ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนพิเศษ โลกใบนั้น (7)
ภายในห้องรับรองของร้านอาหาร อาหารขึ้นโต๊ะครบแล้ว ชายทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากัน ทั้งซูรุ่ยและสวีเช่อต่างไม่มีใครยอมขยับตะเกียบก่อน
“เล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ”
ซูรุ่ยเงยหน้าและจ้องมองไปที่สวีเช่ออย่างจริงจัง “อดีตของซูหว่าน อดีตของเธอและสิงอี้”
อดีต…
สวีเช่อรวบรวมสมาธิ ครั้งแรกที่เขาเห็นชื่อของซูหว่านอยู่บนกระดานภารกิจ วันนั้นเขาเพียงแค่พลิกดูภารกิจแล้วสุ่มรับขึ้นมา ใครจะรู้ว่ามันจะนำมาซึ่งความยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังได้ถึงขนาดนี้
ในโลกใบนี้ ซูโหยวคือนางเอก สิงอี้คือพระเอก โอวหยางมั่วเป็นพระรอง ฉินชิงและหลีเฝ่ยต่างก็เป็นนักแสดงสมทบหลัก
สำหรับซูหว่านนั้น
เธอคืออดีตแฟนสาวตัวประกอบ เป็นนางร้ายที่ทุกคนไม่ชอบใช่ไหม
สวีเช่อในเวลานั้นเดินทางไปยังโลกต่างๆ มากมาย เขาได้พบเจอพระรองและนางรองเป็นจำนวนมาก เขาเคยเห็นคนเหล่านั้นยึดติดและบ้าคลั่งเพราะความรัก แต่ซูหว่านเป็นคนที่พิเศษที่สุดในหมู่พวกเขา
“เธอดื้อรั้นและฉลาดมากจริงๆ แต่เธอก็ไร้เดียงสาจนน่าสงสาร”
สวีเช่อพูดขึ้นในขณะที่กำลังรำลึกเข้าไปในความทรงจำของตนเอง…
ซูหว่านถือกำเนิดในตระกูลซูที่เรืองอำนาจ แต่เธอกลับถูกพ่อแม่ของเธอละเลย ตั้งแต่เล็กข้างกายของเธอมีเพียงคนรับใช้ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด นอกนั้นก็เป็นคนนอกที่หน้าซื่อใจคด
วัยเด็กของเธอไร้ซึ่งความสนุกสนาน และปราศจากความสุข
เธอไม่รู้ว่าความรักคืออะไร แต่เธอกลับโหยหามันยิ่งกว่าใคร
เธอศึกษาความรู้และทักษะหลากหลายเพื่อเป็นอาวุธประดับตน เธอหยิ่งและผยอง เธอเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซูที่ใครต่อใครต่างก็ชื่นชม แต่อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเปลือกนอกของเธอ
หัวใจของเธอโดดเดี่ยวและอ้างว้าง กระทั่งเมื่ออายุได้สิบหกปี เธอได้พบกับสิงอี้
การปรากฏตัวของสิงอี้ทำให้ชีวิตของซูหว่านพบกับความอบอุ่น
เธอเปรียบเสมือนนักเดินทางที่อยู่ท่ามกลางทะเลทรายเป็นเวลาแสนนาน และได้พบกับโอเอซิสอันอุดมสมบูรณ์เป็นครั้งแรก
ความเอาใจใส่ที่อ่อนโยนและการปกป้องที่จริงใจของสิงอี้ ทำให้ซูหว่านรับรู้ถึงการมีตัวตนของเธอเองเป็นครั้งแรก
เธอจะไม่ใช่ตุ๊กตาประดับของตระกูลซูอีกต่อไป ในที่สุดเธอก็กลายเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจที่ได้รับการเอาใจใส่และคะนึงนิจจากใครบางคน
เธอที่ดื้อรั้นและไร้เดียงสา ใจหวังเพียงสามารถอยู่ร่วมกับสิงอี้ไปทั้งชีวิต แต่ในเวลานี้ซูฉี่เฉียวกลับตามซูโหยวกลับมา
เธอคือคนที่มีรัศมีของนางเอกอย่างแท้จริง การปรากฏตัวของซูโหยวได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของซูหว่านไปตลอดกาล…
ซูฉี่เฉียวไม่สนใจต่อคำคัดค้านของทุกคนและพาซูโหยวกลับมาสู่ตระกูลซู ด้วยเหตุนี้ จากที่ฉินซือหย่งกลับบ้านสองสามวันครั้งกลายเป็นหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้กลับบ้านตระกูลซูเลย
อีกทั้งเมื่อสิงอี้ได้พบกับซูโหยวแล้ว ท่าทีของเขาที่มีต่อซูหว่านก็เปลี่ยนไปโดยทันที ที่แท้เมื่อสามปีก่อนขณะที่สิงอี้ท่องเที่ยวและเกิดอุบัติเหตุตกลงมาจากหน้าผา ในเวลานั้นเขาได้รับการช่วยเหลือจากซูโหยว กว่าเขาจะฟื้นตื่นขึ้นมาเธอก็ได้จากไปแล้ว หลายปีมานี้เขาพยายามตามหาผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาในวันนั้นมาโดยตลอด และเมื่อพบกับซูหว่าน เขาจึงเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นซูโหยว!
ตอนนี้นางเอกตัวจริงได้ปรากฏตัวแล้ว เป็นธรรมดาที่ซูหว่านต้องหลีกทางให้
“ตามข้อมูลภารกิจที่ฉันได้รับในตอนนั้น โครงเรื่องเดิมของโลกนี้ที่ควรจะเป็นคือ หลังจากที่สิงอี้และซูหว่านได้เลิกราและถอนหมั้นกันแล้ว ซูหว่านนั้นรับไม่ได้จึงตัดสินใจจ้างวานคนเพื่อกำจัดซูโหยว แต่เรื่องนี้ถึงหูซูฉี่เฉียวเข้า ลูกสาวคนหนึ่งที่ตนเองรัก ลูกสาวอีกคนที่ตนเองแหนงหน่าย ทางเลือกของซูฉี่เฉียวจึงง่ายและชัดเจน! ภายหลังซูหว่านถูกขับไล่ออกจากตระกูลซู เธอจึงไปซบไหล่ตระกูลฉิน แต่ว่าฉินชิงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเป็นเพื่อนสนิทซูโหยว ชีวิตของเธอในตระกูลฉินจึงไม่เป็นสุขนัก และเพราะฉินซือหย่งก็ไม่พอใจในตัวเธอ ท้ายที่สุดซูหว่านก็กลายเป็นหมาหัวเน่าของตระกูลฉิน นายท่านใหญ่ฉินจึงใช้เธอเป็นเบี้ยหมากให้แต่งงานกับอวิ๋นเฉิงผู้เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเสิ่น แต่คุณชายใหญ่เสิ่นเป็นคนติดยา ทุกครั้งที่เขาเสพยาเป็นต้องทำร้ายคน ในท้ายที่สุดซูหว่านก็ถูกเขาพลั้งมือฆ่าตาย”
เมื่อได้ยินสิ่งที่สวีเช่อเล่ามา ลมหายใจของซูรุ่ยค่อยๆ เย็นลง “มันเป็นเรื่องโหดร้าย เลวร้ายจริงๆ โลกบ้าบอแบบนี้สมควรจะถูกทำลาย แต่จะว่าไปแล้ว ทำไมภรรยาของฉันไม่ทำตามเรื่องราวเดิมล่ะ ”
เธอไม่ใช่พวกปัญญาอ่อนน่ะสิ!
“ใช่สิ เป็นเพราะซูหว่านหลุดจากพล็อตเรื่องโลกใบนั้น ดังนั้น ฉันจึงต้องเข้ามายังโลกใบนั้น”
หลังจากที่ซูหว่านถูกสิงอี้ยกเลิกการหมั้นหมายแล้ว เธอไม่ได้วางแผนที่จะจ้างวานฆ่า เธอกลับใช้เงินไปจำนวนมากจัดซื้ออาวุธและฝังระเบิดทั้งหมดไว้ใต้บ้านพักตระกูลซู
เธอจะพลีชีพไปพร้อมกับทุกคน!
นี่คือซูหว่าน เป็นซูหว่านตัวจริง
คิดมาถึงตรงนี้ สวีเช่ออดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นจ้องมองซูรุ่ย “ซูรุ่ย นี่เป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภารกิจและชีวิตของฉัน คุณรู้ไหม เพราะฉันไม่เข้าใจความรัก ไม่เข้าใจหัวใจของผู้หญิง ฉันคิดว่ามันคงจะดีถ้าให้เธอเลิกรัก แต่ฉันดูถูกความรู้สึกของเธอ การทรยศของสิงอี้ทำให้เธอพร้อมจะพินาศไปด้วยกัน แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากเธอถูกทรยศอีกครั้งหนึ่ง ”
เขารับบทเป็นหลีเฝ่ย ผู้ดึงซูหว่านออกจากขุมนรกแห่งความคับข้องใจทีละเล็กทีละน้อย แต่ดันผลักเธอเข้าสู่ความสิ้นหวังในวินาทีสุดท้าย
นี่ ถึงจะเป็นสิ่งที่โหดร้ายโดยแท้
นี่ ยังเป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของสวีเช่อ
“แม้นี่จะเป็นเพียงภาพจำลอง แต่สิ่งที่ฉันพอจะชดเชยได้ก็ชดเชยได้แค่ที่นี่เท่านั้น”
สวีเช่อยิ้มอย่างจนใจ
“คุณพูดถูก คุณชดเชยให้ได้แค่ที่นี่เท่านั้น เพราะในความเป็นจริง เธอสบายดี และไม่ต้องการสิ่งชดเชยอะไร เพราะเธอมีฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของสวีเช่อ แม่ทัพซูก็เงยหน้าขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ จ้องมองสวีเช่อด้วยความมั่นใจ
“ใช่สิ”
สวีเช่อพยักหน้า เมื่อเห็นซูรุ่ยยืนหยัด สวีเช่อต้องยอมรับเลยว่า เขาไม่มีวันเป็นผู้ชายอย่างซูรุ่ยได้ เขาสามารถเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้เพื่อหญิงสาวที่ตนรัก
คนอย่างสวีเช่อ ดูอ่อนโยนและสง่างาม แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเข้มงวดและหนักแน่นมาก
การไล่จีบสาวอย่างหน้าด้านหน้าทน หรือบทบาทอย่างประธานผู้เย็นชาหลงรักฉันอะไรเทือกนั้น ล้วนไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลย!
“วันนี้เป็นวันเกิดของโอวหยางมั่ว สิงอี้และซูหว่านจะไปร่วมงานวันเกิดของเขา ซูโหยวก็ไปด้วย อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนคุณนะ คืนนี้ซูหว่านและซูโหยวจะมีปากเสียงกัน และสิงอี้จะไล่ตามซูโหยวและทอดทิ้งซูหว่าน”
ขณะที่พูดคุย สวีเช่อหยิบเอากระดาษแผ่นหนึ่งพร้อมกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋าของเขาและวางไว้บนโต๊ะอาหาร “ในนี้มีที่อยู่ ขอให้คุณโชคดี”
“นี่ สวีเช่อ”
เมื่อเห็นสวีเช่อหันหลังเดินจากไป ซูรุ่ยอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงดังเรียกเขา “ไม่ใช่ว่าต้องการจะชิงดีชิงเด่นกับฉันเหรอ ยอมแพ้เร็วขนาดนี้ไม่เหมือนนิสัยของคุณเลย!”
ตกลงกันไว้แล้วว่าจะก่อสงครามไง
“ให้โอกาสคุณต่างหาก ไม่ใช่ว่าฉันยอมแพ้หรอก ก็แค่…”
สวีเช่อหยุดคำพูดไว้เท่านี้ หมุนตัวค่อยๆ เดินออกจากห้องไป
ไม่ใช่การยอมแพ้อย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่อยากเห็นเธอต้องผ่านพ้นช่วงเวลาที่ทุกข์ใจไร้หนทางอย่างนั้นอีก ไม่ต้องการจะเห็นเธอแอบร้องไห้ตามลำพัง
สวีเช่อไม่ใช่ผู้ชายที่สามารถปลอบใจผู้อื่นได้ กลับกันซูรุ่ยทำได้ ทว่า คนเดียวที่เขาจะปลอบใจมีเพียงซูหว่านเท่านั้น
ความรู้สึกแบบนี้ ไม่ควรจะมีคนอื่นเข้ามาแทรกกลาง
ความรู้สึกแบบนี้ มันช่างน่าอิจฉาและน่าปรารถนาไปพร้อมๆ กัน…
หลังจากที่สวีเช่อจากไป ซูรุ่ยไม่สนใจแล็ปท็อปของตนเอง คว้าเอากระเป๋าเงินและกระดาษโน้ตแผ่นนั้นออกไปด้วย…ภรรยา รอผมก่อน!
…
ค่ำคืนอันมืดมิดกับถนนบนภูเขาที่ขรุขระ
หากจะเดินจากเขตวิลล่าบนเขาไปจนถึงตีนเขาต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน
ซูหว่านภายใต้ชุดราตรีตัวน้อยพร้อมรองเท้าส้นสูง ค่อยๆ เดินลงเขาไปทีละก้าวๆ ในเวลานี้ งานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลโอวหยางได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ผู้คนก็ต่างทยอยกลับกันหมดแล้ว
เดิมทีเธอควรจะกลับบ้านพร้อมกับสิงอี้ แต่เป็นเพราะซูโหยว สิงอี้ไล่เธอลงจากรถระหว่างทาง และขับรถออกไปคนเดียวเพื่อไปตามซูโหยว
หึ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกคู่หมั้นของตนเองทอดทิ้งระหว่างทาง
แต่ถือเป็นครั้งแรกที่ถูกทิ้งในสถานที่วังเวงเปล่าเปลี่ยวและมืดมิด
หากเป็นผู้หญิงคนอื่นเดาได้ว่าคงจะกลัวจนไม่กล้าขยับตัวแล้ว แต่ซูหว่านยังคงค่อยๆ ก้าวเดินลงเขา เดินไปเรื่อยๆ และแล้ว เธอก็ได้พบกับดวงไฟหน้ารถที่คุ้นเคย
เป็นรถของสิงอี้
สิงอี้จอดรถไว้ที่ข้างถนน เธอเห็นเงาของเขาและซูโหยวได้อย่างเลือนรางผ่านแสงไฟสลัวจากไฟหน้ารถ
เริ่มแรกทั้งคู่ต่างฉุดกระชากลากจูงกันไปมา แต่สุดท้ายก็สวมกอดและจูบกัน
ซูหว่านยืนนิ่งแอบอยู่ใต้ต้นไม้ข้างถนน เธอจ้องมองคนทั้งสองคนที่กำลังจูบกันอย่างแนบแน่นในความมืด น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้มของเธออย่างเงียบๆ
เจ็บจังเลย เจ็บที่หัวใจ
เธอกัดริมฝีปากแน่นเพื่อห้ามไม่ให้เสียงร้องไห้เล็ดลอดออกมา สองมือของซูหว่านกำหมัดแน่น
ซูหว่าน ร้องไม่ได้นะ!
อย่าให้ใครเห็นเธอเป็นตัวตลก!
ซูหว่านรีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ และเริ่มเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง อาจจะเป็นเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เท้าซ้ายของเธอสะดุดเข้ากับก้อนหินและล้มลงกับพื้น หัวเข่าขาวเนียนปรากฏบาดแผลขึ้นในทันที เลือดและดินบนพื้นปะปนกัน
โชคไม่เคยมาคู่ เคราะห์ก็ไม่เคยมาเดี่ยว!
มองเห็นสิงอี้ขับรถจากไปกับซูโหยว ซูหว่านก็ยิ้มเยาะขึ้นมา…
พี่สาวที่แสนดีของฉัน พี่สาวผู้มีจิตใจงดงาม
สิงอี้กอดพี่จูบพี่ ฉันพอจะเข้าใจว่าจิตใจของพี่คงกระเจิดกระเจิง
แต่คนที่มีจิตใจงดงามอย่างพี่ ทำไมไม่ห่วงใยน้องสาวของตนเองเลยว่ากำลังอยู่ที่ไหน
หรือพี่ไม่ได้รับรู้เลยว่าน้องสาวของตนเองหายไป
“ฮ่า ฮ่าๆๆ”
ซูหว่านหัวเราะอย่างเย็นชาและคิดจะลุกขึ้น แต่ทั้งเท้าและขาปวดไปหมด ทำให้เธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
“อย่าเพิ่งขยับ คนดี!”
เสียงที่คุ้นเคยลอยมาจากทางด้านหลัง
ความตึงเครียดของซูหว่านก็คลายลงทันที
“เป็นคุณ?”
เธอหันศีรษะไปตามเสียง ภายใต้ความมืด ร่างสูงร่างหนึ่งเดินมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าของซูรุ่ยทะมึนลงเมื่อเห็นบาดแผลบนตัวของซูหว่าน แต่ในแววตานั้นกลับดูอ่อนโยนเป็นที่สุด “คนดี อย่าเพิ่งขยับ ผมจะช่วยคุณจัดการเอง สามีอย่างผมจัดการบาดแผลได้ยอดเยี่ยมที่สุด”
เมื่อเห็นซูรุ่ยทำความสะอาดบาดแผลของเธออย่างชำนาญ กระทั่งยังพันแผลให้เธอเป็นอย่างดี ซูหว่านนิ่งเงียบตลอด เธอเพียงจ้องมองใบหน้าและท่าทางที่จริงจังของชายหนุ่ม
คนคนนี้ ดูเหมือนไม่น่ารำคาญอย่างที่ตนเองคิดในตอนแรกนะ
แม้จะชอบพูดเอาเปรียบคนอื่น กระทั่งยัง…
เมื่อคิดถึงจูบในห้องทำงานนั่น ซูหว่านก็รู้สึกร้อนผ่าวบริเวณใบหน้าของตน เธอถูกเขาจูบ ถือว่าเธอเองก็ทรยศต่อสิงอี้หรือไม่
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จิตใจของซูหว่านก็วุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก่อนโลกของเธอนั้นโดดเดี่ยว โดดเดี่ยวจนไร้ซึ่งสีสัน
ต่อมาสิงอี้กลายเป็นโลกทั้งใบของเธอ แต่ตอนนี้ล่ะ
สิงอี้ไม่ต้องการเธอแล้ว เธอจะจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดอันเคว้งคว้างอีกครั้งเหรอ