พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 237 ฉันจะไปกับคุณ
ตอนที่ 237
ฉันจะไปกับคุณ
มู่อวี้เฉิงพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อวาน เขาจึงโทรศัพท์ไปหาถงเหมี่ยวเหมี่ยวทันทีที่วางสายจากผู้เฒ่ามู่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูด ‘ฮัลโหล’ เบาๆ
“คุณปู่โทรศัพท์หาผมเมื่อกี้นี้ เขารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ผมเลยจะพาเสี่ยวเป่าเข้าไปหาเขาคืนนี้” มู่อวี้เฉิงพูดอย่างตรงไปตรงมา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหลังจากได้ยินเช่นนั้น จากนั้นจึงเธอตอบว่า “เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไปกับคุณ”
เธอรู้ดีว่าไม่ช้าหรือเร็วผู้เฒ่ามู่จะต้องได้ยินเรื่องนี้
มู่อวี้เฉิงประหลาดใจมากว่าเธอจะไปด้วยกัน
ทว่าเขากลับไม่ได้แสดงน้ำเสียงประหลาดใจออก เพียงพูดตอบรับเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปรับ”
“ค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบ
หลังจากวางสายแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถึงกับรู้สึกปวดหัว
เธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ให้ผู้เฒ่ามู่ฟังอย่างไรดี และคงจะหลีกเลี่ยงจากการถูกดุด่าไม่ได้
ไม่ช้าหรือเร็วเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเขา ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะไปกับพวกเขา
คืนนั้น
มู่อวี้เฉิงเลิกงานแล้วและกลับไปยังคฤหาสน์ตี้หลานก่อน
ตอนนั้นเสี่ยวเป่าที่เพิ่งเรียนเสร็จกำลังทำแบบฝึกหัดอยู่
“เสี่ยวเป่า” มู่อวี้เฉิงเคาะประตูและส่งเสียงเรียกเบา ๆ
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินเสียงเรียกเปิดประตูออกไปและเห็นว่าคนตรงหน้าคือมู่อวี้เฉิง “แด๊ดดี้มีอะไรฮะ?”
“คืนนี้แด๊ดดี้จะพาหนูกับหม่ามี้ไปที่หนึ่ง รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เราจะได้ไปรับหม่ามี้กัน” มู่อวี้เฉิงบอก
เสี่ยวเป่าพยักหน้าและเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องของเขาทันที
มู่อวี้เฉิงอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมาและขับรถพาเขาไปรับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่บริษัท
หลังจากที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลิกงาน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากมู่อวี้เฉิง
เมื่อกดตอบรับ เสียงเซ็กซี่ก็ดังมาจากปลายสาย “ผมกับเสี่ยวเป่ากำลังรอคุณอยู่ที่ชั้นล่าง”
“อืม” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบรับก่อนจะกดวางสาย
จากนั้นรถยนต์ก็แล่นไปยังคฤหาสน์หลังเก่า
รถยนต์เคลื่อนตัวไปตามภูเขาคดเคี้ยว และมาถึงคฤหาสน์สไตล์โบราณในที่สุด
คนรับใช้ออกมาพาทั้งสามคนเข้าไปในห้องโถง
ผู้เฒ่ามู่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แกะสลักระหว่างรอคอยพวกเขา
ผู้เฒ่ามู่รีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ด้วยความตื่นเต้นทันทีที่เห็นเสี่ยวเป่าเข้ามา
เขากวักมือแล้วพูดว่า “เจ้าหนู มานี่เร็ว มาให้ปู่ทวดดูหน่อย”
เสี่ยวเป่าเหลือบมองคุณปู่ตรงหน้าเขาและหันไปมอง ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงพยายามส่งสายตาให้กำลังใจเขา
เสี่ยวเป่าเดินเข้าข้างหน้าและในที่สุดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าผู้เฒ่ามู่
“เหมือน เหมือนกันมากจริง ๆ เหมือนกับตอนนี้ที่อวี้เฉิงยังเป็นเด็กเลย” ผู้เฒ่ามู่ถอนหายใจ
เขาพูดแล้วอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้างตกใจมาก ร่างกายของผู้เฒ่ามู่ไม่แข็งแรงพอที่จะแบกรับอะไรไหว
เขารีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ให้ผมช่วยอุ้มดีกว่าครับ”
“ไม่ต้อง ฉันอุ้มได้ นี่เหลนชายฉันนะ” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมผละมือออกเลย
เขาลืมแม้แต่กระทั่งมู่อวี้เฉิงกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
ผู้เฒ่ามู่มองดูชายร่างเล็กในอ้อมกอดอย่างมีความสุขแล้วถามขึ้นอย่างใจดี “ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?”
“คุณปู่ทวด ปีนี้เสี่ยวเป่าอายุห้าขวบแล้วครับ” เสี่ยวเป่าตอบตามความเป็นจริง
เสียงร้องเรียกคุณปู่ทวดทำให้ใบหน้าของผู้เฒ่ามู่เบิกบานด้วยความปีติยินดี
เขาถามขึ้นอีกครั้ง “แล้วเสี่ยวเป่าของเราไปโรงเรียนหรือยัง?”
“ไม่ฮะ แด๊ดดี้จ้างอาจารย์ให้ผมเรียนอยู่ที่บ้าน” เสี่ยวเป่าตอบ
“ตอนนี้เรียนอะไรอยู่ล่ะ?”
“เรียนเนื้อหาของปอสี่แล้วฮะ”
“ดี เก่งมาก เสี่ยวเป่าฉลาดจริง ๆ”
ทั้งสองผลัดกันพูดถาม เข้ากันได้อย่างอบอุ่นมาก
หลังจากนั้นผู้เฒ่ามู่ก็วางเสี่ยวเป่าลงกับพื้น
เขายิ้มกว้าง “ปู่ทวดสั่งให้พวกเขาไปเตรียมของที่ เสี่ยวเป่าชอบกินมาเยอะแยะเลยนา เสี่ยวเป่าไปช่วยพวกเขาหยิบมาหน่อยได้มั้ย?”
เสี่ยวเป่าพยักหน้า
จากนั้นผู้เฒ่ามู่ก็สั่งคนรับใช้รอบตัวให้พาเสี่ยวเป่าไปที่ห้องครัว
ทันทีที่เสี่ยวเป่าจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้เฒ่ามู่ก็จางหายไปและถูกแทนที่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เขาหันไปมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวด้วยสายตาดุดัน “เธอคิดบ้าอะไรอยู่ กล้าดียังไงถึงปกปิดเรื่องใหญ่โตพรรค์นี้มาจนถึงป่านนี้ ถ้าอวี้เฉิงไม่ไปรู้เรื่องนี้เข้า เธอก็คงจะปิดบังพวกเราไปตลอดชีวิตเลยใช่มั้ย”
ผู้เฒ่ามู่พ่นถ้อยคำขุ่นเคืองออกมา และกระแทกไม้เท้าลงกับพื้นจนเกิดเสียง ‘ปึก ๆ’ สองครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเสียงดังกล่าวรู้สึกราวกับไม้เท้าของผู้เฒ่ามู่กระแทกสู่กลางใจเธอถึงสองรอบ
เธอรู้ดีแก่ใจว่าสิ่งที่ผู้เฒ่ามู่พูดนั้นถูกต้องทุกประการ
หากมู่อวี้เฉิงไม่ได้ค้นพบความจริงและแอบทดสอบผลดีเอ็นเอ เธอคงปิดบังเรื่องนี้ไว้จากตระกูลมู่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก้มศีรษะลงและพูดขอโทษ “ขอโทษค่ะคุณปู่ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
หลายปีที่ผ่านมาผู้เฒ่ามู่ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์เลย ดังนั้นเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวเคยมีความคิดอย่างนั้นมาก่อน
เขาพูดต่อ “ถ้าเธอจะซ่อนมันไว้จากพวกเราก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่เธอซ่อนมันจากอวี้เฉิงด้วย ไหนเธอบอกสิเธอคิดอะไรอยู่กันแน่”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก้มหน้าสำนึกผิดโดยไม่พูดตอบโต้อะไรสักคำ
“ตามอายุของเสี่ยวเป่า เธอน่าจะท้องตั้งแต่ตอนที่หนีงานแต่งไปแล้วใช่มั้ย?” ผู้เฒ่ามู่ถาม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและตอบรับ “ค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเอง”
หากเธอไม่หลงเชื่อคนอื่น เหตุการณ์หนีงานแต่งงานก็คงจะไม่เกิดขึ้น
เธอคือผู้บั่นทอนเจตนาที่ดีของผู้เฒ่ามู่
“เธอนี่นะ ทำอะไรดี ๆ เป็นบ้างมั้ย” ผู้เฒ่ามู่ดุ
อันที่จริงผู้เฒ่ามู่เพียงแสร้งทำเป็นโกรธเคือง และเขาไม่ได้โกรธเธอจริง ๆ
หลังจากตักเตือนอีกสองสามครั้งและเห็นว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเอาแต่ก้มหน้ารับคำด่าทอ ผู้เฒ่ามู่ก็ไม่ได้มีความตั้งใจจะดุด่าอีกต่อไป
เขาโบกมือแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ จะยกโทษให้แล้วกัน”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้าและมองเขาด้วยสายตาไม่เชื่อ
เธอคิดว่าวันนี้เธอคงจะถูกตำหนิอยู่นาน และใครจะรู้ว่าชายชราจะให้อภัยเธออย่างง่ายดาย
มู่อวี้เฉิงคลี่ยิ้มขณะมองดูท่าทางประหลาดใจของเธอ
เขาเข้าใจคุณปู่ของเขาดีที่สุดและรู้ว่าชายชราไม่ได้โกรธจริง ๆ
ผู้เฒ่ามู่พูดขึ้นอีกครั้งหลังจากเห็นแววตาของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว “ทำไม ยังอยากโดนฉันดุอีกหรือไง?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหัวเราะแฮะ ๆ “ฉันจะกล้าได้ยังไงคะคุณปู่”
“เธอเป็นผู้หญิงที่ใจกล้าสุดแล้ว ยังจะมาบอกว่าไม่กล้าอีก” ผู้เฒ่ามู่จ้องมองเธอด้วยสายตาเฉียบคมจนร่างกายของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแข็งทื่อ
ชายชราละสายตาออกและพูดว่า “แต่ไหน ๆ หลานก็รู้จักฉันแล้ว แถมเขายังเป็นคนมีเหตุผล ต้องขอบใจเธอที่อุตส่าห์ลำบากมาหลายปี”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นตาแดงก่ำทันที “ไม่ลำบากเลยค่ะ ขอแค่คุณปู่ไม่ดุด่าที่ฉันปิดบังเรื่องนี้ไว้ก็พอค่ะ”
ผู้เฒ่ามู่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนบนโลกใบนี้ที่ใจดีกับเธอ
คราวเมื่อเธอตั้งครรภ์ในตอนแรก เธอไม่ได้คิดจะปิดบังเรื่องนี้ไว้จากเขาเลย เพียงแต่ในตอนนั้นมีเรื่องเกิดขึ้นหลายอย่าง
ผู้เฒ่ามู่เหลือบมองเธอและพูดปลอบโยนเบา ๆ “เหลนได้รับการอบรมสั่งสอนจากเธอมาอย่างดี แถมยังหน้าตาหล่อเหลา ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ปู่ก็ยังได้มีความสุขกับเขาบ้าง แล้วจะไปโทษเธอได้ยังไง”