ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 14 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (14)
ค่ำคืนที่แสนอันตราย ภูเขาที่เงียบสงัด
จิวที่ถูกล้อมรอบไปด้วยคนชุดดำมองไปยังเชียนเอ๋อร์ผู้สลบไสลอยู่ในอ้อมแขน ร้องไม่ออกจริงๆ เลย!
หรือว่าข้าถูกลิขิตมาให้ตายที่นี่หรือ
สายลมพัดกระพือ กระบี่ฟาดลงมา
เมื่อกระบี่ยาวพุ่งมาตรงหน้าด้วยพลังปราณ ท่ามกลางลำแสงสีเงิน จิวได้เตรียมตัวรบจนตัวตายแล้ว และในเวลานี้เอง สมบัติวิญญาณรูปร่มก็บินไปข้างหน้านาง ช่วยป้องกันนางจากการโจมตีที่กำลังจะมาถึง นี่คือ…
หานอวี่!
แววตาของจิวเป็นประกายขึ้น และในวินาทีต่อมา ร่างของหานอวี่และอวี่เหวินเซี่ยวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง
ที่แท้ ถนนสายนี้ก็เป็นเส้นทางเดียวสำหรับหานอวี่และอวี่เหวินเซี่ยวที่จะกลับไปยังสำนักหลิงเป่า
หานอวี่ ถึงแม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่แน่ชัด แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้แม่นางจิวตกอยู่ในอันตรายได้!
อวี่เหวินเซี่ยว ไอ้บ้าเอ๊ย ติดตามพระเอกมานี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ! เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบเนี่ย พี่ใหญ่ พี่อยู่ที่ไหน มาช่วยให้พ้นทุกข์หน่อย!
เนื่องจากหานอวี่และอวี่เหวินเซี่ยวมาเข้าร่วมวงต่อสู้ จิวปกป้องเชียนเอ๋อร์ไปด้วยถอยหลังออกมาไปด้วย ทั้งสามคนในเวลานี้ตีเสมอกับเหล่าคนชุดดำนั้น
“ฮิฮิฮิ”
และในเวลานี้เอง ทันใดนั้นก็มีกลิ่นหอมแปลกๆ ลอยตามสายลมมา และสิ่งที่ลอยมาพร้อมกับกลิ่นหอมแปลกๆ นั้นก็คือผู้หญิงชุดแดง นางสวมชุดยาวสีแดงเปลือยไหล่ ไหล่สีขาวที่หอมกรุ่นของนางถูกเปิดออก ผ้าคลุมสีแดงปิดครึ่งใบหน้าของนาง ท่ามกลางแสงจันทร์มีเพียงดวงตาอันเรืองโรจน์คู่หนึ่งเท่านั้นที่มองเห็นได้
การมาถึงของหญิงสาวชุดแดงทำให้ภาพฉากนี้ดูแปลกไป
จิว ให้ตายสิ นึกไม่ถึงเลยว่าจะใส่เสื้อเหมือนกัน ข้าไม่ยอมรับหรอกว่าหญิงชุดแดงนั่นมีออร่ามากกว่าตัวข้า
ในขณะนี้ หญิงสาวชุดแดงเลิกคิ้ว เหลือบมองจิว จากนั้นก็มองลงไปยังหานอวี่และอวี่เหวินเซี่ยว แสดงความสนใจออกมาไม่น้อย
ในเวลาต่อมา ผึ้งเพชฌฆาตสีดำบินออกจากฝ่ามือของนางขึ้นไปเต็มท้องฟ้า แมลงสีดำนั่นกลมกลืนไปกับค่ำคืนของรัตติกาล ทำให้ผู้คนไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่าได้!
ผึ้งเพชฌฆาต!
นี่คือ…
“ทุกคนระวัง นางคือต่งชิงซิ่ว!”
ในเวลานี้เอง อวี่เหวินเซี่ยวก็เดาถึงตัวตนของหญิงสาวในชุดแดงได้แล้ว…เทพธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักฮวนสี่ ต่งชิงซิ่ว ชอบสวมชุดสีแดง ปล่อยตัวตามธรรมชาติ เป็นอิสระ ใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต สิ่งที่ทำให้คนป้องกันอย่างไรก็ป้องกันไม่หมดคือนางเลี้ยงผึ้งเพชฌฆาตไว้จำนวนมาก!
ลักษณะแบบนี้ ถ้าหากเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจละก็…
ในใจของอวี่เหวินเซี่ยวพลันนึกชื่อหนึ่งขึ้นมาได้ คงไม่ใช่…ติงจยาจยานั่นใช่ไหม พวกระดับสูงให้อภิสิทธิ์กับนางเป็นพิเศษเหรอ
ขณะที่อวี่เหวินเซี่ยวเหม่ออยู่นั้น ผึ้งเพชฌฆาตเหล่านั้นก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
“ศิษย์พี่อวี่เหวินระวัง!”
หานอวี่ที่อยู่ด้านข้างรีบปล่อยสมบัติเวทคุ้มกันกายที่หลอมใหม่ของเขาออกไปแล้วหลายสิบชนิด ในขณะที่การโจมตีของเหล่าผึ้งเพชฌฆาตนั้นดำเนินไปเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น!
มีข่าวลือไปทั่วทุกหนแห่งว่าต่งชิงซิ่วอาศัยวิธีการฝึกฝนแบบเข้าคู่บำเพ็ญเพียร บรรลุสู่ระดับแก่นทองคำขั้นปลายตั้งนานแล้ว และผึ้งเพชฌฆาตของนางก็บรรลุสู่ระดับแก่นทองคำขั้นสมบูรณ์แล้วเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นพลังโจมตีของปีศาจอสูรนั้นรุนแรงมาก เทียบได้กับผู้บำเพ็ญเพียรมนุษย์ระดับก่อกำเนิดขั้นต้นแล้ว!
หลังจากนั้นไม่นาน หานอวี่และอวี่เหวินเซี่ยวก็เริ่มอ่อนกำลังลงเล็กน้อย
และต่งชิงซิ่วในชุดสีแดงก็ค่อยๆ เข้ามาถึงด้านหน้าของทั้งสองคน
ทุกคนที่ขวางทาง ทุกคนที่มีพลังบำเพ็ญที่ต่ำกว่าตัวเอง ฆ่าให้หมดก็ดีแล้ว
นี่ ก็คือข้อดีของผู้บำเพ็ญเพียรสายอธรรม สามารถฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้ตามอำเภอใจและไม่มีใครสงสัย!
ในขณะที่ต่งชิงซิ่วกำลังยิ้มและรอชัยชนะ ทันใดนั้นทิศทางลมก็เปลี่ยนไป
ญาณรับรู้วิกฤตที่มองไม่เห็นพลันผุดขึ้นในใจนาง…อันตราย!
รูม่านตาของต่งชิงซิ่วหดตัว “รีบถอยไป!”
ก่อนที่คำพูดของนางจะสิ้นสุดลง เมื่อลมราตรีพัดเข้ามาอย่างช้าๆ ผู้คนในชุดดำรอบตัวนาง รวมถึงคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างหานอวี่ คนทั้งหมดที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามล้วนล้มลงกับพื้น
ร่างสีขาวเดินเข้ามาภายใต้เสงจันทร์
เสื้อผ้าโบกสะบัด สะท้อนให้เห็นใบหน้าสว่างสดใสราวกับหยก
สวีเช่อ?
ต่งชิงซิ่วตกตะลึง จิตสำนึกพลันต้องการให้หนีไป
แต่ครู่ต่อมา จู่ๆ ชายคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของนาง มือคู่ใหญ่เรียวสวยทรงพลัง รัดคอของต่งชิงซิ่วแน่นราวกับจะฆ่าให้ตาย
ต่งชิงซิ่วที่เมื่อครู่ช่างห้าวหาญมาก ในเวลานี้ ต่อหน้าเขากลับเหมือนทารกแรกเกิดที่ไม่กล้าต่อสู้กลับ
“อึก…เจ้า…”
ต่งชิงซิ่วต่อสู้ดิ้นรนพยายามจะเอ่ยปากพูด แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับบีบคอนางด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก ราวกับว่าดวงวิญญาณของตนจะคืนกลับสู่แดนสุขาวดีเมื่อใดก็ได้
ไม่ได้ เธอจะตายไม่ได้
สายตาของต่งชิงซิ่วเผยให้เห็นความแน่วแน่ ในเวลาต่อมาร่างของนางก็ระเบิดออก เลือดสดสาดกระเซ็น ลมปราณกระจายทั่วทุกสารทิศ!
คุณชายมั่วถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว เลือดสดเหล่านั้นไม่ได้หยดลงบนร่างกายของเขา แต่ต่งชิงซิ่วที่ระเบิดร่างกายตัวเอง กลับมีร่างทารกปราณพุ่งออกมาและหนีไปได้ทัน…
คิดไม่ถึงว่า…เธอจะสร้างร่างทารกปราณได้แล้ว!
ทุกคนในแดนบำเพ็ญเซียนต่างรู้เพียงว่าต่งชิงซิ่วบรรลุสู่ระดับแก่นทองคำขั้นปลายเมื่อไม่นานมานี้ แม้แต่ขั้นสมบูรณ์ก็ไม่ใช่ แต่ตอนนี้พอต่งชิงซิ่วที่อยู่ตรงหน้าระเบิดร่างกาย ทารกปราณก็ออกจากร่างมาแล้ว!
คุณชายมั่วจ้องมองไปยังทิศทางที่ร่างทารกปราณตัวน้อยของต่งชิงซิ่วกำลังหลบหนี อดไม่ได้ที่จะแค่นยิ้มอย่างเย็นชา…
สมกับที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจที่โดดเด่นที่สุดที่นั่น! ปกปิดได้มิดชิดจริงๆ!
น่าเสียดาย แม้ว่าคราวนี้เธอจะรอดไปได้ แต่ทารกปราณจะสามารถเอาชนะได้แค่คนที่มีพลังบำเพ็ญระดับต่ำกว่าเท่านั้น เจอกันคราวหน้า เธอก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี
สายลมยามค่ำคืนดูเหมือนจะยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ พัดเสื้อคลุมของคุณชายมั่วสะบัดไปมา
เขาหันกลับมา มองไปยังจิว เชียนเอ๋อร์ อวี่เหวินเซี่ยว และหานอวี่ที่ไม่ได้สติ ในท้ายที่สุดคุณชายมั่วยังคงมองไปที่ร่างของอวี่เหวินเซี่ยว
เขาก้าวไปข้างหน้า และสะบัดแขนเสื้อ อวี่เหวินเซี่ยวที่อยู่บนพื้นขนตาพลันสั่นไหว ขมวดคิ้วสองสามครั้ง
“ตื่นๆ”
คุณชายมั่วเตะอวี่เหวินเซี่ยวอย่างดุดันสองสามครั้ง
อวี่เหวินเซี่ยวลืมตาขึ้นทันที และเห็นคุณชายที่อ่อนโยนราวกับหยกตรงหน้า เขาเบิกตากว้างทันทีอย่างระมัดระวัง “เจ้า…”
คือสวีเช่อใช่ไหม
ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจทุกคนคาดเดาว่าเป็นสวีเช่อ ให้ตายเถอะ ภาพลักษณ์ของคุณชายมั่วที่อยู่ตรงหน้า บวกกับพลังบำเพ็ญที่ยอดเยี่ยมแล้ว นี่เหมือนกับพี่ใหญ่สวีราวกับแกะ!
“บอกข้าถึงสิ่งที่เจ้ารู้มาทั้งหมด มิเช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้”
คุณชายมั่วหลับตาลงและมองไปที่อวี่เหวินเซี่ยวที่อยู่บนพื้นด้วยเสียงเย็นชาและขมขื่น
น้ำเสียงแบบนี้…ดูไม่เหมือนสวีเช่อแฮะ อืม อาจจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ
แววตาของอวี่เหวินเซี่ยวเปลี่ยนไปและแสดงท่าที่อย่างระมัดระวัง “ท่านจอมยุทธ์ พวกข้าไม่รู้อะไรเลย หากท่านไม่เชื่อ ท่านก็ปลุกศิษย์น้องของข้าขึ้นมา ถามเขาดู พวกข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! ใต้เท้าท่านช่างทรงอำนาจ ถือเสียว่าพวกข้าเป็นเหมือนลม ปล่อยไปเถิด!”
“หึ”
เมื่อได้ยินคำพูดของอวี่เหวินเซี่ยว คุณชายมั่วก็ยิ้มอ่อน “เดิมทีข้าไม่คิดจะใช้เคล็ดวิชาค้นจิตใจกับเจ้า ในเมื่อเจ้าไม่ให้ความร่วมมือ เช่นนั้นก็โทษข้าไม่ได้แล้ว!”
ขณะที่พูดนั้น คุณชายมั่วก็โน้มตัวลงมา นิ้วเรียวยาวค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาตรงหน้าของอวี่เหวินเซี่ยว
“ช้าก่อน! ช้าก่อน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณชายมั่ว อวี่เหวินเซี่ยวที่อยู่บนพื้นก็ตื่นตระหนกในทันที “เอ่อ…เอ่อ ท่านอยากรู้สิ่งใดหรือ”
“เบาะแส หลังจากนายเข้ารับภารกิจแล้ว ได้รับเบาะแสอะไรของโลกนี้!”
เมื่อคุณชายมั่วพูดจบ สีหน้าของอวี่เหวินเซี่ยวก็ซีดขาวทันที…น้องสาวแกสิ! ที่แท้ก็เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจคนหนึ่ง และยังเป็นคนชอบทำความผิดชนิดที่ฆ่าและปล้นสะดมคนอื่นไปอีกด้วย!
อันที่จริงแล้วคุณชายมั่วก็เพิ่งรู้เบาะแสเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เช่นกัน คราวนั้นเขาไปเก็บสมุนไพรในหุบเขาแห่งหนึ่ง เป็นผลให้ระหว่างทางเขาพบเข้ากับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจ ในการเผชิญหน้าระหว่างคนสองคน เพื่อความอยู่รอด เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจคนนั้นบอกคุณชายมั่วว่าเขาได้รับเบาะแสของเนื้อเรื่องเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ และในท้ายที่สุด คุณชายมั่วย่อมไม่รักษาสัจจะแล้วส่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจคนนั้นไปแดนสุขาวดีโดยไม่พูดอะไร เอ่อ ใช่แล้ว ก็ไม่มีหลักการที่ยึดถือแบบนี้นี่แหละ
ต้องโทษที่คุณชายมั่วฆ่าคนทุกครั้งล้วนสะอาดสะอ้านและประณีตบรรจง แม้ว่าจะฆ่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจไปแล้วห้าหกคน แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่า แท้จริงแล้วโลกแห่งภารกิจนี้มีแผนการแอบแฝงและมีเส้นเรื่องหลัก
เมื่อครู่ที่เขาต่อสู้กับต่งชิงซิ่ว เขาพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็วและมั่นคง ท้ายที่สุดแล้วต่งชิงซิ่วก็ระเบิดตัวเองหนีไป คราวนี้จับอวี่เหวินเซี่ยวได้ คุณชายมั่วย่อมไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้ง่ายๆ