ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนพิเศษ โลกใบนั้น (9)
เห็นซูหว่านหันหน้าไปอีกด้านท่าทางดูเหมือนว่าจะไม่พอใจเล็กน้อย ซูรุ่ยอดยิ้มไม่ได้ “อย่าดื้อสิ ผมบอกคุณแล้วโอเคไหม”
พูดพลาง เขาก็จับเท้าของซูหว่านเอาไว้อย่างอ่อนโยน ค่อยๆ ถกกระโปรงของเธอขึ้น
“นี่ นายอย่านะ อย่าคลำส่งเดช”
ซูหว่านรีบกดกระโปรงชุดราตรีของตัวเองลงทันทีอย่างตื่นตระหนกตกใจ ใบหน้าแดงก่ำไปหมดเลย
น้อยครั้งที่จะเห็นภรรยาตนเองมีท่าทีเขินอายขนาดนี้ ซูรุ่ยดวงตาเป็นประกาย พูดเบาๆ ด้วยหน้าตาทะเล้น “คุณอายอะไร มีตรงไหนในตัวคุณที่ผมไม่เคยเห็นบ้าง คุณมีไฝสีแดงเล็กๆ ตรงหน้าอก มีรอยแผลเป็นจางๆ ที่หลัง คุณบอกผมว่า ตอนนั้นคุณยังเป็นเด็ก ตัวเองถูกขีดข่วนจนเป็นแผลในวิลล่า ตอนนั้นไม่มีคนอยู่ที่บ้าน เลือดออกมาเยอะแยะ ต่อมาก็…ทิ้งรอยแผลเป็นนี้เอาไว้”
พูดมาถึงตรงนี้สายตาซูหว่านก็หม่นหมองลงไป “ภรรยา ลำบากคุณแล้วจริงๆ”
ได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็ยืนงงอยู่ตรงนั้น เพราะทุกคำที่ซูรุ่ยพูดล้วนเป็นความจริง
เธอยื่นมือไปคลำที่หลังของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะตำแหน่งของแผลเป็นอยู่ใกล้กับหลัง แม้ว่าเธอจะสวมชุดราตรีไหล่เฉียงก็ไม่สามารถมองเห็น
ใช่ หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นซูฉี่เฉียวหรือว่าฉินซือหย่ง พวกเขาไม่สังเกตเห็นรอยแผลเป็นนั้นของตัวเองเลย ขนาดที่ว่า แม้ตอนนั้นตัวเองเกือบจะตายอยู่ในวิลล่าพวกเขาสองคนก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิดเดียว
ซูหว่านข่มความขมขื่นที่อยู่ก้นบึ้งในใจ เงยหน้ามองซูรุ่ย สายตาสะดุดตาเป็นพิเศษ “ซูรุ่ย นายมาจากอนาคตจริงเหรอ”
“อืม”
ซูรุ่ยจับมือซูหว่านเอาไว้แน่น “ภรรยา ผมรู้ว่าตอนนี้คุณทุกข์ใจมาก คุณในตอนนี้อาจจะไม่สามารถผ่านด่านสิงอี้นั่นได้ แต่…คนเราจะต้องพบกับความพ่ายแพ้มากมายในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทางอารมณ์หรือการทำงาน คุณอย่าเสียใจและอย่าอคติ เพราะ…คุณยังมีอนาคตที่สวยงามมากเป็นพิเศษ คุณจะมีสามีที่ดี มีบ้านของตัวเอง ลูกของตัวเอง อืม พวกเรายังมีหลานสาวที่น่ารักมากด้วย”
อะแฮ่ม แม้ว่านั่นจะเป็นแค่ลูกหมีตัวหนึ่ง
ลูกหลานเต็มบ้าน มีความสุขทั่วหน้า
นี่ ไม่ใช่ความสุขในชีวิตที่ตนเองเฝ้าอธิษฐานมาตลอดหรอกหรือ
“เหมือนกับความฝันจริงๆ ด้วย”
ซูหว่านบ่นพึมพำกับตัวเอง “ซูรุ่ย ต่อให้สิ่งที่นายพูดเป็นความจริงทั้งหมด นายจะบอกฉันได้ไหม ทำไมสิงอี้ถึงชอบซูโหยวแต่ไม่ชอบฉันล่ะ”
นี่คืออุปสรรคที่ซูหว่านยังข้ามไปไม่ได้จริงๆ
เป็นการทุ่มเทเสียสละครั้งแรกในชีวิต ยากที่จะไม่ให้คนเก็บมาใส่ใจจริง
ได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยถอนหายใจ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางบอกซูหว่านว่า ที่สิงอี้ชอบซูโหยวถึงขั้นว่ารักมากจนจะเป็นจะตาย นั่นเป็นไปตามความต้องการของบทละคร คือแรงดึงดูดซึ่งกันและกันของตัวละครเอกชายและหญิง
บอกแบบนี้ก็จะโหดร้ายเกินไป
“ความจริง ตอนแรกสิงอี้คบหาอยู่กับคุณ เขาจำคุณผิดคิดว่าเป็นซูโหยว สามปีก่อนตอนที่สิงอี้ประสบเหตุไม่คาดฝันบนเขา ได้รับการช่วยเหลือจากซูโหยว และตอนนั้นเขาหมดสติ สะลืมสะลือมองเห็นแวบเดียว จำหน้าตาท่าทางของคนผู้นั้นได้อย่างเลือนราง พอหลังจากกลับมาที่โรงเรียนในเมืองอวิ๋นเขาก็จำคุณได้ คิดว่าคุณคือคนคนนั้น”
แม้ว่าตระกูลสิงจะเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองอวิ๋น แต่ตอนที่สิงอี้อายุยังน้อยเติบโตขึ้นที่บ้านของคุณตา เขาเพิ่งจะกลับมาที่เมืองอวิ๋นหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้นเมื่อสามปีก่อน จากนั้นจึงได้พบกับซูหว่าน
การวางโครงเรื่องแบบนี้ ดูเหมือนจะเป็นกับดักให้ซูหว่านโดยเฉพาะอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็ตกใจอีกเล็กน้อย
สามปีก่อน…
สิงอี้ไม่เคยพูดเรื่องเมื่อสามปีก่อนกับตนเองมาก่อน เมื่อก่อนไม่เคย ตอนนี้และอนาคตเขาก็ยิ่งไม่มีทางเอ่ยถึง
แต่ว่า…
ทำไมเขาถึงมั่นใจขนาดนั้น ว่าคนที่ช่วยเขาไว้ต้องเป็นซูโหยวแน่นอน
น่าขำจริงๆ
“ถ้า ถ้าฉันบอกว่า คนที่ช่วยเขาเมื่อสามปีก่อน ความจริงแล้วคือฉัน ซูรุ่ย นายจะเชื่อฉันไหม”
จู่ๆ ซูหว่านก็เงยหน้าขึ้นมา มองซูรุ่ยด้วยแววตาเปล่งประกาย
นี่…
ซูรุ่ยอึ้ง แต่คนกลับพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว “ผมเชื่อคุณ ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ทำอะไรผมก็เชื่อคุณ”
“หึๆ”
ได้ยินคำตอบของซูรุ่ย ซูหว่านก็หัวเราะออกมาทันที ในดวงตาก็กลั้นน้ำตาจากการหัวเราะไว้ไม่อยู่ “ฉันก็เชื่อนาย”
ฉันเชื่อนาย ว่านายมาจากอนาตคของฉัน
เพราะว่า นายก็คือคนที่ฉันตามหามาตลอดคนนั้น
ก็คือนาย
“ซูรุ่ย ฉันมีความสุขจริงๆ”
ทันใดนั้นซูหว่านก็กางแขนสองข้างกอดซูรุ่ยเอาไว้แน่น…
ผู้หญิงทุกคนที่เจอจุดตกต่ำในชีวิต คุณเคยคิดจินตนาการไหมว่า ช่วงที่คุณโดดเดี่ยวไร้หนทางที่สุด ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังมากที่สุด จะมีคนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เขาจะโอบกอดคุณปลอบโยนคุณรักและทะนุถนอมคุณ บอกคุณว่า…
เขามาจากอนาคตของคุณ
นี่ ก็เหมือนกับความฝันอันสวยงามที่ไม่อยากจะตื่นขึ้นมา
“ไม่ให้ไป อย่าตื่นขึ้นมานะ”
ดึกสงัดแล้ว ซูหว่านที่อยู่บนเตียงยังคงจับมือของซูรุ่ยไว้ ละเมอด้วยความสะลืมสะลือ
ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ภายนอกเข้มแข็งภายในใจก็ยิ่งอ่อนแอ
ซูรุ่ยมองใบหน้าของซูหว่าน เขายกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาลูบคิ้วที่ขมวดจนเป็นรอยย่นของเธอให้เรียบโดยไม่รู้ตัว “ภรรยา นอนหลับดีๆ นะ ผมอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหน”
เช้าวันต่อมา ตอนที่ซูหว่านตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่มองเห็นคือซูรุ่ยนอนฟุบอยู่ที่ข้างเตียงของตนเอง
ไม่ใช่ความฝันเหรอ
ซูหว่านกะพริบตาปริบๆ เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอเมื่อวานนี้ เธอจึงเอาผ้าห่มมาคลุมตัวเองด้วยความหงุดหงิดทันที…
ตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือว่าอาจจะติดเชื้อมาจากเขาแล้ว!
เธอถึงขั้น ถึงขั้นเชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือสามีของตนเองที่มาจากอนาคต!
แต่ว่า…
มองซูรุ่ยที่หลับอยู่ ซูหว่านก็อดที่จะมองด้วยสายตาสงสัยไม่ได้ เขาดีกับเธอมากจริงๆ และก็ไม่ได้คิดร้ายอะไรเลย แม้ว่าเขาจะเป็นแฮกเกอร์ที่เก่งกาจขนาดนั้น แต่เขาไม่ได้สนใจทรัพย์สินของตระกูลซู
หรือว่า เขาเป็นคนงี่เง่าที่ยอมเสียสละโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
“ตาทึ่ม”
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงมากระซิบเบาๆ พลางยกมือขึ้นมาแตะเบาๆ ที่ใบหน้าของซูรุ่ย เห็นซูรุ่ยยังคงนอนหลับสนิท เธอจึงยิ้มค่อยๆ ก้าวขาลงจากเตียงไปที่ห้องน้ำ
ได้ยินเสียงซูหว่านปิดประตูห้องน้ำ ซูรุ่ยจึงได้ค่อยๆ ลืมตาตัวเอง
ภรรยา คุณกับผมตกลงว่าใครกันแน่ที่งี่เง่า
รอจนซูหว่านเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากห้องน้ำซูรุ่ยก็หายไปแล้ว
ซูหว่านมองผ้าห่มที่เขาพับไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็อึ้งไปชั่วครู่ ความรู้สึกว่างเปล่าอย่างกะทันหันนั้น แปลกประหลาดจริงๆ
ซูหว่านถอนหายใจ หมุนตัวเดินลงมาชั้นล่าง
ชั้นล่างมีเพียงซูโหยว คนเดียว อาหารเช้ายังคงเป็นอาหารเช้าสไตล์ตะวันตกที่ดีที่สุดของป้าจาง จ้องมองอาหารเช้าที่เหมือนเดิมมาเป็นร้อยปี ทันใดนั้นซูหว่านก็นึกถึงอาหารที่ซูรุ่ยทำเมื่อเช้าวานนี้ ซูโหยวบอกว่าเขาทำอร่อยมาก แต่ตัวเองกลับไม่กินแม้แต่คำเดียว
จู่ๆ ก็ไม่พอใจมากขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เสี่ยวหว่าน เธอตื่นแล้วเหรอ! คุณครูซูเขา…”
เมื่อครู่ซูโหยว รู้เรื่องที่ซูรุ่ยเป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนของซูหว่านแล้ว เพราะตอนที่ซูรุ่ยไปเขาฝากให้ตนเองบอกซูหว่านว่า เจอกันที่โรงเรียน
“ฉันไม่กินแล้ว”
ซูหว่านทำเหมือนที่ผ่านมา หยิบกระเป๋าหนังสือแล้วก็ออกจากบ้าน
“เสี่ยวหว่าน!”
ซูโหยว อยู่ด้านหลังอดไม่ได้ที่จะเรียกเธอเอาไว้ “เธอกับซูรุ่ย พวกเธอสองคน…”
“นี่เป็นเรื่องของฉัน เธอจะมายุ่งวุ่นวายทำไม”
ซูหว่านได้ยินคำพูดของซูโหยว ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองเธอ “ยังคิดว่าตัวเองเป็นพี่สาวของฉันอยู่เหรอ!”
“ไม่ใช่ เสี่ยวหว่าน เธอกับสิงอี้…”
“ฉันกับสิงอี้ก็เป็นเรื่องของพวกเรา ซูโหยว ทางที่ดีที่สุดเธอควรจะจำสถานะเธอไว้”
ซูหว่านพูดพลางหมุนตัวเดินไปโดยไม่มีท่าทีลังเลเลยแม้แต่นิด มองด้านหลังซูหว่านที่ดินไปไกลแล้ว ซูโหยว ถอนหายใจเบาๆ
ความจริงแล้ว ทำไมตัวเองจะไม่รู้ว่าสิงอี้ชอบตนเอง
แต่เขาเป็นคู่หมั้นของเสี่ยวหว่าน ซูโหยวไม่ได้คิดที่จะทำลายความสุขของเสี่ยวหว่าน แต่ตอนนี้เรื่องของซูหว่านกับซูรุ่ยยังคลุมเครือไม่ชัดเจน เธอก็เริ่มกังวลแทนสิงอี้ขึ้นมา
เมื่อเทียบกับความลังเลไม่กล้าตัดสินของนางเอก ซูหว่านซึ่งอยู่ในรถแล้วในเวลานี้ก็ค่อนข้างไม่สบายใจเช่นกัน
เธอคิดมาตลอดว่าเธอไม่สามารถให้อภัยการทรยศหักหลังของ สิงอี้ได้
ตายก็ไม่อาจให้อภัยได้
แต่ว่า นับตั้งแต่ที่ได้พบซูรุ่ย ซูหว่านกลับพบว่า ความจริงแล้ว ชีวิตของตนเองยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง…