ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 20 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (20)
เนื่องด้วยการมาถึงของหญิงสาวชุดเหลือง บรรยากาศภายใต้สำนักไท่อีจึงเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ผู้อาวุโสต้วนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อมองดูชุดและความเอิกเกริกของหญิงสาวชุดเหลือง “ไม่ทราบว่าท่านเซียนมีนามว่าอันใด”
“ผู้อาวุโสต้วนเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าน้อยอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ เป็นลูกศิษย์ธรรมดาทั่วไปของสำนักเทียนอวิ๋น!”
เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ แววตาของผู้อาวุโสต้วนก็เปลี่ยนไปทันที…
อวิ๋นเซียนเอ๋อร์?
นี่ไม่ใช่ลูกศิษย์ของเทียนสิงจื่อผู้เป็นเจ้าสำนักเทียนอวิ๋นหรอกหรือ นี่เรียกว่าธรรมดาทั่วไปหรือ แท้จริงแล้วที่มาไม่ธรรมดาเลย ไม่ใช่หรือ!
“ที่แท้ก็เป็นท่านเซียนอวิ๋นนี่เอง ข้าน้อยไม่ได้ออกไปรอต้อนรับ ไม่ทราบว่าท่านเซียนมาที่นี่ด้วยเหตุอันใด”
น้ำเสียงของผู้อาวุโสต้วนอ่อนโยนขึ้นมากในทันที และท่าทางของเขาก็อ่อนน้อมมากเช่นกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสต้วนแล้ว อวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็ยิ้มบางๆ ดวงตาสวยงามของนางในที่สุดก็ไปหยุดลงบนตัวหานอวี่ “ท่านอาจารย์ของข้าสั่งให้ข้านำใครบางคนกลับไปหาเขา อืม เขานั่นเอง!”
ขณะที่พูด อวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็ใช้นิ้วเรียวยาวของนางชี้ไปยังหานอวี่ที่อยู่บนพื้น
หานอวี่ในเวลานี้ดูจนตรอกเป็นอย่างมาก ที่จริงแล้วอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านอาจารย์ของนางจึงต้องให้นางรีบร้อนเดินทางมายังที่นี่ เพื่อมาช่วยเจ้าหนุ่มที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด
แต่ท่านอาจารย์สามารถเห็นความลับของสวรรค์ได้เสมอ ที่เรียกว่าความลับเพราะไม่อาจให้คนล่วงรู้ได้ ท่านอาจารย์จึงไม่สามารถบอกนางได้ นางเพียงแต่ทำตามคำแนะนำของเขาเท่านั้น!
นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าสำนักอย่างเทียนสิงจื่อต้องการพบหานอวี่! หรือว่าแท้จริงแล้วเขายังมีตัวตนอื่นอีก
เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ ภายในใจของผู้อาวุโสต้วนก็เริ่มเกิดความวุ่นวายใหญ่โตขึ้น วันนี้ตระกูลต้วนมีเรื่องบาดหมางกับเจ้าเด็กผู้นี้แล้ว หากปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไป หรือให้เขาได้ไปตั้งตัวใหม่ เช่นนั้นชะตากรรมในอนาคตของตระกูลต้วนก็น่าเป็นกังวลแล้ว!
แต่ตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเองไม่สามารถปฏิเสธคำขอของสำนักเทียนอวิ๋นได้ ดวงตาของผู้อาวุโสต้วนกลอกไปมาอย่างรวดเร็ว กำลังคิดหาแผนรับมืออย่างลึกซึ้ง
ในเวลานี้เอง จิวที่เห็นหานอวี่เลือดไหลไม่หยุดก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งไปข้างหน้า และจับเขาไว้มั่น “เจ้าไม่เป็นอะไรนะ เลือดไหลเยอะขนาดนี้!”
ฮือออ น่าเสียดายเหลือเกิน นี่มันเลือดสดใหม่ทั้งนั้นเลยนะ!
“ข้าไม่เป็นอะไร”
หานอวี่พยายามลุกขึ้น หันไปเห็นหญิงสาวชุดแดงด้านข้างมีสีหน้าทุกข์ทน เขาก็อดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้มให้นาง “จิว เจ้าอย่าเศร้าไปเลย ข้าสบายดีจริงๆ”
จิว “…”
เจ้าไม่เป็นอะไร แต่ข้าเป็น! เลือดพวกนี้เป็นของข้า ทั้งหมดนี้เป็นของข้า!
เมื่อเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างจิวและหานอวี่ ซูหว่านที่อยู่ด้านข้างก็อดมองไม่ได้
พ่อพระเอกใหญ่ นายก็มีวันนี้เหมือนกันนะ!
อะแฮ่ม แต่จะว่าไปแล้ว อวิ๋นเซียนเอ๋อร์คนนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมหรือรัศมีที่เปล่งออกมาจากร่างก็เต็มเปี่ยมไปด้วยลักษณะเฉพาะของนางเอก! ดังนั้นแล้วพ่อพระเอกใหญ่ นายในเวลานี้ควรจะมีรักแรกพบกับแม่นางเอก และรู้สึกซาบซึ้งใจในการช่วยเหลือไม่ใช่เหรอ
นายจะหันกลับมาแสดงความรักอะไรกับเจ้าดอกไม้กินคนล่ะ
ซูหว่านที่กำลังพูดแขวะอยู่ในใจ ในครู่ถัดมา หน้าของนางก็เปลี่ยนสีไปทันที “จิว! ระวัง!”
ปรากฏว่า หลังจากที่จิวปรากฏตัวข้างกายของหานอวี่ สีหน้าของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็เปลี่ยนไปทันที นางปล่อยอาวุธเวทออกไปในทันทีโดยแทบจะไม่ลังเล…
เซียนเอ๋อร์ เจ้าจงจำไว้ เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว หากพบหญิงสาวชุดแดงปรากฏตัวขึ้นข้างกายหานอวี่แล้ว ให้สังหารนางทันที อย่าได้ลังเลเป็นอันขาด!
คำเตือนของอาจารย์ยังคงดังก้องอยู่ในหูของนาง เมื่อครู่ยามที่อวิ๋นเซียนเอ๋อร์มาถึง นางก็เห็นร่างของหลีรั่วเสวี่ยที่อยู่บนพื้นเป็นสิ่งแรก นางยังคิดว่านั่นเป็นหญิงชุดแดงที่ท่านอาจารย์พูดถึง จนกระทั่งจิวที่กระโจนขึ้นมาอยู่ด้านข้างของหานอวี่ อวิ๋นเซียนเอ๋อร์จึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าที่นี่ยังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่สวมชุดแดง ทันใดนั้นนางจึงหยิบอาวุธเวทที่อาจารย์มอบให้ก่อนจะจากไปขึ้นมา และโยนมันออกไป
แสงสีทองจากท้องฟ้าส่องสว่างไปทั่วป่าบนภูเขา อาวุธเวทที่มีรูปร่างคล้ายกับถุงสมบัติ ปากกระเป๋าเปิดออก แสงสีทองสว่างไร้ที่สิ้นสุด
นี่คือ…
ภายใต้แสงสีทองนั้น จิวก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันที
“เจ้างูน้อย ข้าทรมานเหลือเกิน”
ในเวลานี้ ดอกเหมยน้อยบนศีรษะของซูหว่านเองก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด และแม้แต่ตัวซูหว่านเอง ก็ยังรู้สึกได้ว่าเลือดในกายของนางดูเหมือนจะแข็งตัวในทันที หรือแท้จริงแล้วอาวุธเวทชิ้นนี้ก็คือ…
สีหน้าของคุณชายมั่วที่อยู่ด้านข้างเปลี่ยนไป ขณะที่สะบัดมือ เขาก็ลากซูหว่านเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของตัวเองแล้ว “เจ้างูน้อย อย่าหาเรื่องใส่ตัวได้แล้ว รีบแปลงร่างกลับร่างเดิมแล้วซ่อนอยู่ในอกข้าเสีย! นี่เป็นถุงควบคุมปีศาจของตาแก่เทียนสิงจื่อผู้นั้น!”
เทียนสิงจื่อเป็นเจ้าสำนักเทียนอวิ๋นสำนักชั้นหนึ่งแห่งแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ พลังบำเพ็ญของเขานั้นยากแท้หยั่งถึง ในขณะเดียวกัน อาวุธเวทของเขานั้นก็ย่อมทรงพลังมากเช่นกัน
ถุงควบคุมปีศาจนี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับผู้บำเพ็ญเพียรปีศาจโดยเฉพาะ!
ดูท่าแล้วตาแก่นั่นคงเดาออกแล้วว่าจิวก็คือศัตรูหัวใจในชีวิตของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ จึงใช้วิธีการโง่เขลาเช่นนั้น
“โอ๊ย!”
ในเวลานี้เอง จิวที่ร้องตะโกนออกมาก็แปลงกายกลับไปร่างเดิมแล้ว ดอกไม้กินคนที่ยามปกติหยิ่งผยองไม่มีที่สิ้นสุด ในเวลานี้กลับก้มหัวต่ำลงอย่างสิ้นท่า
หลังจากที่จิวแปลงกายกลับไปร่างเดิมได้ไม่นาน ซูหว่านรู้สึกว่าร่างกายของนางเองก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน นางไม่กล้าชักช้า รีบแปลงกลับเป็นร่างเดิมทันที และมุดเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของคุณชายมั่วทันที
เมื่อสัมผัสได้ถึงร่างกายที่เย็นเยียบของเจ้างูน้อยในอก สีหน้าของคุณชายมั่วก็เย็นชาขึ้นทันที
และในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าจิวกำลังจะถูกอาวุธเวทนั้นฆ่าตาย หานอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็โผขึ้นไปเหนือร่างของนางทันที “พวกเจ้าอย่าทำร้ายนาง! จิว เจ้าไม่ต้องกลัว เจ้าดื่มเลือดของข้า แล้วเจ้าจะดีขึ้นเอง!”
จิว “…”
เห็นว่าข้ายังมีแรงเหลืออยู่อีกหรือไร ตอนนี้ตัวนางเอกรู้สึกวิงเวียนอยู่บ้าง แต่เมื่อสัมผัสได้ว่าหานอวี่ช่วยนางโดยการบังแสงสีทองนั้นไว้ จิวจึงอดคิดไม่ได้ว่า แท้จริงแล้วพวกมนุษย์ก็ไม่ได้น่ารำคาญมากขนาดนั้น หานอวี่ก็เป็นคนที่ใช้ได้เลยทีเดียว
“พอแล้ว!”
และในเวลานั้นเอง คุณชายมั่วที่มีสีหน้าเย็นชาอยู่แล้วจู่ๆ ก็ยกมือขึ้นและขว้างอาวุธเวทน้ำแข็งออกไป น้ำแข็งปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า แสงสีทองที่ส่องออกมาจากถุงควบคุมปีศาจถูกแช่แข็งชั่วคราว
“นางเป็นบ่าวรับใช้ของข้า สำนักเทียนอวิ๋นอย่างพวกเจ้า อย่าข่มเหงรังแกกันจนเกินไปนัก!”
ในเวลานี้ คุณชายมั่วอารมณ์ไม่ดีนัก เขาอยากฆ่าคนเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นคุณชายมั่วลงมือ อวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็ตกตะลึงไป ทันใดนั้นก็รีบเก็บอาวุธเวทของตนเอง “สหายคือคุณชายมั่วแห่งหุบเขาสมุนไพรหรือ”
“หึ”
คุณชายมั่วยิ้มเยาะ “ที่แท้สำนักเทียนอวิ๋นอย่างพวกเจ้าก็ยังมองเห็นข้าหรือ ข้านึกว่าพวกเจ้าทั้งหมดจะไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตาเสียอีก!”
“สหายล้อเล่นแล้ว”
อวิ๋นเซียนเอ๋อร์สวมท่าทางที่สูงส่งและสง่างาม ยิ้มอย่างอ่อนโยน เหล่านักบำเพ็ญเพียรชายผู้ใดเห็นรอยยิ้มของนางแล้วจะไม่เคลิบเคลิ้มหลงใหลบ้าง
แต่อย่างไรก็ตาม คุณชายมั่วที่อยู่ตรงหน้ากลับมีภูมิคุ้มกันต่อรอยยิ้มของนางอย่างสมบูรณ์…
คนอัปลักษณ์ยังจะมายิ้มอะไรกัน เจ้างูน้อยของข้าเกือบถูกเจ้าฆ่าตายแล้ว
“สำนักเทียนอวิ๋นเรียกตนว่าเป็นสำนักอันดับหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ พวกเจ้าคิดจะทำเช่นไรกับใครเช่นนี้ก็ได้หรือ ถึงบ่าวรับใช้ของข้าจะเป็นปีศาจ แต่ว่านางก็ไม่ได้ทำร้ายใคร กลับกันนางยังกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือสหายหานท่านนี้เสมอ และก็ไม่รู้ว่าสำนักเทียนอวิ๋นอย่างพวกเจ้ารู้ความลับอันใดเข้าจึงจะชิงตัวสหายหานผู้นี้ไป และยังคิดจะสังหารมิตรข้างกายเขาอีก ช่างเป็นแผนการที่ดีเสียจริง!”
เสียงของคุณชายมั่วนั้นดังมาก ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนได้ยินคำพูดของเขาทั้งหมด ต่างคนต่างครุ่นคิด และสีหน้าของหานอวี่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ที่ผ่านมาสำนักเทียนอวิ๋นอ้างว่าพวกเขารู้ทุกอย่างมาโดยตลอด หรือว่า…พวกเขาจะรู้ความลับเรื่องเตาเล็กของเขาแล้ว ดังนั้นจึงมาเพื่อแย่งชิงตัวเขาไป และยังฆ่าทุกคนที่อยู่รอบกายเขา!
ข่มเกงรังแกกันจนเกินไปจริงๆ!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ แววตาของหานอวี่ที่จ้องมองไปยังอวิ๋นเซียนเอ๋อร์ก็กลายเป็นเย็นชาและไร้ความปรานีในทันที
ดังนั้นพูดได้ว่า ทักษะการใช้ปากสาดลูกกระสุนปืนของคุณชายมั่วนี่ช่างเฉียบแหลมจริงๆ คุณได้ล้างสมองของพ่อพระเอกใหญ่สำเร็จแล้ว เย้!
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้างดงามของอวิ๋นเซียนเอ๋อร์พลันเย็นชา “คุณชายมั่ว ท่านหยุดพูดเหลวไหล! ท่านอาจารย์ของข้าแค่อยากจะเชิญสหายหานไปยังสำนักเทียนอวิ๋นเท่านั้น!”
“เชิญ?”
คุณชายมั่วเหน็บแนม “หานอวี่ เจ้าอยากไปหรือไม่ หือ”
“ข้าขอปฏิเสธ!”
หานอวี่ยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซ พยุงจิวเดินไปทางคุณชายมั่ว “ข้าไม่อยากจะไปสำนักเทียนอวิ๋นแม้แต่น้อย ถ้าหากพวกเจ้ามาเพื่อเชื้อเชิญข้าจริง เช่นนั้นก็เชิญกลับไปเถอะ! แน่นอนว่า ถ้าหาพวกเจ้ามาเพื่อจับกุมผู้คนแล้ว ข้าตัวคนเดียวและอ่อนแอ ไม่มีทางชนะพวกเจ้าได้ ทว่าก็ขอให้พวกเจ้าอย่าทำร้ายเพื่อนของข้าอีกเลย!”