ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 29 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (29)
ถูกสวีเช่อลากตัวเข้าไปในห้วงกาลอวกาศสาบสูญ และกลายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ สำหรับซูหว่านแล้ว สิ่งที่โหดร้ายที่สุดไม่ใช่การที่รู้ว่าชีวิตของเธอนั้นเป็นเพียงผู้หญิงที่เป็นตัวรับกระสุนเท่านั้น
แต่คือ ผู้ชายที่เธอรักและเกลียดด้วยใจจริง ไม่เพียงแต่ไม่เคยรักเธอมาก่อน แต่ถึงขั้น…ตั้งแต่เริ่มจนจบนั้น เขาเพียงแค่กำลังแสดงละครเท่านั้น
ในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมาย ใช้ทักษะการแสดงอันไร้ที่ติของตัวเองมาหลอกลวงเธอ เพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย
นี่ คือคนที่ตัวเองเคยรักอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งยอมทำลายทุกสิ่งที่อย่างเพื่อผู้ชายอย่างเขา
ทั้งหมดล้วนเป็นของปลอม แม้แต่ตัวตนและชื่อก็ยังเป็นของปลอม
“ผมชื่อสวีเช่อ”
เมื่อสวีเช่อเอื้อมมืออกไปหาซูหว่านอีกครั้ง มองไปยังผู้ชายที่มีใบหน้าอ่อนโยนราวกับหยกตรงหน้า ซูหว่านก็ถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าว ยิ้มอย่างเย็นชาและมองเขา “นายอย่ามาแตะต้องตัวฉัน ทำไมนายไม่ปล่อยให้ฉันตายไปซะ! ทำไมนายต้องพาฉันมาที่นี่ นายต้องการให้ฉันเป็นเจ้าหน้าที่เลือดเย็นเหมือนนายใช่ไหม นี่มันสนุกนักเหรอ”
เมื่อมาถึงห้วงกาลอวกาศสาบสูญ วิญญาณก็จะถูกผูกมัดไว้กับมิตินี้โดยอัตโนมัติ หากต้องการเป็นอิสระ ทำได้เพียงเข้าไปในมิติอื่นๆ เพื่อทำภารกิจและรับคะแนนเท่านั้น
ในขณะนั้น ซูหว่านรู้สึกสิ้นหวังมาก
เห็นได้ชัดมากว่าสวีเช่อไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ แม้กระทั่งในเวลานั้น สวีเช่อก็ไม่สามารถบอกได้ว่าความรู้สึกในใจของเขาในตอนนั้นเป็นอย่างไร…
แท้จริงแล้ว ซูหว่านถึงแม้จะต้องตายก็ยังดีกว่าให้เธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ
สวีเช่อรู้สึกอย่างเลือนรางราวกับว่าตัวเขาเองได้ตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในชั่วชีวิตของเขา ไม่อาจมีพื้นที่ให้คำว่า ‘เสียใจภายหลัง’ ได้
“ตอนนี้คุณได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจคนหนึ่งแล้ว คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณจะติดตามผม หรือว่า จะเอาชนะผม!”
สวีเช่อมองซูหว่านด้วยดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ การปลอบโยนคนอื่นนั้น แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยพูดมาก่อน
ในยามที่ไม่ได้แสดงละครนั้น แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่เคร่งครัดมาก เป็นผู้ชายที่ไม่มีความรู้สึกหรือสนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย
“เหอะ เหอะๆ”
ซูหว่านอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ นี่ หรือว่าจะเป็นโชคชะตาเช่นกัน
“ได้ สวีเช่อ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นายรอฉันก่อนเถอะ ฉันต้องเอาชนะนายแน่!”
ในเมื่อจะตายก็ไม่ได้แล้ว ซูหว่านจึงละทิ้งทุกสิ่งอย่าง ก็แค่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจไม่ใช่เหรอ สวีเช่อสามารถทำได้ ทำไมเธอจะทำไม่ได้
ใครเป็นคนกำหนดว่าเธอเป็นได้เพียงตัวรับกระสุนที่ถูกทอดทิ้งไปตลอดชีวิต
เธอจะต้องเป็นคนนั้นที่ทำให้พวกตัวเอกทั้งหมดถูกกำจัดทิ้ง!
ดังนั้นเมื่อสวีเช่อขอให้ซูหว่านเลือกแผนกเอง ซูหว่านก็ไม่ลังเลที่จะเลือกแผนกทำลาย…
ในเมื่อไม่สามารถสมหวังได้ ก็ทำลายทุกอย่างทิ้งไปเสียดีกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!
หลังจากที่ซูหว่านกลายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจแล้ว สวีเช่อก็ไม่ได้พบเธออีกเลย แต่ที่ผ่านมาเขายังคงคอยติดตามความเคลื่อนไหวของซูหว่านอยู่เสมอ แม้กระทั่งการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสวีหลัง สวีเช่อยังสามารถดึงไฟล์ข้อมูลการเข้าภารกิจทั้งหมดของซูหว่านมาจากแผนกโลจิสติกส์
อาจกล่าวได้ว่า เขาเฝ้ามองดูเธออย่างเงียบๆ เฝ้ามองเธอจากมือใหม่อ่อนหัดที่ไม่เข้าใจอะไรเลยจนกลายเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจที่ชำนาญการและเลือดเย็น
เขามองดูเธอฆ่าคนเป็นครั้งแรก มองดูเธอโกหกคนเป็นครั้งแรก มองดูร่างของเธอที่สิ้นหวังผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำภารกิจสำเร็จทุกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
มนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกจริงๆ ในขณะที่สวีเช่อเฝ้ามองซูหว่าน และรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเธอ แต่ตัวเขาเองกลับยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ…
ความรักคืออะไร ความเกลียดชังคืออะไร
สวีเช่อคิดเสมอมาว่าตัวเขาเองไม่มีหัวใจ ไม่มีหัวใจแล้วจะมีปัญญาไปเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้คนได้ยังไง
แต่ว่า…
ทำไมเขาถึงสับสน
ทำไมเขาถึงร้อนใจ
ทำไมเมื่อเห็นซูหว่านและซูรุ่ยค่อยๆ สานสัมพันธ์ต่อกัน เขาถึงรู้สึกไม่สบายใจนัก
เมื่อซูหว่านตกอยู่ในอันตราย เขาก็เข้าภารกิจเพื่อไปช่วยเธอทันทีโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดทั้งนั้น
แม้กระทั่งหลังจากที่ซูรุ่ยเกิดอุบัติเหตุขึ้น สวีเช่อก็เป็นคนแรกที่รีบออกไป ต้องการรับภารกิจกู้ภัย แน่นอนว่าเหตุผลหลักๆ ก็เพื่อความปลอดภัยของซูหว่าน
เพราะอะไรกัน…ตัวเขาเองถึงมีอารมณ์มากมายขนาดนี้ และยังทำเรื่องแปลกประหลาดพวกนี้อีก
สวีเช่อเริ่มสงสัยทุกสิ่งทุกอย่าง และในเวลานี้เอง หนึ่งวันก่อนที่จะเริ่มการทดสอบ สวีหลังก็หาเขาพบ…
แผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์
ความทรงจำทั้งหมดของสวีเช่อเกี่ยวกับแผ่นดินนี้ มาจากกำไลสองอันที่เขาสวมใส่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
หนึ่งในนั้น เขาได้มอบมันให้กับซูหว่านแล้ว
เมื่อรู้ว่าสวีหลังได้เปลี่ยนพื้นที่ทดสอบโดยไม่ได้รับอนุญาต ใจของสวีเช่อนั้นสงบมาก สำหรับภาพแห่งความทรงจำเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขานั้นก็ยังคงคลุมเครือ แต่สำหรับแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ สวีเช่อเองก็ยังคงตั้งตารอคอย
แม้ว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่ากำลังรอคอยสิ่งใดอยู่…
มาวันนี้ ในวินาทีสุดท้ายที่สวีเช่อได้ยินคำขอร้องของซูรุ่ยนั้น เขาก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่าซูหว่านและซูรุ่ยจะถูกปิดผนึกความทรงจำ แต่พวกเขาก็ยังได้พานพบกัน และยังดึงดูดเข้าหากันโดยธรรมชาติ
นี่ หรือนี่จะเป็นความรัก
ไม่ว่ารูปลักษณ์เธอจะเปลี่ยนไปอย่างไร ไม่ว่าเธอจะจำฉันได้หรือไม่ ฉันก็ยังคง รักเพียงเธอ
ข้ามกาลเวลา ข้ามห้วงอวกาศ
เพราะว่ามีความรัก จึงจะสามารถเดินด้วยกันได้
สวีเช่อเหลือบตาลง มองดูดวงตาใสคู่ที่หนึ่งที่สะท้อนอยู่ในแก้วเหล้าของเขา…
ซูหว่าน ผมพาคุณมายังห้วงกาลอวกาศสาบสูญ เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของผมเอง ผมเป็นหนี้คุณ ผมจะปล่อยคุณไปครั้งหนึ่ง
และตอนนี้ ผมกับคุณไม่มีหนี้ต่อกันแล้ว ดังนั้น ผมก็ไม่จำเป็นต้องออมมือให้คุณอีกต่อไป
ไม่จำเป็นต้องออมมือให้อีก…
ห้องโถงใหญ่ที่เงียบสงบ คลื่นใต้น้ำที่ที่ไหลเชี่ยว
ซูรุ่ยที่ได้รับคำตอบของสวีเช่อ ในใจของเขาก็กระสับกระส่าย
เขารู้ว่าตัวเองควรจะเชื่อฟังแผนการของสวีเช่อ และทุกคนต่างก็เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ และการแข่งขันที่นี่ก็ยุติธรรม ถึงแม้ว่าเจ้างูน้อยตัวนั้นจะตายที่นี่ แต่ก็เพียงแค่สูญเสียคุณสมบัติที่จะชนะเท่านั้น เธอยังคงกลับไปยังสำนักงานใหญ่ได้
แต่ว่า…
เขาก็เพียงแค่รู้สึกไม่สบายใจ ไม่สบายอย่างมาก
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จและกลับไปยังห้องพัก ซูรุ่ยที่มองซูหว่านกำลังจะเดินเข้าประตูไป ก็อดไม่ได้ที่จะเรียกนางไว้ “เสี่ยวชิง!”
“คุณชาย ท่านมีอะไรหรือ”
ซูหว่านมองซูรุ่ยด้วยใบหน้าที่อธิบายไม่ถูก
ซูรุ่ยอดไม่ได้ที่จะก้าวขึ้นไปสองสามก้าว เข้าไปใกล้ข้างกายของซูหว่าน และเอนตัวไปกระซิบข้างหูของนาง “อย่าเข้าใกล้เยี่ยเฉิง เขาอันตรายมาก!”
เยี่ยเฉิง…
ซูหว่านตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วยิ้มให้ซูรุ่ย “ขอบคุณคุณชายที่เตือนสติ ข้ากับเขาเคยร่วมงานกันที่สำนึกจื่อหยาง เขาเป็นคนที่อันตรายจริงๆ!”
สวีเช่อราชาแห่งห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ จะไม่เป็นอันตรายได้ยังไงกัน
ซูหว่านหลับตาเดินเข้าไปในห้องพัก ปิดประตูให้แน่น และพิงประตูไว้…
ครั้งแรกที่เห็นคุณชายมั่ว จิตใต้สำนึกของนางก็คิดว่าเขาคือสวีเช่อ ต่อมาเมื่อได้สนิทสนมกันซูหว่านจึงขจัดความสงสัยของนางไป
จนกระทั่งเมื่อเยี่ยเฉิงจับมือของนางออกมาจากภาพลวงตา ตอนที่เข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์เข้าสำนักจื่อหยาง
ในชั่วขณะนั้น ซูหว่านก็ได้รู้แล้ว
ผู้ชายคนนั้น เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นก็คือสวีเช่อ
ชั่วขณะที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสนาง ความเจ็บปวดและการปฏิเสธของจิตวิญญาณไม่สามารถหลอกใครได้
ในชั่วชีวิตของคนคนหนึ่ง เรื่องที่ลืมยากที่สุด ก็คือคนที่รักคุณมากที่สุด และคนที่ทำร้ายคุณให้เจ็บมากที่สุด
ซูหว่านไม่มีทางลืมสวีเช่อได้ นางลืมไม่ได้ ไม่อาจลืมเสียงนั้นในดินแดนมายาได้…
ในค่ำคืน ที่ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับ
ซูหว่านวางข่ายกลบังตาไว้ในห้องของนาง จากนั้นก็ออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
ตลอดหลายปีมานี้ นางคุ้นเคยกับนิสัยทั้งหมดของคุณชายมั่วมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะจากไปเป็นพิเศษในวันที่เขาฝึกฝนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเขา
คืนนี้ นางจะไปฆ่าคน และเป้าหมายแรกของนาง แน่นอนว่าเป็นโรงเตี๊ยมที่คนสำนักต้าชี่พักอยู่…