พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 208 หน้าด้าน
บทที่ 208 หน้าด้าน
เหล่าเสี่ยวฟางเห็นนักเลง30กว่าคนถือท่อนเหล็กไว้แล้วเดินมา เธอตกใจมาก เธอนั่งลงกับพื้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกลัว
ขณะนี้คนเหล่าวังไกได้ไปโรงพยาบาลกันหมดแล้ว บ้านหวังตอนนี้เหลือแต่เธอคนเดียว เธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
คนอีกหลายหลายคนก็ถูกพวกนักเลงทำเอาตกใจหมด นักเลงเหล่านี้ดูเหมือนจะแค่อายุ20 กว่า บางคนน้อยกว่า 20. แต่ในมือของพวกเขามีเหล็ก และเป็นนักเลง จึงทำให้คนรู้สึกถึงความกลัว
หลินอี้จุนและหลินอร้เจียที่เคยเจอฝีมือลู่เฉินมาแล้วยังพอนิ่ง มีลู่เฉินปกป้องอยู่ข้างหน้าพวกเธอไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่นัก เพียงแค่ใช้เมื่อปิดตาของฉีฉีไว้ ไม่ให้เธอดูเหตุการณ์ต่อมา
ส่วนหลินดาไห่และวังเสวี่ยก็แตกต่างออกไป
ตัวหลินดาไห่สั่น แต่ยังคงยืนหน้าปกป้องหวังเสวี่ย
หวังเสวี่ยจับมุมเสื้อหลอนดาไห่ไว้ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกลัว
ลู่เฉินหน้านิ่ง เห็นพวกเหล่านี้จะมาทุบรถเขา เขาก็โกรธมาก
ตรงไม่ไกลนั้นมีเก้าอี้ไม้หนึ่งตัว เขาพุ่งเข้าไปจับแล้วปกป้องอยาหน้ารถ
ในรถเขามีหญิงชราพี่สหลบไป และแน่นอนเขาจะให้นักเลงทุบรถเขาไม่ได้
“อี่เหี้ย กล้าสวยกลับ ไปตาย!” นักเลงคนหน้าเห็นลู่เฉินที่ถือเก้าอี้อยู่ตรงหน้าพวกเขา เขาจึงตะโกนและจับเหล็กพุ่งเข้าไปตรงศีรษะลู่เค
ลู่เฉินกลัวซะที่ไหนกัน ไม่สนใจเหล็กที่นังเลงตีลงมา เพียงแค หยกกับอีขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วโยนออกไปด้วยความเร็วสุดขีด
ปั่ว!
ลู่เฉินออกมือไวมาก นักเลงเพิ่งจะมาได้ครึ่งทาง ก็ถูกลู่เฉินใช้เก้าอี้ฟัดลงบนศีรษะ
สลาย!
เก้าอี้ได้เสียงคงสร้าง และเหล่านักเลงก็ไม่ได้โห่เสียงอะไรออกมาก็ถูกเขาตมจนล้มหมด
ลู่เฉินจับเหล็กในมือนักเลง เพียงใช้แรงนิด ก็ได้มาแล้ว
หลังนักเลงไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าพวกเขากำลังหาเรื่องกับใครอยู่ แถมยังมุ่งพุ่งชนเข้าไปหาลู่เฉิน
เหล็กมีในกำมือลู่เฉิน เหล็กฟาดลงทุกครั้งก็มีนักเลงล้มลงทุกครั้ง ไม่นานก็มีมีนังเลงสิบกว่าคนล้มลง
เขารู้แรง ถึงแม้ว่าทุกครั้งจะฟาดลงตรงหัวแต่แค่ฟาดให้สลบ อย่างอื่นเขาไม่สน ขอแค่ไม่ตายก็พอ
เสี่ยวฟางและคนบ้านหวังเห็นลู่เฉินดุร้ายขนาดนี้ คนเดียวสู่กับคนตั้ง30กว่า และยังไม่เสียสมาธิด้วย
หนึ่งต่อสิบ ยังพอเคยได้ยินมาบ้าง แต่นี่เห็นกับตาเลย
สุดท้ายนังเลงสิบกว่าคนเห็นลู่เฉินดุร้ายขนาดนี้ จึงได้เอาเหล็กฟาดลงบนศีรษะเขา ทันใดนั้นก็ได้มีคนหนึ่งล้มลง ไม่รู้จะตายหรือมีชีวิตชี ต่างพากันกลัวหมด
พวกเขาถอยหลังกันไป และมองหน้าลู่เฉินด้วยสายตาที่หวาดกลัว
เป็นนักเลงมาตั้งหลายปี เคยต่อสู้กันมากี่ครั้งก็นับไม่ถ้วนแล้ว
แต่คนเหมือนลู่เฉินแบบนี้ หนึ่งต่อสามสิบกว่า พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน
“พวกมึงเป็นลูกน้องใคร?” ลู่เฉินเห็นว่าอีกฝ่ายกลัวปล้ว จึงหยุดลง
เห็นลู่เฉินเดินหน้ามาทีละก้าวๆ สุดท้ายทำเอานังเลงกลัวกันไปหมด
“พี่ใหญ่ของพวกผมคือหลี่หู พี่หู” นักเลงหนึ่งในนั้นพูดออกมาด้วยเสียงที่เบา
“ใสหัวไปได้แล้ว” ลู่เฉินโยนเหล็กลง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเหนียวด้าซาน
“ กองกำลังใต้ดินขอหลี่หูเป็นไง?”ลู่เฉินถาม
“ ทั้งนี้มีหลี่หูกองกำลังเดียว. กองกำลังอื่นถูกเขากำจัดรวบรวมหมด. กองกำลังเขาค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน” เหนียวด้าซานพูด
“คุณกับเขาเคยคุยกันมั้ย?” ลู่เฉินถามอีก
“ไม่เคย สองสามวันก่อนฉันได้ยินมาว่า เขากับอสังหาริมทรัพย์เทียนซีได้ร่วมมือกัน อสังหาริมทรัพย์เทียนซีเป็นศัตรูฉันมาตลอด” เหนียวด้าซานพูด
ลู่เฉินขมวดคิ้ว พูด:” คุณบอกหลี่หู สองสามวันนี้อย่ามาสร้างปัญหา หากยังกล้ามาหาเรื่องถึงบ้านหวังแล้วก็ เจอดีแน่”
“ครับ ฉันจะต่อเขาเลย” เหนียวด้าซานตอบ
ลู่เฉินตัดสาย รู้สึกว่าหลีหูคงไม่หน้าจะให้หน้าเหนียวด้าซาน เขาคิดไปคิดมา จึงโทรหาตู้เฟย
“นำลูกน้องมาเมืองฉีเจียง ให้เวลา 3 ชั่วโมงคงจะพอนะ?” ลู่เฉินพูด
หลังจากที่ตู้เฟยได้ยินเสียงลู่เฉิน ไม่ถาม พูดต่เลยว่า : “ หักรถไม่ติดแล้วก็ภายใน 2 ชั่วโมงก็คงถึง“
จากยวี่โจวไปเมืองฉีเจียงแต่ชั่วโมงเดียว รวมลูกน้องแล้ว 2 ชั่วโมงก็เพียงพอมาก
ลู่เฉินวางสาย รู้สึกหลินอี้จุนรอบ้านหวังก็ไม่ปลอดค จึงพูด: “ คุณนำตัวยายไปส่งโรงบาล คนหลี่หูอาจจะกลับมาอีก ผมเฝ้าอยู่นี่”
หลินอี้จุนพยักหน้า แล้วนำกุญแจจากลู่เฉินมา เรียกเหล่าหวังเหวี่ยเตรียมตัวไปโรงพยาบาล
“คุณพาฉีฉีไปกับพวกเขา” ลู่เฉินพูดกับหลินอี้เจีย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น กลัวว่าพอถึงเวลานั้นแล้วจะไม่สามารถปกป้องใครได้
“ได้” หลินอี้เจียพยักหน้า อุขฉีฉีแล้วขึ้นรถ
หลังจากที่หลินอี้จุนไปแล้ว ลู่เฉินจับเก้าอี้แลเวนั่งรอหน้าบเนหวัง สายตาที่คนอื่นมองเขามีความหวาดผวา
เสี่ยวฟางเองยิ่งไม่รู้จะพูดอย่างไร เธอรู้สึกละอายใจ ไม่กล้าที่จะคุยกับลู่เฉิน
นักเลงที่ถูกเขาตีจนสลบก็ต่างได้ค่อยค่อยฟื้นขึ้นมา ชายร่างบึกในนั้นเห็นว่าลู่เฉินนั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาจึงถามอย่างขู่: นี่ มึงรอกูไว้ วันนี้ถ้าไม่ทำบ้านหวังพัง กูจะไม่ใช้ชื่อนี้อีก!”
หลังจากที่เขาพูดคำนี้เสร็จก็ได้ปลุกทุกคนให้ตื่นหลังจากนั้นก็เดินจากไป
เหล่าเสี่ยวฟางกลัวไม่หยุด
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เหล่าวังไกก็ได้กลับมา วังจินและวังซีถูกเย็บไปหลายเข็ม แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
เห็นลู่เฉินนั่งอยาข้างนอก และคนอื่นๆก็ไม่กล้าเข้าใกล้เขา พวกเขาขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าลาอำอะไร
“กลับมาพอดีเลย บ้านหวังเราจะพังแล้ว เสี่ยวจี้ ควรรีบเรียกคนมาช่วยเถอะ อีกสักพักคนของหลี่หูก็จะมาต่อ บอกว่าทุบบ้านฉันให้พัง!” เสี่ยวฟางพูดอย่างกังวล
“แม่ เกิดอะไรขึ้น บ้านเราไปมีปัญหากับหลี่หูเมื่อไหร่?” หวังว่านขมวดคิ้ว จึงถามยังมีความหมดกลัวเล็กน้อย หลี่หูเป็นพี่ใหญ่ในกองกำลังใต้ดินเมืองฉีเจียง หวังว่านรู้นิสัยว่าหลี่หู
“ ก่อนหน้านี้คนของหลี่หูจะมาทุบรถลู่เฉิน แต่ลู่ได้ต่อสู้จนไล่พวกเขากลับไป จากนั้นคนอื่นเค้าก็พูดอย่างดุร้ายว่า วันนี้จะมาทุบบ้านเรา “ เรื่องนี้มันใหญ่โตมา เสี่ยวฟางอยากทิ้งความรับผิดชอบ ทางที่ดีหลี่หู อย่ามาหาพวกเธอที่บ้านหวังเลยดีกว่า
ได้ยินคำพูดของเสี่ยวฟาง ผู้คนรอบข้างต่างดูหมิ่น คนของหลี่หูมาเพราะบ้านหวังเขาชัดๆ ถูกลู่เฉินไล่กลับหมดไม่พอ ยังจะโยนความผิดใส่ลู่เฉิน หน้าด้านมากจริงๆ