ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนพิเศษ โลกใบนั้น (5)
“สวัสดีนักเรียนทุกคน ฉันซูรุ่ย เป็นครูสอนคณิตศาสตร์คนใหม่ของพวกคุณ”
ซูรุ่ยยิ้มและเขียนชื่อของตนบนกระดาน
“ว้าว! หล่อมาก!”
“ตัวหนังสือสวยจัง!”
เสียงชื่นชมดังขึ้นอีกครั้งในห้องเรียน โดยเฉพาะเซวียฮุ่ยที่นั่งอยู่ด้านหน้าของซูหว่าน ตอนนี้ดวงตาของสาวน้อยคนนี้กำลังลุกวาว…อปป้าขายาวสุดหล่ออะไรนั่น เดือนโรงเรียนโอวหยางมั่วอะไรนั่น ชิดซ้ายให้หมดเลย คุณครูซู คุณครูซูดูทางนี้เร็วค่ะ สาวน้อยตรงนี้น่ารักมาก
เก๊กหล่อเก่งจริงๆ
ซูหว่านเบะปาก หมุนปากกาในมือเล่นอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่ได้ปฏิเสธว่าชายคนนี้นั้นหล่อเหลาไร้ที่เปรียบ แต่ความหล่อมันกินไม่ได้นี่
เธอเป็นคนที่เชื่อในความเป็นจริงมาโดยตลอด ไม่เคยหลงไหลในรูปลักษณ์ลวงตา
เพราะฉะนั้น คุณเพื่อนนักเรียนซูเสี่ยวหว่าน คุณไม่เพียงแต่ไม่มีวัยเด็ก คุณยังไม่มีหัวใจแบบเด็กผู้หญิงอีกด้วย…
เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เข้าสอนในชั้นเรียน ซูรุ่ยจึงเช็กชื่อแต่ละคนด้วยรอยยิ้มไปหนึ่งรอบ จากนั้นจึงค่อยๆ เปิดหนังสือเรียนสอนทุกคน บทเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายเป็นเรื่องไม่ยากสำหรับแม่ทัพซูที่เคยเป็นดอกเตอร์มาหลายครั้งอยู่แล้ว
ซูหว่านจดบันทึกอย่างจริงจัง ตั้งแต่เขาเริ่มบรรยายอย่างเป็นทางการ แม้ว่าเธอจะได้เรียนบทเรียนเหล่านี้กับติวเตอร์ของเธอแล้วก็ตาม แต่ในฐานะที่เป็นนักเรียนหญิงหัวกะทิ การแสดงออกในชั้นเรียนของซูหว่านนั้นสมบูรณ์แบบ
เมื่อเทียบกับความจริงจังของซูหว่านแล้ว เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ดูเหมือนจะไม่เอาไหนมากกว่า มีพวกที่อ่านนิยายการ์ตูนอยู่ มีพวกที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ และยังมีเพื่อนร่วมชั้นหญิงกลุ่มใหญ่ที่ตั้งใจจ้องหน้าคุณครูซูด้วยสีหน้าเหม่อลอย…
หน้าตาดีมาก แค่ได้มองก็มีความสุขมากๆ แล้ว
[เสี่ยวหว่านหว่าน เธอดูสิ หล่อมากใช่ไหม]
ขณะที่เซวียฮุ่ยจ้องมองที่ซูรุ่ย เซวียฮุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความเล็กๆ บนกระดาษ ให้ซูหว่าน
หล่อ?
“ถึงจะหล่อ แต่ก็เป็นได้แค่คนโรคจิตที่หล่อ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน เซวียฮุ่ยก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “เสี่ยวหว่าน เธอรู้จักเขาเหรอ”
ต้องบอกก่อนว่า แม้บางครั้งเซวียฮุ่ยอาจจะดูซื่อบื้อเป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่บางครั้งสัญชาตญาณของเธอก็แม่นยำอย่างน่าสยดสยอง
“รู้จัก”
ซูหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาประโยคหนึ่ง
“อะไรนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน เซวียฮุ่ยก็อุทานออกมาทันที…
ซูหว่านเธอนี้ไม่มีสัจจะเอาสะเลย เธอถึงกับไปรู้จักผู้ชายหล่อขั้นเทพขนาดนี้อย่างลับๆ แล้วยังซ่อนมันไว้อย่างดีอีก!
“นักเรียนเซวียฮุ่ย!”
เสียงตะโกนของเซวียฮุ่ยในห้องเรียนดังขึ้นอย่างกะทันหันมาก ซูรุ่ยจำเป็นต้องหยุดการอธิบายในการแก้โจทย์ของเขา และหันกลับมามองสาวน่ารักๆ ที่นั่งอยู่ข้างหน้าซูหว่าน
“เอ่อ คุณครู หนู…”
“คุณดูกระตือรือร้นมาก”
ซูรุ่ยยิ้มให้เซวียฮุ่ย รอยยิ้มของแม่ทัพซูทำให้สาวน้อยตาลาย และพยักหน้าอย่างประหลาดใจ
“อืม ในเมื่อคุณกระตือรือร้นขนานนี้ มาแก้โจทย์ข้อนี้หน่อย”
“ค่ะ”
เซวียฮุ่ยลุกขึ้นยืนด้วยความงุนงงและมาที่กระดาน เมื่อหยิบชอล์กขึ้นมาและเห็นโจทย์บนกระดาน เธอก็เพิ่งกลับมารู้สึกตัว…
ให้ตายสิ นี่คืออะไร! ฉันทำไม่เป็น!
“คุณครูคะ หนู หนูทำไม่เป็นค่ะ”
เซวียฮุ่ยหันศีรษะ มองที่ซูรุ่ยอย่างน่าสงสาร คุณครู คุณครู เห็นหนูน่ารักขนาดนี้ อย่าดุหนูได้ไหมคะ
“ทำไม่ได้เหรอ”
ซูรุ่ยยิ้มและตบไหล่ของเซวียฮุ่ย “ถ้าทำไม่ได้ ก็ให้ออกไปข้างนอกแล้วคิดทบทวนเกี่ยวกับมันหน่อยนะ”
“ค่ะๆ”
คุณครูอ่อนโยนมาก! เซวียฮุ่ยคิดไปด้วยเดินไปด้วย และเมื่อเธอได้สติกลับมาถึงรู้ว่า ให้ตายสิ ที่แท้คือเธอถูกลงโทษ ให้ ยืน หน้า ห้อง!
ในเวลานี้ ห้องเรียนเงียบลงอีกครั้ง ดวงตาของซูรุ่ยก็วาบประกาย แล้วมองมาที่ซูหว่านโดยไม่ได้ตั้งใจ “นักเรียนซูหว่าน เมื่อกี้คุณกับเซวียฮุ่ยดูเหมือนจะคุยกันอย่างสนุกสนานเลยนะ คุณมาแก้โจทย์ข้อนี้แล้วกัน”
“ค่ะ”
ซูหว่านวางปากกาของเธอลงแล้วเดินไปที่หน้าชั้นเรียนอย่างรวดเร็ว หยิบชอล์กขึ้นมาและเริ่มแก้โจทย์โดยไม่ลังเล
ไม่ถึงนาทีก็แก้โจทย์ที่ถูกต้องได้ถูกข้อ แล้วยังถูกต้องทั้งหมดด้วย!
ภรรยาของฉันนี่เยี่ยมจริงๆ
แม่ทัพซูอดไม่ได้ที่จะหรี่ตา “นักเรียนซูหว่านเป็นนักเรียนหัวกะทิอย่างคาดไว้จริงๆ ดังนั้นจากนี้ไป คุณก็มาเป็นตัวแทนชั้นเรียนคณิตศาสตร์ของฉันแล้วกัน ขอให้เราร่วมมือกันอย่างมีความสุขนะ!”
ในขณะที่พูดอยู่ ซูรุ่ยก็เอื้อมมือไปหาซูหว่าน
มือใหญ่ที่เรียวและสะอาดอยู่ตรงหน้า
ซูหว่านเอียงศีรษะ ยกมืออันสวยเรียวของตัวเองขึ้นมา และแตะฝ่ามือของซูรุ่ยด้วยปลายนิ้วเหมือนแมลงปอแตะผิวน้ำ “ขอบคุณคุณครูสำหรับการสนับสนุนค่ะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ก็หันหลังและจากไปอย่างเฉยเมย
หึ
ซูรุ่ยยิ้ม “เอาล่ะ นักเรียนทุกคน มาดูโจทย์ข้อนี้กันดีกว่า…”
…………
การเรียนในหนึ่งวันผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว ในวันธรรมดาหลังเลิกเรียน ซูหว่านจะไปรอสิงอี้ที่ห้องสี่ แต่วันนี้ซูรุ่ยสั่งให้เธอเก็บกระดาษข้อสอบคณิตศาสตร์ในชั้นเรียนหลังเลิกเรียน และไปส่งให้เขาที่ห้องทำงาน ซูหว่านจึงทำได้แค่เอากระเป๋านักเรียนของตัวเองให้เซวียฮุ่ย และบอกให้เธอไปรอที่หน้าประตูห้องเรียนของสิงอี้ จากนั้นซูหว่านก็ยกข้อสอบกองหนึ่งไปที่ห้องสำนักงานหมวดวิชาคณิตศาสตร์
เวลานี้ ครูคนอื่นๆ ล้วนกลับไปหมดแล้ว ในตอนที่ซูหว่านเข้าประตูมา ซูรุ่ยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะของตนเอง ดึงแขนเสื้อขึ้น และตรวจการบ้านของเขาอย่างจริงจัง
“คุณครูซู”
ซูหว่านเคาะประตู และเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“มาแล้วเหรอ”
ซูรุ่ยเงยหน้าขึ้นเห็นร่างของซูหว่าน ก็อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้ม “เอาเอกสารวางไว้ตรงนี้เถอะ ผมกำลังจะเลิกงานพอดี ไปด้วยกันเถอะ ผมเลี้ยงอาหารค่ำคุณเอง”
ขณะพูด ซูรุ่ยก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมที่เขาวางไว้บนเก้าอี้ ประสบการณ์หลายครั้งที่ผ่านมาได้บอกกับแม่ทัพซูว่าสำหรับภรรยาเขาต้องใช้วิธีตื๊อเท่านั้น ตื๊อแบบไร้ยางอาย…
ซูหว่านของเราเป็นผู้หญิงที่กินไม้อ่อนไม่กินไม้แข็ง และเป็นหญิงสาวหน้านิ่งแต่ใจดีคนหนึ่ง
“ฉันมีนัดแล้ว คู่หมั้นของฉันเอง”
ซูหว่านพูดเน้นและเพิ่มประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างตั้งใจ
ในเซิ่งหมิง ความรักระหว่างครูและนักเรียนไม่ได้ถูกกีดกัน ในเมื่อลูกศิษย์ของเซิ่งหมิงล้วนเป็นลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงในเมืองอวิ๋น และครูในเซิ่งหมิงก็โดดเด่นมากเช่นกัน หากทั้งสองรักชอบกันจริงและครอบครัวทั้งสองไม่ได้กีดกัน ก็สามารถเป็นคู่รักและแต่งงานกันได้
แต่ว่า ซูหว่านไม่เชื่อในเรื่องเล่าเทพนิยายรักแบบนั้นแน่นอน
คนที่ไม่มีความปรารถนาและความเห็นแก่ตัวล้วนเป็นนักบุญ
แต่ไม่มีนักบุญอะไรในโลกใบนี้หรอก
“คู่หมั้นของคุณเหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยก็ยิ้มจางๆ เขารู้ว่าซูหว่านปฏิเสธการจีบของเขาอย่างสุภาพ
“คุณยังไม่ได้แต่งงานใช่ไหม ผมยังมีสิทธิ์ที่จะจีบคุณ ใช่ไหม”
ขณะพูด ซูรุ่ยก็สวมเสื้อคลุมและขยิบตาให้ซูหว่าน “ผมซื่อสัตย์จริงใจมากนะ”
ซื่อสัตย์จริงใจ?
“คุณชอบฉัน หรือคุณชอบที่จะเป็นลูกเขยตระกูลซู”
ซูหว่านมองลึกเข้าไปในดวงตาของซูรุ่ย ตั้งแต่เด็ก มีเด็กผู้ชายมากมายรายล้อมรอบตัวเธอ ทุกคนล้วนสนใจเรื่องเงินและฐานะของตระกูลซู
ไม่มีใคร ไม่มีใครเลยที่สนใจในตัวเธอ
มีผู้คนมากมายที่อิจฉาเสื้อผ้าหน้าผม อาหารการกิน และคนรอบตัวที่คอยสนับสนุนเธอ แต่ไม่มีใครเข้าใจความโดดเดี่ยวของเธอเลย
สิงอี้รุกรานเข้ามาในชีวิตของเธอเมื่อสองปีที่แล้ว ในฐานะนายน้อยคนโตของตระกูลสิง เขาไม่จำเป็นต้องเสียสละในเรื่องการแต่งงานนี้เลย แต่เขากลับตกหลุมรักซูหว่าน
นั่นเป็นวัยที่กำลังต้องการความรัก และเป็นครั้งแรกที่ซูหว่านรู้สึกจริงๆ ว่ามีใครบางคนกำลังรักเธอจากหัวใจ
แบบนี้หรือที่เรียกว่าชอบ แบบนี้หรือที่เรียกว่าความรัก
เธอไม่เข้าใจและไม่รู้ แต่เธอชอบนึกถึงความรู้สึกนั้น คิดถึงความอ่อนโยนของเด็กชายคนนั้น เธอบอกกับตัวเองว่าเธอต้องคว้าความรู้สึกนี้ไว้ นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่เธอเคยได้รับในชีวิตนี้
จนกระทั่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซูโหยวกลับมาที่บ้านตระกลูซู
สิงอี้เกือบจะเสียอาการตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นซูโหยว
ในเวลานั้น คนฉลาดอย่างซูหว่านรับรู้ได้เลยว่า…สิงอี้รู้จักซูโหยว
แม้แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ความอ่อนโยนและความเอาใจใส่ที่สิงอี้ที่มีให้กับตัวเอง เป็นเพียงเพราะเขาคิดว่าเธอเป็นตัวแทนของคนอีกคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ตัวแทน
ที่จริงแล้วเธอเป็นเพียงตัวแทนของซูโหยว
ซูหว่านเข้าใจเรื่องทั้งหมดนี้ แต่เธอไม่ยอมแพ้…
ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ซูหว่านที่ไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ เข้าใจดีว่าของที่ตัวเองอยากได้ ต้องสู้สุดชีวิตด้วยตัวเธอเองเพื่อให้ได้มันมา
ความรักก็เช่นกัน
เธอไม่อยากปล่อยมือเมื่อได้มันมาแล้ว เธออยากสู้เพื่อมัน ต่อให้ตาย เธอก็ต้องตายตาหลับ