ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 12 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (12)
“นี่คือผลึกเปลวสวรรค์”
ในขณะที่ซูหว่านและจิวกำลังงุนงงกับมีดทำครัวอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงเล็กๆ ของดอกเหมยน้อยดังขึ้นบนหัวของซูหว่าน “นี่เป็นวัตถุดิบหลอมชั้นเลิศ ตั้งแต่เลี่ยเหยียนเซียนจวินระเบิดตัวเองเมื่อห้าพันปีก่อน วัตถุดิบหลอมอาวุธชั้นเลิศเช่นนี้ก็หาได้ยากมากในแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์!”
วัตถุดิบหลอมอาวุธชั้นเลิศ!
ซูหว่านมีสีหน้าตกใจ ถ้านางได้ยินมาไม่ผิด ดอกเหมยน้อยเพิ่งพูดถึงเลี่ยเหยียนเซียนจวิน! นอกจากนี้ยังมีการระเบิดตัวเองอะไรนั่นอีก ที่นี่…หรือว่าจะเป็นโลกใบนั้นกัน
โลกใบนั้น…
ซูหว่านนึกถึงตำนานที่นางอ่านในห้องจดหมายเหตุได้…ตำนานนั้นกล่าวไว้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจหญิงคนหนึ่งได้ตกหลุมรักกับผู้ชายในโลกภารกิจคนหนึ่ง และไม่ว่ากฎแห่งสวรรค์จะลงโทษอย่างไรก็ต้องการเพียงให้กำเนิดทายาทเพื่อผู้เป็นที่รัก ต่อมาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจหญิงก็ได้ให้กำเนิดบุตรแก่ชายผู้นั้น แต่อย่างไรก็ตามเด็กคนนั้นก็ไม่พ้นโทษจากสวรรค์ ชายผู้สูญเสียภรรยาและลูกจึงคลั่งและระเบิดตัวเองในที่สุด
ชายผู้นั้น ก็คือเลี่ยเหยียนเซียนจวิน!
และตอนนี้ ตัวนางได้เข้ามาในโลกห้าพันปีหลังจากที่เลี่ยเหยียนเซียนจวินระเบิดตัวเองเหรอ
เพราะอะไรถึงเลือกโลกนี้กัน ที่นี่มีความลับอะไรกัน
ซูหว่านเงยหน้าขึ้นและถามอย่างแผ่วเบา “ดอกเหมยน้อย เจ้ารู้เรื่องมากเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้ารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเลี่ยเหยียนเซียนจวินอีกหรือไม่”
“ข้า…”
ในเวลานี้ดอกเหมยน้อยได้แปลงกายเป็นร่างเดิมแล้ว นางลอยไปที่มีดทำครัวเบาๆ ผลึกเปลวสวรรค์นี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับนางเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกับเมื่อครู่ สมองของนางปรากฏภาพบางอย่างขึ้น
“ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดข้าถึงรู้ แต่ เหมือนว่าข้าเห็นบางอย่าง ข้าพลันนึกถึงภาพฉากจำนวนหนึ่งขึ้นมาได้ มีผลึกเปลวสวรรค์ที่สมบูรณ์ซ่อนอยู่ในมีดเล่มนี้ ผลึกเปลวสวรรค์นี้ เดิมที่เป็นวัตถุดิบที่เลี่ยเหยียนเซียนจวินวางแผนจะใช้หลอมเป็นอาวุธเวทให้จิงหงเซียนจื่อ อืม…”
เมื่อดอกเหมยน้อยพูดมาถึงตรงนี้ ทันใดนั้นดอกไม้น้อยก็สั่นไปทั้งตัว “ข้าเหมือนจะเห็นแล้ว เด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นเหมย นาง…นางสวมชุดสีแดง ข้อมือของนางมีสร้อยข้อมือทองคำ!”
“อะไรนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของดอกเหมยน้อย ซูหว่านก็ตกตะลึงไป นางแตะไปที่ข้อมือของตัวเองโดยไม่รู้ตัว รอยสักสีทองนั้นยังอยู่
“น่าเสียดาย เห็นเพียงแค่ด้านหลัง ข้าไม่เห็นหน้าของนาง”
ในเวลานี้อารมณ์ของดอกเหมยน้อยก็สงบนิ่งลงอย่างกะทันหัน
ต้นเหมยสีแดงในภาพนั้นให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับนางมาก ให้ความรู้สึกใกล้ชิดเป็นพิเศษ นั่นคือ…ท่านแม่หรือ
ดอกเหมยน้อยไม่ค่อยแน่ใจ แต่นางรู้ว่าต้นเหมยสีแดงและผู้หญิงใต้ต้นเหมยนั้นต้องมีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับตัวนางเองแน่…
เหมยแดง ชุดแดง สร้อยข้อมือทองคำ
เมื่อได้ยินคำพูดของดอกเหมยน้อย ซูหว่านก็ครุ่นคิดอย่างหนัก จิวที่อยู่ด้านข้างก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างเฉยเมย “ทั้งหมดนี่มันอะไรกัน ดอกเหมยน้อยเจ้าไม่ใช่ดอกเหมยแดงหรือ ข้าก็ใส่ชุดสีแดง ถ้าหากเจ้างูน้อยมีสร้อยข้อมือทองคำ พวกเราก็มีครบแล้ว! สวรรค์ เจ้าอย่าบอกข้านะว่า ข้าก็คือเลี่ยเหยียนเซียนจวินกลับชาติมาเกิด!”
“ช้าก่อน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจิว ดวงตาของซูหว่านก็เป็นประกาย “กลับชาติมาเกิด? ผู้สืบทอด? หลอมอาวุธ เตาเล็ก!”
“ดอกเหมยน้อย เลี่ยเหยียนเซียนจวินผู้นั้นเป็นปรมาจารย์นักหลอมอาวุธด้วยใช่หรือไม่”
“อืม ใช่”
ดอกเหมยน้อยพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ในภาพที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพด้านหลังของเลี่ยเหยียนเซียนจวิน แต่เขาก็เป็นปรมาจารย์นักหลอมอาวุธ และยังมีเตาเล็กที่ทรงพลังมากอีกด้วย!
ที่แท้!
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะขบริมฝีปากขึ้นมา…
หานอวี่ก็คือพระเอก และรอยสักเตาเล็กบนข้อมือของเขาก็คืออาวุธเวทชิ้นแรกของเลี่ยเหยียนเซียนจวินเมื่อห้าพันปีก่อน
เมื่อพิจารณาจากโครงเรื่องในขณะนี้ ความลึกลับของชีวิตดอกเหมยน้อย ดูเหมือนจะเกี่ยวของกับเลี่ยเหยียนเซียนจวินเมื่อห้าพันปีที่แล้ว แต่หานอวี่กลับไม่รับรู้ถึงนาง สามารถพูดได้ว่าหานอวี่ไม่น่าจะใช่เลี่ยเหยียนเซียนจวินที่กลับชาตมาเกิด เช่นนั้นความเป็นไปได้ที่ใหญ่สุดที่สุดก็คือหานอวี่เป็นผู้สืบทอดของเลี่ยเหยียนเซียนจวิน!
หลังจากที่เขาได้รับเตาเล็กลึกลับนี้แล้ว เตาเล็กนี้ก็จะแนะนำให้เขาค้นหาทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเลี่ยเหยียนเซียนจวิน จากนั้นเริ่มต้นจากมรดกที่เลี่ยเหยียนเซียนจวินทิ้งไว้เมื่อห้าพันปีก่อน และต่อจากนี้ไปก็จะเป็นการออกเดินทางของพระเอกผู้มีอำนาจเรียกฟ้าเรียกฝน!
ติ๊ง!
ในเวลานี้เอง ในสมองของซูหว่านก็มีเสียงของระบบดังขึ้น…
[ขอแสดงความยินดีกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจซูหว่าน คุณทายเนื้อเรื่องหลักของโลกแห่งภารกิจนี้ถูกต้องแล้ว ต่อไปเป็นโอกาสของคุณที่จะถามหนึ่งคำถาม ดิฉันจะให้คำตอบที่ตรงกับสถานการณ์จริง จำไว้ว่าคุณมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น! ข้อควรจำ เพื่อความเป็นธรรม ห้ามถามถึงตัวตนและตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจท่านอื่น ขอขอบคุณในความร่วมมือ]
ที่แท้การทดสอบก็ยังเล่นแบบนี้ได้
ซูหว่านตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็อดถามคำถามในหัวไม่ได้ว่า ‘ตอนนี้ฉันจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ที่แดนเซียนคุนหลุน สำนักที่ปลอดภัยที่สุดคือที่ไหน’
[สำนักฮวนสี่]
หลังจากให้คำตอบแล้ว เสียงนั้นก็เงียบลงไป
สำนัก ฮวน สี่?
ซูหว่านขมวดคิ้วทันที คำถามนี้ของนางถือว่ามีทักษะในการถามอย่างมาก เพราะว่าตอนนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจอีกกว่าสามสิบคน ตามนิสัยของสำนักงานใหญ่แล้ว ในแต่ละพรรคสำนักอย่างน้อยย่อมต้องมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจสักหนึ่งถึงสองคน ถ้างั้นเยี่ยซินและติงจยาจยาจะอยู่ที่ไหนล่ะ
สถานที่ที่พวกนางอยู่ ย่อมเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับซูหว่านแล้ว ดังนั้นซูหว่านจึงถามคำถามแบบนี้ และคำตอบจากสำนักงานใหญ่ทำให้ซูหว่านพูดไม่ออกในทันที…
สำนักฮวนสี่ สำนักบำเพ็ญเพียรคู่ที่โด่งดังที่สุดในแผ่นดินใหญ่!
เอาเถอะ นี่มันเกิดมาเพื่อติงจยาจยาแท้ๆ เลย! บุรุษหนุ่มรูปงามในใต้หล้าล้วนเป็นเตาหลอม
แต่ ถ้าติงจยาจยาไม่ได้อยู่ที่สำนักฮวนสี่แต่เป็นเยี่ยซิน…เอ่อ
ซูหว่านลอบถอนใจ สำนักฮวนสี่ไม่ใช่รสนิยมของนางจริงๆ ดูเหมือนว่านางยังคงต้องพึ่งตัวเองเสียแล้ว และไม่สามารถพึ่งพาคำชี้แนะของสำนักงานใหญ่จอมหักหลังนี้ได้
ผลึกเปลวสวรรค์เป็นของดีจริงๆ ทว่าชาวบ้านเดิมไม่มีความผิด แต่เพราะมีหยกกับตัวจึงมีความผิด
ด้วยพลังบำเพ็ญของซูหว่านและจิวสองคนแล้วไม่สามารถปกป้องสิ่งของล้ำค่าเช่นนี้ได้เลย ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะส่งกลับไปให้พระเอกใช้เพื่อซื้อใจเขา
เมื่อมีดทำครัวหายไปจากห้องครัวของเรือหนึ่งเล่ม พ่อครัวเหล่านั้นก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะพวกเขาต่างก็มีมีดทำครัวเฉพาะของตัวเอง และไม่มีใครสนใจมีดที่ใช้ร่วมกันอีกต่อไป
แต่หานอวี่ผู้ปล่อยให้มีดทำครัวหายไปโดยไม่ตั้งใจ ในเวลานี้ เขาอารมณ์เสียไปทั้งตัว เป็นผลให้ในคืนนั้น ซูหว่านได้นำมีดทำครัวนั้นไปให้เขาด้วยตัวเอง
“นี่เป็นของล้ำค่า สหายหานต่อไปโปรดเก็บรักษาอย่างระมัดระวังด้วย!”
ซูหว่านมีน้ำเสียงลึกลับเมื่อส่งมีดคืน นางไม่อยากถูกหานอวี่มองว่าเป็นคนโง่ที่ไม่รู้คุณค่าของสิ่งของชิ้นนี้ ตอนนี้นางต้องการตีสนิทและดึงพระเอกมาเป็นพวก แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้ตัวพระเอกนั้นรู้สึกว่าเขาติดหนี้บุญคุณนาง
“นี่…”
หานอวี่มองไปยังซูหว่านที่ยังคงแสดงรอยยิ้มที่ชวนอึดอัดใจ “แม่นางเสี่ยวชิง นี่…”
“ของสิ่งนี้คืออะไร สหายหาน เจ้ารู้ดี ข้าเองก็รู้ เจ้าเคยพูดไม่ใช่หรือว่าเรามีวาสนาต่อกัน หากพวกเราได้พบกันอีกในภายหน้า เสี่ยวชิงหวังว่าสหายหานจะไม่ใจแคบ นำของชิ้นนั้นมาช่วยข้าสร้างอาวุธที่มีประโยชน์ได้ แน่นอนว่า ท่านเพียงมาช่วยเติมเต็มให้อีกนิดหน่อยเท่านั้น ข้าผู้นี้ไม่ใช่คนโลภมากอะไรนัก”
เมื่อพูดจบ ซูหว่านก็ยิ้มให้หานอวี่ แล้วหันหลังจากไป
นี่นางรู้ทุกอย่างเลยหรือ
หานอวี่มองไปยังแผ่นหลังของซูหว่านและยิ้มเล็กน้อย ยากนักที่จะเจอคนที่ฉลาดรอบรู้!
แค่อาวุธหนึ่งชิ้นเท่านั้น ข้าหานอวี่จะจดจำความรู้สึกที่เจ้าคืนมีดในวันนี้…
สามวันต่อมา เรือของสำนักจื่อหยางได้เทียบท่าที่ชายแดนแดนเซียนคุนหลุน
ฉวยโอกาสยามที่เสี่ยวเชียนเอ๋อร์กำลังนอนหลับอยู่ ซูหว่านก็พาดอกเหมยน้อยเดินทางจากไปแล้ว ที่นี่เป็นเพียงชายแดนของแดนเซียนคุนหลุนเท่านั้น ยังต้องใช้เวลาอีกมากในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ซูหว่านใช้เหรียญวิญญาณซื้อแผนที่ของแดนเซียนคุนหลุน ซึ่งบนนั้นระบุตำแหน่งของสำนักต่างๆ ทั้งหมด กระทั่งวันเดือนที่เปิดสำนักเพื่อรับเหล่าลูกศิษย์ก็ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน หลังจากนับวันเวลาแล้ว ซูหว่านก็พบว่า ตัวนางเพิ่งจะมาทันวันที่สำนักจื่อหยางและสำนักเทียนเซียนคัดเลือกลูกศิษย์ภายนอกของปีนี้
สำนักเทียนเซียนหนึ่งในสำนักชั้นหนึ่งในบรรดาสามสำนักใหญ่แห่งแผ่นดินใหญ่ชางเย่ว์ และสำนักจื่อหยางเป็นสำนักชั้นสองที่ไม่สามารถมองข้ามได้
เพื่อพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ซูหว่านก็รู้สึกว่าสำนักจื่อหยางดีกว่าเล็กน้อย สำนักเทียนเซียนมีรากฐานที่ลึกเกินไป ในสำนักมีสัตว์ประหลาดที่ยังไม่เกิดจำนวนมาก หากพวกเขาค้นพบตัวตนของนางและดอกเหมยน้อยเข้าแล้ว ก็คงมีปัญหาแน่
อืม ไปสำนักจื่อหยางนี่แหละ!