ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 808 จับปลา
ตอนที่ 808 จับปลา
‘กริ๊งๆ กริ๊งๆ…’
“นี่เป็นเพลงประเภทไหน” ทนายอันถาม
“เสียงพื้นหลังของจี้”
“อืม”
“รีบหาเธอให้เจอเร็วๆ เถอะ”
“เจ้าพูดมาขนาดนี้เหมือนมั่นใจว่าข้าจะหาเจอเลยนะ” เด็กชายกลอกตาใส่ทนายอัน
“ประโยคนี้ แน่นอนว่าไม่เลย โดยเฉพาะเมื่อต้องรับคำสั่งของหัวหน้า จะต้องตะโกนสโลแกนให้กระหึ่มไว้ก่อน”
“ทั้งร้านหนังสือ หากพูดถึงระดับความคุ้นเคยกับจิ้งจอกตัวนั้นแล้ว ถ้าเจ้าเป็นอันดับสอง ก็ไม่มีใครกล้าเป็นอันดับหนึ่งแล้ว”
ทนายอันได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับ “นี่เป็นเพราะผมใส่ใจในการพัฒนาร่างกายและจิตใจของพนักงานทุกคนในร้านหนังสือ”
ขณะที่พูด ทนายอันก็ล้วงขนสีขาวกระจุกหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า ค่อยๆ ถูเบาๆ เข้าด้วยกัน ก่อนจะนั่งยองๆ และหยิบยันต์ออกมาหนึ่งแผ่น ม้วนขนสีขาวไว้กลางยันต์พร้อมกับหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดเงียบๆ
ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้น และเริ่มลอยไปยังทิศทางหนึ่งอย่างช้าๆ
“เฮอะ ดูเหมือนว่าจะไม่ไกลขนาดนั้น”
…
“ระยะทางไม่ไกลนักใช่ไหม” โจวเจ๋อพูด
อิงอิงหน้ามุ่ยและหลับตาลง สูดอากาศตรงนี้ จากนั้นชี้นำทางต่อไปเรื่อยๆ
อันที่จริง หากเถ้าแก่โจวไม่ใช่ผีดิบละก็ อาจจะคิดว่า ‘ประสาทรับกลิ่น’ นี้ก็เป็นหนึ่งในพรสวรรค์ขั้นพื้นฐานของผีดิบ แต่ทั้งนี้เถ้าแก่โจวเองก็เป็นผีดิบเช่นกัน ดังนั้นจึงรู้ดีว่ามีความแตกต่างอย่างมากระหว่างผีดิบกับสุนัขตำรวจ แต่ทว่า เถ้าแก่โจวก็ยังไม่เข้าใจผู้หญิงอยู่ดี เมื่อผู้หญิงรู้ว่าตัวเองจำเป็นต้องตามหาเมียน้อยหรือเผชิญหน้ากับจิ้งจอก แต่ละคนก็จะกลายเป็นเชอร์ล็อก โฮล์มส์ไปโดยปริยาย
อิงอิงนำทางข้างหน้า ส่วนโจวเจ๋อเดินตามหลัง เดี๋ยวเดินเดี๋ยวหยุด เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวเดิน จากถนนอันเงียบสงบไปจนถึงย่านใจกลางเมือง กระทั่งข้างหน้าเป็นจอยซิตี้พลาซ่า
อิงอิงไม่ได้เดินเข้าไปข้างในต่อ แต่หยุดฝีเท้าอยู่หน้าทางลอดใต้ดินที่อยู่ด้านล่าง ลืมตาขึ้นและชี้ไปข้างหน้าอย่างจริงจังพลางบอกว่า “เถ้าแก่ ที่นี่แหละเจ้าค่ะ!”
โจวเจ๋อลูบจมูกแล้วพูดด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “แน่ใจเหรอ”
กลิ่นมันชัดเจนขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมฉันไม่รู้สึกถึงอะไรเลยสักนิด
จริงๆ แล้วมันก็เหมือนกับทุเรียนนั่นแหละ คนที่ชอบกลิ่นประเภทนี้จะคิดว่ามันเป็นอาหารอันโอชะ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นนี้ก็จะรู้สึกทรมานมาก
หากเป็นมุมมองของพวกเจ้าลิง จะต้องเติมคำว่า ‘เหม็น’ หรือ ‘แรด’ ไว้ด้านหน้าจิ้งจอกขาว แต่ต่อหน้าผู้ชายนั้นกลิ่นนี้ไม่เหม็นเลยสักนิดเดียว
“แน่ใจเจ้าค่ะ เถ้าแก่ แถมตั้งสองเท่าแน่ะ!”
“อ๋อ” โจวเจ๋อยืนหลังตรง
“เถ้าแก่ ท่านเตรียมจะจัดการนางอย่างไรหรือเจ้าคะ” อิงอิงถูมือ โอกาสที่จะอัดผู้หญิงข้างกายเถ้าแก่สักยกแบบนี้ สำหรับอิงอิงแล้วช่างเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นเอามากๆ
ไม่ต้องกังวลเรื่องวางแผน ไม่จำเป็นต้องสนใจภาพลักษณ์ของตนเอง และยิ่งไม่ต้องแบกนามการเป็นภรรยาหลวงไปแสดงความ ‘ใจกว้าง’ ให้นางสนมของเถ้าแก่
ฟาดเธอให้ยับ!
“ถลกหนังออก ดึงเส้นเอ็นละมั้ง”
“…” อิงอิง
แง!
เถ้าแก่ ท่านแมนได้ถึงขนาดนี้แล้วหรือเจ้าคะ!
“เถ้าแก่ อย่างนี้ดูโหดร้ายไปหน่อยนะเจ้าคะ”
เยี่ยมมาก ฆ่าเธอให้ตายไปเลย!
“ถ้าเธอเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนหน้าจริงๆ ละก็นะ” โจวเจ๋อล้วงบุหรี่ออกมาเงียบๆ วางไว้ตรงปลายจมูกแล้วดมกลิ่น
ความจริงแล้ว การตายของยมทูตสาวบ๊องคนนั้นส่งผลกระทบลึกซึ้งแค่ไหนสำหรับโจวเจ๋อ ยากจะอธิบายให้ชัดเจนได้จริงๆ
…
ที่ทางลอดใต้ดิน
การจราจรคับคั่ง และในจุดจอดรถฉุกเฉินสำรองตรงกลางมีจิ้งจอกขาวสวมเสื้อขนเป็ดสีขาวยืนอยู่ตรงนั้น เธอเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ เธอยืนอยู่ตรงนี้มานานมาก และรอมาเนิ่นนานเช่นกัน ทันใดนั้น ในที่สุดเธอก็สัมผัสได้ว่าคนที่เธอตามหากลับมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายความผันผวนอย่างเห็นได้ชัด
น่าจะได้รับบาดเจ็บ
“เจ้ากลับมาแล้วหรือ” จิ้งจอกขาวเอ่ยปากทักทาย ราวกับเพื่อนเก่ามาเยี่ยมเยียนจากแดนไกล
นอกจากเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์แล้ว รอบๆ ตัวยังมีลมหนาวพัดโชยมาอีกด้วย
เงาสีดำค่อยๆ หยดย้อยลงมาจากด้านบนผนังปูนตรงหน้าจิ้งจอกขาว ปรากฏใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้านี้คล้ายคลึงกับใบหน้าของจิ้งจอกขาวถึงแปดส่วน ความแตกต่างอีกสองส่วนอยู่ที่จิ้งจอกขาวแต่งหน้า
“เจ้าควรอยู่เงียบๆ” จิ้งจอกขาวเอ่ย
เงาดำฝั่งตรงข้ามกลับส่ายหน้าอย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าเธอปฏิเสธ
“น้องสาว ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้หรงเฉิงยังอันตรายมากกว่าที่เจ้าคิดไม่น้อย”
เงาดำยังคงส่ายหน้า
“ผ่านมาตั้งนานหลายปีแล้ว ก็ยังปล่อยวางไม่ได้งั้นหรือ”
เงาดำอ้าปากและส่งเสียงคำรามแหลมปรี๊ด ผู้ขับขี่มากมายในเวลากลางคืนต่างตกใจสะดุ้งโหยงเพราะเสียงนี้ รู้สึกเพียงแค่ว่าเปลือกตาเอาแต่กระตุก หัวใจดวงน้อยๆ เต้น ‘ตึกตัก’
“น้องสาว จิ้งจอกอย่างพวกเราหากหนีไม่พ้นเรื่องรักใคร่ ก็จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมได้ง่ายๆ เดิมทีครั้งนี้ข้าไม่ควรจะมา แต่ก็มาจนได้ เพราะกลุ่มปีศาจในหรงเฉิงส่งข่าวคราวมาบอกว่า ช่วงนี้เจ้าชักจะเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุใดเล่า”
เงาดำห้อยย้อยลงมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็แยกออกจากผนังด้านบน กระเด็นลงพื้นเสียงดัง ‘แปะ’ จากนั้นก็หลอมรวมกลายเป็นรูปร่างผู้หญิงสวมชุดโบราณ เธอเดินนวยนาดมาด้านหน้าจิ้งจอกขาว เอื้อมมือไปลูบหน้าจิ้งจอกขาวเบาๆ
เป็นสัมผัสที่เย็นยะเยือก ไม่ใช่กลิ่นอายของปีศาจ และไม่ใช่กลิ่นอายของผี แต่เหมือนการผสมผสานแบบหัวมังกุท้ายมังกรมากกว่า
“น้องสาว จบสิ้นเสียทีเถอะ จริงๆ นะ ตอนนี้เจ้าเป็นปีศาจก็ไม่ใช่เป็นผีก็ไม่เชิง หากเป็นอย่างนี้ต่อไปคิดว่าสวรรค์จะปล่อยเจ้าไปงั้นหรือ”
เงาดำเอาแต่ยิ้ม ความแน่วแน่อัดแน่นในแววตา ทว่าคราวนี้เงาดำเริ่มเอ่ยพูดก่อน
“เขาชอบชมงิ้วเปลี่ยนหน้าน่ะ”
“เขาตายแล้ว เขาตายไปตั้งแปดสิบปีแล้ว!”
“เขายังไม่ตาย เขายังอยู่กับข้า”
ทันใดนั้นใบหน้าของเงาดำก็บิดเบี้ยว กลายเป็นใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง ใบหน้านี้หล่อเหลาและอรชรอ้อนแอ้นมาก แต่งกายด้วยชุดงิ้ว เขาถอยหลังไปสองสามก้าวพร้อมกับดัดเสียง “แม่นาง ข้าขอคารวะ”
ทุกสิ่งทุกอย่าง คล้ายของจริงมาก
เขาตายแล้ว แต่เธอยังทำให้เขามีชีวิตอยู่และใช้ชีวิตอยู่กับเธอ
จิ้งจอกขาวมองใบหน้าชายหนุ่มคนนี้ ความโกรธพลันปะทุขึ้นและคำรามต่ำ “เจ้าทำลายบุญบารมีของนางจนสิ้น เจ้าทำลายร่างปีศาจของนางไปจนหมด ตั้งแปดสิบปีมาแล้ว เจ้าก็ยังพัวพันกับนาง หลอกล่อนาง เจ้านี่มัน…เดรัจฉาน!”
ชายหนุ่มเผยสีหน้าลุ่มหลงมัวเมาและเอ่ยช้าๆ “ผิวหนังในอดีตเก่าแล้วก็เลยต้องเปลี่ยนใหม่”
ท่ามกลางระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเปล่งประกายแรงกล้า
“เจ้าสบายใจ เจ้ารู้สึกดี แล้วน้องสาวของข้าเล่า!” จิ้งจอกขาวถาม
ชายหนุ่มมองจิ้งจอกขาวตรงหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววสงสัย “ใครคือน้องสาวของเจ้ากัน”
“สารเลว!”
แสงขาวสว่างวาบปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของจิ้งจอกขาว พร้อมกับฟาดไปทางชายหนุ่มตรงหน้าทันที!
ชายหนุ่มหยุดชะงักและหายวับไป จากนั้นโผล่ไปอยู่ด้านหลังจิ้งจอกขาว และเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “นางเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ แล้ว ทนได้อีกไม่นาน คราวนี้จะเปลี่ยนเป็นพี่สาวอย่างเจ้ามารักข้าแทนดีหรือไม่”
“ต่อให้ดวงตาจิ้งจอกของข้าจะมืดบอด ก็ไม่มีวันตกหลุมรักคนอย่างเจ้า!”
“เพราะเหตุใด ใช่ว่าเจ้าไม่เคยมีชายใดมาก่อน ตามใครไปก็ตามเหมือนกันไม่ใช่หรือ” ร่างของชายหนุ่มเริ่มขยายใหญ่ขึ้น มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก
“ชายที่ข้าเคยคบหาด้วยในอดีต บางคนภาคภูมิใจกับตำแหน่งของตน บางคนตกต่ำ แต่ไม่เคยมีใครที่เกาะหลังดูดเลือดดูดเนื้อสตรีเช่นเจ้า!”
ในสมัยนั้น บรรดาคนที่จิ้งจอกขาวคบหา บางคนหดหู่สิ้นหวัง มัวเมาเฝ้าคะนึงหาหอนางโลม แต่สุดท้ายจำต้องไปฝึกทหารในค่ายเล็กๆ บางคนภูมิใจในตัวเองมาก แม้ว่าสุดท้ายจะกลายเป็นคนแปลกหน้า แต่ก็ยังหลงเหลือศักดิ์ศรีและความพึงพอใจ
เธอเคยสัมผัสกับความงามและความรุ่งโรจน์เจิดจ้าในตัวพวกเขา แต่สิ่งที่พวกเขาทิ้งไว้ให้เธอก็เป็นความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของผู้ชายที่ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดชีวิตหรือไม่แยกจากกันเลยจริงๆ แต่ไม่เคยละเลยช่วงเวลาแสนสงบและความงดงามของชีวิตเมื่ออยู่ด้วยกัน
จิ้งจอกขาวหันกลับมาและโจมตีแสงสีขาวออกไปอีกครั้ง แต่ทว่า ชายหนุ่มเพียงแค่ยกมือขึ้นเบาๆ จับแสงสีขาวไว้ วางมันตรงหน้าแล้วลูบมันเบาๆ
เมื่อเห็นฉากนี้เข้า จิ้งจอกขาวก็ตกตะลึง เธอไม่ได้ตะลึงที่การเคลื่อนไหวของเธอถูกอีกฝ่ายจับได้ทันที และไม่ได้ตกตะลึงความก้าวกระโดดในความสามารถของอีกฝ่ายด้วย แต่ตะลึงกับความบ้าคลั่งของอีกฝ่ายต่างหาก!
“น่าตายนัก เจ้าทำลายวิถีปีศาจของนางในชาตินี้ไปจนสิ้นแล้ว เจ้ายังคิดอยากทำลายแม้แต่โอกาสในการเวียนว่ายตายเกิดของนางอีกต่างหาก!”
“นางเคยบอกว่า อนุญาตให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนในชาตินี้ ส่วนชาติหน้าน่ะ นางไม่สนใจแล้ว”
“แล้วเจ้าก็ทำเช่นนั้นจริงๆ น่ะหรือ” หางจิ้งจอกขาวผุดขึ้นด้านหลังและวาดออกไป ชายหนุ่มไม่กล้าฝืนรับให้หนักหน่วงอีกต่อไป รีบรุดถอยอย่างว่องไว
“นางยินยอมแล้ว เจ้าจะร้อนใจเพื่อเหตุใด นางมีความสุขดีออก สตรีใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า แน่นอนว่าคงไม่เข้าใจความงดงามเช่นนี้ นี่เป็นจุดหมายปลายทางของสตรีอย่างแท้จริง”
“เจ้ามันต่ำทราม!” จิ้งจอกขาวโจมตีอีกครั้ง ชายหนุ่มเอาแต่ล่าถอยเช่นเดิม
คนขับหลายๆ คนที่ขับรถผ่านที่นี่ต่างก็นึกว่าแสงไฟด้านล่างนี้มีปัญหา ไม่อย่างนั้นทำไมไฟนีออนของที่นี่ถึงได้เอาแต่กะพริบตลอดเวลา และโชคดีที่ทางลอดใต้ดินนี้ไม่ยาวมากนัก จึงไม่เกิดอุบัติเหตุจราจรแต่อย่างใด
“บางที ข้าอาจจะให้โอกาสเจ้าได้มีความสุขสำราญจนเสี่ยงทำทุกอย่างเพื่อความรักได้เหมือนนาง เจ้ากับนางเป็นพี่น้องที่แสนดี พวกเจ้าควรจะอยู่ด้วยกันสิ เช่นนี้ถึงจะเป็นสิ่งที่ดีต่อทั้งตัวเจ้า ตัวนาง และตัวข้า”
“ชาติชั่ว!”
หลังจากประมือ จู่ๆ จิ้งจอกขาวก็หยุดกะทันหัน สีหน้าพลันเปลี่ยนไป เธอได้กลิ่นเค็มจางๆ ที่ปลายจมูกของเธอ
ชายหนุ่มเข้าใจผิดจึงหยุดตามพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นอย่างไร ใจเต้นแล้วหรือ”
เขานึกว่าจิ้งจอกขาวเริ่มลังเลเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา แต่ทว่าจิ้งจอกขาวกลับเปลี่ยนสีหน้าและตะโกนเสียงขรึม “รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
“ข้าไม่ไป ข้าไม่ไปหรอก ข้าก็อยากจะอยู่กับเจ้าตลอดไป” คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะเริ่มเข้ามาประชิดตัว
ทันใดนั้นจิ้งจอกขาวเผยสีหน้าโกรธเคืองจนแทบจะคำรามออกมา “รีบไสหัวออกไป!”
กลิ่นเค็มๆ เริ่มปะทุรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!
……………………………………………………………………