พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส - ตอนที่ 7 แสงจันทร์ที่บ้านตระกูลจี้
- Home
- All Mangas
- พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
- ตอนที่ 7 แสงจันทร์ที่บ้านตระกูลจี้
เจ็ด
แสงจันทร์ที่บ้านตระกูลจี้
“หือ?”
“อย่าตบหน้าข้า”
ซ่งฉือหัวเราะในลำคอ ใช้นิ้วชี้ลูบคางตัวเองและหย่อนก้นนั่งลงบนเจ้าตัวประหลาด
“เมื่อครู่ยังบอกว่าเป็นเฟิ่งหวงในคราบผู้คนอยู่เลยไม่ใช่รึ ไยถึงกลายเป็นจำผิดได้เล่า ข้าคิดว่าเจ้าคือมังกรจริงๆ เสียอีก”
“ท่านจอมยุทธ์น้อย ข้ามิบังอาจ ข้าคือปีศาจน้อยแปลงกายเป็นมนุษย์ ความจริงแล้วข้าไม่บังอาจเทียบรัศมี เงินของท่านข้าไม่เอาแล้ว ท่านปล่อยข้าไปเถอะ” ปีศาจน้อยเบ้ปากและบีบน้ำตาให้ดูน่าสงสารออกมาได้สองหยด “ข้าเพิ่งแปลงกายได้ไม่กี่วัน ถ้าถูกมนุษย์จับได้ ข้าคงต้องคืนร่างเดิม”
ซ่งฉือลุกขึ้นยืน เจ้าปีศาจน้อยจึงรีบลุกตาม มันปัดฝุ่นตามตัวแล้วทั้งสองก็ส่งยิ้มให้กัน
“เมื่อกี้เจ้าบอกว่าจำผิดคนหรือ แท้จริงแล้วเจ้าจะหลอกใครกันแน่” เมื่อซ่งฉือปลอบอาจิ่งเรียบร้อยแล้วจึงปีนขึ้นไปนั่งบนแท่น เขาใช้นิ้วดีดฝุ่นที่เปรอะอยู่บนเสื้อสีดำ ดวงตาเป็นประกายและยิ้มแฝงความนัย
“ข้า…คือว่า…” ปีศาจน้อยขยับสองก้าวเข้าไปใกล้อาจิ่ง อาจิ่งเดินถอยหลังออกไปด้วยความกลัว ปีศาจน้อยตกใจ แล้วถอยหลังไปด้วยความรู้สึกผิดเช่นกัน “ข้าชื่อเจียงซ่าง ได้ข่าวว่าคุณชายสามแห่งตระกูลจี้จะเดินทางไปเยี่ยมฮูหยินหมิงหาน จากนั้น จะต้องผ่านเขาลูกนี้ไปเพื่อมุ่งสู่เขาสลายมาร ข้าก็เลยมารออยู่ที่นี่”
ปีศาจน้อยยิ้ม กระดิ่งที่ข้อเท้าส่งเสียงดัง เขากระโดดสองก้าวแล้วปีนขึ้นไปบนแท่นที่นั่ง พิงตัวข้างซ่งฉือพร้อมกับหัวเราะ
“ข้าได้ยินมาว่าคุณชายสามจี้ชิงมีความสามารถโดดเด่น รูปร่างทะมัดทะแมงองอาจผ่าเผย แม้วัยเพียงสิบเจ็ดปีทว่ามีพรสวรรค์ถึงขั้นเซียน น่าเสียดายที่ข้าฝึกฝนมาเป็นร้อยปีแต่กลับเป็นมนุษย์ไม่ได้ จึงอยากขอคำแนะนำจากเขาเสียหน่อย แล้วฝนก็เทลงมา ใครจะไปรู้ว่าผู้ที่มาจะเป็นเจ้า”
เมื่อซ่งฉือฟังจบก็คิดว่าเขาคิดถูก จี้ชิงไปที่เขาสลายมารเพื่อไปช่วยท่านพ่อของเขาปราบปีศาจอย่างแน่นอน หากพบกันที่นี่โดยบังเอิญ คิดๆ ไปแล้วก็คงสนุกน่าดู
“อือ ข้าช่วยเจ้าได้นะ” ซ่งฉือกางพัดหยกพิสุทธิ์ในมือเสียงดังพรึ่บ
“ข้าคือซ่งฉือ นามรองฝูอี้ มีสัมพันธ์อันดีกับคุณชายสาม อีกเดี๋ยวเจ้ารออยู่หลังพระพุทธรูปองค์นี้นะ ถ้าเขาเข้ามาเจ้าก็ช่วยข้าจับเขาไว้เลยนะ”
เจียงซ่างฟังแล้วก็รู้สึกสับสน “ข้าจะจับเขาด้วยเหตุใด ข้าอยากทำความรู้จัก ไม่ได้มาปล้นเสียหน่อย”
อาจิ่งกลอกตาแล้วพูดกับซ่งฉืออย่างเลยตามเลย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านพี่กู้อนุญาตให้เรามาด้วยกันก็แสดงว่ามันเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต”
เมื่อนางกล่าวจบ ด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังใกล้เข้ามา ผู้มาใหม่สวมชุดสีเงินเฉกแสงจันทร์ ดูจากความสูงแล้วน่าจะเป็นจี้ชิง
“มานี่ เชื่อข้าเถอะน่า มาเร็ว”
ซ่งฉือพาอาจิ่งไปซ่อน เขาถูมือไปมาด้วยความตื่นเต้น พอคิดว่าจะได้แกล้งคุณชายสามจี้ชิงผู้ซื่อบื้อก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับมีแสงเรืองรองส่องสว่างในใจขึ้นมาในบัดดล
“แล้วข้าล่ะ” เจียงซ่างชี้ที่ตัวเอง วางสีหน้าไม่ถูก ก่อนจะรีบวิ่งไปหลบหลังพระพุทธรูป
ซ่งฉือแอบมองจี้ชิงผ่านผ้าม่านที่บังอยู่เบื้องหน้า
จี้ชิงหน้าตาดีเหมือนอย่างที่เจียงซ่างกล่าว เขาอายุน้อยกว่าแค่ปีเดียว แต่กลับสูงชะลูดราวต้นไผ่ รูปร่างสง่าผ่าเผย สวมใส่ชุดสีเงินดุจแสงจันทร์ ลายปักดวงจันทร์ที่หน้าอกดูคล้ายกับรูปดอกเหมยแดงเป็นแนวสีแดงสวยงาม
เขาทำมือส่งสัญญาณให้เจียงซ่าง เจียงซ่างทำสีหน้างงงวยแต่ก็กัดฟันวิ่งออกไป
เดิมทีเขาคิดที่จะเข้าไปกอดคุณชายสามแห่งตระกูลจี้จากด้านหลัง แต่ผลสุดท้ายในขณะที่เขากำลังจะกระโจนเข้าไปกอด จี้ชิงก็หมุนตัวกลับมา ชายเสื้อพลิ้วเป็นแนวโค้ง ฝ่ายนั้นมองผ่านศีรษะของเขาไปด้วยสายตาเย็นชา
“นั่นใคร”
เขาเอ่ยปากถาม ซ่งฉือจึงนึกขึ้นมาได้ว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายไพเราะมาก
“โอ้ จี้…คุณชายสาม ข้า…ข้าคือ…” เจียงซ่างหน้าคะมำลงบนพื้น กินขี้ฝุ่นเข้าไปจนเต็มปาก เขาลุกขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกและหน้ากากปีศาจก็หลุดออกไป
“เฮ้ จับเจ้าได้แล้ว” ซ่งฉือตัดสินใจจู่โจมทันที เขากอดเข้าไปที่ต้นขาของจี้ชิง ก่อนจะเงยหน้าแล้วยิ้มด้วยดวงตาเป็นประกาย
ถ้าจะเอ่ยถึงเรื่องหน้าตาที่งดงาม ซ่งฉือก็นับว่าไม่เป็นสองรองใคร รูปร่างได้สัดส่วน ไหล่กว้าง เอวคอด คอระหงขาวผ่องและที่หางคิ้วมีไฝแดงอยู่เม็ดหนึ่ง
ที่เจียงอิน ซ่งฉือมีชื่อเสียงเรื่องดวงตาเจ้าชู้ ทั้งสองข้างเรียวยาวเป็นรูปผลซิ่ง เวลาเขามองใครก็ตามโดยไม่รู้สึกล้ำลึก ทว่าคนที่ถูกมองนั้นกลับรู้สึกว่าตาคู่นี้ช่างเต็มไปด้วยความรักใคร่ที่พัวพันอยู่ในหัวใจ
จี้ชิงรู้สึกจุกอยู่ในลำคอ เมื่อสบตาตาที่แวววาวของอีกฝ่าย เพียงครู่เดียวร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ