ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนพิเศษ โลกใบนั้น (3)
ทุกวันก่อนนอนต้องเล่นเปียโน นี่คือความเคยชินของซูหว่าน
เพียงแต่เธอไม่รู้ว่า ค่ำคืนนี้ การเล่นเปียโนของเธอจะมีผู้ฟังเพิ่มอีกหนึ่งคน
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า หลังจากตกค่ำ จะมีแขกคนหนึ่งเพิ่มเข้ามาในห้องของเธอ
แม้ว่าการรับรู้จะถูกจํากัด แต่ซูรุ่ยก็หาห้องนอนของซูหว่านเจอได้อย่างแม่นยำ ความคุ้นชินในชีวิตประจำวันของคนคนหนึ่งนั้นยากปรับเปลี่ยน ซูรุ่ยและซูหว่านอยู่ด้วยกันมานาน นานมากจนเขาหลับตาก็สามารถหาตำแหน่งห้องที่เธอชอบเจอ
ในเวลานี้ ซูหว่านนอนหลับลึกมาก เธอสวมชุดนอนผ้าไหมสีดำ เธอเป็นเด็กสาวที่สวยและไร้เดียงสา แต่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือของตกแต่งในห้องนอนของเธอ ล้วนดูเย็นชาและเก็บตัว
แม้แต่หลังจากที่เธอหลับไป ใบหน้าเล็กๆ นั่นยังคงนิ่งเรียบ ดูไม่ออกเลยว่ามีความสงบสบาย
ซูรุ่ยยกมือขึ้นอย่างปวดใจ เขาจับมือเล็กๆ ของซูหว่านอย่างอ่อนโยน ค่อยๆ ป้อนพลังภายในที่อ่อนโยนเข้าสู่ร่างกายของเธอ
เด็กสาวในความฝันดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงไอร้อนอันอบอุ่นที่วนอยู่ในร่างกายของเธอ สีหน้าของเธอค่อยๆ ผ่อนคลายลง มุมปากที่เม้มแน่นค่อยๆ โค้งขึ้นอย่างสบายใจ
“นอนเถอะ ภรรยา ราตรีสวัสดิ์”
ซูรุ่ยโน้มตัวลงเบาๆ และจุมพิตซูหว่านอย่างระมัดระวังบนหน้าผาก จนถึงรุ่งสาง ซูรุ่ยถึงออกจากห้องนอนของซูหว่านอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วกลับไปยังห้องพักที่ซูโหยวจัดเตรียมไว้ให้ตนเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ซูหว่านลืมตาขึ้นมาแต่เช้า ไม่รู้ทำไม เมื่อคืนดูเหมือนเธอหลับสบายมาก
เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง ซูหว่านค่อย ๆ ลุกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ เมื่อเธอเปลี่ยนชุดนักเรียนเดินลงมาจากชั้นบน ก็เห็นซูโหยวกับคนคนหนึ่งกําลังนั่งโต๊ะยาวอยู่ในห้องรับประทานอาหาร
นั่นไม่ใช่…
เมื่อเจอหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะ ดวงตาซูหว่านเบิกกว้างทันที นั่น นั่นไม่ใช่ไอ้โรคจิตคนเมื่อวานเหรอ
“ซูโหยว!”
ซูหว่านจ้องไปยังซูโหยวด้วยดวงตาที่เย็นชาตรงโต๊ะอาหารทันที
“เสี่ยวหว่าน เธอตื่นแล้วเหรอ รีบมาทานข้าวได้แล้ว !วันนี้ซูรุ่ยทำอาหารเช้าให้เลยนะ ฝีมือเขาเยี่ยมยอดมาก!”
เมื่อพูดถึงอาหารเช้าที่ซูรุ่ยทำเอง ซูโหยวก็เอาแต่ชื่นชม แม่ทัพซูที่อยู่ข้างๆทำเพียงแค่มองดูภรรยาตนอย่างเงียบๆ
เขาทำอาหารเช้านี้เพื่อภรรยาโดยเฉพาะเลยนะ ในปีนั้นเขาลําบากขนาดไหนที่พยายามจะล่ามท้องเธอไว้!
“เห็นพวกเธอฉันก็เบื่ออาหารแล้ว”
ซูหว่านชำเลืองมองซูโหยวและซูรุ่ยปราดหนึ่ง “ซูโหยว ที่นี่คือบ้านของฉัน ขอความกรุณาเธออย่าเอาคนเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้อีก”
พูดจบ ซูหว่านก็เดินไปที่ประตูอย่างเย็นชา หยิบกระเป๋านักเรียนจากป้าจาง แล้วออกจากวิลล่าอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวหว่าน!”
เห็นท่าทีที่เย็นชาเหมือนเช่นเคยของซูหว่าน ซูโหยวก็กัดริมฝีปากอย่างอดไม่ได้ จากนั้นเธอก็หันไปอธิบายให้ซูรุ่ยฟังอย่างไม่รู้ตัว “ซูรุ่ย คุณอย่าไปใส่ใจเลยนะ เสี่ยวหว่านเขา….เอ๊ะ ซูรุ่ยล่ะ”
มองที่นั่งว่างเปล่าตรงข้ามตัวเอง ซูโหยวทำหน้าประหลาดใจ นี่มันบ้าอะไรกัน ทำไมซูรุ่ยหายไปในพริบตาเดียวได้
“คุณลงจากรถไปเลยนะ”
ในเวลานี้ บนรถจากัวร์ในลานวิลล่า ซูหว่านถือกระเป๋านักเรียนของเธอและมองดูผู้ชายที่จู่ๆ ก็กระโดดขึ้นรถด้วยสีหน้าที่ระแวดระวัง
“ผมนั่งไปด้วยคน”
ซูรุ่ยส่งยิ้มให้ซูหว่าน “คุณไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น ผมจะอยู่ห่างๆ คุณ ไม่แตะต้องคุณ โอเคไหม”
ได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็เหลือบมองเขาอย่างสงสัย “คุณจะไปไหน”
“คุณไปที่ไหน ผมก็จะไปที่นั่น”
ซูรุ่ยนั่งลงท่าทางเคร่งขรึม ตอบซูหว่านอย่างจริงจัง
ไอ้โรคจิตนี่ไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไรอีก ซูหว่านหรี่ตาลง สุดท้ายก็ไปนั่งอีกฝั่งของรถ แล้ววางกระเป๋านักเรียนไว้ตรงกลางระหว่างทั้งสองคน “ลุงหลิน ออกรถ ไปโรงเรียน”
“ครับ คุณหนูใหญ่”
ลุงหลินที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับได้ยินเสียงของซูหว่าน ก็รีบสตาร์ตรถอย่างชำนาญแล้วขับออกไปทันที
ถนนช่วงเช้าตรู่ สภาพการจราจรยังดีอยู่ ระหว่างทางไม่พลุกพล่านจนเกินไป ไม่นานรถก็มาถึงประตูโรงเรียนมัธยมเอกชนของซูหว่าน
“ฉันถึงแล้ว คุณรีบลงจากรถซะ”
ซูหว่านกอดกระเป๋านักเรียนลงจากรถ สายตายังคงมองซูรุ่ยอย่างไม่ลดละ
ถึงอย่างไรเธอยังคงเป็นเด็กอายุสิบหกปีที่ยังไม่รู้จักโลกดีพอ มองเธอดูมีท่าทางเหมือนเม่น ซูรุ่ยก็ยิ้มและลงจากรถ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองประตูโรงเรียนมัธยมปลายสีทองอร่าม ซูรุ่ยก็พูดไม่ออก โรงเรียนนี้มันช่างหรูหราอะไรขนาดนี้
“ลุงหลิน วันนี้เลิกเรียนแล้วไม่ต้องมารับฉันนะ ฉันมีนัดไปเที่ยวเล่นด้วยกันกับสิงอี้”
ในเวลานี้ซูหว่านอธิบายให้ลุงหลินฟังไม่กี่คำ ก็สะพายกระเป๋านักเรียนเข้าประตูโรงเรียนทันที
ขณะที่ซูหว่านเข้าไป ซูรุ่ยก็เดินตามซูหว่านเข้าไปอย่างมั่นอกมั่นใจ
“คุณผู้ชายท่านนี้”
เมื่อเห็นใบหน้าไม่คุ้นเคย ผู้รักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูโรงเรียนก็ขวางซูรุ่ยไว้ทันที “ตอนนี้เป็นเวลาเรียนของนักเรียน ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่พนักงานของโรงเรียนเข้าไปด้านใน โปรดให้ความร่วมมือ”
“อ๋อ งั้นเหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้รักษาความปลอดภัย ซูรุ่ยก็ยิ้มน้อยๆ “เรื่องนี้ จริงๆ แล้วผมมาสมัครงานที่นี่!”
สมัครงาน?
ได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ผู้รักษาความปลอดภัยก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ช่วงนี้ที่โรงเรียนไม่ได้ขาดแคลนครูนะ ตนเองก็ยังไม่เคยเห็นคําประกาศใดๆ เกี่ยวกับการจ้างครูเลย
“คุณผู้ชายครับ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า โรงเรียนมัธยมปลายเอกชนเซิ่งหมิงของพวกเราที่นี่ ไม่ได้ขาดแคลนครูสอนเลย”
สมกับเป็นผู้รักษาความปลอดภัยที่ฝึกมาเป็นอย่างดี เผยรอยยิ้มมีเสน่ห์และมีท่าทีนอบน้อมตั้งแต่ต้นจนจบ
“อ๋อ งั้นเหรอ”
นัยน์ตาซูรุ่ยวายประกาย เหลือบไปเห็นชายในชุดสูทกำลังลงจากรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกับถือตำราเรียนพอดี
“เขาเป็นครูของพวกคุณที่นี่ใช่ไหม”
ซูรุ่ยชี้ไปที่ชายคนนั้น
“ใช่ครับ นั่นคือคุณครูอวี๋ สอนวิชาคณิตศาสตร์”
“อ๋อๆ”
ซูรุ่ยหัวเราะยิ้มแล้วเดินไปหาคุณครูอวี๋ “คุณครูอวี๋?”
“หือ”
ครูอวี๋ได้ยินเสียงของซูรุ่ยก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย เมื่อเห็นผู้ชายท่าทางสง่าผ่าเผยคนนี้อยู่ข้างหน้าตน เขาก็คิดว่าเป็นผู้ปกครองของนักเรียนสักคนหนึ่งจึงแสดงรอยยิ้มแบบมืออาชีพทันที “สวัสดีครับ ผมชื่ออวี๋เจิ้ง ขออนุญาตถามว่าคุณคือ…”
“คุณครูอวี๋ ลำบากคุณแล้ว ต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ!”
ซูรุ่ยได้ยินคําถามของครูอวี๋ ก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วตบไหล่ของเขาพร้อมกับยิ้มและกระซิบ
“นี่…ผม…”
อวี๋เจิ้งยังไม่ทันพูดจบ ก็หมดสติ และล้มฟุบลงด้านข้าง
นี่…
ผู้คนพลันเข้ามามุงดูทันที “คุณครูอวี๋ ครูอวี๋คุณเป็นอะไรเหรอครับ”
“เขาทำงานหนักเกินไปจนต้องพักน่ะ”
ซูรุ่ยยิ้มแล้วเดินกลับไปหาผู้รักษาความปลอดภัยคนนั้นอีกครั้ง “คุณดูสิ ตอนนี้พวกคุณขาดครูคณิตศาสตร์ท่านหนึ่งแล้ว ผมรับประกันได้เลยว่าครูอวี๋ท่านนี้จะไม่ดีขึ้นภายในสามถึงห้าเดือนนี้ เพราะฉะนั้น ผมขอพบอาจารย์ใหญ่ตอนนี้เลยได้ไหม ผมมาสมัครงานจริงๆ นะครับ!”
ผู้รักษาความปลอดภัยหมดคำจะพูด
ให้ตายสิ วิธีสมัครงานแบบนี้มันจะบ้าบอเกินไปแล้ว ผู้รักษาความปลอดภัยตัวน้อยๆ อย่างผมไม่ขัดขวางคุณแล้วละนะ ผมไปรายงานและขอคำแนะนำจากหัวหน้าเลยดีกว่า!
“คุณผู้ชาย กรุณารอสักครู่นะครับ”
ผู้รักษาความปลอดภัยกลับมาที่ห้องรักษาความปลอดภัยและรายงานเหตุการณ์ลึกลับที่ตนพบในวันนี้ให้หัวหน้าทราบทันที หัวหน้ารีบไปขอคำแนะนำจากอาจารย์ใหญ่ หลังจากนั้นสิบนาทีร่างของซูรุ่ยปรากฏก็อยู่ในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่แล้ว
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ซูรุ่ยก็ได้รับการเรียกขานว่าเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ของโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนเซิ่งหมิง ชั้นเรียนที่เขารับผิดชอบคือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้าห้องหก
การกระทำของแม่ทัพซู ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม กำปั้นย่อมคือเหตุผลเสมอ
ภรรยาตัวน้อยไม่ต้องกังวล คุณครูซูของคุณมาแล้ว