พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 236 ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก
ตอนที่ 236
ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกเคอะเขินและโมโหผสมปนเปกัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอกัดฟันล้มตัวลงไปนอน
ทันใดนั้นชายที่อยู่ด้านข้างก็ยื่นมือออกมากอดเธอ จนร่างกายของเธอแข็งทื่อ
น้ำเสียงของมู่อวี้เฉิงดูเหมือนว่ากำลังหยอกล้ออยู่ “ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”
ลมหายใจอุ่น ๆ รวยรินอยู่ข้าง ๆ ใบหูของเธอ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยายามบิดตัวไปมาอย่างไม่สบายใจและตั้งใจจะปลีกตัวออกจากอ้อมกอด
ทว่าวงแขนของมู่อวี้เฉิงกลับเป็นดั่งคีมเหล็ก ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนเธอก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากอ้อมกอดได้
“ถ้าคุณเขยิบหนีอีกครั้งก็คอยรับผลที่ตามมาด้วยล่ะ” เขาพูดขณะขบเม้มใบหูของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจกับการกระทำของเขามากจนร่างกายสั่นสะท้านและอยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยไม่ขยับเขยื้อน
มู่อวี้เฉิงยิ้มกริ่มและหลับตาลงเมื่อเห็นว่าเธอประพฤติตนดีมากแค่ไหน
คืนนั้นมู่อวี้เฉิงไม่ได้ล่วงเกินอะไรและสองคนก็นอนกอดกันกลมเกลียว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ตกอยู่ในสภาพแข็งทื่อไม่สามารถต้านทานความง่วงนอนได้อีกต่อไป เธอหลับตาลงและผล็อยหลับลึก
วันต่อมา
สายลมพัดผ่านม่านสีขาว แสงแดดส่องผ่านรูผ้าม่านเข้ามาในห้องนอน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เธอพยายามเอื้อมมือออกไปปิดนาฬิกาด้วยเคยชินแต่กับพบว่าตนเองไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
ความทรงจำเมื่อคืนนี้ค่อย ๆ หวนคืนกลับมา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจำได้ว่าเธอเข้านอนกับมู่อวี้เฉิง
ดังนั้นเขาจึงนอนกอดเธอไว้ทั้งคืน ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหันไปมองเขาและพบกับดวงตาคู่หนึ่งที่กำลังเปล่งประกายแวววาวราวกับดวงดาว
“อรุณสวัสดิ์” น้ำเสียงแหบแห้งของมู่อวี้เฉิงฟังดูเซ็กซี่เล็กน้อย
เสียงทุ้มที่ฟังดูเกียจคร้านจากการตื่นนอนในตอนเช้าดังก้องอยู่ในหูเธอ ทำให้ใบหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวร้อนฉ่าไปชั่วขณะ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เธอตอบรับเบา ๆ
เสียงนาฬิกาปลุกยังคงดังต่อเนื่องและถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังคงพยายามดิ้นรนต่อไป “เอามือออกก่อน ฉันจะปิดนาฬิกาปลุก”
มู่อวี้เฉิงคลายวงแขนออกจากเธอและลุกขึ้นไปอาบน้ำ
หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เข้าไปทำอาหารเช้าในห้องครัว จากนั้นจึงเดินเข้าไปปลุกเสี่ยวเป่า
เธอผลักประตูห้องของเสี่ยวเป่าเข้าไปและพบว่าเจ้าตัวเล็กนอนทำปากขมุบขมิบอยู่บนเตียง
“เสี่ยวเป่า ตื่นได้แล้ว” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตีผ้าห่มที่คลุมร่างเขาไว้เบา ๆ ขณะตะโกนเรียก
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินเสียงหม่ามี้ขยี้ตาที่ง่วงนอนและค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
เขาตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ ท่าทางงุนงงดูน่ารักเป็นพิเศษ จนทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มกว้าง
“ลุกขึ้นไปอาบน้ำกินข้าว” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดขณะตีก้นเล็ก ๆ
เสี่ยวเป่ายืดตัวออกหลังจากที่ได้ยินเสียงและลุกขึ้นจากเตียง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพาเสี่ยวเป่าเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นเขาก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ตัวเล็ก หันหน้าเข้าหากระจกและหยิบแปรงสีฟันขึ้นมาแปรงฟัน
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็พาเสี่ยวเป่าออกมาจากห้องน้ำ
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินไปที่ห้องนั่งเล่น เสี่ยวเป่าก็หยุดชะงัก
เขาเบิกตากว้างมองดูคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
จากนั้นรอยยิ้มแห่งความสุขก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าไปหามู่อวี้เฉิง แต่หลังจากก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว เขากลับหยุดชะงัก
เขาเงยหน้าขึ้นมองถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ด้านข้างและถอยเท้าข้างที่เพิ่งก้าวออกไปกลับมา
ถึงแม้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะมีสีหน้าปกติ แต่เสี่ยวเป่าก็ยังกังวลว่าเธอจะไม่มีความสุข
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นท่าทางการเคลื่อนไหวของเสี่ยวเป่า เธอจึงคุกเข่าลงและมองดูเขา “เสี่ยวเป่า อยากไปหาเขามั้ย?”
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินเช่นนั้นมีสีหน้าลังเล ก่อนจะก้มหน้าลงและส่ายหัว
หากเขาคิดต่าง หม่ามี้จะต้องเสียใจมากแน่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้ดีว่าเสี่ยวเป่าไม่ได้แสดงความคิดตามที่ใจต้องการออกมาเลย
เธอลูบหัวเสี่ยวเป่าเบา ๆ และพูดว่า “หม่ามี้อยากได้ยินคำพูดจริง ๆ ของเสี่ยวเป่านะ”
“อยาก เสี่ยวเป่าอยากมีแด๊ดดี้” เสี่ยวเป่าเงยหน้ามอง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวและพูดด้วยท่าทางหนักแน่น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตบหลังเสี่ยวเป่าเบา ๆ และส่งยิ้มให้เขา “งั้นก็ไปสิ”
เสี่ยวเป่ามีความสุขมากเมื่อเห็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นด้วย
รอยยิ้มที่สดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่วิ่งเข้าไปหามู่อวี้เฉิง
เขากอดขามู่อวี้เฉิง เงยหน้าขึ้นและร้องตะโกนอย่างมีความสุข “แด๊ดดี้”
มู่อวี้เฉิงที่ได้ยินคำว่าแด๊ดดี้รู้ราวกับว่าหัวใจของเขากำลังสั่นไหวอย่างแรง
เขาเอื้อมมือออกไปอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา กลิ่นหอมบนร่างกายของเจ้าตัวเล็กทำให้หัวใจของเขาผ่อนคลายลง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
แต่ว่าภายในใจก็อดคิดไม่ได้ว่านี่คือธรรมชาติระหว่างพ่อลูกที่ไม่สามารถกีดขวางได้
หลังจากที่ทั้งสามคนรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว มู่อวี้เฉิงก็ไปส่งเสี่ยวเป่าที่คฤหาสน์ตี้หลาน
ระหว่างทางกลับ เสี่ยวเป่าดูมีความสุขมาก
เมื่อพวกเขามาถึงคฤหาสน์ พ่อบ้านก็ออกมาทักทายพวกเขา เสี่ยวเป่าจับมือมู่อวี้เฉิงแล้วพูดอย่างมีความสุข “คุณปู่พ่อบ้าน นี่คือแด๊ดดี้ของผมฮะ”
พ่อบ้านที่ได้ยินเช่นนั้นเกิดความสงสัยและสับสน
ก่อนหน้านี้นายน้อยก็เรียกคุณชายว่าแด๊ดดี้ไม่ใช่เหรอ? สิ่งนี้ทำให้เกิดความว้าวุ่นอีกครั้ง
อาจารย์ผู้ฝึกสอนของเสี่ยวเป่ารออยู่ในห้องโถงเช่นกัน เขาเห็นมู่อวี้เฉิงเดินเข้ามาจึงพูดทักทาย “สวัสดีครับคุณมู่”
เสี่ยวเป่าเขย่ามือของมู่อวี้เฉิงสองครั้งแล้วพูดว่า “อาจารย์ นี่คือแด๊ดดี้ของผมครับ”
อาจารย์สับสนมากเช่นกัน แต่เมื่อเขาเห็นว่ามู่อวี้เฉิงมองเสี่ยวเป่าด้วยความรักใคร่มาก เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
หลังจากที่เสี่ยวเป่าเริ่มเรียน มู่อวี้เฉิงก็กลับไปที่บริษัท
ตอนเช้าลู่หมิงเดินถือแก้วในมือไปยังห้องน้ำชา และบังเอิญได้ยินเสียงสนทนาจากทางด้านใน
“วันนี้ท่านประธานดูจะอารมณ์ดีเนอะ”
“คุณก็คิดเหมือนกันเหรอ? วันนี้ผมเอาเอกสารไปส่งให้ผิด ท่านประธานก็เตือนแค่ว่าคราวหน้าอย่าทำผิดอีก”
“ถ้าเทียบกับท่านประธานที่ชอบทำหน้าตาบูดบึ้ง ฉันชอบท่านประธานในตอนนี้มากกว่าอีก”
“อะแฮ่ม” หลังจากเสียงไอดังขึ้น กลุ่มคนที่อยู่ด้านในก็เงียบลง
พวกเขาเดินออกมาจากห้องน้ำชาขณะยิ้มเจื่อน “ผู้ช่วยลู่นี่เอง มาเอาน้ำเหรอคะ? เชิญค่ะ”
“ชั่วโมงทำงานนะครับ ห้ามจับกลุ่มคุยกัน” ลู่หมิงเตือน
กลุ่มคนรีบตอบรับ “ครับ”
หลังจากพูดจบ พวกเขาก็กลับไปยังตำแหน่งของตนเอง
ลู่หมิงรินน้ำชาและคิดกับตนเองว่าวันนี้ท่านประธานดูอารมณ์ดีมาก
ขณะเดียวกันมู่อวี้เฉิงได้รับโทรศัพท์จากท่านผู้เฒ่ามู่
เห็นได้ชัดว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลมู่แล้ว
เพียงแต่ว่าผู้เฒ่ามู่เพิ่งได้ยินเรื่องทั้งหมดในวันถัดมาเท่านั้น
เขาได้ยินเรื่องทั้งหมดตอนที่ดื่มชาอยู่
ตอนที่แม่บ้านมารายงานเรื่องดังกล่าว มือของเขาสั่นเทามากจนเผลอบีบถ้วยชากระเบื้องลายครามแก้วโปรดแตกคามือ
ทว่าถ้วยชาใบนั้นไม่ได้สำคัญไปกว่าเหลนชายของเขาเลย ดังนั้นเขาจึงรีบโทรศัพท์มาหามู่อวี้เฉิง
หลังจากได้ยินเสียงตอบรับ น้ำเสียงอันสง่างามของท่านผู้เฒ่ามู่ก็เต็มไปด้วยความสั่นเครือ “อวี้เฉิง เหมี่ยวเหมี่ยวคลอดลูกชายจริง ๆ เหรอ?”
“จริงครับ” มู่อวี้เฉิงตอบรับด้วยเสียงทุ้ม
ตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้กีดกันเขากับเสี่ยวเป่าอีกต่อไป และเดิมทีมู่อวี้เฉิงก็ต้องการเล่าเรื่องนี้ให้ชายชราฟังเช่นกัน
แต่กลับกลายเป็นว่าผู้เฒ่ามู่รู้ข่าวเร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะ
เสียงหัวเราะร่าเริงของชายชราดังมาจากปลายสาย เขามีหลานชายแล้วจริง ๆ
“หาเวลาพาเด็กมาให้ปู่ดูด้วยนะ”ผู้เฒ่ามู่พูดบอกอย่างขยันขันแข็ง
มู่อวี้เฉิงตอบตกลงอย่างมีความสุข “เดี๋ยวเย็นนี้ผมพาไปครับ”