ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 24 บททดสอบบำเพ็ญเพียร
กว่าซูหว่านจะฟื้นขึ้นมาในห้องบำเพ็ญเพียรนั้นก็เป็นวันที่สองแล้ว นางลุกขึ้นนั่งช้าๆ แล้วเสื้อขาวบนร่างของนางก็หล่นร่วงลงไปทันที
เอ่อ
ซูเสี่ยวหว่านตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ใช้ผ้าห่มคลุมร่างกายของนางไว้ จากนั้นก็จ้องมองไปยังคุณชายมั่วที่กำลังยิ้มแย้มอยู่ “เจ้า เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
“อ้อห”
คุณชายมั่วใช้นิ้วลูบคางไปมา “เสื้อนั่น คืนข้ามา!”
ซูหว่าน “…”
“หึ คืนก็คืน ใครอยากได้กัน!”
ซูหว่านยกมือขึ้น แล้วเสื้อคลุมสีขาวก็บินไปตรงหน้าของคุณชายมั่วจนบดบังสายตาของเขา จนเมื่อเขารับเสื้อผ้าไปเรียบร้อยแล้ว ซูหว่านในห้องบำเพ็ญเพียรก็ใช้เกล็ดงูที่ร่วงหล่นเหล่านั้นแปลงเป็นชุดสีเขียวอีกครั้ง
เกล็ดเหล่านี้ เดิมที่ก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายนาง และตอนนี้ได้กลายเป็นเสื้อคลุมตัวนอกของตัวเอง เป็นสมบัติเวทที่อยู่ยงคงกระพัน
“ยินดีกับเจ้าด้วย ได้เลื่อนขั้นแล้ว”
คุณชายมั่วเลิกคิ้วและมองดูซูหว่านด้วยรอยยิ้ม
เลื่อนขั้น…
ซูหว่านกลั้นหายใจและนั่งสมาธิ เมื่อมองดูตันเถียนภายในของตนเอง ทันใดนั้นก็รู้ว่าตัวนางได้หลอมแก่นปีศาจสำเร็จแล้ว!
นี่!
ไม่รู้ด้วยเหตุใด ซูหว่านจึงนึกถึงฉากที่นางเห็นในห้วงแห่งจิตสำนึกขึ้นมาอีกครั้ง สร้อยข้อมือนั่น สร้อยข้อมือเส้นนั้นที่แฝงไปด้วยปราณเซียนช่วยให้ตัวเองรอดจากวิกฤตมาได้อย่างปลอดภัย
แต่สร้อยข้อมือเส้นนั้นน่าจะเป็นของตกทอดมาจากจิงหงเซียนจื่อ แล้วทำไมถึงตกมาอยู่ในมือของผีชราได้
ยิ่งกว่านั้น สิ่งของใดๆ ในมิติภารกิจไม่สามารถนำเข้าไปในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญได้ เว้นแต่สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งของของห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ
ภายในใจของซูหว่านตกตะลึงไป…
หในตำนานเล่าว่าจิงหงเซียนจื่อตายไปในแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ แต่ว่า ถ้าหากไม่ตายล่ะ
ถ้าหากว่าก่อนที่นางจะตายนางกลับไปยังห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญล่ะ
ซูหว่านไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีกต่อไป แต่นางกลับรู้ว่าตัวเองได้รู้ความจริงอย่างคลุมเครือ…
เลี่ยเหยียนเซียนจวินที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกับสวีเช่อราวกับแกะ
สร้อยข้อมือโลหะที่สามารถปรากฏขึ้นในห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ
ในโลกภารกิจ ตัวตนที่แสนลึกลับของผีชรา…
เป็นเขา
เป็นสวีเช่อ!
เขาเป็นคนที่นำของตกทอดของจิงหงเซียนจื่อมอบให้กับนางเอง
ในเวลานี้ ซูหว่านกำข้อมืออีกข้างของนางไว้โดยไม่รู้ตัว นางไม่อยากได้มัน นางไม่ต้องการมัน นางไม่ต้องการของขวัญและความเมตตาจากชายคนนั้น!
“เจ้างูน้อย?”
เมื่อเห็นซูหว่านเงียบไป คุณชายมั่วที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้รบกวนนาง แต่ตอนนี้เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของซูหว่านด้วยลางสังหรณ์บางอย่าง คุณชายมั่วอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้า เขาจับมือของนางไว้ และเรียกนางเบาๆ
เมื่อรู้สึกได้ถึงฝ่ามืออันอบอุ่นที่คลุมอยู่บนหลังมือของนาง จู่ๆ ซูหว่านก็เงยหน้าขึ้น และสบตากับคุณชายมั่ว
ดวงตาคู่นี้ใสราวกับน้ำพุ และในเวลาเดียวกันก็ลึกราวกับมหาสมุทร
“ไม่เป็นไรแล้ว”
เขายิ้มแล้วปล่อยมือตัวเองออกอย่างช้าๆ ห
“อืม”
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับคุณชายมั่ว “ขอบคุณ”
แม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร แต่ว่า อุณหภูมิบนฝ่ามือของเขาดูเหมือนจะมีพลังวิเศษ ทำให้อารมณ์ของนางสงบลงในทันที
“ไม่ต้องพูดขอบคุณ เจ้าเป็นของข้า”
ทันใดนั้นคุณชายมั่วก็จ้องไปที่ดวงตาของซูหว่าน และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “หนี้ที่เจ้าติดค้างข้ายังไม่ได้ชดใช้ ดังนั้นจากนี้ต่อไป ทั้งหมดที่เจ้ามี ล้วนเป็นของข้า”
“อืม”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ซูหว่านก็เลิกคิ้วขึ้น “ได้สิ ในเมื่อคุณชายชอบ เสี่ยวชิงย่อมเต็มใจรับใช้คุณชายไปตลอดชีวิต”
กลับไปสำนักจื่อหยางไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่หลายวันมานี้ซูหว่านก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากสำนักจื่อหยางมาไม่น้อย ตอนนี้มาติดตามข้างกายคุณชายมั่วดูเหมือนจะไม่แย่นัก และอย่าลืมว่าที่นี่ยังมีพ่อพระเอกใหญ่อยู่อีกคน
การติดตามพระเอกไป ย่อมเป็นการอยู่ร่วมกันของวิกฤตและโชคลาภ ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งเดินก้าวเดียวก็อาจไปถึงสวรรค์ ด้วยวิธีนี้คุณย่อมไม่ต้องซ่อนตัวทางทิศตะวันออก
เมื่อซูหว่านและคุณชายมั่วออกมาจากห้องบำเพ็ญเพียรนั้น เสี่ยวเชียนและดอกเหมยน้อยก็พักผ่อนแล้ว ขณะที่จิวและหานอวี่ทั้งสองคนนั่งยองๆ อยู่ที่มุมถ้ำและกำลังพิจารณาบางสิ่งอยู่อย่างลึกลับ
“พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่”
ซูหว่านถามด้วยความสงสัย
เมื่อได้ยินเสียงของซูหว่าน จิวก็รีบลุกขึ้นทันที ยิ้มตาหยีและพูดว่า “เจ้างูน้อย เจ้าไม่เป็นไรแล้ว ดีจริงๆ! เจ้ารีบมาดูเร็ว! หานอวี่เขาพบกลไกที่นี่ ดูเหมือนที่นี่จะมีความลับยิ่งใหญ่บางอย่าง พวกข้าสองคนใจไม่กล้าพอที่จะเปิดมัน!”
อะ อะไรนะ!
เมื่อได้ยินคำพูดของจิว ซูหว่านและคุณชายมั่วก็มองตากันอย่างตกตะลึง…
ให้ตายสิ! พระเอกก็คือพระเอกสินะ! รัศมีของตัวละครนี้ไม่ถูกบดบังแน่นอน!
ทั้งสองเดินอย่างรวดเร็วไปยังที่ที่จิวและหานอวี่อยู่ เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ อย่างละเอียดแล้ว แน่นอนว่ามีร่องหลุมที่ไม่เด่นมากอยู่ที่มุมของกำแพง ซึ่งดูเหมือนเป็นกลไกชนิดหนึ่ง
“ดูเหมือนว่าจำเป็นต้องใช้กุญแจเพื่อเปิดกลไกนี้”
ซูหว่านชี้ไปที่ร่องหลุมนั้น น่าจะเป็นที่สำหรับใส่อะไรบางอย่างลงไปใช่ไหม
“น่าจะเป็นสิ่งนี้สินะ”
ในเวลานี้เอง หานอวี่หยิบหินรูปร่างแปลกๆ ออกมาจากอ้อมแขน “เมื่อครู่ข้าเพิ่งเจอมันที่ใต้เตียง”
ซูหว่าน “…”
“ลองใส่มันเข้าไปดูเถอะ”
คุณชายมั่วที่อยู่ด้านข้างพูดออกมาเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็ใช้ปราณวิญญาณของตัวเองกางม่านป้องกันให้ทั้งสี่ เขาเป็นคนที่มีพลังบำเพ็ญสูงที่สุดในไม่กี่คนตรงนี้ ถ้าหากมีสิ่งไม่คาดฝันใดเกิดขึ้น ย่อมต้องเป็นผู้ลงมือก่อน
“อืม”
หานอวี่พยักหน้า ยกมือขึ้นแล้วนำหินก้อนนั้นที่เขาเจอใส่เข้าไปในร่องหลุมนั้น ในเวลาต่อมา ก็มีแสงสีสว่างไสวสาดส่องไปทั่วทั้งถ้ำ ในชั่วขณะนี้เอง คุณชายมั่วก็ได้เริ่มสร้างเขตอาคมปิดทางเข้าถ้ำทันที เพื่อป้องกันไม่ให้แสงสว่างเหล่านี้แผ่ออกไปนอกถ้ำ และดึงดูดความสนใจของผู้อื่น
เมื่อแสงสว่างหายไป กำแพงหินทั้งหมดก็ค่อยๆ แยกออกจากกันสองข้าง ปรากฏให้เห็นเป็นขุมสมบัติต่อหน้าคนทั้งสี่
นอกจากอาวุธและอาวุธเวททุกประเภทแล้ว ยังมีวัสดุมากมายสำหรับการหลอมอาวุธในคลังสมบัติ ยาสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ ไปจนกระทั่งเคล็ดวิชาคาถาและศิลาวิญญาณมากมาย
ดูท่าแล้ว นี่คงเป็นทรัพย์สินทั้งหมดของผู้บำเพ็ญเพียรไร้สำนักผู้นั้นแล้ว
แม้แต่คุณชายมั่วก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง แม้ว่าจะเป็นขุมทรัพย์ธรรมดาๆ แต่ประตูหินนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษ ไม่มีผู้ใดสามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของห้องลับนี้ด้วยจิตสัมผัสและการรับรู้ภายนอก
พลังบำเพ็ญของคุณชายมั่วนั้นสูงทีเดียว แต่เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงห้องนี้เลย แต่หานอวี่กลับพบห้องลับนี้เข้าโดยบังเอิญ พูดได้เพียงว่าเป็นโชคชะตาของพระเอกช่างขัดกับสวรรค์เสียจริง
เมื่อได้รับทรัพยากรจำนวนมากโดยไม่คาดคิด คนหลายคนก็ฝึกฝนในถ้ำนี้ด้วยความสบายใจมากขึ้น
ในชั่วพริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปแล้วสามปี…
“สำเร็จแล้ว! ในที่สุดข้าก็แปลงร่างสำเร็จแล้ว!”
ในวันนี้ เสียงที่ร่าเริงและอ่อนโยนดังก้องขึ้นอยู่ในถ้ำไม่หยุด มองดูสาวน้อยชุดแดงกระโดดไปรอบๆ ในถ้ำ คุณชายมั่วรู้สึกเพียงแค่ปวดหัวเล็กน้อย “เชียนเอ๋อร์ เจ้าพาดอกเหมยน้อยออกไปแล่นเถอะ! เด็กดี!”
เอ่อ
กาลเวลาผ่านไปสามปี เชียนเอ๋อร์ก็โตขึ้นไม่น้อย และดอกเหมยน้อยที่อยู่ตรงหน้านางก็กลายเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในถ้ำพำนัก ดูเหมือนอายุเพียงหกเจ็ดขวบเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนดอกเหมยน้อยดูจะไม่ชอบรูปร่างหน้าตาของนางเอง หลังจากแปลงร่างเป็นคนแล้ว นางก็หวนนึกถึงความทรงจำบางอย่างเป็นระยะๆ นางรู้ว่านางเป็นทายาทของเหมยแดงบรรพกาล ครอบครัวของพวกนางมีชีวิตที่ยืนยาวเสมอ ไม่ว่าการจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ หรือการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ล้วนย่อมต้องใช้เวลาที่ยาวนานมาก
ในปีที่ห้าหลังจากประสบความสำเร็จในการแปลงร่าง ซูหว่านก็ได้เลื่อนไปสู่ระดับก่อกำเนิดแล้ว! ตอนนี้หากอยู่ที่ภูเขาหมื่นปีศาจพลังบำเพ็ญของนางก็คงจะอยู่ในระดับของแม่ทัพปีศาจแน่นอน
ต้องขอบคุณศิลาวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนในถ้ำแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งคุณชายมั่วก็จะหลอมยาที่ช่วยเพิ่มพูนพลังบำเพ็ญให้พวกนาง ดังนั้นระดับความเร็วในการเลื่อนขั้นของซูหว่านจึงถือว่าเร็วมากในตอนนี้
แน่นอนว่า ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ซูหว่านไม่รู้ เมื่อนางเข้าสู่ขั้นแก่นปีศาจแล้ว ปราณเซียนในสร้อยข้อมือทองคำก็ชำระล้างร่างกายของนางไปหมดแล้ว สิ่งสกปรกในร่างกายของนางถูกขจัดออกไป ซึ่งทำให้เส้นทางการเลื่อนขั้นในอนาคตของนางราบรื่นเป็นพิเศษ และไม่มีคอขวดมาเป็นอุปสรรคเลย…