ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 811 จิ้งจอกห้าหาง (2)
ตอนที่ 811 จิ้งจอกห้าหาง (2)
ในห้องพัก
จิ้งจอกเขียวกระโดดขึ้นลงไม่หยุด ดูตื่นเต้นมากอย่างเห็นได้ชัด
เธอชี้จิ้งจอกเขียวพลางขำและต่อว่า ‘เจ้าเด็กไม่รู้จักหน้าที่ นี่ยังไม่ทันได้แปลงกายก็ตกหลุมรักเป็นแล้ว น่าตีสักที!’
จิ้งจอกเขียววิ่งไปที่แทบเท้าจิ้งจอกขาวก่อน และกอดขาจิ้งจอกขาวพลางถูไถออดอ้อนไม่หยุด
‘เขาไม่ใช่คู่ครองที่ดีนัก อีกอย่าง เจ้ายังไม่สามารถแปลงกายได้ เรื่องของโลกมนุษย์นี้แม้เจ้าอยากจะสัมผัสก็สัมผัสมันไม่ได้หรอก’
จิ้งจอกเขียวเศร้าเสียใจเล็กน้อย แต่ก็ยังขอร้องอ้อนวอนจิ้งจอกขาวต่อไป
จะเห็นได้ว่าเจ้าจิ้งจอกตัวนี้เพิ่งจะตกหลุมรักนักแสดงชายคนนั้น อาจจะเป็นรักแรกพบก็ได้ละมั้ง
จิ้งจอกขาวเอนตัวลงบนเตียง มองสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยอ้อนวอนขอร้องตัวเอง และมองเธอกระโดดขึ้นลงไม่หยุด
เหอะๆ…
จิ้งจอกขาวส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทว่าทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรออก เธอดีดตัวลุกขึ้นนั่ง และมองจิ้งจอกเขียวที่เท้าของเธอ
‘ทั้งชาตินี้ของพี่สาวไม่เคยรักใครอย่างจริงจังสักครั้ง แต่ก็นับว่าเคยมีความรักระยะสั้นและปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพมาก่อน แต่นั่นก็เป็นเพียงการชื่นชมซึ่งกันและกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง ทั้งยังไม่เคยเข้าห้องหอสกุลไหน และไม่เคยคิดจะอยู่กับชายใดตลอดไปด้วย มีผู้ชายที่โหดเหี้ยมมากมายในโลก พี่สาวกลัวนัก และขี้เกียจทนทุกข์ทรมาน แต่ประสบการณ์ทางโลกนี้ หากขาดเรื่องนี้ไป มันก็ยากที่จะทำให้เสร็จสมบูรณ์ เฮ้อ’
อยากสำเร็จก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สมน้ำสมเนื้อ บางที่นี่อาจจะเป็นเคราะห์ของปีศาจจิ้งจอก และเป็นชะตากรรมที่ถูกลิขิตไว้ของปีศาจจิ้งจอก เพียงแต่ว่า แม้เธอจะรู้ชัด แม้จะรู้ทุกอย่างดี แต่ก็ยังไม่กล้าฝ่าฟันเข้าไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เธอกลัวว่าหลังจากที่รักและทุ่มเทจนสุดหัวใจ ต่อให้อยากจะถอนตัวก็เป็นการยากแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งการบำเพ็ญตบะ ทั้งเส้นทางเต๋าก็จะไม่เหลืออะไรเลย
เธอเห็นแก่ตัวมาก เธอไม่ยอมให้ตัวเองกลายเป็นแมลงเม่าที่พยายามโผบินเข้ากองไฟ ดังนั้น เวลานี้เธอจึงมองไปทางจิ้งจอกสีเขียวตรงหน้า ‘เจ้าเต็มใจจะไปอยู่กับเขาหรือไม่’
จิ้งจอกเขียวพยักหน้ารัวๆ ดูเหมือนว่าเธอจะสัมผัสได้ว่าพี่สาวของเธอมีวิธีช่วยให้เธอสมปรารถนาแล้ว
‘โอกาสน่ะ ก็นับว่ายังมีโอกาสนี้อยู่ ส่วนเรื่องแปลงกายข้าก็สามารถช่วยเจ้าได้’
จิ้งจอกเขียวตื่นเต้นมาก
‘แต่ น้องสาว ความช่วยเหลือนี้ไม่อาจช่วยเปล่าๆ ข้าก็ต้องการให้เจ้าช่วยข้า โลกมนุษย์แห่งนี้ เจ้าไปมีความรักเถิด และช่วยผ่านมันไปให้พี่สาวด้วย พี่สาวไม่กล้ารัก กลัวเจ็บปวดเสียใจ ในเมื่อเจ้าไม่กลัวเช่นนั้นก็มอบให้เจ้าแทน’
ขณะที่พูด ข้างหลังจิ้งจอกขาวมีหางทั้งสี่ปรากฏออกมา จริงๆ แล้วการบำเพ็ญเพียรของเธอแช่แข็งค้างอยู่ที่นี่มานานแล้ว จิ้งจอกเก้าหางตามตำนาน นั่นเป็นการดำรงอยู่ขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง แต่ทุกหางที่เพิ่มเข้ามานั้น ล้วนเป็นระดับที่ก้าวข้ามได้อย่างยากลำบากสำหรับจิ้งจอกขาว
จิ้งจอกขาวยื่นมือ เผยสีหน้าแน่วแน่ ‘ฉัวะ!’ เธอตัดหางของตัวเองออกไปหนึ่งหาง ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน สีหน้าเริ่มซีดเซียว แต่ก็ยังฝืนอดทน และมอบหางนี้ให้จิ้งจอกเขียว
หางร่วงหล่นตกไปที่ส่วนหางของจิ้งจอกเขียว จิ้งจอกเขียวพลันเปลี่ยนเป็นสองหางทันที หลังจากสืบทอดหางจากจิ้งจอกขาวแล้ว ร่างกายของเธอเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แปลงกลายเป็นมนุษย์ อาจเป็นเพราะหางของมันหรือเนื่องจากปัจจัยอื่นๆ จิ้งจอกเขียวที่กลายร่างเป็นมนุษย์จึงมีหน้าตาคล้ายกับจิ้งจอกขาวมาก ต่างเพียงแค่ดูอ่อนเยาว์กว่าจิ้งจอกขาวเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
เธอพินิจมองดูทุกสิ่งรอบตัวด้วยความประหลาดใจ เธอมองสองเท้าและสองขาของตัวเองด้วยความลิงโลดมาก จากนั้นเธอก็คุกเข่าลงต่อหน้าจิ้งจอกขาว ‘ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของพี่สาว น้ำใจอันยิ่งใหญ่ของพี่สาว น้องสาวจะตอบแทนในวันข้างหน้า!’
จิ้งจอกขาวโบกมือเบาๆ และเอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง ‘ไปเถิด ไปทำในสิ่งที่เจ้าอยากจะทำ มีเครื่องประดับทองและเงินมากมายอยู่ในกล่องเครื่องแป้งตรงนั้น เจ้าหยิบเอาไปได้ทั้งหมดเลย เจ้ามีอิทธิฤทธิ์แล้ว แต่ต้องรู้จักระมัดระวังสักหน่อย ต้องรู้ว่าโลกที่น่าสะพรึงกลัวนี้ แม้จะมีคนที่เอาแต่สำมะเลเทเมามากมาย แต่กลับไม่ใช่สถานที่ที่ปีศาจอย่างพวกเราจะสามารถอวดดีไม่เจียมตัวได้ตามอำเภอใจ’
‘เช่นนั้นพี่สาวล่ะ’
‘ข้าจะกลับป่าเก่าแก่เพื่อรักษาตัวสักพัก’
‘ขอบคุณพี่สาว พี่สาวโปรดรักษาตัวด้วย’ จิ้งจอกเขียวคำนับสุนัขจิ้งจอกขาวอีกสามครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืน หยิบกล่องเครื่องแป้งขึ้นมา แล้วเดินออกไป
มองดูแผ่นหลังที่จากไปของเธอ มองดูแผ่นหลังที่แทบจะเหมือนตัวเองอย่างกับแกะ นัยน์ตาของจิ้งจอกขาวฉายแววสับสน ชั่วขณะนี้เอง ราวกับว่าเธอเห็นตัวเองเดินออกไปเอง เดินออกไปเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเสียเอง
เธอยกมือขึ้นและวางฝ่ามือไว้ตรงหน้าผากของตัวเอง ‘ความทรงจำช่วงนี้ผนึกมันไว้เสียจะดีกว่า แค่แกล้งทำเป็นว่านางไปส่งข้าข้ามฟากเหมือนที่ควรจะเป็น’
…
ในทางลอดใต้ดิน
จิ้งจอกขาวที่นอนอยู่บนพื้นจำได้ในฉับพลันว่า ที่แท้แล้วเป็นตัวเธอเองที่ผนึกความทรงจำนี้ไว้
แต่ในเวลานี้เอง จู่ๆ กองขี้เถ้าสีเขียวก็ปลิวกระเด็นขึ้นมาบินว่อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หางพร่างพราวแวววับกำลังล่องลอยโบยบินอยู่ที่นี่ ด้านหลังของหางปรากฏใบหน้าของจิ้งจอกเขียว จิ้งจอกเขียวโค้งคำนับจิ้งจอกขาวเบาๆ ไร้ซึ่งความขุ่นเคืองหรืออิจฉาริษยาใดๆ มีเพียงความรู้สึกขอบคุณเท่านั้น!
เธอรู้ภารกิจของตัวเอง และรู้ว่าจิ้งจอกขาวเคยวางแผนอะไรไว้ให้เธอ จิ้งจอกขาวให้เธอเป็นแมลงเม่าบินเข้ากองไฟแทนเพื่อบรรลุจิตแห่งเต๋า แต่จิ้งจอกเขียวกลับไม่รู้สึกขุ่นเคืองใดๆ เลย
นี่เป็นสิ่งที่เธอร้องขอเอง และเป็นสิ่งที่เธอยินยอมพร้อมใจเอง!
เธอเคยมีความรัก รักอย่างสุดเหวี่ยง รักโดยไม่เสียดายและไม่เสียใจ รักอย่างทุ่มเทกายใจ รักอย่างบังอาจอวดดี รักจนไม่มีขอบเขต!
แต่อย่างน้อย เธอก็เคยมีความสุข เธอเคยเป็นอิสระ เธอเคยสัมผัสประสบการณ์แล้ว
การดำรงอยู่ของเธอเพิ่งจะจบสิ้นลง ถูกคาถาของทนายอันเผาไหม้กลายเป็นจุณไปพร้อมกับคนผู้นั้นของเธอ ไม่ว่าจะเป็นละครรักหรือโศกนาฏกรรม ท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์จริงๆ มันไม่สำคัญ สิ่งที่เธอต้องการเพียงแค่สัมผัสกระบวนการนี้ก็เท่านั้น
“น้องสาว…” จิ้งจอกขาวเรียกเสียงเบา
เงาเลือนรางของจิ้งจอกเขียวสลายไป หางเลือนรางพร่างพราวแวววาวค่อยๆ ร่วงลงบนตัวของจิ้งจอกขาว
ดวงตาของจิ้งจอกขาวเต็มไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง
ยาบำรุงเยาตันของเธอถูกพรากไป แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว ร่างกายของเธอเริ่มกลายร่างกลับไปเป็นสุนัขจิ้งจอก จิ้งจอกขาวแสนน่ารักและบอบบางนอนอยู่ตรงนั้น
จิ้งจอกขาวตัวนี้มีสามหาง แต่หลังจากหางระยิบระยับดุจผลึกแก้วตกลงมามันก็กลายเป็นสี่หาง จากนั้นจิ้งจอกขาวส่งเสียงครางหงิงเบาๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีหางที่ห้าโผล่ออกมา
ขนของจิ้งจอกขาวในเวลานี้ก็ระยิบระยับพร่างพราวดุจผลึกแก้วอย่างยิ่ง ในแววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์และรู้แจ้งในทางโลก
เธอรู้แล้วว่าทำไมเมื่อครู่ถึงได้พยายามสู้สุดชีวิตขนาดนั้น เพราะตามสัญชาตญาณของเธอ เธอไม่เพียงแต่ช่วยน้องสาวของเธอเท่านั้น จริงๆ แล้วน้องสาวของเธอเป็นส่วนหนึ่งของเธอด้วย
ที่จริงเมื่อครู่นี้เธอช่วยตัวเองเอาไว้ต่างหาก
เพียงแต่การช่วยนี้ สู้ไม่ช่วยยังจะดีเสียกว่า บางทีนี่อาจจะเป็นความต้องการของสวรรค์ละมั้ง
จิ้งจอกขาวค่อยๆ ยันตัวขึ้นมาพร้อมกับก้าวเท้าเดินออกไปช้าๆ ด้านหลังเธอมีหางสีขาวทั้งห้าทำให้เธอดูสง่างามอย่างยิ่ง
…
ทั้งสี่คนนั่งยองๆ ตากลมอยู่หน้าทางออก
ทนายอันลูบๆ คลำๆ ยาบำรุงเยาตันในกระเป๋าเสื้อของตัวเองเป็นครั้งคราว แล้วก็นึกไปถึงจิ้งจอกขาวที่น่าจะกำลังนอนกระอักเลือดอยู่ใต้อุโมงค์ทางลอดใต้ดินตรงนั้น ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความเท่าเทียมมากขึ้น
ในที่สุดครั้งนี้เขาก็ได้บางอย่างมา อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในที่สุดก็มีคนในร้านหนังสือโชคร้ายกว่าเขาเสียอีก!
เมื่อคนเรามีชีวิตอยู่ก็ต้องอาศัยการเปรียบเทียบบ้าง ถึงจะเข้าใจรสชาติของชีวิตมากขึ้น ไม่มีใครเป็นพ่อพระแม่พระตลอดเวลาหรอก
ขณะที่ทนายอันกำลังเพลิดเพลินกับความสุขที่ได้รับจากการเปรียบเทียบนี้ ทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวจางๆ ฉายออกมาด้านหน้าอุโมงค์ทางลอดใต้ดิน จากนั้นจิ้งจอกขาวห้าหางก็ค่อยๆ เดินออกมาจากข้างใน
เธอเย่อหยิ่ง เธอศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีความเซื่องซึมจากการสูญเสียยาบำรุงเยาตันไปแม้แต่น้อย มีเพียงการได้เกิดใหม่อย่างมีชีวิตชีวา เฉกเช่นนิพพาน!
บ้าจริง!
ทนายอันพ่นคำด่ากราดในใจ บทละครผิดแล้วมั้ง มันไม่ได้กำลังจะตายหรอกเหรอ ทำไมความก้าวหน้านี้ถึงเกิดขึ้นในพริบตา!
สามหางกลายเป็นห้าหางแล้ว พระเจ้าช่วย!
นี่ยังต้องใช้ยาบำรุงเยาตันไปทำซากอะไร คนอื่นเขาไม่ชายตามองด้วยซ้ำ!
ทนายอันมองโจวเจ๋อและพูดว่า “เถ้าแก่ ผมคิดว่าอิงอิงต้องการเสื้อคลุมขนสัตว์อีกตัว”
โจวเจ๋อไม่ปริปากพูด ดวงตาจ้องมองจิ้งจอกขาวด้านหน้า
น่าเสียดาย การบีบน้ำตาของทนายอันไร้ประโยชน์ จิ้งจอกขาวสงบนิ่งโดยสมบูรณ์แล้ว จิ้งจอกขาวสูญเสียทุกอุปสรรคที่พันธนาการทั้งหมดแล้ว สติปัญญาหลายร้อยปีควบคู่ไปกับการเข้าใจด้านจิตวิทยาของผู้ชาย ทำให้ความสามารถในการประจบประแจงแกร่งยิ่งกว่าทนายอันหลายเท่านัก
จิ้งจอกขาวคุกเข่าลงอย่างเงียบๆ พร้อมกับก้มศีรษะลงช้าๆ หางสีขาวทั้งห้าของมันค่อยๆ ร่วงตกลงมา ก้มศีรษะให้โจวเจ๋อด้วยท่าทีเศร้าสร้อย น่าสงสาร เสียใจ และอ่อนแอมาก ทั้งยังหว่านเสน่ห์ในปริมาณที่พอเหมาะพอควร
แม้ตัวจะเป็นจิ้งจอก แต่กลับพูดจาเหมือนมนุษย์ พูดด้วยน้ำเสียงหวานเลี่ยน “เถ้าแก่ขา~~”
ทันใดนั้นอิงอิงที่อยู่อีกด้านรู้สึกประหม่าทันที เมื่อพบว่าเรื่องราวมันไม่ง่ายดายเหมือนที่คิดไว้ขนาดนั้น!
โจวเจ๋อยิ้มกริ่ม ไม่รีบร้อนถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่กลับพูดช้าๆ “ผมไม่ชอบสุนัขจิ้งจอก แต่เมื่อก่อนอยากจะเลี้ยงแมวสักตัว”
“เมี้ยว~” ผ้าพันคอสีเหลืองของเด็กชายส่งเสียงร้องออกมาก่อน
เด็กชายเขกมะเหงกใส่หัวเกาลัดของฮวาหูเตียวทันที
จิ้งจอกขาวได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง แลบลิ้นออกมาเลียอุ้งเท้าของตัวเองเบาๆ แล้วร้องครางต่ำด้วยน้ำเสียงและสำเนียงยั่วยวนจับใจคน “เมี้ยว~~~”
ขณะเดียวกัน จิ้งจอกขาวเงยหน้าขึ้นเผยอปาก วิญญาณสีขาวส่วนหนึ่งล่องลอยออกมาจากปาก และร่วงลงมาตรงหน้าโจวเจ๋อ
นี่เป็นจิตวิญญาณของเธอ เธอส่งมอบจิตวิญญาณของเธอให้ก่อน
บางทีในสายตาของคนนอก เธออาจจะพยายามเอาอกเอาใจ ประจบสอพลอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่อยู่ที่นี่รวมถึงทนายอัน เด็กชาย และตัวเธอเองต่างรู้ดีว่า เธอกำลังร้องขอชีวิตอยู่!
เถ้าแก่โจวอาจมีความเมตตาปล่อยให้ปีศาจจิ้งจอกสามหางที่บาดเจ็บสาหัสรอดชีวิตไปได้ เพราะเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่กล้าตอบโต้ หรือไม่ก็ไร้ความสามารถในการแก้แค้น แต่เมื่อเธอกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกห้าหาง ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้อีกต่อไป
หากการแสดงออกของเธอแตกต่างเพียงเล็กน้อย บางทีเธอที่เพิ่งจะเลื่อนเป็นห้าหางอาจจะถูกฆ่าตายในวินาทีต่อมาก็ได้!
จิ้งจอกขาวคิดว่า เธอมีความหวังที่จะจากไปภายใต้วงล้อมของผีดิบสาว เด็กชาย และทนายอันทั้งสามคนนี้ แต่เธอรู้ดีว่ายังมีการดำรงอยู่ของคนผู้นั้นที่น่ากลัวยิ่งกว่าอาศัยอยู่ในร่างของเถ้าแก่
เถ้าแก่ยังไม่ได้ลงมือเองมาโดยตลอดเลยนะ
โจวเจ๋อไม่เอาจิตวิญญาณนี้ แต่กลับโบกมือจนจิตวิญญาณลอยไปอยู่ด้านหน้าอิงอิง จิ้งจอกขาวตกตะลึงเล็กน้อย แต่ยังคงสงบนิ่ง ส่วนอิงอิงงุนงงเล็กน้อย
ให้ข้าทำไมหรือ
“เก็บไว้” โจวเจ๋อพูด
“เจ้าค่ะ เถ้าแก่” อิงอิงเผยอปากและดูดจิตวิญญาณนี้เข้าปาก
ตอนนี้ความเป็นความตายของจิ้งจอกขาวขึ้นอยู่กับความคิดของอิงอิง
ชั่วขณะนี้เอง จู่ๆ อิงอิงก็เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง จากนั้นจึงตื่นเต้นขึ้นมา ชีวิตและความตายของอนุถูกควบคุมด้วยความคิดเดียว
นี่สิ ถึงจะเป็นสิ่งที่ภรรยาหลวงพยายามทำกัน!
โจวเจ๋อบิดขี้เกียจและเอ่ยพูด “เอาละ กลับบ้าน”
…………………………………………………………………