พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 245 ฉันไปเป็นเพื่อนคุณได้นะ
ตอนที่ 245
ฉันไปเป็นเพื่อนคุณได้นะ
ผู้เฒ่าอินรีบเอื้อมมือออกมากล่าวทักทายทันทีที่เห็นผู้เฒ่าลู่ “ผู้เฒ่าลู่ มาลองดื่มชาที่อวี่โหรวชงดูเร็ว”
ผู้เฒ่าลู่ยิ้มแย้มขณะพยักหน้าและดึงลู่ซีจวี๋ให้นั่งลง
รอยยิ้มจาง ๆ ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าของอินอวี่โหรว เช่นเดียวกับการประพฤติตนดีและอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย
หลังจากที่ทั้งสองมาถึง เธอทำความเคารพอย่างสุภาพและหลังจากนั้นไม่นานถ้วยชาทั้งสองแก้วก็ถูกนำมาวางไว้ข้างหน้าลู่ซีจวี๋กับผู้เฒ่าลู่
“ฝีมือการชงชาของอวี่โหรวเป็นมืออาชีพขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ” ผู้เฒ่าลู่พูดขณะยิ้มแย้ม
อินอวี่โหรวที่ได้ยินเช่นนั้นตอบรับอย่างเคอะเขิน “คุณปู่ลู่อย่าเพิ่งชมหนูนักเลยค่ะ หนูเพิ่งเรียนรู้มาแค่นิดเดียวเอง”
ผู้เฒ่าลู่มองตรงไปที่ผู้เฒ่าอินแล้วชี้นิ้วไปทางอินอวี่โหรว “ดูสิ ถ่อมตัวอะไรขนาดนั้น”
คนอื่น ๆ ต่างหัวเราะและพูดชมเชยเธอเช่นกัน
“แม่หนูอวี่โหรวอย่าดูถูกตัวเองนักเลย หนูชงชาได้เก่งมากแล้ว”
“ใช่ เพิ่งไปเรียนมาแค่ไม่กี่เดือนแต่ชงชาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว”
“สีของน้ำชาใสสะอาดมาก มองดูก็รู้ว่าต้องพยายามหนักแค่ไหน”
แก้มของอินอวี่โหรวกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เธอรู้สึกเขินอายที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม
ผู้เฒ่าลู่หันไปมองลู่ซีจวี๋ที่อยู่ด้านข้างและพูดชักชวน “ซีจวี๋ แกก็ลองชิมฝีมือของอวี่โหรวดูซะสิ”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างก็มองไปที่ลู่ซีจวี๋
ลู่ซีจวี๋จึงยกถ้วยชาขึ้นมาจิบภายใต้สายตากดดันของผู้เฒ่าลู่ “ก็ดี”
อินอวี่โหรวยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ถ้าซีจวี๋ชอบน้ำชา เดี๋ยวฉันจะรินให้เพิ่มนะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็รินน้ำชาลงไปในถ้วยของลู่ซีจวี๋โดยไม่สนใจว่าเขาต้องการน้ำชาเพิ่มหรือไม่
“ขอบคุณครับคุณอิน” ลู่ซีจวี๋พูดตอบอย่างสุภาพ
ต่อมาผู้เฒ่าลู่พูดคุยกับเพื่อนผู้สูงอายุของเขาอย่างออกรส โดยมีอินอวี่โหรวคอยรินน้ำชาให้ลู่ซีจวี๋เป็นครั้งคราว
ถึงแม้ว่าลู่ซีจวี๋จะตอบรับอย่างสุภาพ ทว่าในใจกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับอินอวี่โหรวเลยแม้แต่น้อย
หนำซ้ำเขายังรู้ดีว่าคุณปู่คิดอะไรอยู่ถึงได้พาเขาออกมาด้วยวันนี้
ช่วงบ่ายผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนในโรงน้ำชาค่อย ๆ ทยอยกลับออกไปทีละคน
สุดท้ายก็เหลือเพียงคนสี่คนในห้องน้ำชา
“ไป ไปกินข้าวด้วยกันก่อนเถอะ” ผู้เฒ่าลู่พูดเสนอ
ผู้เฒ่าอินพยักหน้าและตอบว่า “ได้สิ”
เดิมทีลู่ซีจวี๋ไม่ต้องการไปด้วย ทว่าผู้เฒ่าลู่กลับจ้องมองเขาด้วยสายตากดดันจนเขาไม่สามารถปฏิเสธได้
เขาแอบถอนหายใจและเดินทางไปยังร้านอาหารพร้อมกับพวกผู้เฒ่าลู่
“อวี่โหรวกับซีจวี๋ได้เจอกันสองครั้งแล้วสินะ” ผู้เฒ่าลู่ยิ้มแย้ม
อินอวี่โหรวพยักหน้าตามความจริง “ใช่ค่ะ”
ยิ่งผู้เฒ่าลู่มองดูเธอมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพึงพอใจในตัวเธอมากเท่านั้น เขาจึงถามขึ้นด้วยความลังเล “ว่าแต่ปู่ยังไม่เคยถามเธอเลยว่าเธอชอบผู้ชายแบบไหน?”
“หนูว่าอย่างซีจวี๋ก็ดีนะคะ” อินอวี่โหรวตอบ
เธอแสดงความสนใจที่มีต่อลู่ซีจวี๋ออกมาอย่างเปิดเผย
ลู่ซีจวี๋ทำราวกับไม่ได้ยินคำพูดดังกล่าว ใบหน้าหล่อเหลาสงบนิ่งมากจนไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
แต่ยิ่งเขาทำตัวแบบนี้ อินอวี่โหรวก็ยิ่งสนใจเขามากขึ้น
อินอวี่โหรวเหลือบมองการเคลื่อนไหวของลู่ซีจวี๋บนโต๊ะอาหารเป็นครั้งคราว และผู้เฒ่าทั้งสองก็สังเกตเห็นเช่นกัน
ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มอย่างเป็นเอกฉันท์
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ผู้เฒ่าลู่หันไปพูดกับ ลู่ซีจวี๋ว่า “พวกปู่ยังมีเรื่องต้องคุยกัน พวกคนหนุ่มสาวอย่ามาวอแวกับพวกเรานักเลย ซีจวี๋พาอวี่โหรวไปเดินเล่นไป”
เดิมทีลู่ซีจวี๋ไม่ต้องการอยู่ที่นี่ต่อ และคำพูดของผู้เฒ่าลู่เป็นเหมือนข้ออ้างที่ทำให้เขาได้ปลีกตัวออกไป ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง
หลังจากเขาพาอินอวี่โหรวออกจากร้านอาหารไปแล้ว เขาก็คิดว่าจะปลีกตัวออกไปอย่างไรดี
อินอวี่โหรวสังเกตเห็นท่าทางเหม่อลอยของเขา เธอจึงพูดออกมาอย่างเรียบง่าย “ถ้าคุณไม่อยากอยู่กับฉันก็ไม่ต้องฝืนหรอกค่ะ”
ลู่ซีจวี๋ตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกแปลกใจที่เธอพูดแบบนี้ออกมา
อินอวอี่โหรวพูดต่อ “คุณดูไม่มีความสุขมาก เป็นเพราะถงเหมี่ยวเหมี่ยวใช่มั้ย?”
ท่าทางของลู่ซีจวี๋ในวันนี้ดูแตกต่างไปจากวันแรกที่พวกเขาเจอกันอย่างสิ้นเชิง
เขาดูหดหู่ใจเป็นอย่างมากและไม่รู้สึกสนใจอะไรเลย
หลังจากที่เธอพูดมันออกมาอย่างเปิดเผย ลู่ซีจวี๋ก็เม้มปากบางและไม่พูดตอบโต้อะไรเลย ซึ่งนั่นเป็นการตอบรับกลาย ๆ
ดวงตาสีฟ้าเข้มหรี่ลงเล็กน้อยเพื่อปกปิดความขมขื่น
เขาแสดงออกชัดเจนเกินไปเหรอ? ขนาดที่ว่าอินอวี่โหรวยังสังเกตเห็น
อินอวี่โหรวไม่ได้สนใจจะติฉินนินทาหรือถามคำถามอะไรต่อเมื่อเห็นว่าเขาเงียบไป
เธอพยายามเปลี่ยนเรื่องและพูดอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็อย่าเก็บมันไว้เลย หาทางระบายมันออกมาดีกว่า ถ้าคุณไม่รังเกียจฉันไปเป็นเพื่อนคุณได้นะ”
เธอมองเข้าไปในดวงตาของลู่ซีจวี๋ด้วยดวงตาที่เปล่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว
ลู่ซีจวี๋เข้าใจได้ว่าอินอวี่โหรวพูดแบบนี้เพราะมีเจตนาที่ดี
เขาจึงแอบถอนหายใจและไม่ได้ปฏิเสธอะไรอีก พร้อมทั้งพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ไปกันเถอะ”
อินอวี่โหรวที่ได้ยินว่าเขาตอบตกลงรีบเดินตามเขาไปด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
หลังจากขึ้นรถยนต์ไปแล้ว อินอวี่โหรวก็คาดเข็มขัดนิรภัยและหันไปถามลู่ซีจวี๋ “เราจะไปไหนกันคะ?”
ลู่ซีจวี๋เงียบขณะมุ่งความสนใจไปที่การขับรถ
อินอวี่โหรวที่เห็นเช่นนั้นนั่งเงียบและไม่ได้ถามอะไรต่อ
ทั้งสองเดินไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี จนกระทั่งมาถึงบาร์แห่งหนึ่งที่โคมไฟห้อยแกว่งไปมาอยู่ด้านหน้า
ภายในบาร์มีแสงไฟหลากสีที่กำลังเริงระบำตามจังหวะดนตรี สภาพแวดล้อมด้านในดูสลัว ๆ
แสงที่ตกกระทบบนใบหน้าของลู่ซีจวี๋ทำให้เขาดูลึกลับและสง่างามยิ่งขึ้น
การควงคู่ของชายหนุ่มรูปงามกับหญิงสาวแสนสวยดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คนในทันที
ลู่ซีจวี๋เมินเฉยต่อสถานการณ์ดังกล่าวและเดินนำ อินอวี่โหรวเข้าไปในห้องส่วนตัว
ไวน์ถูกนำมาเสิร์ฟไว้บนโต๊ะทีละแก้ว โดยลู่ซีจวี๋เป็นคนสั่งมันก่อนหน้านี้
ลู่ซีจวี๋ยกแก้วบนโต๊ะขึ้นมาหนึ่งภายในอึกเดียว หลังจากหมดแก้วแล้วเขาก็หยิบแก้วอีกใบขึ้นมา
อินอวี่โหรวรู้ดีว่าตอนนี้ลู่ซีจวี๋กำลังระบายความคับข้องใจอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ห้ามปรามอะไร
เพียงแต่เธอแค่สับสนเล็กน้อยว่าอะไรทำให้ลู่ซีจวี๋ตกอยู่ในสภาพแบบนี้
หลังจากดื่มไวน์ไปไม่น้อย ลู่ซีจวี๋ก็ลุกขึ้นยืน
อินอวี่โหรวรีบถามว่า “คุณจะไปไหนคะ?”
ลู่ซีจวี๋ไม่พูดอะไร เพียงแต่ก้าวไปข้างหน้าด้วยท่อนขาที่โซซัดโซเซ
จู่ ๆ อินอวี่โหรวก็ค้นพบว่าเขาเมามากแล้ว
วันนี้ลู่ซีจวี๋ไม่ได้เมามากเหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา ดังนั้นเขาจึงสามารถยับยั้งชั่งใจได้อยู่บ้าง
แต่หลังจากดื่มไวน์ที่มีความเข้มข้นสูงเข้าไป เขาก็เริ่มเมามาย
อินอวี่โหรวเห็นว่าลู่ซีจวี๋เมาแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาคนขับรถ
หลังจากนั้นไม่นานคนขับรถก็มาถึง เขาลงมาช่วย อินอวี่โหรวพยุงลู่ซีจวี๋เข้าไปในรถยนต์
ระหว่างทางกลับ อินอวี่โหรวปล่อยให้ลู่ซีจวี๋นอนพิงไหล่เธอ
แต่ทันใดนั้นลู่ซีจวี๋ก็ลืมตาตื่น จ้องมองคนที่เขากำลังนอนพิงไหล่อยู่และพบว่าคนด้านข้างเหมือนกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาก
ใช่เธอจริง ๆ!
ลู่ซีจวี๋คิดอย่างมั่นใจ
อินอวี่โหรวรีบพูดบอกเบา ๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่นอนพิงไหล่อยู่เริ่มขยับตัว “ตื่นแล้วเหรอ อีกสักพัก…” จะถึงบ้านคุณแล้ว
แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ เงาขนาดใหญ่ก็ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ
อินอวี่โหรวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและนุ่มนวลบนริมฝีปากที่มาสกัดกั้นคำพูดที่เหลือของเธอเอาไว้
ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาสีฟ้าจ้องมองเธออย่างแน่วแน่และจู่โจมเธอด้วยริมฝีปากอย่างหนักหน่วง
อินอวี่โหรวตกใจมากที่ถูกจูบอย่างกะทันหัน ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก