พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่190 พี่ พี่ พี่เฟย
บทที่190 พี่ พี่ พี่เฟย
“หวางฉี ที่นี่มันเป็นคลับของพี่เฟย พวกนายอย่าก่อเรื่องจนใหญ่หละ ไม่อย่างนั้นฉันก็จะโดนไปด้วย*” หวางฉีเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี
เพื่อนของหวางฉีเป็นเพียงพนักงานที่นี้เท่านั้น แม้แต่ลู่เฉินเป็นใครเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินมาแค่ว่าลู่เฉินรังแกเล่ยผู่อิน เขาเลยจะช่วยแก้แค้นให้เล่ยผู่อิน
“ไว้วางใจเถอะนา เรารู้ว่าควรทำอย่างไง ไม่มีทางทำให้เรื่องมันใหญ่เดือนร้อน*นายหรอกนา” หวางฉีตบไหล่เพื่อนเบาๆ แล้วพาคนขึ้นไปยังชั้นบน
“พี่ฉี เพื่อนพี่ก็พูดถูก พวกเราจับตัวไอ้นั่นออกไปกระทืบข้างนอกดีกว่ามั้ย ไม่เช่นนั้นหากเดือนร้อนไปถึงพี่เฟย เราตายแน่” ชายร่างบึกคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างกังวลใจ
ชื่อเสียงของตู้เฟยนั้นโด่งดังมาก อย่าว่าแต่นักเลงพวกเขาเลย แม้แต่คนธรรมดาก็รู้จักตู้เฟยไม่น้อยเหมือนกัน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าเดือดร้อนไปยังตู้เฟย
“ไม่เป็นไร ไอ้นั่นมันก็แค่ตัวกระจอก พี่เฟยจะไปสนใจมันได้ยังไง อีกอย่างต่อให้เกิดเรื่องขึ้นมาฉันก็สามารถช่วยพวกนายได้ เชื่อฉัน” หวางฉีพูดออกมาอย่างไม่ใจ*
เหล่าชายร่างบึกจึงพยักหน้า บ้านหวางฉีพอมีกำลังทรัพย์อยู่บ้าง
ที่จริงแล้วถึงแม้ว่าสีหน้าหวางฉีเหมือนจะไม่แคร์อะไร แต่จริงๆในใจเขาก็กังกลมากเหมือนกัน แต่เขาก็อยากจะพนันดูครั้งนึงว่าตู้เฟยไม่แคร์ความเป็นความตายของลู่เฉิน ได้ยินเล่ยผู่อินพูดว่าลู่เฉินเป็นแค่คนกระจอก เขาเลยรู้สึกว่าตู้เฟยคงไม่มีทางเป็นพวกเดียวกันกับคนกระจอกนั้นหรอก
หากทำตู้เฟสโกรธขึ้นมา เขาเชื่อว่าพวกเขาคงได้ตายอย่างอนาถแน่ แต่เพื่อผู้หญิง เขาก็ทุ่มสุดตัว
“ผู่อิน คุณรอให้ไอ้นั่นคุกเข่าขอโทษต่อหน้าคุณได้เลย” หวางฉียิ้มให้กับเล่ยผู่อิน
“อย่าเสียเวลาอีกเลย รีบไปจัดการไอ่นั่นเถอะ” เล่ยผู่อินพูด
หลังจากที่รู้ว่าที่นี้เป็นถิ่นของตู้เฟยแล้ว เธอเกิดกลัวขึ้นมา
ครั้งก่อนก็เป็นเพราะตู้เฟยบังคับให้พ่อเธอดื่มเหล้าจนเลือดออก เธอกลัวที่จะพบเจอตู้เฟยอีก
และในเวลานี้ลู่เฉินกำลังนั่งพิงสูบบุหรี่อยู่ตรงโซฟาในห้อง เขาและจางดาวเรนนัดกันตอนเวลาบ่ายสามโมง และตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสองโมงครึ่งเอง เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง
แต่บ่ายนี้เขาไม่มีกิจกรรมอะไรต้องทำ จึงมารอจางดาวเรนทีเดียว
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อยคือ ตู้เฟยเขาหลายๆคนก็ไม่อยู่ในคลับ เขาจึงโทรไปหา ที่จริงพวกเขาทั้งหมดอยู่บนเกาะเขียว
บ้านจางได้นำGreen Island รีสอร์ทรวมไปถึงทะเลสาบปี้หยางโอนให้กับลู่เฉินทั้งหมด ลู่เฉินกำลังคิดที่จะนำมันสร้างเป็นฐานที่หยาบ แต่เหล่าตู้เฟยตื่นเต้นไปหน่อย จึงได้พาคนไปบนGreen Island รีสอร์ทแต่เช้าเลย
กัก!
และในเวลานั้น ประตูห้องก็ได้ถูกเปิดเข้ามา คนเหล่าหวางฉีเดินเข้ามา
ลู่เฉินเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเขาเห็นเล่ยผู่อิน จึงได้เกี่ยวมุมปากขึ้นเยาะเย้ยอย่างเย็นชา
คนเหล่าหวางฉีได้เปิดประตูห้องอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นเดินเข้ามาในห้อง ไม่กล้าที่จะทำลายประตู
เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นว่าในห้องมีเพียงลู่เฉินคนเดียว และแม้แต่เสียงเพลงก็ไม่มี จึงรู้สึกตกใจเล็กน้อย
ไอ้นี่มันช่างน่าเบื่อจริงๆ กลางวันแสกๆ เปิดห้องเพื่อมาสูบบุหรี่?
นี่มันเป็นโรคประสาทหรือเปล่า
“คุณคือลู่เฉิน ใช่คุณหรือเปล่าที่รังแกเล่ยผู่อิน?” หวางฉีเหลือบมองลู่เฉินพร้อมถามอย่างเสียงต่ำ
ลู่เฉินมองเล่ยผู่อิน นัยน์ตาเธอมีความแค้นปะปนอยู่ จึงเดาออกทันทีว่ามาเพราะเรื่องครั้งก่อน เล่ยผู่อินโยนความผิดทั้งหมดมาที่เขา ฉะนั้นวันนี้สังเกตเห็นว่าเขามาที่นี่ จึงได้หาคนมาแก้แค้นเพื่อเอาคืน
“ใช่แล้วยังไง ไม่ใช่แล้วจะยังไง?” ลู่เฉินมองไปยังเล่ยผู่อิน ตอนนี้เหงาพอดีเลย งั้นก็เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาหน่อยละกัน
“ไอ้นี่ มึงหาที่ตายหรือไง แม้แต่เล่ยผู่อินก็กล้ารังแก? รีบคุกเข่าขอโทษเดียวนี้ ไม่อย่างนั้นกูจะส่งมึงไปนอนในโรงพยาบาลหนึ่งเดือน!” พอหวางฉีได้ยินเท่านั้นแหละเขาได้ตะคอกออกมาอย่างโกรธ เขาไม่คิดเลยว่าเวลานี้แล้ว ลู่เฉินยังจะห้าวได้อีก
ชายร่างบึกเหล่านั้นได้ล้อมรอบลู่เฉินไว้อย่างสามัคคี สายตาแต่ละคู่ดุร้ายและโหดเหี้ยมมาก
“ลู่เฉิน หากเวลานี้นายคุกเข่าขอร้องฉัน ฉันยังสามารถบอกพวกเขาให้เบามือหน่อย ไม่อย่างนั้นหากนายถูกกระทืบจนบาดเจ็บสาหัส อน่สโทษฉันแล้วกัน” เล่ยผู่อินพูดอย่างเยือกเย็น
“ฉันกำลังคิดอยู่ว่าครั้งก่อนพ่อคุณเล่ยหยานจุนยังดื่มไม่พออีกใช่หรือเปล่า นี่คุณอยากจะดื่มแทนพ่ออีกครั้งใช่มั้ย ไม่งั้น เธอกล้าดียังไงมาท้าทายฉัน?” ลู่เฉินจ้องเล่ยผู่อิน
“หื้ม ครั้งก่อนตู้เฟยเป็นคนบังคับพ่อฉันดื่ม คุณมันตัวไรกันจึงกล้ามาบังคับพ่อฉันดื่ม? คุณมีปัญหานั้นมั้ย?” เล่ยผู่อินพูดเยาะเย้ย
“โอเค ผมไม่มีปัญญา แต่เพื่อนฉันตู้เฟยมีปัญญา” ลู่เฉินยิ้ม
“เพื่อนคุณ? คุณอย่าเอาดีเข้าตัวเองได้มั้ย? คุณมันก็แค่คนกระจอกคนหนึ่ง สิทธิ์อะไรที่ตู้เฟยต้องรู้จักคุณด้วย?” เล่ยผู่อินเยาะเย้ย
“ทำไมฉันจะรู้จักกับเขาไม่ได้หละ?”
และในขณะนี้ ประตูห้องก็ได้ถูกเปิดอีกครั้ง เห็นเพียงคนห้าหกคนดินเข้ามา
เป็นครเหล่าตู้เฟยที่เพิ่งกลับมาจากGreen Island รีสอร์ท
“พี่ พี่ พี่เฟย!”
เมื่อเห็นเหล่าตู้เฟย เล่ยผู่อินที่เมื่อครู่นี้ไม่แกรงกลัวอะไร แต่ตอนนี้มือทั้งสองของเธอเกิดสั่นขึ้นมาทันที
เธอนึกไม่ถึงเลยว่าตู้เฟยรู้จักลู่เฉินจริงๆด้วย และดูท่าแล้วเหมือนจะสนิทกันมากด้วย
ส่วนคนเหล่าหวางฉีก็เกิดหวาดกวลัวขึ้นมา นี่พวกเขากำลังหาเรื่องบนถิ่นฐานของตู้เฟย หาที่ตายชัดๆ
“นี่พวกนายล้อมรอบลู่เฉินทำอะไร ทำไม จะกระทืบลู่เฉิน?” ซ่งไห่เดินขึ้นหน้าไปแล้วพูด
“ฆ่าทิ้งเถอะ” ลู่เฉินพูดอย่างจืดชืด
ตอนแรกเขาอยากจะเล่นๆกับพวกหวางฉี แต่ในเมื่อตู้เฟยกลับมาแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลา
คนเหล่าหวางฉีถึงกับอยากให้เขาคุกเข่าลง เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใครอีก
“เหี้ย กล้าทำร้ายลู่เฉิน หาที่ตายชัดๆ!” หลังจากพูดเสร็จซ่งไห่ก็ได้ตบหน้าหวางฉี หวางฉีไม่กล้าตบคืน แต่ทางกลับกัน เมื่อตบเสร็จเขาก็ได้คุกเข่าลงทันที และขอให้อภัยด้วย
““พี่ซ่ง เข้าใจผิดนา นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆทั้งหมดนี้เป็นเพราะนางกะหรี่เล่นผู่อินนั่นเธอเป็นคนพูดเองว่าลู่เฉินรังแกเธอ จึงเรียกพวกมาเพื่อแก้แค้นให้เธอแต่เธอบอกว่าลู่เฉินก็แค่คนกระจอก……”หวางฉีร้องขอชีวิตไม่หยุด
เมื่อได้ยินซ่งไห่เรียกลู่เฉินว่าคุณลู่ พวกเขารู้เลยทันทีว่า แย่แล้ว
ถึงแม้ว่าซ่งไห่จะเทียบเท่าลู่เฉินไม่ได้ แต่ยังเป็นผู้มีชื่อเสียงในกองกำลังใต้ดินยวี่โจว
ขนาดซ่งไห่เองเวลาเรียกลู่เฉินยังต้องเคารพเลย พวกเขากล้าดียังไงให้ลู่เฉินคุกเข่า นี่มันหาที่ตายชัดๆไม่ใช่หรือไง?
วินาทีนี้ ในใจเขาเกิดอยากฆ่าเล่ยผู่อิน
“ใช่ครับ พี่ซ่ง เป็นเพราะนางกะหรี่นี่ มันเป็นคนพูดเรื่อยเปื่อยให้พวกเรามากระทืบลู่เฉิน ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราจริงๆนะ”
อีกหลายๆคนได้คุกเข่าลง เวลานี้ยังจะมีความห้าวหลงเหลืออยู่อีกที่ไหนกัน
สีหน้าเล่ยผู่อินซีดจาง เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้ที่เอาจิตเอาใจเธอทุกอย่างเวลานี้กลับหักหลังเธอ แถมยังด่าเธอว่ากะหรี่ต่อหน้าคนมากมาย เขาไม่กลัวว่าฉันจะไม่คุยกับเขาอีกหรือไง?
เขาไม่กลัวว่าฉันจะไม่ให้โอกาสเขาอีกหรือไง?
“ใช่ ฉันเป็นคนให้พวกเขามากระทืบลู่เฉินเอง ลู่เฉินมันก็แค่คนกระจอก พวกคุณอย่า หลงกลเขา” เล่ยผู่อินเห็นคนเหล่าซ่งไห่มองมา จึงได้ตะโกนพูด