ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 166
ตอนที่ 166 ความจริงหรือเพียงเรื่องจินตนาการ
(แจ้งก่อนนะครับ จากนี้ไปเพื่อลดความงงจะใช้การแบ่งเขตเมืองเป็นหมู่บ้านอําเภอ จังหวัด รัฐ ราชวงศ์ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ)
พวกเขาคิดว่าข้อมูลที่รั่วไหลออกไปจะไม่ส่งผลกระทบมากนักเช่นการเคลื่อนย้ายขนานใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันที่ควรจะเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วการปล่อยให้อสูรรู้ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าคงไม่มีผลกระทบอะไรมากอย่างไรก็ตามพวกเขาลืมไปแล้วว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆนี้นั้นอาจนําไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อชะตากรรมมนุษยชาติเลยก็เป็นได้
แน่นอนว่ามีเทพอสูรบางคนที่คิดว่ามนุษย์จะต้องแพ้อย่างแน่นอนและพวกมันคือคนที่ทรยศโดยสิ้นเชิง!
“นี่จึงเป็นเหตุที่เขาหยวนชูออกคําสั่งมาพร้อมๆกัน” ฟานเฉิงกล่าว “พวกเราไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ํา”
มีเทพอสูรเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ล่วงหน้า เฟิงโหวเทียนซิงโหวบอกเพียงเพิ่งชวนและจางหวินอู่เท่านั้น!ก่อนจะเริ่มแผนการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่จะเริ่มมีเพียงเหล่าผู้นําของมนุษย์เท่านั้นที่รู้จากนั้นก็เป็นเฟิงโหวเทพอสูรและราชั้นเทพอสูรจากนั้นก็ตามด้วยคนอย่างเพิ่งชวนและจางหวินอู่เทพอสูรส่วนมากต่างพึ่งจะรู้ แผนการในตอนท้าย
“ท่านอาจารย์เจ้าคะ ราชาอสูรใกล้จะเข้ามาแล้ว”หลิวชีเยวมองลงไป “ราชาอสูรสามสิบห้าตัวจะผ่านประตูเข้ามาในอีกสามสิบวินาที”
“ให้พวกมันเข้ามาก่อนจะสังหารพวกมันให้หมด” เฟิงโหวเทียนซิงโหวกล่าวแม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนี้ แต่ทหารธรรมดามองไม่เห็นเขานั่นเป็นอีกความสามารถหนึ่งของเขตแดนเดือนมืดมิดเขตแดนเดือนมืดมิดนั้นเป็นเขตแดนเฉพาะตัวสําหรับเฟิงโหวเทพอสูรและระดับที่สูงกว่านั้น มันมีประโยชน์มากในการซ่อนตัวปลอมตัวการ ป้องกันและโจมตี รวมไปถึงการเดินทาง
ราชาอสูรระดับสี่นั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างแต่พวกมันยังด้อยกว่าเฟิงโหวเทพอสูรเล็กน้อยเพราะว่าพวกมันไม่มีเขตแดนเดือนมืดมิด
เฟิงโหวเทียนซิงโหวก้าวลงจากกําแพงเมือง เขาลอยอยู่ด้านในเมืองชั้นในของด่านเป่ยเหอเขาคว้าเกาทัณฑ์ที่สะพายอยู่บนหลังออกมาและจ้องมองไปยังประตูพิภพด้วยสายตาที่เย็นชา
“โอ๊ะ?” หลิวชีเยวขมวดคิ้ว “ท่านอาจารย์ ในหมู่ราชาอสูรทั้ง 35 ตัว ราชาอสูรแมงมุมกับราชาอสูรวัวไม่ได้อยู่ในนั้น”
“โฮ่?” แววตาของเฟิงโหวเทียนซิงโหวดูเย็นชาลง “เรื่องที่ว่าเฟิงโหวคอยปกป้องเมืองด่านขนาดกลางรั่วไหลออกไปอย่างนั้นรึ? หรือพวกอสูรมันเพียงแค่ระมัดระวังกันแน่?”
จากนั้นไม่นาน ราชาอสูรทั้งสามสิบห้าก็เดินเข้ามา ในหมู่พวกมัน มีห้าตัวที่เป็นราชาอสูรหัวกะทิ
โฮกก!
บรู้ววว!
ฟอ!
เสียงขู่ร้องทุกชนิดดังออกมา ราชาอสูรระดับสองและอสูรธรรมดาออกมาจากประตูพิภพอย่างบ้าคลั่งเพราะพวกมันไม่ได้ถูกโจมตีจึงทําให้พวกมันออกมาจากประตูพิภพได้อย่างรวดเร็ว
“ไม่มีเทพอสูรมาหยุดพวกเรารี?” ราชาอสูรระดับสามทั้งสามสิบห้าตัวมองหน้ากัน
“บุกไป มุ่งหน้าไปยังกําแพงเมือง” ราชาอสูรจิ้งจอกสั่ง
พวกมันรู้ดีว่าการโจมตีครั้งนี้ดูค่อนข้างพิเศษ ราชาอสูรระดับสามทั้งสามสิบห้าตัว รวมไปถึงราชาอสูรระดับสองกว่าร้อยตัวและอสูรธรรมดาจํานวนนับไม่ถ้วนเริ่มจะปีนกําแพงขึ้นไป
ฟื้วๆๆ!
เหล่าราชาอสูรปืนขึ้นไปบนกําแพงอย่างรวดเร็วโดยใช้พวกมันตัวอื่นเป็นแท่นเหยียบ
“ตอนแรกข้านึกว่าจะได้เหยื่อตัวใหญ่เสียอีก” เฟิงโหวเทียนซิงโหวยืนดูอยู่อย่างใจเย็นไม่มีอสูรตนไหนที่มองเห็นเขาได้
เขตแดนเดือนมืดมิดสามารถปิดกั้นการสอดแนมส่วนใหญ่ได้ อีกทั้งยังทําให้มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอีกด้วย
เฟิงโหวเทียนซิงโหวดึงสายเกาทัณฑ์จนตึง แต่ว่ากลับไม่มีลูกศรอยู่ในมือเขา หลังจากที่ดึงจนึงก็มีศรเพลิงสี่ดอกปรากฏขึ้นมา
ฟื้วๆๆๆ!
ลูกศรเปลี่ยนเป็นลําแสงสี่เส้นเมื่อพุ่งออกไป
เฟิงโหวเทียนซิงโหวยืนอยู่ที่เดิมและดึงสายเกาทัณฑ์อีกรอบ มือของเขาดึงสายเกาทัณฑ์อย่างรวดเร็วจนพร่ามัวในไม่กี่วินาทีเขาก็ยิงลูกศรออกไปกว่า40ดอก! ศรเพลิงเหล่านั้นทะลวงผ่านอากาศไปด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อราชาอสูรระดับสามพยายามจะหลบลูกศรนั้น แต่ศรเพลิงกลับไล่ตามพวกมันไปโดนเข้ากับพวกมัน ลูกศรหนึ่งดอกสามารถสังหารราชาอสูรระดับสามได้ถึงสองตัวเลยด้วยซ้ํา!
ราชาอสูรระดับสามทั้ง35ตัวและราชาอสูรระดับสอง11ตัวตกตายเพราะศรเพลิงทั้ง40ดอกนั้น
“หนีเร็ว!”อสูรที่เหลือเริ่มหนีกลับไปที่ประตูพิภพด้วยความหวาดกลัว
“หึ” เพิ่งโหวเทียนซิงโหวที่
ยู่บนท้องฟ้าสะบัดมือ ปราณเดือนมืดมิดของเขาพุ่งเข้าหาเหล่าอสูณ
ปราณเดือนมืดมิดทําให้สามรบระเบิดสนั่น อสูรธรรมดาและราชาอสูรระดับสองกว่าครึ่งตกตายไปในทันทีแต่เพราะมีบางตัวที่อยู่ใกล้ประตูพิภพ พวกมันเหล่านั้นจึงสามารถหนีกลับไปยังแดนอสูรได้
“นี่มัน ” ฟานเฉิง หลิวชีเยวและเทพอสูรคนอื่นๆตกตะลึง
เพียงแค่เขาคนเดียว เพิ่งโหวเทียนซิงโหวก็สามารถขยกองทัพอสูรจนแหลกได้ในพริบตาไม่แปลกเลยที่ทําไมเมืองด่านขนาดกลางหากมีเฟิงโหวเทพอสูรคอยปกป้องจะไม่มีทางทะลวงได้
“พวกมันระมัดระวังตัวมาก มันส่งราชาอสรหัวกะทิออกมาเพียงห้าตัวเท่านั้น เฟิงโหวเทียนซิงโหวมองลงไปและส่ายหัวเล็กน้อย หากมีราชาอสูรหัวกะทิ35ตัวร่วมมือกัน แม้จะเป็นเขาก็ยังต้องทุ่มกําลังบ้างเพื่อจะสังหารพวกมัน และหากเป็นเช่นนั้นการจัดการราชาอสูรระดับสองและอสูรธรรมดาจะเป็นหน้าที่ของฟานเฉิงและหลิวชีเยว่ รวมไปถึงเทพอสูรคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม กองทัพอสูรนี้อ่อนแอเกินไป
อีกด้านหนึ่งของประตูพิภพของด่านเป่ยเหอ
ในแดนอสูร
อสูรเต่าชราถือไม้เท้ายืนรออยู่ รอบตัวมันมีราชาอสูรหัวกะทิอย่างราชาอสูรแมงมุม และราชาอสูรหัวกะทิที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์
เหล่าอสูรที่หนีไปได้สําเร็จรีบคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว
“มีศรเพลิง ศรเพลิงมากมาย ราชาอสูรระดับสามตกตายกันในพริบตา”
“การโจมตีทั้งหมดมาจากท้องฟ้า พวกเรามองไม่เห็นว่าเทพอสูรนั้นเป็นใคร”
“ช้ากว่านี้และพวกเราคงจะตายหมดเป็นแน่”
ราชาอสูรระดับสองที่หนีรอดมาได้ต่างหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง
“ท่านลุงหวิน การโจมตีจากฟ้าที่มองไม่เห็นนั่นคงจะเป็นของเฟิงโหวเทพอสูรเป็นแน่” อสูรสิงโตเก้าหัวกล่าวอสูรแมงมุมและราชาอสูรตนอื่นๆต่างยืนอยู่หลังอสูรสงโตเก๊หัวนั้น
“พวกมันไม่ให้โอกาสพวกเราแม้จะมีการอพยพครั้งใหญ่แม้แต่น้อย” อสูรเต่าเฒ่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “รอต่อไปเมื่อเฟิงโหวเทพอสูรจากไปแล้วพวกเราจะเข้าสู่โลกมนุษย์เป็นที่ละกลุ่ม
“ขอรับ” อสูรสิงโตเก้าหัวและราชาอสูรตนอื่นๆกล่าวตอบด้วยท่าทางนอบน้อม
เหล่าอสูรคาดเดากันไว้แล้วว่าการอพยพครั้งใหญ่นี้จะหมายถึงมนุษย์ทิ้งเมืองด่านขนาดเล็กและขนาดกลาง
พวกมันไม่อยากให้มนุษย์เล่นเกมตั้งรับ แต่ว่าอสูรก็จะส่งทัพเข้ามาในโลกมนุษย์อยู่ดี โลกมนุษย์นั้นอันตรายต่ออสูรมาก! มีเพียงไม่กี่ตนเท่านั้นที่เลือกจะไปหากเลือกได้ ดังนั้นแล้วจึงมีปราชญ์อสูรมากมายที่ส่งลูกหลานของพวกมันเพื่อนําการบุกกองกําลังที่เล็กกว่านั้นจะส่งพวกมันเองเข้าไป
มันจะเข้าสู่โลกมนุษย์ในระยะกว้างอสูรต้องการจะชนะให้ไว้ที่สุดเท่าที่จะทําได้ เพราะหากช้าไปกว่านี้อาจจะเป็นปัญหาสําหรับพวกมันได้
ในคฤหาสน์เศรษฐีธรรมดาๆในเมืองหลวงรัฐเจียง
เพิ่งชวน จางหวินเฟิงและหยางฟางเทพอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของรัฐเจียงทั้งสามกําลังอ่านเอกสารข่าวกรองล่าสุด
“27 กุมภาพันธ์ เมืองด่านขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมดได้เริ่มย้ายพลเมืองของตนแล้ว” จางหวินเฟงอ่านเอกสารและกล่าว”เมืองด่านขนาดเล็กและขนาดกลางทุกแห่งถูกอสูรบุกโจมตีการโจมตีนั้นไม่รุนแรงมาก แต่พวกมันบังคับให้เฟิงโหวเทพอสูรต้องปรากฏตัวออกมาเมืองด่านขนาดกลางบางแห่งไม่มีเฟิงโหวเทพอสูรและทําให้พวกเขาต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน”
“พวกอสูรมันต้องรู้แล้วว่าเฟิงโหวเทพอสูรทั้งหมดกําลังป้องกันเมืองด่าน”เพิ่งชวนกล่าวเบาๆ”มันคงจะรู้แล้วว่าเมืองหลวงของรัฐไม่มีเทพอสูรที่แข็งแกร่งอยู่ตอนนี้”
“ใช่” จางหวินเฟิงและหยางฟางก็ดูเคร่งเครียดเช่นกัน
แม้ว่าเมืองรัฐและเมืองของจังหวัดจะมีเทพอสูรคอยปกป้องไว้อยู่แต่พวกเขานั้นอ่อนแอกว่าเฟิงโหวเทพอสูรมาก
“จากการคาดการของเขาหยวนชูอสูรจะโจมตีเมืองของจังหวัดและเมืองรัฐในอีกไม่นาน”จางหวินเฟิงกล่าว “อย่างไรก็ตามอสูรนั้นอ่อนแอกว่าหากเป็นโลกมนุษย์ของเรา ส่วนมากเป็นเพียงราชาอสูรธรรมดาและราชาอสูรระดับสองมีราชาอสูรระดับสามเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นพวกมันคงใช้นิกายอสูรฟ้าเป็นแน่”
“โชคยังดีที่มีอสูรฟ้าระดับสีน้อยกว่าเฟิงโหวเทพอสูร” เมิงชวนกล่าว
เขาหยวนได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนิกายอสูรฟ้าแก่เขามาโดยละเอียดแล้ว นิกายอสูรฟ้ามีอสูรฟ้าระดับห้า 2 คนและอสูรฟ้าระดับสี่ 5 คน ตามการคาดการณ์ของพวกเขาแล้ว อสูรฟ้าระดับห้ารักชีวิตของตนพวกมันจะไม่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อร่วมมือกับอสูรเป็นแน่
หากนิกายอสูรฟ้าถูกเหล่าอสูรกดดันพวกมันอาจจะส่งอสูรฟ้าระดับสี่มา
เพิ่งชวนอ่านข้อมูลเกี่ยวกับอสูรฟ้าระดับสีทั้ง 11 คนมาแล้ว ปกติแล้วพวกมันอ่อนแอกว่าราชาอสูรระดับและนั่นทําให้อ่อนแอกว่าเฟิงโหวเทพอสูรมาก
“เราต้องระวังตัวให้ดี พวกอสูรและนิกายอูรฟ้าจะโจมตีเมืองของจังหวัดและเมืองรัฐเมื่อไหร่ก็ได้” จางหวินเฟีงกล่าว “เมืองหลวงรัฐเจียงเป็นเมืองที่ใหฐ์ มีประชากรกว่าเจ็ดล้านคนพวกอสูรคงไม่มองข้ามไปหรอก”
“ใช่” เมิ่งชวนและหยางฟางพยักหน้าเล็กน้อย
แม้พวกเขาจะมีแผนสํารองอยู่บ้าง แต่ในฐานะเทพอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของรัฐเจียง พวกเขารู้สึกกดดันอย่างหนัก