ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 21 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (21)
เมื่อได้ยินคำพูดของหานอวี่ อวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็ตะลึงไปชั่วครู่
เหตุใดชายผู้นี้จึงไม่รู้สิ่งได้เลย
ในขณะที่อวิ๋นเซียนเอ๋อร์กำลังตกตะลึงอยู่นั้น ผู้อาวุโสต้วนที่อยู่ด้านหลังก็โบกมือในทันที สั่งให้คนทั้งหมดของสำนักไท่อีถอยกลับไป
หานอวี่ผู้นี้ได้สร้างความแค้นไว้กับตนแล้ว ผู้อาวุโสต้วนย่อมไม่ต้องการให้เขาได้รับการปกป้องจากสำนักเทียนอวิ๋นอยู่แล้ว วันนี้เขาปฏิเสธอวิ๋นเซียนเอ๋อร์แล้ว ก็นับว่าเขาได้ล่วงเกินสำนักเทียนอวิ๋นแล้ว ซึ่งเป็นธรรมดาที่เขาจะมีความสุขเมื่อได้เห็นสิ่งนี้
ในเวลานี้ ใบหน้างดงามของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็แดงไปหมด ดวงตาคู่งามของนางมองไปยังหานอวี่ด้วยความโกรธเคือง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าได้ปฏิเสธสิ่งใดไป”
ที่แผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ มีผู้ใดบ้างไม่รู้จักสำนักเทียนอวิ๋น ผู้ใดจะกล้าปฏิเสธคำเชิญของเทียนสิงจื่อ
ในสมองของหานอวี่นี่มีแต่น้ำใช่หรือไม่
เมื่อได้ยินคำถามของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ หานอวี่กลับยิ้มออกมา “หานอวี่สายตาชัดเจนและหูก็ไม่หนวก ย่อมรู้แน่ว่าตนเองได้ปฏิเสธสิ่งใดไป แต่สหายอวิ๋นผู้นี้ ท่านไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าน้อยพูดหรือ”
“เจ้า…แยกแยะดีชั่วไม่ออก!”
อวิ๋นเซียนเอ๋อร์สะบัดแขนเสื้ออย่างโกรธจัด นางเติบโตขึ้นมาภายใต้ปีกของเทียนสิงจื่อ นางเป็นที่รักและเป็นที่ต้องการของผู้บำเพ็ญเพียรชายจำนวนนับไม่ถ้วนตั้งแต่ยังเล็ก เคยถูกผู้คนมากมายเห็นนางพบเรื่องน่าอับอายเช่นนี้มาก่อนเสียเมื่อไร
คุณชายมั่วคนเดียวยังไม่พอ แม้แต่เจ้าผู้บำเพ็ญเพียรระดับแก่นทองคำตัวเล็กๆ นี่ยังกล้าพูดดูถูกตัวเอง!
“หึ พวกเรากลับ!”
อวิ๋นเซียนเอ๋อร์นำผู้ติดตามของตัวเองจากไปทันทีด้วยความโกรธ
“น้อมส่งท่านเซียนอวิ๋น!”
ผู้อาวุโสต้วนที่อยู่ด้านหลังกล่าวลาส่งแขกอย่างมีความสุข จากนั้นก็หันกลับมาและจ้องมองที่หานอวี่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปทั่วใบหน้า
“หึ ไอ้เด็กเวร ตอนนี้ผู้ใดจะช่วยเจ้าได้อีก”
“นายท่าน”
เมื่อเห็นผู้อาวุโสต้วนกำลังจะจัดการหานอวี่อีก จิวที่อยู่ด้านข้างและอ่อนแอแสนสาหัสก็ลืมตาขึ้นทันที มองดูคุณชายมั่วอย่างน่าสงสาร “นายท่าน โปรดช่วยเขาด้วย!”
คุณชายมั่ว “…”
ข้าผู้นี้ไม่คิดอยากจะลงมือเลยจริงๆ
ฮือออ พี่จิวที่น่าสงสาร พี่หานเองก็น่าสงสาร
ดอกเหมยน้อยที่แปลงร่างกลับเป็นร่างเดิมและซ่อนตัวอยู่กับซูหว่านในอ้อมอกของคุณชายมั่ว เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ก็เริ่มร้องไห้อย่างน่าสงสารทันที
“เจ้างูน้อย เจ้างูน้อย เจ้ารีบคิดหาวิธีช่วยพี่จิวเร็วเข้า เจ้าน่ะมีวิธีที่สุดแล้ว!”
ซูหว่าน “…”
ตัวฉันเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว จะไปมีวิธีอะไรได้อีก หรือว่าจะให้ฉันไปขอร้อง…คุณชายมั่ว
ไม่ได้ จะต้องโดนเขาดูถูกเหยียดหยามแน่
แต่ว่า…
ซูเสี่ยวหว่านรู้สึกว่าตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้อย่างแน่นหนา
เมื่อมองไปยังพระเอกที่จะตายมิตายแหล่ จะว่าไปแล้ว การแสดงออกของหานอวี่เมื่อครู่สามารถทำคะแนนซื้อใจได้สูงจริงๆ อีกทั้งถ้าเขาตายไปเช่นนี้ อาวุธเวทที่เขาติดค้างนางอยู่ก็ต้องสูญเปล่าไม่ใช่หรือ!
ซูหว่านเคยขาดทุนจากการทำการค้าเมื่อไหร่กัน!
ใช่ พระเอกตายไม่ได้!
“คุณชาย”
ในที่สุดซูหว่านก็พูดออกมาอย่างอ่อนแรงว่า “คุณชาย ท่านช่วยพวกเขาด้วย พวกเขาช่างน่าสงสารจริงๆ”
“เจ้ากำลังขอร้องข้าหรือ”
คุณชายมั่วยกมุมปากขึ้น หรี่ตาลง มองไปยังงูตัวน้อยที่ขดตัวอยู่ในอกตนเอง และเพียงแค่ยื่นหัวสีมรกตออกมาเท่านั้น “ถ้าขอร้องข้าล่ะก็ ข้าก็จะลองพิจารณาดู”
ซูหว่าน “…”
คุณชาย ภาพลักษณ์ของท่านได้พังทลายลงแล้ว! เราสองคนไม่เจอกันมานาน ท่านโดนใครยึดร่างไปแล้วหรือเปล่า
ซูหว่านมองไปที่คุณชายมั่วอย่างสงสัย สุดท้ายก็ยอมแลบลิ้นงูสองแฉกออกมา กะพริบตาสีแดงปริบๆ และทำท่าทางน่ารัก “คุณชาย ท่านเป็นหมอยาแห่งหุบเขาสมุนไพร ท่านเป็นคนที่จิตใจดีที่สุด ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ขอร้องท่าน แต่เพื่อจิวแล้ว ท่านก็ย่อมลงมืออยู่แล้วกระมัง”
“ไม่”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ใบหน้าอบอุ่นของคุณชายมั่วยังคงมีรอยยิ้มจางๆ อยู่ “แม้ว่าข้าจะเกิดในหุบเขาสมุนไพร แต่ข้าเป็นผู้บำเพ็ญเพียรพิษ ข้าฆ่าคนเท่านั้นไม่ช่วยชีวิตคน เจ้าไม่ขอร้องข้า ข้าก็ไม่ลงมือ”
ทำไมถึงทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ไปได้นะ
ความรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยรู้จักมาก่อนแบบนี้…
“ขอร้องท่านแล้ว ขอร้องท่านแล้ว ขอร้องๆๆ ขอร้องท่านแล้ว!”
ซูหว่านกะพริบตาปริบๆ และอ้อนวอนต่อไปไม่หยุด
เมื่อได้ยินคำพูดของนางแล้ว คุณชายมั่วก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากทันที
นี่เป็นความรู้สึกที่วิเศษมาก สรุปแล้วตอนนี้คุณชายมั่วมีความสุขมาก ดังนั้น ผู้อาวุโสต้วนโชคไม่ดีเข้าเสียแล้ว
“เจ้าเดรัจฉาน ไปตายเสีย!”
ทางฝั่งนี้ ผู้อาวุโสต้วนทะยานเข้ามาอย่างดุดัน และฟาดฝ่ามือลงมาหนึ่งฉาด ทางหานอวี่เองก็เตรียมตัวเตรียมใจตายอย่างกล้าหาญแล้ว ทว่าในวินาทีถัดมา ร่างสีขาวร่างหนึ่งก็ลอยมา และหมอกพิษสีดำก็กระจายออกไปโดยรอบ ไม่เพียงแต่ป้องกันการโจมตีของผู้อาวุโสต้วนเท่านั้น แต่ยังทำให้เขากรีดร้องออกมาและถอยหลังกลับ
“คุณชายมั่ว ท่านหอยากเป็นศัตรูกับสำนักไท่อีของข้าหรือ”
“โอ้”
เมื่อได้ยินเสียงของผู้อาวุโสต้วนคำราม คุณชายมั่วก็มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าหล่อเหลา “สำนักเทียนอวิ๋นข้ายังไม่สนใจ เจ้าคิดว่าสำนักไท่อีของเจ้า เป็นสิ่งใดกัน”
ผู้อาวุโสต้วนคนเดียวไม่สามารถเป็นตัวแทนของสำนักไท่อีทั้งหมดได้
แต่คุณชายมั่วคนเดียว กลับเป็นตัวเองของทั้งหุบเขาสมุนไพร!
ใช่แล้ว มีตำแหน่งก็สามารถเอาแต่ใจตัวเองเช่นนี้ได้
ที่แผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ ผู้ใดจะกล้าล่วงเกินหุบเขาสมุนไพร ล่วงเกินท่านหมอแห่งโลกบำเพ็ญเพียร เด็กน้อยอย่างเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ
แม้ว่าหุบเขาสมุนไพรจะไม่ใช่สำนักชั้นหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ แต่เขากลับเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุด มีเส้นสายกับผู้คนมากที่สุด และเป็นสถานที่ที่ผู้คนไม่อยากเข้าไปยั่วแหย่มากที่สุด
“พวกเรากลับ!”
ทันทีที่คุณชายมั่วโบกมือ จิวก็พยุงหานอวี่ทันที และเดินตามหลังเขาไปอย่างช้าๆ
ในเวลานี้ ผู้ที่ตกตะลึงที่สุดคือศิษย์สายนอกของสำนักจื่อหยาง
ผู้ใดสามารถบอกพวกเขาได้บ้างว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
เดี๋ยวก็แย่งชิงเจ้าสาว เดี๋ยวก็ท่านเซียน เดี๋ยวก็ท่านพิษศักดิ์สิทธิ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพราะเหตุใด ศิษย์ผู้ดูแลของพวกเขาจึงกลายเป็นงูตัวหนึ่งล่ะ! เฮ้ย!
“ศิษย์ผู้ดูแลชิง ไม่สิ คุณชายมั่ว ช้าก่อน รอข้าน้อยก่อน”
ในขณะที่คนอื่นๆ ยังคงตะลึงงัน ต่งเสี่ยวหยางผู้มีชีวิตชีวาก็ได้เดินตามรอยเท้าของคุณชายมั่วไปก้าวใหญ่แล้ว…
ในฐานะที่เป็นผู้บำเพ็ญเพียรไร้สำนักผู้หนึ่ง คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสามประการคือ…หน้าด้านเข้าไว้ หน้าด้านเข้าไว้! หน้าต้องด้านเข้าไว้!
นับว่าต่งเสี่ยวหยางนั้นมองออก คุณชายมั่วสุดยอดมาก! ตัวเขาเองถึงแม้ว่าจะอยู่สำนักจื่อหยางตลอดไป อย่างมากก็เป็นได้แค่ศิษย์ผู้ดูแลสายนอกเท่านั้น แต่ติดตามคุณชายมั่วไปก็อาจจะมีอนาคตที่สดใส!
เมื่อเห็นการกระทำของต่งเสี่ยวหยาง คนอื่นๆ อีกหลายคนก็ติดตามเขามาในทันที
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในวันนี้ ก็ไม่มีปัญญาจะอยู่ที่สำนักไท่อีต่อไปได้ กลับไปสำนักจื่อหยางก็ต้องถูกลงโทษ ดังนั้นทุกคนจึงรวมตัวกันเพื่อขอพึ่งพาอาศัยคุณชายมั่ว
คุณชายมั่ว “…”
เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่ตามหลังมา สีหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นมาทันที
นี่…
ดวงตาของต่งเสี่ยวหยางสั่นไหวเล็กน้อย เขารีบยิ้มตาหยีมองไปยังซูหว่านที่อยู่ในอ้อมแขนของคุณชายมั่ว “ผู้ดูแลสำนักชิง ท่านไปที่ใด ทุกคนก็จะติดตามท่านไปที่นั่น ท่านดูสิศิษย์พี่ศิษย์น้องซื่อสัตย์มากแค่ไหน ดังนั้นให้คุณชายพาพวกเราไปด้วยเถอะ!”
ซูหว่าน “…”
พวกเจ้ายังกล้าพูดถึงความซื่อสัตย์อีกหรือ นี่ขนาดยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกเจ้าทั้งหมดก็พร้อมจะทรยศสำนักจื่อหยางแล้ว
ซูหว่านเหลือบมองต่งเสี่ยวหยางอย่างไรคำจะพูด และทันใดนั้นก็มองขึ้นไปยังคุณชายมั่วที่อยู่เหนือศีรษะของนางขึ้นไป “คุณชาย ท่านดู…”
“พวกเจ้ากลับไปสำนักจื่อหยางให้หมดเถอะ เรื่องครั้งนี้ข้าจะบอกจื่อหยางเจินเหรินเอง เขาจะไม่ลงโทษพวกเจ้าหรอก!”
เมื่อพูดเช่นนั้น คุณชายมั่วก็โบกมือและเรียกอาวุธเวทเหาะเหินของเขาออกมา เขาพาเชียนเอ๋อร์ จิว และหานอวี่ คนทั้งกลุ่มบินออกไปในทันที
ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะเจ้างูน้อยขอร้องเขา แม้แต่ตัวพระเอกเองเขาก็ไม่คิดจะช่วยชีวิตไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่จะให้เขาพาคนกลุ่มใหญ่ตัวประกอบหนึ่งสองสามสี่ไปโดยไม่สับร่างพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ ทั้งหมด เช่นนั้นก็ให้พวกเขาตามหาโชคชะตาของตัวเองแล้วกัน
ต่งเสี่ยวหยาง “…”
สุดท้ายก็ยังถูกทอดทิ้งอยู่ดี บ้าจริง เหตุใดการหลุดพ้นจากสภาพเลวร้ายมันจึงยากเย็นนัก!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ภายในใจของต่งเสี่ยวหยางก็คิดถึงคนผู้หญิงขึ้นมา…เยี่ยเฉิง
เป็นศิษย์ผู้ดูแลสายนอกของสำนักจื่อหยางเช่นกัน ตอนนี้เยี่ยเฉิงกำลังมีชื่อเสียงมากในสำนัก และยังมีพละกำลังมากมายไม่น้อย
ให้ตายสิ หลังจากกลับไปแล้ว พวกเราไปฝากเนื้อฝากตัวกับผู้ดูแลสำนักเยี่ยกันเถอะ! ตอนนี้ก็เอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน…