ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนพิเศษ โลกใบนั้น (10)
ซูหว่านยังคงมาโรงเรียนตามปกติ พอเข้าห้องเรียนก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศวันนี้ผิดปกติเล็กน้อย
“เสี่ยวหว่าน อาหารเช้าของเธอ”
เซวียฮุ่ยที่วันนี้มาถึงเร็วกว่าซูหว่านยิ้มร่าพลางชี้ไปยังอาหารเช้าร้อนๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะซูหว่าน “เทพบุตรส่งมาให้! คงไม่ใช่ว่าเทพบุตรทำด้วยตัวเองหรอกนะ”
หือ
ได้ยินคำพูดของเซวียฮุ่ย ซูหว่านจึงสังเกตเห็นว่ามีข้าวกล่องวางอยู่บนโต๊ะตัวเองหนึ่งกล่อง ยังมีกลิ่นหอมฟุ้ง หอมมาก
“คือ…เขาส่งมาเหรอ”
มิน่าเล่าวันนี้บรรยากาศในห้องเรียนถึงแปลกขนาดนี้
ซูหว่านกลับไปนั่งลงบนที่นั่งของตนเอง เซวียฮุ่ยยิ้มร่าโน้มตัวมาแล้ว “เสี่ยวหว่าน เสี่ยวหว่าน เธอกับเทพบุตรของฉัน เอ๊ะ ฉันหมายถึงเธอกับคุณครูซู…”
พูดพลางเซวียฮุ่ยยิ้มร่าทำมือเป็นรูปหัวใจ “พวกเธอสองคนกำลังมีความรักใช่ไหม”
มีความรักเหรอ
ซูหว่านตกใจเล็กน้อย มีความรักน่าจะเป็นความรู้สึกแบบไหนล่ะ
อยู่กับสิงอี้ด้วยกันสองปี ความจริงพวกเขาต่างก็น่าเบื่อ สิงอี้ให้อภัยเธอได้ เป็นห่วงเธอ ซูหว่านก็รู้สึกว่าตนเองพึงพอใจมากแล้ว
แต่ตอนนี้…
ซูหว่านหลุบตาลงยิ้ม “เซวียฮุ่ย เธอพูดบ้าอะไร ฉันมีแฟนแล้วนะ!”
“เธอหมายถึงสิงอี้เหรอ”
พูดถึงสิงอี้ เซวียฮุ่ยอดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก “เมื่อวานฉันไปเร็ว แต่ฉันก็ไม่ได้ตาบอด ไม่ว่าใครก็มองเห็นว่าเขายักคิ้วหลิ่วตากับซูโหยว ต่างมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน เจ้าชู้หลายใจแบบนี้ เธอควรจะทิ้งเขาไปได้แล้ว เธอดูสิว่าคุณครูซูของฉันเก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋น แล้วยังทำอาหารเป็น เป็นสามีที่เพียบพร้อมจริงๆ! อู้หู พูดแล้วฉันก็อิจฉาเธอจัง”
อิจฉางั้นเหรอ
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองบรรดาเพื่อนผู้หญิงซึ่งกำลังล้อมวงซุบซิบกันอยู่ไม่ไกล พวกเธอก็กำลังอิจฉาเหรอ
พอนึกมาถึงตรงนี้ อารมณ์ของซูหว่านก็ดูเหมือนจะยิ่งมีความสุขขึ้นแล้ว ข้าวกล่องที่ซูรุ่ยส่งมาให้ก็ถูกเธอกินจนเกลี้ยง จะว่าไปแล้ว รสชาติดีมากจริงๆ เป็นรสชาติที่เธอชอบ
ดังนั้น ก็เหมือนกับที่เขาบอก เขารู้จัก เข้าใจเธอดีกว่าใครทั้งนั้น เขาก็คือ…
เห็นซูหว่านหลบอยู่ตรงที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวแววตาเป็นประกาย เซวียฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ ก็โน้มตัวไปอีกทันที “เสี่ยวหว่านหว่าน เธอบอกมาว่าเธอหวั่นไหวแล้ว ใช่หรือเปล่า ฉันบอกแล้วว่าสิงอี้ ไม่ใช่เนื้อคู่เธอ! แหม ฉันนี่ก็ตาแหลมจริงๆ สุดยอดเลย!”
สิงอี้…
ได้ฟังคำพูดของเซวียฮุ่ย รอยยิ้มที่มุมปากซูหว่านค้างไปครู่หนึ่ง “เซวียฮุ่ย เธอยังจำเมื่อสามปีก่อนที่พวกเราไปเที่ยวที่ชานเมือง B แล้วพบกับคนได้รับบาดเจ็บคนนั้นโดยบังเอิญได้หรือเปล่า”
“สามปีก่อนเหรอ”
ได้ยินคำพูดของซูหว่าน เซวียฮุ่ยขมวดคิ้วนึกอยู่นานพักใหญ่ “คนที่มีเลือดโชกไปทั้งตัวอยู่ที่ตีนเขาคนนั้นเหรอ”
ตอนนี้มานึกดูแล้วก็น่ากลัวมากเลย
“ที่แท้เธอก็จำได้จริงๆ”
มุมปากซูหว่านยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ…
สิงอี้ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราเคยเจอกันแล้วเมื่อสามปีก่อน
นายคิดเองมาตลอดว่าซูโหยวเป็นคนช่วยนาย
แต่นายไม่รู้ว่าฉันเป็นคนเข้าไปปฐมพยาบาลฉุกเฉินให้นาย และฉันก็เป็นคนโทรเรียกรถพยาบาลด้วย
“เสี่ยวหว่าน ทำไมจู่ๆ ก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ”
เซวียฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ยังงงๆ เธอกับซูหว่านรู้จักกันมานานแล้ว เมื่อสามปีก่อนทั้งสองคนไปปีนเขาที่เมือง B ด้วยกัน ผลปรากฏว่าไปพบกับคนที่มีเลือดโชกไปทั้งตัวอยู่ที่นอกป่าใกล้เชิงเขา
คิดมาถึงตรงนี้ เซวียฮุ่ยยังต้องยกย่องความกล้าหาญของซูหว่าน คนนั้นน่ากลัวมากเรียกได้ว่าใกล้จะตายแล้ว ซูหว่านกลับกล้าเข้าไปช่วยเหลือเขา แล้วยังห้ามเลือดตรงบาดแผลที่อันตรายที่สุดให้เขาด้วย
ต่อมาก็เป็นซูหว่านที่โทรเรียกรถพยาบาล หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าคนนั้นไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว ทั้งสองคนถึงจากไป
ความจริงแล้วเซวียฮุ่ยคิดมาตลอดว่าไม่คุ้มค่า ที่เสี่ยวหว่านช่วยคนข้างทางอย่างเต็มกำลังความสามารถขนาดนั้น แม้แต่โอกาสที่จะได้รับคำขอบคุณจากคนคนนั้นยังไม่มี
แม้แต่ช่วยคนยังเยือกเย็นขนาดนั้น สมแล้วที่เป็นเสี่ยวหว่านเพื่อนฉัน…
เฮ้อ โลกของเทพธิดาผู้รักการเรียน คนที่ไร้สาระไปวันๆ อย่างฉันไม่มีทางที่จะเข้าใจได้เลย
หลายคนต่างบอกว่าซูหว่านเย่อหยิ่งทระนงตัวเป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจ แต่ที่เซวียฮุ่ยเห็นกลับเป็นซูหว่านที่จิตใจดีมากเป็นพิเศษเป็นที่พึ่งน่าเชื่อถือมากเป็นพิเศษ
ดังนั้นเสี่ยวหว่านหว่านที่เป็นคนดีขนาดนั้น ย่อมคู่ควรกับเทพบุตรซูผู้เพียบพร้อมของพวกเราแล้ว
สำหรับสิงอี้ที่เจ้าชู้หลายใจคนนั้น จะไปตายที่ไหนก็ช่าง…
ชีวิตในโรงเรียนสำหรับซูหว่านเดิมก็น่าเบื่อมากอยู่แล้ว แต่นับจากที่ซูรุ่ยปรากฏตัวในห้องเรียน ซูหว่านก็รู้สึกว่าชั้นเรียนที่เดิมน่าเบื่อก็น่าสนใจขึ้นมามากทันทีเลย
ความรู้สึกแบบนี้มันวิเศษจริงๆ เธอโตมาขนาดนี้แล้ว เป็นครั้งแรกที่รู้ว่ามีความรู้สึกบางอย่าง เรียกว่าความห่วงหาอาทร
หลังจากเลิกเรียน ซูหว่านหยิบกระดาษข้อสอบไปที่ห้องทำงานของซูรุ่ยเช่นเดียวกับเมื่อวาน ครั้งนี้ซูรุ่ยทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว สวมเสื้อโค้ตรอซูหว่านอยู่หน้าประตู “แล็ปท็อปเมื่อคืนหายไปแล้ว ผมต้องไปซื้อใหม่อีกเครื่อง คุณไปเป็นเพื่อนผมนะ อืม ครั้งนี้ผมรูดบัตร!”
ขณะที่พูดซูรุ่ยก็โบกบัตรธนาคารที่เพิ่งทำมาใหม่ในมือ
“ที่แท้คนที่อยู่คนละมิติก็สามารถข้ามมิติมาทำบัตรธนาคารได้ด้วย เอาบัตรประชาชนมาให้ฉันดูหน่อยสิ!”
ซูหว่านพูดพลางเชิดคางขึ้นพร้อมยิ้มบางๆ ยกมือเล็กๆ ขึ้นโบกไปมาตรงหน้าซูรุ่ย
แม่ทัพซูชะงักงัน…
ใช่แล้ว! ตนเองจะอธิบายอย่างไรดี หรือจะบอกว่าบัตรประชาชนเป็นสิ่งที่สวีเช่อช่วยตัวเองทำออกมาดี
“อะแฮ่ม นี่ไม่ใช่ของผมเอง เป็นของเพื่อน เพื่อนช่วยผมทำ”
ซูรุ่ยไม่อยากโกหกซูหว่าน วันนี้ก็ทำได้เพียงตอบอย่างคลุมเครือ
“นายยังมีเพื่อนอีกเหรอ ทำไมฉันไม่รู้เลย ใครเหรอ”
เวลานี้เอง ซูหว่านมองเห็นแววตาของซูรุ่ยก็ค่อยๆ เกิดความสงสัยขึ้นมา
“คือสวีเช่อ ก็สวีเช่อคนที่ผมเคยบอกคุณคนนั้นไง!”
เห็นสีหน้าคนรักของตัวเองไม่สู้ดีนัก แม่ทัพซูผู้เป็นทาสภรรยาก็ยอมแพ้ทันที “สวีเช่อความจริงแล้วเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของผม อืม เพื่อนร่วมงานในอนาคต ต่อไปผมกับคุณก็จะทำงานที่เดียวกันกับเขา แต่ว่าเขาคนนั้น…เขา…”
“เขาชอบ…ฉันเหรอ”
ซูหว่านเชื่อโยงไปถึงคำบอกเล่าครั้งก่อนของซูรุ่ย ถามหยั่งเชิงทันที
“เปล่า ไม่ใช่ เขาจะชอบคุณได้ยังไง” ซูรุ่ยได้ยินคำพูดของซูหว่านก็ปฏิเสธทันที ศัตรูหัวใจอะไรกันน่ารังเกียจที่สุด
“อ้อ เขาไม่ได้ชอบฉัน หรือว่าเขาชอบนาย”
ซูหว่านหรี่ตามองซูรุ่ยด้วยสีหน้าทะเล้น
ซูรุ่ยหมดทางถอย…
“ใช่ครับ เขาชอบคุณ แต่คุณจะไปชอบเขาได้ยังไง!”
“ไม่นะ ฉันคิดว่าคุณครูสวีดีมาก รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ที่สำคัญคือปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างอ่อนโยน”
ซูหว่านนึกถึงสวีเช่อในความทรงจำของตัวเอง คนคนนั้นดูแล้วสูงส่ง อ่อนโยนเป็นพิเศษ
ได้ยินซูหว่านเอ่ยชื่นชมสวีเช่อไม่หยุดปาก ซูรุ่ยก็ตื่นตระหนกทันที เขาก้าวไปข้างหน้ายื่นมือไปคว้าตัวซูหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตนเอง “ภรรยา ความจริงแล้วผมก็อ่อนโยนมากนะ แล้วก็ คุณไม่คิดว่าผมหน้าตาหล่อกว่าสวีเช่อเหรอ”
เห็นซูรุ่ยสีหน้าท่าทางร้อนใจ ซูหว่านก็เม้มปากยิ้มอย่างอดไม่ได้ คนคนนี้ ช่างน่าสนใจจริงๆ
หรือว่ารู้สึกไม่สบายใจเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำนี้
นี่ ถึงจะเป็นความรักเหรอ
ซูหว่านเก็บความคิดเอาไว้ ออกแรงดิ้นหลุดออกมาจากอ้อมอกเขา “นายหล่อ นายหล่อที่สุดพอใจแล้วหรือยัง วันนี้ฉันนัดสิงอี้เอาไว้แล้ว นายไปซื้อแล็ปท็อปเองแล้วกัน”
“คุณนัดเขาไว้แล้วเหรอ”
ได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยก็ตกใจ ภรรยาที่รักของตนเองจะดื้อรั้นไปถึงไหนกันนะ เมื่อวานก็ถูกผู้ชายเลวระยำนั่นทำร้ายจนแย่ขนาดนั้น
ดูท่าแล้วตนเองคงต้องรีบฆ่าสิงอี้ให้ตายแล้ว
เพราะบนโลกใบนี้ ต่อให้สิงอี้ตายไปแล้วก็โลกก็จะไม่หายไป
เห็นซูรุ่ยอึ้งอยู่ตรงนั้น ซูหว่านดวงตาเปล่งประกาย เอากระดาษข้อสอบที่อยู่ในอ้อมกอดตัวเองยัดใส่มือเขา “นายซื้อแล็ปท็อปเสร็จแล้วไปรอฉันที่ร้านอาหารเมื่อวานนั้น ฉันจะไปหานาย…กินข้าวกับนาย”
พูดจบ ซูหว่านก็หมุนตัวจากไปอย่างรวดเร็ว
วันนี้เธอนัดสิงอี้ไว้จริงๆ นัดเขามาเพื่อ หงายไพ่