พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่188 ชนะ
บทที่188 ชนะ
ตรงหน้า ตงฟางหลงได้พุ่งเข้ามาด้วยหมัดราวสายฝนที่หนาแน่น และลู่เฉินเองก็ได้ตกเข้าไปในกลของเขา ไม่มีแรงที่จะเอาคืน ทำได้แค่ป้องกันไว้
ต่อมา ตงฟางหลงได้ตะคอกออกมา แล้วออกหมัดราวกับลม และแลงตรงหน้าอกลู่เฉินไว้
ในเวลานั้น
ลู่เฉินได้กางมือทั้งสอง ปิดตรงหน้าอก หมัดที่ใหญ่กระหน่ำได้พุ่งเข้ามา และทำให้ลู่เฉินล้มลงบนเวที ผู้ชมที่อยู่ล่างเวทีต่างได้กลิ่นไหม้ของรองเท้า
เห็นภาพนี้แล้ว ผู้คนต่างอดใจไม่ได้จะชมตงฟางหลง
“ปรมาจารย์ตงฟางก็คือปรมาจารย์ตงฟาง หมัดราวกับฝน แรงหนักมหาศาล เยี่ยมยอดไปเลยจริงๆ”
“แต่น่าเสียดายที่อีกนิด ก็จะสามารถไล่ลู่เฉินลงจากเวทีได้แล้ว น่าเสียดาย แต่ว่าเขาก็คงจะต้านรับอีกหมัดหนึ่งของปรมาจารย์ตงฟางไม่ไหวแล้วหละ”
หลินอี้จุนและคนอื่นๆอีกสองคนเห็นลู่เฉินเกือบจะถูกหมัดตงฟางหลงไล่ออกจากเวที หัวใจลงไปอยู่ตาตุ่มเลยทีเดียว
ถึงแม้เธอจะรู้ว่าลู่เฉินต่อสู้เก่ง แต่เอาจริงๆ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าลู่เฉินจะเก่งได้ถึงขั้นนี้
แม้ว่าเมื่อครู่นี้อีกนิดเดียวลู่เฉินก็จะถูกปรมาจารย์ตงฟางไล่ลงเวที แต่ความแข็งแกร่งกำลังภายในของลู่เฉินนั้นมันทำให้เห็นถึงความเป็นจริง
ทั้งยวี่โจวนี้ มีสถานฝึกศิลปะต่อสู้สิบกว่าสถานฝึก แต่ไม่มีสถานฝึกไหนมีกำลังภายในที่เก่งจริงๆ
เมื่อก่อนผู้คนต่างดูถูกลู่เฉินกัน แต่ตอนนี้รู้ว่าลู่เฉินเป็นปรมาจารย์กำลังภายใน สายตาบางสถานฝึกที่เห็นลู่เฉินก็ได้เปลี่ยนไปเลยที
ไม่มีเขา
ก็เพราะลู่เฉินเป็นของยวี่โจว เท่านั้นก็พอ
มองดูลู่เฉินเกือบจะถูกมัดต่อยลงจากเวที คนบ้านจางแอบรู้สึกเสียดาย
แต่ว่าเห็นลู่เฉินไม่สามารถต้านกลับได้ พวกเขาก็วางใจ 。
เพียงแค่อีกแป๊บปรมาจารย์ตงฟางเอาชนะลู่เฉิน พวกเขาก็จะคุมตัวลู่เฉินเลยทันที
“รับแรงหมัดของฉันไปหมัดหนึ่ง ยอมโดนหมัดแต่ก็ไม่ยอมที่จะถอยหลังสักก้าว ดีมาก” ตงฟางหลงอดที่จะชมเชยลู่เฉินไม่ได้
หากเป็นคนะอื่นที่ธรรมดา ก็คงล้มลงบนเวทีนี้แล้วหละ แต่ลู่เฉินไม่ เขายังคงมานคงราวกับภูเขา
หมัดเมื่อครู่นี้ของเขา หากลู่เฉินถอยหลังไป กจะสามารถลดแรงหมัดได้ส่วนหนึ่ง แต่หากเป็นเช่นนั้น เขาได้ถอยหลังไปก่อนหน้าตงฟางหลง ถอยหลัง นั่นมันก็แสดงว่ากำลังอ่อนลง
แต่ลู่เฉินไม่ ยอมที่จะรองเท้าไม้ ยอมที่จะรับหมัดของตงฟางหลงไว้ แต่ไม่ยอมที่จะถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว
ลู่เฉินวางมือทั้งสองลง นำมือไปข้างหลัง และหันหลังให้กับผู้ชม คนที่สายตายดี สามารถเห็นได้เลยว่ามือที่วางหลบอยู่ข้างหลังนันกำลังสั่นอยู่เบาๆ
“ท่านเก่งมากจริงๆ สวมมนต์กินเจอยู่ในป่า เสียดายจริงๆ มาช่วยผม ผมให้ค่าตอบแทนคุณปีละหนึ่งพันล้าน” ลู่เฉินพูด
“นักรบรุ่นของฉัน หัวใจเต๋าแน่วแน่มั่นคง จะเปลี่ยนใจเพื่อเงินไม่กี่สตังค์งี้หรือไง เมื่อครู่ที่ฉันชมเชยคุณ เป็นเพราะว่าคุณมีกำลังมากทั้งๆที่ยังหนุ่มอยู่ แต่วันนี้ฉันก็ยังจะทำให้คุณพิการสาหัสไปเลย” ตงฟางหลงพูดอย่างเย็นชา และไม่ได้เห็นแก่เงินหนึ่งพันล้านของลู่เฉินเลย
หากเขาเป็นคนเห็นแก่เงิน ป่านี้คงจะร่ำรวยมหาศาลแล้วหละ
เขาคิดเพียงแต่ฝึกฝันจิต ฝึกวิชาไว้เพื่อต่อสู้ หากแต่เป็นเพราะอย่างอื่นได้อย่างไร?
เขาพูดอย่างเย็นชา และเตะเท้าซ้ายลงบนพื้น จากนั้นก็มีรอยเท้าที่น่าตื่นอกตื่นใจ ร่างบางผอมของเขาราวกับเสือชีตา และกำปั้นซ้ายของเขาก็คำรามออกมา
เขาจะต้องกำจัดลู่เฉินให้เร็ว
และลู่เฉินเองก็ได้เตะเท้าลงบนพื้น จากนั้นก็บินขึ้นมา ร่างกายของเขาหมุนไปในอากาศ 180 องศา และขาขวาของเขาก็ตกลงมาจากท้องฟ้ากดลงอย่างรุนแรงด้วยพลังมหาศาล
ไม่จะไม่ต่อสู้กับตงฟางหลงด้วยหมัดอีกต่อไป
แต่จะไม่พูดเลยก็ไม่ได้ หมัดของตงฟางหลงแข็งแกร่งกว่สลู่เฉินมากจริงๆ หากลู่เฉินใช้หมัดแล้วก็ เสียเปรียบน่าดูมาก
เพราะสิ่งที่เขาถนัดไม่ใช่หมัด แต่เป็นพลังทั่งร่างกาย
“หาที่ตาย!”
ตกฟางหลวพูดอย่างเย็นชา ความเร็วของลู่เฉินเร็วเกินไป เขาต้องกำหมัดเพื่อปิดกั้น
ลู่เฉินได้กระแทกท่าภูเขาไท่ลงบนท่อนแขนของตงฟางหลงและใบหน้าของตงฟางหลงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ร่างกายของเขาก็ถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตามด้วยความช่วยเหลือของแรงยืดหยุ่นที่สูงขึ้นของลู่เฉิน ร่างกายเขาพลิกขึ้นไปในอากาศอีกครั้งและตอนนี้มันก็จะพังทลายลงอีกครั้งด้วยแรงกดดันของพลัง
ท่าทางนี้ของเขา มันไม่ถูกต้องตามหลังพลังมนุษย์
แต่ลู่เฉินทำได้แล้ว
เขาไม่เพียงแค่ทำได้ ทุกครั้งเขาใช้ประโยชน์จากพลังของตงฟางหลง ร่างกายของเขาหันกลับมาอีกครั้ง และทำท่าภูเขาไท่ซานกดดันอีกครั้ง
ภาพทั้งหมด ได้ตกเข้าไปอยู่ในสายตาผู้คน มันราวกับดูหนังต่อสู้กัน สง่าผ่าเผย และดุเดือดกันมาก บนเวทีสั่นสะเทือน
ห่ง!
เมื่อตงฟางหลงสามารถรับการต่อสู้ของลู่เฉินได้ต่อเนื่องสิบครั้ง สีหน้าเขาก็ซีดขึ้นมา สองขางอลง ปึ่ง คุกเข่าลง และไม่สามารถที่จะรับมือกับพลังอันมากนี้ต่อไปได้อีก
คา!
ทันใดนั้นเข่าทั้งสองตงฟางหลงคุกเข่าลง บนเวทีนั้นเหมือนไม่สามารถที่จะต้านรับได้อีก ไม่นานมันก็พังทลาย
ผู้คนเห็นภาพนี้แล้ว หน้าอึ้งไปกันหมด ไม่กล้าที่จะหายใจเต็มปอดเลย
นี่ปรมาจารย์ตงฟางแพ้เหรอ?
ยิ่งแล้วคนบ้านจาง ถึงกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
ปรมาจารย์ตงฟางเป็นปรมาจารย์ที่แท้ของศิลปะการต่อสู้ เขาจะแพ้ได้ยังไงกัน?
เป็นไปได้ไงเขาแพ้ให้กับลู่เฉิน?
จางเซิงเฉียวได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทีนที มองดูสีหน้าที่ซีดนั่นอยู่บนเวที และมีเลือดไหลออกมาจาก วินาทีนั้นทั้งตัวคนเหมือนแก่ขึ้นสิบปีเลย
ปรมาจารย์ตงฟางแพ้แล้ว
ความหวังของบ้านจางก็แตกสลายแล้ว
“แย่แล้ว……”เลือดของจางเซิงเฉียวพลุ่งพล่าน ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะความแออัดของสมองหรืออะไร เขาได้ล้มลงกับพื้นทันที
“คุณปู่ คุณปู่……” จางดาวเรนรีบพยุงจางเซิงเฉียวขึ้น สีหน้าจางซิงฉวนและคนอื่นๆเปลี่ยนไปหมด รีบวิ่งมาดูสถานการณ์
ขณะนี้บ้านจางต่างพากันกังวลเรื่องความปลอดภัยของชายชราตระกูลจาง และไม่มีเวลามาสนใจลู่เฉิน
ไม่นาน คนบ้านจางก็ได้นำตัวชายชราบ้านจางส่งออกจากเกาะ พวกเขาจำเป็นต้องนำตัวชายชราตระกูลจางส่งโรงพยาบาลเป็นอันดับแรก
และในขณะนี้ตงฟางหลงที่คุกเข่าอยู่บนเวทีก็ได้เริ่มค่อยๆดีขึ้น นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพ่ายแพ้ แพ้อย่างอนาถา
“คุณเป็นลูกศิษย์ของหยุนจองฉี?” ตงฟางหลงหายเข้าใจเข้าลึกๆแล้วถามลู่เฉิน
ลู่เฉินเกิดตกตะลึง ในสายตาได้มีความคมชัดเลื่อนผ่าน
ท่าเมื่อครู่นั้นของเขา เป็นท่าไม้ตายที่นำความประสบความสําเร็จให้หยุนลาว หากเมื่อถูกเขาเชื่อมต่อแล้ว แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าเขา สุดท้ายเขาก็จะต้องถูกทุบทั้งเป็นแน่เลย
“หยุนจองฉีอะไรกัน ไม่รู้จัก ผมยังคงยืนยันคำเดิม ท่านกลับกินเจสวดมนต์ นั่นแหละสิสิ่งที่เสียดายที่สุด ตามผมไม่ดีกว่าเหรอ เสียสละเพื่อโลกนี้หน่อย ไม่ดีกว่าเหรอ” ลู่เฉินนอกเรื่อง
ตงฟางหลงเห็นลู่เฉินแกล้งทำท่าไม่รู้จักหยุนจองฉี จึงไม่ไล่ถามอะไรต่อ สำหรับลู่เฉินแล้ว เขายิ้มย่างเดียว และหลังหลังเดินลงจากเวที
“ฝึกฝน สิ่งที่ฝึกคือใจ ถึงจะทำความเข้าใจในแง่มุมต่างๆของชีวิตได้ แต่ท่านอาศัยอยู่ในป่าลึก คงจะทำได้แค่เข้าใจความเหงา ……” ลู่เฉินพูดกับตงฟางหลง
ตงฟางหลงมีความหยิ่งอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีวิชาสูงขนาดนี้มีน้อยมา ตามความจริงนะ หากไม่ใช่เชื่อกับกลยุทธ์นั้นแล้วก็คนที่ชนะอาจเป็นตงฟางหลง
ตงฟางหลงยิ้มออ่นๆ แต่สุดท้ายเขาก็ได้เลือกออกไปจากเกาะ แม้แต่ฮันเทียนก็ไม่อยากเจอ