ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนพิเศษ โลกใบนั้น (12)
ณ ห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ อาคารสำนักงานใหญ่
“บอส”
ในฐานะที่เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนคนใหม่ ความจริงแล้วซูเมิ่งจู๋กลัวบอสใหญ่อย่างสวีเช่อมากเป็นพิเศษ
สวรรค์คุ้มครอง ด้วยนิสัยเข็มงวดของบอสใหญ่! และตนเองก็เหมือนเป็ดที่ถูกบีบให้ขึ้นคอน ถูกบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้! นับตั้งแต่ที่บอสใหญ่คนนี้มารับตำแหน่ง หลังจากการปฏิรูปแต่ละแผนกแล้ว พนักงานอาวุโสหลายคนก็ออกไป หลายคนลางาน โดยเฉพาะแผนกทำลายเขตแดน เยี่ยซิน เกษียณไปเที่ยวต่างโลกแล้ว ส่วนติงจยาจยาที่ชอบสร้างความวุ่นวายไม่มีความน่าเชื่อถือคนนั้นก็กลับไม่ยอมรับหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนกคนใหม่ สุดท้ายของสุดท้าย คนที่มาทีหลังอย่างตนเองก็กลายมาเป็นหัวหน้าแผนกคนใหม่อย่างสับสนงุนงง
“ซูเมิ่งจู๋เหรอ”
เมื่อได้ยินเสียงซูเมิ่งจู๋ผู้ชายที่นั่งบนเก้าอี้หมุนได้ก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ใบหน้างดงามหมดจด สง่างามอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้
ซูเมิ่งจู๋งุนงงสับสน ที่แท้เสียงที่ได้ยินคือของจริง! บอสใหญ่สวีเป็นเทพบุตรในหมู่เทพบุตรจริงๆ!
“แฮ่ม อืม คือฉัน ฉัน ฉันคือซูเมิ่งจู๋!”
ซูเมิ่งจู๋เอาเอกสารในมือตนเองวางไว้บนโต๊ะของสวีเช่อด้วยความตื่นเต้น “นี่ นี่คือสรุปการทำงานที่แผนกทำลายเราทำสำหรับไตรมาสนี้ค่ะ”
“อ้อ วางไว้ตรงนี้แหละ”
สวีเช่อพยักหน้า ก้มหน้ามองเอกสารบนโต๊ะตัวเองต่อไป
ซูเมิ่งจู๋นิ่งงัน…
ตื่นเต้นจังเลย นี่ฉันควรจะออกไปเลยดี หรือยืนรอต่อไปจนเจ้านายทำงานเสร็จ แล้วค่อยรับคำสั่งดีนะ
ขณะที่เธอกำลังสับสนอยู่นั้นเอง ประตูห้องของบอสใหญ่ก็ถูกคนผลักเปิดอีกครั้ง หญิงสาวชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างร่าเริง “นายน้อย ฉันกลับมาแล้วค่ะ!”
เซวียนหยวนสือทุกครั้งที่กลับมาจากอีกโลกหนึ่งจะต้องมารายงานตัวกับสวีเช่อที่นี่ด้วยความเคยชิน แม้ว่าเขาจะมารับตำแหน่งของชีเย่ว์ เป็นบอสใหญ่ที่สำนักงานใหญ่แล้วก็ตาม เธอก็ยังทำตามความเคยชินของตัวเองต่อไป ไม่เปลี่ยนแปลง
ใครต่างก็บอกว่าฝึกบำเพ็ญเพียรไร้กาลเวลา ที่ในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับเวลานั้นยิ่งเลือนราง
ในช่วงหลายปีมานี้ เซวียนหยวนสือได้สัมผัสกับโลกที่แปลกประหลาดมาหลายต่อหลายแห่งแล้ว ได้พบเจอผู้คนมากมายหลากหลายแบบ แต่เธอก็ยังรักษาความรู้สึก ความตั้งใจ ที่จะติดตามนายน้อยอยู่เช่นเดิม
ตอนที่ได้ยินเสียงเสี่ยวสือ สวีเช่อก็ปิดเอกสารในมือ เงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างน้อยครั้งที่จะได้เห็น “ครั้งนี้ทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ”
“เฮ้อ อย่าพูดถึงเลยค่ะ”
เซวียนหยวนสือเดินมาข้างๆ สวีเช่อ นั่งบนโต๊ะทำงานเขาอย่างเคยชิน “นายน้อย ฉันจะบอกคุณให้นะ ครั้งนี้ตอนที่ฉันเพิ่งไปถึงโลกนั้น ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไร บั๊กที่ทำลายกฎระเบียบของโลกก็ถูกผู้คุมกฎแห่งห้วงมิติคนหนึ่งจัดการและกำจัดไปแล้ว ผู้คุมกฎคนนั้นเก่งมากจริงๆ ฉันรู้สึกว่าเขาอันตรายเกินไป ฉันจึงไม่กล้าอยู่ที่โลกนั้นนาน อย่างไรภารกิจก็สำเร็จแล้ว ฉันเลยกลับมา แต่ครั้งนี้ฉันเอาของดีมาฝากคุณด้วย! คุณดูสิ!”
เซวียนหยวนสือพูดพลางก็หยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากในกระเป๋าของตัวเองพลาง มีกลิ่นหอมหวานมากเป็นพิเศษแผ่กระจายออกมาจากในกล่องนั้น
คือขนมเค้ก!
ซูเมิ่งจู๋ที่ถูกเมินเฉยอยู่ข้างๆ มานานแล้วแอบสูดจมูก หอมจังเลย! เป็นขนมเค้กที่อร่อยเป็นพิเศษแน่นอน!
เอ่อ แต่นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ!
ประเด็นสำคัญคือ…บอสสวีเขาชอบกินของหวานด้วยเหรอ!
โอ้มายก็อด ตัวเองมาล่วงรู้ความลับแบบนี้จะถูกฆ่าปิดปากหรือเปล่านะ! ว้าย!
“บอส บอส ฉัน…ฉันไปได้หรือยังคะ”
ซูเมิ่งจู๋ที่อยากจะออกไปให้พ้น ยกมือขึ้นอย่างน่าสงสาร พูดด้วยเสียงกระซิบเบาๆ
เอ่อ
เวลานี้เอง เซวียนหยวนสือจึงรู้สึกตัวได้ว่าที่แท้ภายในห้องนี้ก็ยังมีใครอีกคน!
“นายน้อย นี่คือ…”
มองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจมาก เซวียนหยวนสืออดไม่ได้ที่จะมองซูเมิ่งจู๋ตรงหน้าด้วยท่าทางแปลกใจ
“เธอคือหัวหน้าแผนกคนใหม่ของแผนกทำลายเขตแดน ซูเมิ่งจู๋”
สวีเช่อรู้นิสัยของเซวียนหยวนสือดี อย่ามองว่าเธอเย็นชา เย่อหยิ่ง ความจริงแล้วตัวตนที่แท้จริงของผู้บำเพ็ญเพียรล้วนเป็นคนดีมีศีลธรรม ความคิดบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เธอไม่ได้เย็นชาจริงๆ เธอแค่ไม่เคยชินกับการมีปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าเท่านั้น
โดยเฉพาะตอนที่เธอเพิ่งมาที่ห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ ตอนเริ่มแรกที่ไปทำภารกิจ เธอทำเรื่องน่าขำไว้มากมายที่โลกแห่งเทคโนโลยีขั้นสูงพวกนั้น ตอนนั้น ทุกภารกิจสวีเช่อต้องคอยจับตามองอยู่ในแผนกโลจิสติกส์เพราะกลัวว่าเซวียนหยวนสือจะสร้างความวุ่นวายอะไร
ต่อมา เพียงแค่พริบตาเดียวหลายปีผ่านไป ดูเหมือนว่าสวีเช่อจะคุ้นชินกับชีวิตแบบนี้แล้ว เขาในตอนนี้แม้จะเป็นบอสใหญ่ แต่เวลาที่เธอออกไปทำภารกิจ เขาก็ยังคงตรวจสอบบันทึกการทำภารกิจของเธออย่างอดไม่ได้
……
ที่แท้ก็หัวหน้าแผนกทำลายเขตแดนคนใหม่!
เวลานี้ ได้ยินคำพูดของสวีเช่อ เซวียนหยวนสือก็ยิ้มให้กับซูเมิ่งจู๋ด้วยสีหน้าท่าทางดีใจ “ซูเมิ่งจู๋เหรอ นามสกุลเหมือนเสี่ยวหว่านเลย บังเอิญจริงๆ! ใช่แล้ว ติงจยาจยาล่ะ คุณจัดการเธอได้ยังไง เธอเก่งมากเลยนะ!”
ซูเมิ่งจู๋พูดไม่ออก…
น้องสาวคุณกำลังพูดอะไรอยู่ ฉันฟังไม่เข้าใจเลย หรือว่าคุณมีความแค้นอะไรกับติงจยาจยา
“ฉัน ฉันก็ไม่ได้เก่งมาก คือพวกผู้อาวุโสให้ฉันเป็น ฉัน ฉันไปก่อนนะคะ”
ขณะที่พูด ซูเมิ่งจู๋ก็หมุนตัววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งวิ่งออกมาจากห้องทำงานแล้ว ซูเมิ่งจู๋จึงเข้าใจกระจ่างขึ้นมาทันที...
ผู้หญิงชุดดำ! ชุดดำ…โอ๊ย หรือว่าผู้หญิงคนเมื่อกี้จะเป็นแฟนในคำเล่าลือกันของบอสสวี
ดูท่าทางน่ารักไร้เดียงสา พวกผู้อาวุโสพวกนั้นต่างบอกว่าเธอน่ากลัว ไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้นเลย
เฮ้อ โลกของชนชั้นสูงมันซับซ้อนจริงๆ เลยนะ
หลังจากซูเมิ่งจู๋ไปแล้ว เซวียนหยวนสือจึงหันหน้ากลับมา มองสวีเช่ออย่างแปลกใจ “นายน้อย ฉันน่ากลัวมากเลยเหรอ ทำไมเหมือนเธอกลัวมากเลย”
สวีเช่อค่อยๆ คลี่ยิ้ม ยกมือขึ้นมาหยิบกล่องขนมหวานในมือของเซวียนหยวนสือกล่องนั้นไป “เธอก็แค่ตื่นเต้นมากเกินไป ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอก ผมดูหน่อยสิว่าครั้งนี้คุณเอาของอร่อยอะไรกลับมาให้ผม”
พูดพลาง สวีเช่อเปิดกล่องเล็กๆ นั้นออกแล้ว ข้างในคือเค้กสายรุ้งที่รูปทรงสวยงามชิ้นหนึ่ง
“นายน้อย คุณดูสิน่าตกใจมากเลยใช่ไหม นี่คือใช้วัตถุดิบพิเศษจากโลกนั้นทำออกมา คุณไม่สามารถหากินได้จากที่อื่นนะ!”
พูดมาถึงตรงนี้ เซวียนหยวนสือรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองเป็นพิเศษ เธอเป็นทายาทของตระกูลเซวียนหยวน แม้จะถูกทอดทิ้ง แต่เธอยังคงควบคุมกฎแห่งกาลเวลาที่หายากที่สุดได้ ทั้งยังสามารถแปลงเป็นภาชนะสำหรับจัดเก็บช่องว่างมิติได้อีกด้วย
ทั่วทั้งห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ นอกจากบอสใหญ่ที่มีอำนาจสูงสุดแล้ว ก็มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่สามารถนำสิ่งของใดๆ จากโลกอื่นกลับมาได้
อีกทั้งยังไม่ได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์แห่งมิติเวลาด้วย
คิดถึงว่าตอนนั้นที่เพิ่งจะถูกสวีเช่อพากลับมายังห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ เซวียนหยวนสือเองก็เคยอับจนหนทางไม่รู้จะทำอย่างไรดี ต่อมาเมื่อเธอได้เป็นเชฟที่ทำเค้กในโลกแห่งหนึ่ง เธอก็หลงใหลในความสวยงามน่ารักทั้งยังหอมหวานอย่างหาที่เปรียบมิได้ของขนมเค้กเหล่านั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
สิ่งของพวกนี้ไม่มีอยู่ที่แผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์
จนกระทั่งตอนนี้เซวียนหยวนสือยังจำได้ว่าตนเองมาจากในโลกใบนั้น ตอนที่เอาขนมที่ตนเองทำชิ้นแรกในชีวิตและเก็บรักษามาตลอดวางลงตรงหน้าสวีเช่อ เขายิ้มบางๆ มองสายตาแบบนั้นของตนเอง
“เสี่ยวสือเก่งมาก คุณทำอร่อยมาก”
มองสวีเช่อกินขนมหวานที่ตนเองทำหมดไม่เหลือสักนิดเดียว นับตั้งแต่นี้เซวียนหยวนสือ ก็เดินอยู่บนถนนที่ไม่มีวันหวนกลับเพื่อรวบรวมของหวานในมิติต่างๆ ไปพลางทำภารกิจไปพลางแล้ว
น่าสงสารบอสสวี ที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้ชอบกินของหวานเลย! เฮ้อ!
แต่ทุกครั้งที่เห็นสายตาเป็นประกายของเสี่ยวสือ มองตอนเองด้วยแววตาคาดหวัง สวีเช่อก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจริงๆ
โดยเฉพาะ ตอนที่เขาเปิดดูบันทึกการทำภารกิจพวกนั้น เห็นเธอเข้าไปทำภารกิจแต่ละครั้ง ไม่ว่าสถานะจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เธอจะเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อเก็บข้อมูลเค้กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นให้ตัวเอง
สิ่งเหล่านี้ สวีเช่อล้วนมองเห็น
และสิ่งเหล่านี้ เซวียนหยวนสือไม่เคยเป็นฝ่ายมาบอกเขาเลย…
“นายน้อยคุณดูสิเค้กนี้แปลกมากเลยนะคะ ฉันแวะซื้อก่อนหน้าที่จะกลับมา!”
ความจริงแล้ว เค้กชิ้นนั้นเธอต้องใช้เวลานานใช้สารพัดวิธีกว่าจะขอมาจากเชฟทำขนมชั้นยอดในโลกภารกิจแห่งหนึ่งมาได้
เค้กจะอร่อยหรือไม่ สำหรับสวีเช่อแล้วไม่สำคัญ
แต่ว่า น้ำใจของเสี่ยวสือเขาไม่อาจใจร้ายปฏิเสธได้
ต่อให้เป็นเค้กที่แปลกประหลาดมาก เขาก็จะกินให้หมดอย่างมีความสุข จากนั้นจะบอกกับเธอว่า รสชาติอร่อยมากเลย!
ก็กินไปเรื่อยๆ แบบนี้ กินมาหลายปีแล้ว สวีเช่อก็พบว่าตนเองดูเหมือนจะชอบของหวานเข้าให้แล้ว ชอบเค้กเข้าแล้ว
ไม่ จะพูดให้ถูกต้องก็คือ เขาเพลิดเพลินกับความรู้สึกแสนหวานแบบนั้น
บนโลกนี้มีคนอย่างนั้นอยู่คนหนึ่ง คนที่ติดตามคุณโดยไม่เจ็บแค้น ไม่มีการเสียใจภายหลัง เสียสละเพื่อคุณ เธอทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่เธอจะไม่พูดต่อหน้าคุณเพื่อเอาความดีความชอบให้ตนเองแม้แต่คำเดียว…
“เสี่ยวสือ”
หลังจากินเค้กหมดแล้ว สวีเช่อก็เงยหน้ามองเซวียนหยวนสือ “พรุ่งนี้ผมจะไปมิติจักรกล คุณจะไปด้วยไหม”
มิติจักรกล คือมิติที่เต็มไปด้วยหุ่นยนต์ และครอบครัวของซูหว่านกับซูรุ่ยก็อาศัยอยู่ที่นั่น
“นายน้อย คุณจะไปหาเสี่ยวหว่านกับซูรุ่ยหรือเปล่าคะ อืม จะว่าไปแล้วฉันก็ไม่ได้เจอพวกเขานานแล้ว ลูกของพวกเขาต่างก็แต่งงานไปหมดแล้วสินะ น่าอิจฉาพวกเขาจริงๆ โลกใบนั้นสนุกมากเป็นพิเศษ คนยังสามารถเลือกร่างเครื่องจักรได้ ไม่มีวันแก่ ความรู้สึกที่คนในครอบครัวอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตมันดีจริงๆ”
ใช่แล้ว ไม่มีวันแก่ไม่มีวันดับสูญ ฟังแล้วน่าสนใจมาก แต่ถ้าข้างกายเราไม่มีคนที่รัก ไม่มีครอบครัวของตัวเอง ต่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ชั่วนิจนิรันดร์แล้วยังไง
บางที ชีเย่ว์ก็อาจจะมองเห็นจุดนี้ เขาจึงไปจากห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญไป เขาเนรเทศตัวเองออกไป แต่ไม่รู้ว่าเขาตามหาความสุขของตัวเองในทะเลอันกว้างใหญ่ได้แล้วหรือยัง
“นายน้อย ฉันยังไม่ทันได้เตรียมของขวัญเลยนะ นี่ฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ”
เวลานี้เองเซวียนหยวนสือเริ่มกระวนกระวายใจแล้ว ตนเองไปมือเปล่าจะเสียมารยาทเกินไปหรือเปล่า หรือว่าตนเองจะเอาเคล็ดลับในการฝึกบำเพ็ญเพียรของตนเองให้คุณชายน้อยซูดี โอ้ย ถ้าซูรุ่ยรู้เข้าจะมาเล่นงานตัวเองแน่!
เซวียนหยวนสือกำลังแอบเศร้าใจ ทันใดนั้นสวีเช่อที่อยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นยืน ใช้แขนสองข้างของตนเองโอบรอบร่างเล็กๆ ของเธอเอาไว้เบาๆ “ผมเตรียมของขวัญเพื่อเป็นการทักทายที่ดีที่สุดไว้แล้ว พวกเขาต้องชอบแน่”
“นายน้อย?”
เซวียนหยวนสืออึ้งอยู่กับที่ มองสวีเช่ออย่างงุนงง
ส่วนสวีเช่อแค่ยิ้มบางๆ ให้เธอเหมือนอย่างที่ผ่านมา
ถ้าหากมีใครสักคน คอยอยู่เป็นเพื่อนคุณเงียบๆ มานานหลายปี ทำให้คุณรู้สึกว่าตนเองมีความสุขมาก อย่างนั้น ก็ขอให้คุณทะนุถนอมเธอเอาไว้ให้ดี
ความรักที่สวยงามที่สุดบนโลกใบนี้ ไม่ใช่ความรักที่ผ่านความเป็นความตายอยู่เป็นนิรันดร์ แต่เป็นการเสียสละอย่างเงียบๆ ที่ไม่มีความแค้นหรือเสียใจภายหลัง
ซูหว่าน ผมกับคุณอาจจะเป็นคนประเภทเดียวกัน
พวกเราเคยชินกับการถูกกระตุ้น ไม่มีใครยอมที่จะก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นพวกเราจึงถูกกำหนดให้ผิดพลาด
แต่ซูรุ่ยและเสี่ยวสือกลับเป็นคนอีกประเภท ที่เมื่อตั้งใจแน่วแน่แล้วก็จะไม่ยอมแพ้ไปตลอดชีวิต เมื่อพบกับคู่ชีวิตเช่นนี้ ทั้งคุณและผม ก็โชคดีไปสามชาติ