ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 169
ตอนที่ 169 ร่างแปลงอสูร
“ดูท่าทางแล้ว ฝ่ายเราก็น่าจะมีสายลับอยู่ในระดับสูงของนิกายอสูรฟ้าเช่นกัน” หยางฟางกล่าวด้วยรอยยิ้มเมื่อได้อ่านจดหมาย
เพิ่งชวนและจางหวินเฟิงพยักหน้า
พวกเขาคาดไว้แล้วว่าน่าจะมีการโจมตีเช่นนั้นเกิดขึ้น แม้ว่าเกาะสองโลกจะมีพื้นที่มากที่สุดแต่ส่วนมากมันก็เต็มไปด้วยภูเขา ป่าไม้ และเกาะมากมาย พื้นที่เช่นนั้นจึงเป็นเหตุว่าทําไมราชวงศ์เยวที่ยิ่งใหญ่มีประชากรน้อย หากพวกอสูรต้องการโจมตี พวกมันต้องเลือกที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดอยู่แล้ว!
“ในช่วงแผนการอพยพครั้งใหญ่นี้ เมืองหลวงรัฐและเมืองของจังหวัดจะอ่อนแอที่สุด พวกเราต้องรอดผ่านไปให้ได้” จางหวินเฟิงกล่าว “คนกว่าเจ็ดล้านคนในรัฐเพียงต้องพึ่งเรา”
“ใช่” เมิ่งชวนและหยางฟางเองก็ทําหน้าเคร่งขรึมเช่นกัน
เมื่อแผนการอพยพครั้งใหญ่เสร็จสิ้น เฟิงโหวเทพอสูรจะกลับมาร่วมกับพวกเขา และการป้องกันของเมืองหลวงรัฐจะแข็งแกร่งกว่าเดิม
เพิ่งชวนพยายามอย่างหนักทุกวัน เขาลาดตระเวนไปทั่วเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ว่าเขาก็ไม่พบกับสายลับคนใหม่ใดๆ
“หนึ่งในศิษย์นิกายอสูรฟ้าได้ลอบกลับออกไปแล้ว” เมิ่งชวนกล่าวกับจางหวินเฟิงและหยางฟาง “ข้าจะตามเขาไป”
“หากเขาไปไกลจากเมืองเกินกว่าสองร้อยล์ให้กลับมา” จางหวินเฟิงกล่าว “เมืองนี้ยังต้องการพวกเราคอย จัดการกับอสูรฟ้าและราชาอสูร
“เข้าใจแล้วขอรับ” เมิ่งชวนจากไปอย่างเงียบๆ เขาระงับสายฟ้าในร่างและเคลื่อนที่ไปอย่างเงียบๆ ในตอนนี้เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพียง 7 ส่วนของความเร็วปกติ แต่มันก็เร็วมากพอที่จะไล่ตามมนุษย์ธรรมดาแล้ว
ฟื้ว ปิ้ว
เมืองหลวงของรัฐเจียงเป็นหนึ่งในสิบเมืองใหญ่ของราชวงศ์โจว กําแพงเมืองนั้นยาวกว่า 160 ลี้ เทพอสูรนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมืองแห่งนี้
ฟื้ว เพิ่งชวนกระโดดข้ามกําแพงเมืองสูงกว่า 30 จงอย่างเงียบๆและลงพื้นห่างจากกําแพงเมืองเกือบสองภายในพริบตา เขาก็ตามศิษย์นิกายอสูรฟ้าที่กําลังหนีได้อย่างรวดเร็ว
“ข้ารอดชีวิตจากรัฐเจียงด้วย” เจียนรู่เฉิงวิ่ง ในฐานะจอมยุทธที่ควบแน่นแก่นอสูรแล้วนั้น เขาไวกว่าม้าเมื่อใช้ทักษะการเคลื่อนไหว ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่อาจพบตัวได้ง่ายเพราะเขาไม่ได้วิ่งอยู่บนถนนเส้นหลัก การเดินทางบนถนนเส้นหลักนั้นมันเด่นเกินไป
เจียนรู่เฉิงรู้สึกยินดียิ่ง การเข้าไปในรัฐเจียงเพื่อสํารวจนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ ไม่เพียงแต่เขาหนีรอดออกมาได้ แต่เขายังได้ข้อมูลที่ต้องการอีกด้วย นิกายอสูรฟ้าคงให้รางวัลเขาอย่างมหาศาล
“ช้าเหลือเกิน เพิ่งชวนตามหลังเจียนรู่เฉิงอยู่หนึ่ง เขาต้องรักษาความเร็วของตนให้เท่ากับของจอมยุทธระดับควบแน่นแก่นแท้
เจียนรู่เฉิงหนีอย่างสุดกําลัง ในที่สุดเขาก็มาถึงป่าต้นท้อซึ่งห่างจากเมืองหลวงของรัฐเจียง 30 ลี้ มีต้นท้ออยู่เต็มไปหมด ดอกของบางต้นก็บานแล้ว มันคงดูงดงามมากในยามกลางวัน แต่มันก็ดูน่าขนลุกเช่นกันในยามกลางคืน
เมื่อไปถึงป่าที่เต็มไปด้วยดอกท้อที่บานไปทั่ว เจียนรู่เฉิงก็หยิบนกหวีดออกมาเป่า นกหวีดนั้นส่งคลื่นเสียงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแม้แต่น้อยออกมา
วิธีการส่งสารของนิกายอสูรฟ้าช่างน่าสนใจทีเดียว” เมิ่งชวนสัมผัสได้ว่าพลังฟ้าดินเริ่มสั่นสะเทือนเมื่อคลื่นเสียงเบาๆนั้นกระจายออกไป ช่างน่าทึ่งที่นกหวีดเช่นนั้นจะสามารถทําให้พลังฟ้าดินถึงกับสั่นสะเทือนได้
พวกเขาไม่ต้องรอนาน
มาแล้ว เพิ่งชวนสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่เคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างต่อเนื่อง พลังอสูรของคนๆนี้นั้นทรงพลังกว่าของศิษย์ที่ลอบเข้ามาในรัฐเจียงมาก คงจะเป็นอสูรฟ้า
“นั่นรี?’ เมิ่งชวนปิดบังกระแสพลังของคนและเคลื่อนเข้าไปใกล้ๆอย่างเงียบงัน เมื่อเขาอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งลี้ เขาก็สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจนด้วยแสงจันทร์ที่ส่องกระจ่างไปทั่วพื้นที่นั้น
หมอกสีดําพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อมันไปอยู่ข้างๆเจียนรู่เฉิง มันก็รวมกันและกลายเป็นผู้เฒ่าเคราแพะในชุดสีดํา
เมื่อเจียนรู่เฉิงเห็นชายชราผู้นั้น เขาก็คารวะชายคนนั้นในทันที “ท่านผู้อาวุโส”
“ศิษย์หลานเจียน” แววตาของชายเคราแพะทอประกายสีแดงเข้มในขณะที่ยิ้ม “เจ้าพบอะไรบ้างหรือเปล่า?”
“ข้าไปตรวจสอบที่บ้านตระกูลเทพอสูรทั้งสามแห่งและได้พบกับข้อมูลบางอย่าง” เจียนรู่เฉิงหยิบจดหมาย ออกมาและยื่นให้ด้วยความเคารพ “ทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วขอรับ ท่านผู้อาวุโสโปรดอ่าน”
ชายชราเคราแพะรับจดหมายมาและอ่าน เขายิ้ม “ทําดีมาก เรารอกันอยู่ที่นี่สักพักเถอะ พวกเราค่อยคุยกัน เมื่อศิษย์คนอื่นมาถึงแล้ว”
“ขอรับ” เจียนรู่เฉิงยืนอยู่ข้างๆอย่างว่าง่าย เขาไม่กล้าจะออกไป ในฐานะสายลับ ทุกคนจะกลับพร้อมกัน หลังเสร็จภารกิจ จะไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ในช่วงเวลานั้น
ชายชราเคราแพะและเจียนรู่เฉิงรออยู่ในป่าที่ดอกท้อบานสะพรั่ง ในขณะที่เพิ่งชวนคอยเฝ้าดูอย่างเงียบงัน ห่างออกไปหนึ่ง
ครึ่งชั่วยามต่อมา สายลับอีกคนมาที่ป่าท้อและเป่านกหวีดที่ไม่มีเสียงนั้น ชายชราเคราแพะ เจียนรู่เฉิง และสายลับอีกคนไปพบกัน สายลับคนนี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เพิ่งชวนประทับตราวิญญาณเข้าไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ค่ําคืนค่อยๆผ่านไป…
ชายชราเคราแพะเงยหน้าขึ้นมาและพบกับแสงอ่อนตรงขอบฟ้า เขาขมวดคิ้วและกล่าว “มีเพียงพวกเจ้าสองคนที่รอดมา?”
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว
มีศิษย์เข้าไปสิบเจ็ดคนแต่รอดกลับออกมาสองคนอย่างนั้นรี?
“ทั้งๆที่ไม่มีเฟิงโหวเทพอสูรอยู่ในรัฐเจียง แต่ศิษย์หลายคนกลับหนีออกมาไม่ได้?” ชายชราเคราแพะขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างเย็นชา “เหมือนว่าเทพอสูรจะวางกับดักไว้ในรัฐเจียง โชคไม่ดีที่หากไม่มีเฟิงโหวเทพอสูร เทพอสูรธรรมดาเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์
“นี่คือที่อยู่” ชายเคราแพะโยนกระดาษแผ่นหนึ่งไป “รีบไปที่นั่นเสีย”
ทั่งคู่อ่านแผ่นกระดาษนั้นและพยักหน้า
ฟูว
หมอกสีดําจํานวนมากไหลออกมาจากร่างของชายเคราแพะและเปลี่ยนกลายเป็นนกสีดํา นกสีดํานั้นพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
เมื่อเมิ่งชวนได้เห็นดังนั้นเขาก็ใจสั่นสะท้าน “มันบินได้รี?”
ระบบการฝึกฝนของอสูรฟ้านั้นพิเศษ พวกมันฝึกพลังอสูณในร่างมนุษย์ และจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นอสูรอย่างช้าๆ แต่ว่าพวกมันต่างจากอสูรจริงๆ อย่างเช่น ชายชราเคราแพะคนนี้สามารถเปลี่ยนกลายเป็นนกได้
“หากมันบินสงเกินไป ข้าคงตามไปไม่ได้แน่” เมิงชวนถอนหายใจ
ฟื้ว!
นกสีดําทะยานขึ้นไปบนฟ้าและอยู่สูงกว่าร้อยจัง อย่างไรก็ตาม มีสายฟ้าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากป่าดอกท้อเข้ามาหามัน เส้นสายฟ้านั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงใส่นกที่กําลังบินสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ดีแล้ว” นกสีดํานั้นก็เห็นเส้นสายฟ้านั้นเช่นกัน เขารู้ว่าอะไรๆมันดูไม่ดีนัก และพยายามสยายปีกอย่างเต็มที่และบินให้สูงกว่านี้ ชายเคราะแพะสามารถบินได้สูงมาก ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะบินไปถึงระดับพันจิ้งจางพื้น หรือเป็นหมื่นจิ้งก็ยังได้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีเวลาจะบินได้สูงขนาดนั้น
นั่นมัน… นกสีดําเห็นเพียงร่างที่ดูพร่ามัวในสายฟ้านั้น จากนั้น ไหมปราณมหาสุริยันก็ทะลวงเข้าร่างของมัน และปิดผนึกแก่นอสูรในทันที มันไม่สามารถใช้พลังอสูรได้แม้แต่น้อย
นกสีดํากลับคืนสู่ร่างมนุษย์
เพิ่งชวนคว้าคอชายชราเคราแพะด้วยมือข้างเดียวเหมือนกับจับคอไก่
“มันจบแล้ว นั่นมันเทพอสูรมนุษย์ ข้าโดนเทพอสูรมนุษย์จับได้” ใจของชายชราเคราแพะเย็นวาบ
ภายในสายฟ้านั้นสามารถเห็นร่างมนุษย์ที่อยู่ในนั้นได้
“เทพอสูรนี่” เจียนรู่เฉิงและศิษย์นิกายอสูรฟ้าอีกคนตื่นตกใจ ศิษย์นิกายอสูรฟ้ากลัวการที่ต้องเผชิญหน้ากับเทพอสูรมากที่สุดแล้ว พวกมันหนีไปอย่างรวดเร็วด้วยความกลัว
ตูม! ตูม!
เพิ่งชวนที่แบกผู้อาวุโสของนิกายอสูรฟ้ากลับลงสู่พื้น จากนั้นเขาก็เหลือบไปมองศิษย์นิกายอสูรฟ้าสองคนนั้นและสะบัดมือ สายฟ้าสองสายพุ่งออกมาและฟาดเข้าใส่ศิษย์ทั้งสองคนนั้น จากนั้นเพิ่งชวนก็ปกคลุมไปด้วยสายฟ้า และมุ่งหน้ากลับไปยังรัฐเจียง