ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 1 บททดสอบบำเพ็ญเพียร (1)
ซูหว่านกับติงจยาจยากลับมาถึงห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญเร็วกว่าที่เยี่ยซินคาดคิดอยู่บ้าง ที่นี่ยังเป็นช่วงเวลากลางคืนอยู่
“พวกคุณรีบกลับไปพักผ่อน พรุ่งนี้แปดโมงเช้า เราไปสำนักงานใหญ่ด้วยกัน!”
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยซิน ติงจยาจยาก็หันกายจากไปอย่างกระตือรือร้นทันที…
เฮ้อ บททดสอบห้วงกาลอวกาศจ๋า ฉันมาแล้วมา หนุ่มๆ ทั้งหลายอย่าเพิ่งร้อนใจ ฉันต้อง…อุปถัมภ์อยู่แล้ว
เยี่ยซินทำหน้าพูดไม่ออกขณะมองร่างที่กำลังกระโดดโลดเต้นของติงจยาจยา เธอหันกลับมามองซูหว่าน
“เธอก็พักผ่อนให้เต็มที่นะ เรื่องของเธอ ฉันยื่นให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ตอนเข้าไปในแคปซูลเชื่อมต่อเพื่อเข้าสู่การทดสอบ มันจะปิดกั้นความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับซูรุ่ยในสมองเธออัตโนมัติ”
“อืม รับทราบค่ะ” ซูหว่านพยักหน้า
หลังจากบอกลากับเยี่ยซิน เธอก็กลับเข้าห้องตัวเอง
เธอไม่เคยพักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องตัวเองมานาน เมื่อก่อนเธอยุ่งอยู่กับการเก็บสะสมแต้ม จึงทำภารกิจไม่หยุดหย่อน แต่ตอนนี้ เธอยุ่งกับการอยู่กับซูรุ่ย ไม่คะนึงหาห้วงกาลอวกาศนี้อีกแม้แต่น้อย
ซูรุ่ย…
ถ้าพบกันอีกครั้ง เราจะมีท่าทีต่อกันยังไง
แม้กังวลใจเล็กๆ แต่ซูหว่านกลับตื่นเต้นดีใจมากกว่า นี่เป็นครั้งแรกของเธอ และเป็นครั้งสุดท้ายที่เข้าร่วมการทดสอบห้วงกาลอวกาศ
เธอเหนื่อยแล้ว เธออยากพักผ่อนแล้ว
หัวใจเธอพบบ้านแล้ว การทดสอบในครั้งนี้จึงถือเป็นการเดินทางอำลาชีวิตเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจของตนเองก็แล้วกัน…
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ซูหว่านตื่นแต่เช้า เธอสวมชุดกระโปรงสีแดงสดที่เจอในตู้เสื้อผ้าตัวเอง ปล่อยผมดำหยักศกประบ่าตามธรรมชาติ
ซูหว่านลูบไล้ใบหน้าตนเอง เธอไม่ได้มีหน้าตาน่ารักแบบติงจยาจยา สเปกที่ผู้ชายเรียบร้อยชอบกัน แต่บุคลิกลักษณะของเธอกลับออกแนวบริสุทธิ์อ่อนโยน ถ้าดูแต่รูปร่างหน้าตา เธอไม่มีรัศมีของราชินีสักนิดจริงๆ กลับเหมือนลูกแกะน้อยที่อ่อนแอตัวหนึ่งมากกว่า
แต่ ลูกแกะตัวนี้กลับกินคนได้
เย็นชาและอ่อนโยน บุคลิกที่ขัดแย้งกันนี้ ดูๆ ไปก็ทำให้ซูหว่านมีเสน่ห์ดึงดูดสายตามาก
ตอนที่เธอกับติงจยาจยาเดิมตามเยี่ยซินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของสำนักงานใหญ่นั้น สามสาวสามสไตล์ที่มีความงามแตกต่างกันสุดๆ ก็เรียกเสียงกรีดร้องในเสียงฮือฮาของห้องโถงใหญ่ทันที
ชายสวมชุดสูทสีขาวท่าทางกร่างคนหนึ่งค่อยๆ เดินมายืนตรงหน้าสามสาว ก่อนพูดยิ้มๆ “สาวสวย ไปด้วยกันไหมจ๊ะ”
พอได้ยินคำพูดของเขา เยี่ยซินก็ทำหน้าขรึม “เยี่ยคานฮวน ไปไกลๆ เลย!”
“เสี่ยวซินจื่อ คุณไม่มีหัวใจจริงๆ”
เยี่ยคานฮวนทำท่าอกหัก แล้วจึงหันไปจ้องมอง…หน้าอกของติงจยาจยา “จยาจยา ไปด้วยกันไหม”
“ไปสิๆ”
ติงจยาจยายิ้มยั่ว ก่อนก้าวเข้าไปคล้องแขนเยี่ยคานฮวน เนินสูงสองเนินถูไปกับแขนของเขาอย่างแนบเนียน เล่นเอาเยี่ยคานฮวนรีบสะบัดแขนออกจากมือของติงจยาจยาราวกับถูกไฟช็อตทันที
ติงจยาจยาพูดไม่ออก…
ว่าแล้ว อีตาหนุ่มเวอร์จิ้นอะไรเนี่ย ไม่มีหัวใจเป็นที่สุด เซ็ง! เซ็ง! เซ็ง!
พอเห็นท่าทางเขินอายของเยี่ยคานฮวน ซูหว่านที่เฉยมาตลอด ก็ยิ้มออกจนได้
ขณะเดียวกัน ชายคิ้วรูปดาบ ตาเป็นประกาย ในชุดสูทสีขาวอีกคน ก็ก้าวเข้ามา เขาก็คือเจ้านายคนปัจจุบันของเยี่ยคานฮวน หัวหน้าแผนกเกิดใหม่ ฉินอวี่
“มากันแล้ว!”
ฉินอวี่คุ้นเคยกับคนในแผนกต่างๆ ดี เขาทักทายพลางยิ้มน้อยๆ จากนั้นค่อยยกมือขึ้นดึงคอเสื้อด้านหลังของเยี่ยคานฮวน นำไปไว้ที่ด้านหลังตน “หลินรั่ว ลากกลับไปสั่งสอนให้ดีๆ! ต่อไปอย่าซี้ซั้วปล่อยให้ออกมาทำคนในแผนกเกิดใหม่ของเราขายหน้าอีก!”
เยี่ยคานฮวน…
ตอนนี้คุณชายเยี่ยสัมผัสได้แล้วว่า โลกทั้งใบเต็มไปด้วยความโหดร้าย
“ครับ”
คำขานรับคือคำว่า ‘ครับ’ ที่เย็นชาคำหนึ่ง แล้วเยี่ยคานฮวนก็ถูกหลินรั่วที่ยืนอยู่อีกด้านมาตลอดลากออกไปอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็คือเสียงร้องครวญครางพร้อมกับเสียงเตะต่อยของมือและเท้า…
เยี่ยซินเลิกคิ้วขึ้น คนที่เธอนับถือมากที่สุดก็คือฉินอวี่ คุณเห็นท่าทางเขาเป็นคนมีความสามารถ มีรอยยิ้มที่ไม่เป็นอันตรายใดๆ แบบนี้ ให้ตายสิ หมอนี่คือจิ้งจอกหนุ่มเจ้าเล่ห์ใจดำดีๆ นี่เอง
ของแปลกอย่างเยี่ยคานฮวนกับหลินรั่ว ล้วนถูกฉินอวี่จัดการจนหมอบราบคาบแก้ว ต้องบอกว่า ในการทดสอบครั้งนี้ คนที่เยี่ยซินกังวลใจว่าจะเจอมากที่สุด นอกจากราชาอย่างสวี่เช่อแล้ว ก็คือฉินอวี่ ผู้มีฉายาว่า พี่รองหมื่นปี แน่นอน ยังมีบุคคลอันตรายลำดับที่สาม ซึ่งก็คือซูรุ่ย ผู้ลึกลับยากคาดเดา
อาจเป็นเพราะ นอกจากซูหว่านแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าซูรุ่ยแข็งแกร่งขนาดไหน กระทั่งสวี่เช่อเองก็ยังไม่กล้าพูดว่าตนเองรู้ดี…
“พวกคุณมาเร็วมาก มากันครบหรือยัง”
เยี่ยซินถามพลางหันมองไปรอบๆ นอกจากคนของแผนกเกิดใหม่แล้ว ยังมีแผนกข้ามมิติ แผนกนางรองกับแผนกพระรองก็มากันหมด
“เกือบครบแล้วล่ะ รอแค่นายใหญ่ท่านนั้นแล้ว”
ฉินอวี่พูดถึงสวี่เช่อขึ้นมา เห็นชัดว่า ไม่ได้ญาติดีกันนัก
ดังคำกล่าวที่ว่า ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร หลายปีมานี้ การที่แผนกเกิดใหม่กับแผนกทำลายยังคงรักษามิตรภาพแบบสหายอย่างแนบแน่นกันมาตลอด เพราะพวกเขามีศัตรูหนึ่งเดียวร่วมกันมาตลอด แผนกฟื้นฟู!
แผนกฟื้นฟู กับแผนกทำลายเป็นศัตรูกันโดยกำเนิด
ส่วนฉินอวี่กับสวี่เช่อ คล้ายเป็นคู่ต่อสู้กันโดยกำเนิด แต่อย่างไร ฉินอวี่ก็ถูกสวี่เช่อกดอยู่หนึ่งขั้นตลอดกาล ความเจ็บปวดที่ถูกเรียกว่า พี่รองหมื่นปี ผู้อื่นไม่มีวันไม่เข้าใจ…
“เทพบุตร!”
ขณะที่เยี่ยซินกำลังพูดคุยอยู่กับฉินอวี่ ประตูใหญ่ของสำนักงานใหญ่ก็เปิดออกอัตโนมัติอีกครั้ง ผู้ชายสามคนเดินเคียงไหล่กันเข้ามา คนเป็นหัวหน้าอ่อนโยนดุจหยก เขาสวมชุดสูทสีดำแบบพอดีตัว แต่กลับเปล่งรัศมีแบบเซียนจุติผู้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก
สวี่เช่อ ราชาในหมู่ผู้ปฏิบัติภารกิจของห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ!
พอก้าวเข้ามา สวี่เช่อก็ดึงดูดสายตาของทุกคนทันที
ไม่สิ มีคนคนหนึ่งไม่ได้มองสวี่เช่อ
ซูหว่านยืนนิ่งอยู่กับที่ จ้องมองซูรุ่ยที่อยู่ด้านขวาของสวี่เช่อ ซึ่งซูรุ่ยในตอนนี้ ดูจากภายนอกแล้ว มีอายุอานามราวยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ปี
เห็นที หลังจากตนไปจากราชวงศ์ต้าเซี่ย หลายปีต่อมา เขตแดนนั่นถึงค่อยๆ พังทลายออกเป็นเสี่ยงๆ
ในช่วงเวลานั้น ซูรุ่ยมีชีวิตอยู่ยังไงนะ
ขณะซูหว่านกำลังเหม่อมองซูรุ่ย ซูรุ่ยก็กำลังเหม่อมองซูว่านเช่นเดียวกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นตัวตนภรรยาตนเองอย่างแท้จริง จะพูดยังไงดีล่ะ ในใจแม่ทัพซูตื่นเต้นนะ! ภรรยาฉันก็คือผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกดังคาด เสียดายไม่มีเตียงใหญ่ๆ สักเตียง…
แม่ทัพซู คุณกำลังคิดอะไรอยู่
อะแฮ่ม ความจริงแม่ทัพซูเขาแค่อยากนั่งลงห่มผ้าคุยกับซูหว่านเฉยๆ คุย-กัน-เฉยๆ! เข้าใจไหม
นาทีนี้ คล้ายผู้คนที่อยู่รอบๆ ไม่มีตัวตน ซูรุ่ยไม่สนใจคนรอบข้าง เขาพุ่งไปอยู่ตรงหน้าซูหว่านดุจลูกธนูหลุดจากแหล่ง ไม่พูดพล่ามทำเพลงใดๆ ก้มลงจูบริมฝีปากเธอ
นี่ถึงจะเป็นคนที่เขาใฝ่ฝันถึง นี่ถึงจะเป็นลมหายใจและกลิ่นหอมที่ทำให้เขาลืมไม่ลง
พอรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและกระตือรือร้นในจูบของซูรุ่ย ซูหว่านก็จูบตอบตามจิตใต้สำนึก
ทั้งสองกอดจูบกันอย่างดูดดื่มต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจหลายสิบคน ส่วนติงจยาจยาที่ยืนอยู่อีกด้านก็อดไม่ได้ที่จะทำตาลุกวาว
ให้ตายสิ เทพบุตรมีเอกลักษณ์จริงๆ
ฉันก็อยากถูกเทพบุตรสักคน สะกดโลกให้หยุด ด้วยจูบที่ร้อนแรงอะไรทำนองนี้บ้าง…
ซูรุ่ยกับซูหว่านแสดงความรักต่อกันอย่างไม่เห็นว่าใครอยู่ในสายตาแบบนี้ หนุ่มเวอร์จิ้นอย่างเยี่ยคานฮวนที่อยู่อีกด้านเหมือนลืมไปแล้วว่าตนถูกหลินรั่วทุบตีจนเจ็บไปทั้งตัว…
เผด็จการเกินไปแล้ว! คุณชายเยี่ยรู้สึกว่าต่อไปตนต้องไปหาซูรุ่ยบ่อยๆ เรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม!
แบบนี้หนทางที่ตนจะแต่งได้ภรรยาที่ทั้งขาวสวยรวย เดินเข้าสู่จุดสุดยอดของชีวิตน่าจะอยู่ไม่ไกลแล้ว…
ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตะลึงหรืออิจฉาตาร้อนของผู้คน มีเพียงดวงตาของสวี่เช่อเท่านั้นที่พิเศษสุด แววตาของเขาไม่มีความเศร้าโศกหรือปีติยินดีขณะมองดูคนทั้งสอง แต่คลับคล้ายจะวาบประกายแววลึกลับอย่างไม่มีที่สิ้นสุดขึ้นมาอีก…