุ
ตอนที่ 814 ก็แค่มุทะลุ
บางที ชายชราที่ทำความสะอาดพร้อมกับสอดแนมอยู่ข้างล่างคนนั้น เขาก็คงคิดไม่ถึงว่า นาทีนี้ชีวิตของเขาเทียบเท่ากับการบ้านภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวเท่านั้น
เพิ่มมีดแทงใจอีกเล่มแล้วกัน เป็นการบ้านของนักเรียนชั้นประถมอีกต่างหาก
สาวน้อยโลลิเดินไปริมโต๊ะและนั่งลง พลางเอ่ยกำชับ “ความหมายของทางเถ้าแก่คือ จัดการได้ก็จัดการเลย ถ้าสืบสวนได้เบาะแสก็อาศัยเบาะแสติดตามเรื่องราวต่อ เอาเป็นว่าไม่ต้องเกรงใจนั่นแหละ ในเมื่อพวกมันกล้ามา เช่นนั้นเราก็กล้าทำให้พวกมันกลับไปไม่ได้”
“ได้”
เด็กชายพยักหน้าบอกใบ้ว่าตัวเองรับทราบแล้ว และโบกไม้โบกมือ พลาง ‘สะกิด’ การ์ฟิลด์ที่นอนหมอบอยู่บนตู้ข้างเตียง จนมันเหาะมาที่ไหล่ของเขา
อาการบาดเจ็บที่ขาของฮวาหูเตียวยังไม่หายดีนัก แต่ในความเป็นจริง สำหรับคนธรรมดานั้น ขาและเท้าที่บาดเจ็บอาจจะทำให้เดินเหินไม่สะดวก แต่สำหรับฮวาหูเตียวนับว่าไม่เท่าไร มันก็แค่รู้สึกว่าเจ็บปวดมากเท่านั้น อีกอย่างความรวดเร็วขนาดนั้นก็ไม่ได้อาศัยขาช่วยด้วย
จากมุมมองของฮวาหูเตียวนั้น มันรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กชายมากขึ้น ประการแรกเป็นเพราะว่าเด็กชายเป็นผีดิบสายเลือดดั้งเดิม กลิ่นกายบนตัวทำให้มันสบายตัวมาก แน่ละว่า สายเลือดผีดิบของเถ้าแก่โจวสูงกว่า แต่กลิ่นกายอื่นบนตัวเขากลับแรงยิ่งกว่าน่ะสิ
หันกลับไปเหลือบมองสาวน้อยโลลิที่นั่งคัดลอกการบ้านภาษาอังกฤษบนโต๊ะหนังสือ ในใจรู้สึกเหมือนชายทำนาหญิงทอผ้า เด็กชายยิ้มขำ และกระโดดลงจากระเบียงลงจอดที่พื้นอย่างมั่นคงทันที
ชายชราที่ทำความสะอาดอยู่ในสวนดอกไม้ด้านหน้าค่อยๆ ยืนตัวตรง พลางจ้องมองเด็กชายที่กำลังเดินมาทางนี้ เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าการปลอมตัวของตัวเองทำไมถึงถูกจับได้ จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา แต่เป็นเพราะเด็กชายเคยขอยันต์จากสวี่ชิงหล่างมาไม่น้อย และเอามาจัดวางไว้รอบๆ บ้านของอาหวังต่างหาก
ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้เหล่าสวี่ก็ยังฝึกเขียนยันต์อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นฐานล้วนเป็นยันต์ระดับต่ำทั้งสิ้น ปริมาณก็มาก เขาใช้ไม่หมด ใครคนไหนในร้านหนังสืออยากจะเอาไปก็เอาไปได้เลย
เด็กชายก็ดันเก็บมาเยอะด้วยสิ เสมือนกับแอบเอาสวัสดิการและผลประโยชน์จากที่ทำงานกลับไปใช้ที่บ้าน
เอายันต์ที่ได้จากการฝึกหัดมาก็อย่าหวังว่ามันจะมีพลังอำนาจน่ากลัวอะไร แต่บางครั้งมันก็อาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ชายตรงหน้าปลอมตัวเป็นคนทำความสะอาดแก่ๆ เขาคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าจะมียันต์เยอะแยะมากมายฝังอยู่ในสวนที่ตัวเองทำความสะอาดอยู่
เด็กชายก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง หลังจากชายชราคนทำความสะอาดยืนตัวตรง บุคลิกพลันเปลี่ยนไป เขายื่นมือออกมากระชากใบหน้าปลอมออกไป เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่ม แถมยังยกยิ้มขี้เล่นที่มุมปากอีกต่างหาก
เขาหยิ่งผยองและหยิ่งยโสมาก แววตานี้ดูคล้ายกับเจ้าหน้าที่รัฐตัวเล็กๆ ในหน่วยงานที่ว่างงานในมณฑลมาสำรวจเขตการปกครองระดับต่ำกว่าอย่างอำเภอและตำบลอย่างไรอย่างนั้น ความจริงแล้ว ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประเภทนี้ หลังจากลงพื้นที่ ยิ่งชอบวางท่ามากเท่านั้น และมักจะอยากทวงคืนอำนาจบารมีของเจ้าหน้าที่รัฐที่สูญเสียไปในวันปกติ พร้อมกับเก็บดอกเบี้ยไว้ชดเชยการสูญเสียสมดุลทางจิตใจไปหลังจากที่แกล้งทำตัวน่าสงสารมานาน
เขายังคงรักษาความระมัดระวังตัวสงวนท่าทีเอาไว้ เพียงแต่การสงวนท่าทีแบบนี้ต่อหน้าเด็กชายนั้น มันกลับไม่มีความหมายอะไร
เด็กชายมาแล้ว
เด็กชายชูกำปั้น
เด็กชายกระแทกหมัดลงมา
ไม่มีอะไรจะอธิบายได้มากกว่านี้อีกแล้ว เพราะนี่คือการกระทำเดียวเท่านั้น
‘ผัวะ!’
ชายหนุ่มถูกต่อยกระเด็นจนกลิ้งเกลือกบนพื้นไปไกลถึงสามสิบเมตร จากนั้นก็หน้าคว่ำ ตัวหมอบกับพื้น ทั้งขาและเท้ากระตุกไม่หยุด
แค่นี้ก็จบแล้ว
เด็กชายหันกลับไปมองระเบียงบ้านด้านหลัง ในใจรู้สึกเพียงแค่การตกลงธุรกิจนี้เขาได้กำไรนี่นา ถ้าเทียบกับคัดลอกคำศัพท์ภาษาอังกฤษนานๆ ซัดหมัดกระแทกโดยตรงมันสะใจยิ่งกว่าอีก
เด็กชายเดินไปข้างตัวชายหนุ่มแล้วกระชากเขาขึ้นมา ชายหนุ่มหน้าบวมช้ำ หอบหายใจออกมามากกว่าหายใจเข้าด้วยซ้ำ
นี่ไม่ใช่ผู้ตรวจสอบแน่นอน และอาจจะไม่ใช่แม้กระทั่งผู้จับกุม ดูจากระดับแล้วน่าจะเป็นแค่ยมทูต
ผู้ที่แปรพักตร์จากยมโลกในครั้งนี้คือเจ้าหน้าที่ทางการกลุ่มหนึ่ง จะให้เป็นระดับผู้นำทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้แน่ๆ อีกทั้งการดำรงอยู่ของระดับยมทูตแบบนี้น่าจะไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยด้วยซ้ำ
ลองนึกภาพดู ยมทูตหนึ่งตน ไม่ว่าจะทำงานที่ศูนย์กลางหรือทำงานส่วนท้องถิ่น จะอย่างไรคุณเป็นแค่ยมทูต แต่ดันเผชิญหน้ากับหมัดของเด็กชายด้วยความหน้าด้านหน้าทนและท่าทียิ้มกริ่มนั้น มันช่างน่ารักสุดๆ ไปเลย
เรื่องราวราบรื่นยิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก พลังปราณพิฆาตผุดขึ้นกลางฝ่ามือของเด็กชาย และกดมันลงบนหน้าผากของอีกฝ่ายโดยตรง
ใบหน้าที่หวาดกลัวปรากฏขึ้นบนหน้าผากของอีกฝ่ายทันที พร้อมกับร้องด้วยความตกใจ “อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า ข้าเป็นยมทูต ข้าเป็นยมทูต เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้! ข้ามาจากข้างล่าง มาจากข้างล่าง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ฆ่าข้าไม่ได้!”
ร่างกายแตกสลาย แต่ยังมีวิญญาณ และแก่นแท้ของผู้คนในยมโลก เดิมทีก็คือวิญญาณ
เด็กชายยั้งมือและถามตามคำสั่งก่อนหน้านี้ “พวกเจ้าคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน”
“ข้าบอก ข้าจะบอก…”
…
ดังนั้น หนึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อร่างของเด็กชายมาโผล่อยู่ที่หน้าโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงดูถูกจังหวะและดูสมเหตุสมผลมาก
‘ตุ้บ!’
เด็กชายโยนชายหนุ่มคนนี้ลงถังขยะด้านหน้า เด็กชายแบกเขาไว้บนหลังหลบเลี่ยงสายตาของฝูงชนจนมาถึงที่นี่ เหตุผลที่ไม่ฆ่าเขาก็แค่กังวลว่าถ้าฆ่าเขาเร็วไปจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น
ตอนนี้ในเมื่อถึงที่หมายแล้ว แถมเขายังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่ไม่ใช่ของคนธรรมดาในโรงแรมแห่งนี้อย่างชัดเจนด้วย เช่นนั้นชายตรงหน้าคนนี้ก็ไร้ประโยชน์แล้ว
พลังปราณพิฆาตถูกปลดปล่อยออกมาบดขยี้วิญญาณของชายหนุ่มโดยตรง ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสร้องคร่ำครวญด้วยซ้ำ
เมื่อผีดิบผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอายุแก่กว่าอิงอิงทำเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าไม่พล่ามให้มากความได้ก็จะไม่พล่ามไร้สาระเด็ดขาด เช่นเดียวกับที่อิงอิง ‘งื้อๆๆ’ ต่อหน้าเถ้าแก่โจวพร้อมกับทำตัวน่ารักเชื่อฟัง เด็กชายนอกจากทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าคนอื่นๆ ในร้านหนังสือโดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวน้อยโลลิแล้ว เมื่อรับมือกับคนนอกเมื่อไรความเลือดเย็นในกระดูกของเขาจะถูกปลดปล่อยออกมาทันที
ในความเป็นจริง ในร้านหนังสือมีทั้งปีศาจอสูรโบราณ มีทั้งผีดิบ และมีทั้งสาวชาวสวนที่ชอบปลูกคน ปกติแล้วดูเหมือนแต่ละคนใช้ชีวิตอย่างสามัคคีและอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก แต่ถ้าไม่มีปลาเค็มที่โปรดปรานการนอนอาบแดดอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาตัวนั้นนั่งรักษาการณ์ หลังจากคนเหล่านี้สูญเสียการควบคุมจริงๆ มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่ามันจะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายแบบไหน!
เด็กชายเงยหน้าขึ้น ยืดเล็บออก และเริ่มปีนป่ายขึ้นไปบนกำแพงเหมือนสไปเดอร์แมน เขาไม่ได้แจ้งให้คนในร้านหนังสือทราบ กระทั่งไม่โทรกลับไปแม้แต่สายเดียว รวมไปถึงทางฝั่งสาวน้อยโลลิด้วยเช่นกัน
เพราะเขารู้สึกว่าไม่จำเป็น เขาคิดว่าเขาสามารถแก้ไขปัญหาตรงหน้าได้ เขาค่อนข้างทำอะไรคนเดียวไปหน่อย แต่จะบอกว่าเขาโกงเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ ถ้าจะโทษใคร ก็คงต้องโทษคู่ต่อสู้ที่กากเกินไป ทำให้เพื่อนร่วมทีมไม่ได้ค่าประสบการณ์จากการเด็ดหัวใครเลยสักคน
อันที่จริง ก็เป็นเพราะพวกเจ้าหน้าที่ทางการที่มาจากศูนย์กลางกลุ่มนี้หยิ่งผยองจนเกินไปเอง ขอแค่พวกเขาใช้เวลาสอบถามสักหน่อย ก็จะรู้ชื่อเสียงของยมทูตทงเฉิงในวงการยมทูตเจียงซู เจ้อเจียง และเซี่ยงไฮ้อย่างชัดเจนแล้ว
จริงๆ แล้ว นับตั้งแต่เดินทางไปสวีโจวครั้งก่อน ร้านหนังสือไม่เคยถูกคุกคามจากเพื่อนร่วมงานอีกเลย
แต่พวกเขาไม่เหมือนกัน เมื่อเด็กชายเข้ามาใกล้ห้องพักนั้นยังได้ยินเสียงสนทนาจากข้างใน แต่ไม่นานนัก บรรยากาศภายในนั้นก็พลันเปลี่ยนไป ดูเหมือนพวกเขาจะพบว่าวิญญาณของสหายของตัวเองคนหนึ่งได้หายไป บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งของที่บ่งบอกถึงวิญญาณได้ หากตายจริงก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่นั่น
เด็กชายยิ้มบางๆ ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ตัวเองจะไม่เสียแรงเปล่าที่แบกชายคนนั้นมาไกลถึงขนาดนี้
เพียงแต่ว่า คนกลุ่มนี้ช่างโจ่งแจ้งเสียจริงๆ ทั้งๆ ที่แปรพักตร์แล้วหลบหนีออกมา แต่กลับไม่ปิดซ่อนกลิ่นอายด้วยซ้ำ แถมยังรวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างเปิดเผยอีกต่างหาก
นี่ต้องยโสโอหังไม่เห็นหัวผู้อื่นมากขนาดไหนกัน
บางทีในสายตาของพวกเขา นี่อาจจะเป็นเพียงการเคลื่อนไหวง่ายๆ พวกเขากล้าถึงขนาดแปรพักตร์จากยมโลก เมื่อต้องเผชิญกับยมทูตระดับต่ำในโลกมนุษย์ จึงมีความรู้สึกเหนือกว่าเป็นธรรมดา
แต่น่าเสียดาย ร้านหนังสือในทงเฉิงไม่ใช่โรงพักยมทูตท้องถิ่นเล็กๆ ที่นี่สุ่มเลือกคนที่เตี้ยที่สุดออกมาคนหนึ่ง ก็กล้าออกมาฆ่าพวกเขาถึงที่โดยตรง
ขี้เกียจแอบฟังต่อไปแล้ว ในเมื่อคำขอของเถ้าแก่คือถ้าสามารถตัดรากถอนโคนได้เลยก็ลงมือทำได้เลย จึงไม่มีอะไรต้องลังเลทั้งนั้น
ในนั้นมีกลิ่นอายพลังของคนสามคน ฆ่าไปสอง เหลือนักโทษไว้สอบปากคำหนึ่ง สมบูรณ์แบบ
เด็กชายหยิบไพ่โป๊กเกอร์ที่ทนายอันสร้างไว้ออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง และโยนมั่วๆ ลงพื้น แต่ในตอนนี้เอง ประตูห้องดันถูกเปิดออกพอดี หญิงสาวหน้าตาจริงจังคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู ดูเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก บังเอิญเจอกับเด็กชายยืนอยู่หน้าประตูเข้า
ผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กหนึ่งคน ทั้งสองสบตากัน
ครู่ต่อมา รูม่านตาของหญิงสาวหดตัวลงอย่างกะทันหัน และเริ่มผสานมือทำท่ามุทราตามสัญชาตญาณ!
แต่ความเร็วของเด็กชายไวกว่า ยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอ ขัดขวางกระบวนการทำมุทราของอีกฝ่ายทันที!
ปล่อยให้ผีดิบตนหนึ่งเข้ามาประชิดตัวได้อย่างอุกอาจขนาดนี้ ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น จะเปิดเผยให้เห็นโดยทั่วกันเดี๋ยวนี้แล้ว
ขณะที่เด็กชายเอื้อมมือขวาไปปิดประตู มือซ้ายก็จับข้อมือของหญิงสาวแล้วออกแรงกระชาก
‘ผัวะ!’
เรื่องไหนจัดการได้ง่ายๆ ทางที่ดีก็ควรจัดการให้ฉับไวที่สุด
ร่างของหญิงสาวกระแทกกับพื้นอย่างแรง ครู่หนึ่ง เสียงกระดูกแตกดังกร๊อบดังขึ้น
หญิงสาวจบเกมแล้ว
แม้ว่ากายหยาบของยมทูตจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แต่ก็เป็นที่อาศัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมนุษย์ ตราบใดที่ทุบตีร่างกายของพวกเขาจนบุบสลาย พวกเขายังไม่ตายทันที แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมนุษย์ผัก
ชายหนุ่มอีกสองคนยังนั่งอยู่บนโซฟาในห้อง คนหนึ่งยังถือบุหรี่อยู่เลย ทั้งคู่ต่างจ้องมองมาทางนี้อย่างตกตะลึง ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจะอยู่นอกเหนือจินตนาการของพวกเขา
เด็กชายชะงักเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิด คิดว่าหากเถ้าแก่อยู่ที่นี่แล้วเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้ในตอนนี้ เขาจะพูดว่าอะไร
จะโม้เกินไปไม่ได้ ถ้าโม้เกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นการตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่ได้เอา แต่ก็ไม่อาจถ่อมตนเช่นกัน หากถ่อมตนมากไปตัวเองก็ไม่สาแก่ใจพอน่ะสิ
เด็กชายขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็นึกถึงสิ่งที่เถ้าแก่จะพูดหากอยู่ที่นี่ออกแล้ว เขากระแอมในลำคอและพูดว่า “สวัสดีครับ ทำความสะอาดห้องพักครับ”
…………………………………………………………………….