พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 233 ลูกเป็นของฉัน
ตอนที่ 233
ลูกเป็นของฉัน
อีกด้านหนึ่ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวเลิกงาน
จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็สั่นไหว เธอหยิบมันขึ้นมามองแล้วพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากมู่อวี้เฉิง
เธอไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพียงกดปัดเพื่อรับสาย
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามตามปกติ “มีอะไรคะ?”
“เลิกงานหรือยัง? เดี๋ยวผมไปรับ” เสียงเซ็กซี่ของมู่อวี้เฉิงดังลอดออกมาจากปลายสายจนเธอรู้สึกราวกับถูกไฟฟ้าช็อต
“ฉันกลับเองได้ค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบ
ระยะทางระหว่างมู่กรุ๊ปกับสตีเฟนกรุ๊ปไม่ได้ใกล้กันนัก ดังนั้นระยะทางที่มู่อวี้เฉิงจะต้องขับรถมารับเธอก็เทียบเท่ากับว่าเธอขับรถกลับบ้านเอง
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น มู่อวี้เฉิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาตามตรงว่า “ผมรออยู่ที่ชั้นล่างแล้ว วันนี้เราจะไปกินข้าวที่บ้านหลังเก่ากัน เสี่ยวเป่าก็อยู่นั่นด้วย แม่ผมไปพาเขากลับไป”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเม้มปากเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ขณะที่หัวใจของเธอค่อย ๆ จมดิ่งลง
ทำไมเสี่ยวเป่าถึงไปอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลมู่ได้?
ทำไมแม่ของเขาถึงมาพาเสี่ยวเป่าไปที่นั่น?
พวกเขาทำแบบนี้หมายความว่าอะไร?
หรือว่า… พวกเขาจะรู้ตัวตนของเสี่ยวเป่าแล้ว?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกสับสน มีปริศนาพันกันมากจนเธอคิดไม่ออก
แต่สิ่งสำคัญที่สุดสุดคือการนำตัวเสี่ยวเป่ากลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลมู่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบคว้ากระเป๋าขึ้นมาและวิ่งเหยาะ ๆ ออกจากห้องทำงานไป
เธอมาถึงชั้นล่างอย่างรวดเร็วและเห็นว่าเบนลีย์คันสีดำอันแสนคุ้นเคยจอดอยู่ไม่ไกล
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเปิดประตูรถเข้าไปข้างใน เธอมองดู มู่อวี้เฉิงแต่กลับไม่พูดอะไร ดูเงียบจนผิดปกติ
ความจริงที่ว่าเสี่ยวเป่าถูกพาตัวไปทำให้เธอคาดเดาว่าเขาน่าจะรู้อะไรบางอย่าง
ภายในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับไม่กล้าที่จะถามออกไป
เธอมองตรงไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง
มู่อวี้เฉิงเห็นว่าเธอนั่งเงียบจึงไม่ได้พูดอะไรออกไป
ณ คฤหาสน์ตระกูลมู่
รถยนต์คันหนึ่งขับเคลื่อนตัวเข้ามาช้า ๆ และเข้าไปจอดอยู่ในโรงจอดรถอันกว้างขวาง
คนขับรถรีบลงมาเปิดประตูให้พวกเขา มาอวี้เฉิงกับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงเดินออกมาพร้อมกัน
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ แม่บ้านก็รีบไปแจ้งข่าวกับลิ่นอวี๋เหยียน
“คุณนาย นายน้อยกลับมาแล้วค่ะ”
ลิ่นอวี๋เหยียนพยักหน้าตอบรับ
ไม่นานหลังจากนั้น มู่อวี้เฉิงก็พาถงเหมี่ยวเหมี่ยวเข้ามาในห้องโถง
ลิ่นอวี๋เหยียนกับมู่หงจวิ้นกำลังยิ้มแย้มถือของหลอกล่อเสี่ยวเป่าอยู่
เห็นได้ชัดว่าเป็นฉากที่กลมกลืนและอบอุ่นมาก ทว่าหัวในของถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับกระชับแน่นขึ้น
เธอเม้มปากและกำมือที่อยู่ข้างลำตัวแน่น จู่ ๆ เธอก็คิดอยากจะพาเสี่ยวเป่ากลับออกไปให้รู้แล้วรู้รอด
“แม่ ผมกลับมาแล้วครับ” มู่อวี้เฉิงพูด
ลิ่นอวี๋เหยียนเงยหน้ามองเขา แต่แล้ววินาทีต่อมา ขมวดคิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากัน
เธอหันหน้ากลับมา ไม่ได้จ้องมองทั้งสองอีกต่อไปและพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “แกจะพาเธอมาที่นี่ทำไม?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเธอพูดเช่นนั้นรู้สึกโมโหมาก
หากคนตรงหน้าไม่พาเสี่ยวเป่ามาที่นี่ เธอก็คงจะไม่ก้าวเท้ามาเหยียบที่นี่เช่นกัน
เธอมองลิ่นอวี๋เหยียนด้วยสายตาเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฉันคงต้องถามคุณนายมู่มากกว่าค่ะว่าทำไม จู่ ๆ ถึงไปพาตัวลูกชายฉันมา ทำแบบนั้นมันเหมาะสมแล้วเหรอคะ”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ยื่นมือออกไปข้างหน้า “เสี่ยวเป่ามานี่ หม่ามี้จะพากลับบ้าน”
เสี่ยวเป่ามองดูหม่ามี้และกำลังจะก้าวออกไป
ทว่าแรงบางอย่างกลับขัดขวางไม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้า
เขาหันกลับมามองข้างหลังแล้วเห็นมือหนึ่งจับเขาเอาไว้แน่น ป้องกันไม่ให้เขาเดินไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเช่นกัน สีหน้าของเธอจึงดูน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น “คุณนายมู่คะ ทำอะไรอยู่ รีบปล่อยลูกชายฉันสิคะ”
“ฉันไม่ปล่อย” ลิ่นอวี๋เหยียนพูดขณะดึงเสี่ยวเป่าไว้ข้างหลังเธอ
เสี่ยวเป่าหันไปมองคุณย่าที่เพิ่งเจอหน้ากันวันนี้และหันไปมองหม่ามี้
เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันตึงเครียดระหว่างทั้งสองคน
ลิ่นอวี๋เหยียนมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “ฉันก็แค่ไปรับหลานชายมาจากบ้านลูกชายแล้วมันผิดแปลกตรงไหน”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นหยุดชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง
พวกเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วเหรอ?
ไม่! ไม่มีทาง!
พวกเขาไม่มีทางรู้ได้!
เธอสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อระงับความตื่นตระหนก และพูดอย่างใจเย็น “คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรคะ เสี่ยวเป่ากลายไปเป็นหลานชายของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่”
ลิ่นอวี๋เหยียนโกรธจัดเมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธที่จะยอมรับความผิดพลาดและบอกว่าเสี่ยวเป่าไม่ใช่หลานชายของตน
เธอรีบตอบโต้กลับด้วยความโกรธจัด “เธอคิดจะปิดบังเรื่องนี้ไปตลอดชีวิตเลยหรือไง”
“ฉันไม่มีอะไรต้องปิดบังค่ะ ฉันบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ไงคะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบโต้กลับอย่างหนักแน่น
ไม่ว่าลิ่นอวี๋เหยียนจะพูดอะไร เธอก็จะไม่มีวันยอมรับมัน
“เขาคือหลานของตระกูลมู่ ผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว เธอยังไม่ยอมรับอีก” ลิ่นอวี๋เหยียนพูดขึ้นด้วยความโกรธ
ผู้หญิงคนนี้ทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวจนเกินไปแล้ว ตระกูลมู่ของพวกเธอไม่ดีตรงไหน
เธอยุติการแต่งงานกับลูกชายของตนยังไม่พอ ตอนนี้ยังมากีดขวางไม่ให้หลานชายจำพวกตนได้อีก
ผลตรวจดีเอ็นเอ
หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวจมดิ่งลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของลิ่นอวี๋เหยียน
พวกเขารู้เรื่องนี้หมดแล้ว เท่านั้นยังไม่พอพวกเขายังทำการตรวจดีเอ็นเอด้วย
ใครเป็นคนบอกเธอ?
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดพิจารณาและมองไปที่มู่อวี้เฉิง น้ำเสียงของเธอฟังดูแหบแห้งเล็กน้อย “คุณบอกเหรอ?”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ และพูดตอบรับเสียงแผ่ว “ผมบอกเอง”
“คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถาม
มู่อวี้เฉิงตอบตามตรง “ตอนที่ถ่ายเลือดให้เสี่ยวเป่าที่ต่างประเทศ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดเอาไว้แล้วว่าคงจะเป็นตอนนั้นจริง ๆ
ในตอนนั้นเธอพยายามขัดขวางไม่ให้เขาถ่ายโอนเลือดให้เสี่ยวเป่า ท่าทางของเธอแปลกประหลาดขนาดนั้น มู่อวี้เฉิงจะไม่สงสัยได้อย่างไร
เธอเป็นเพียงคนเดียวที่นึกว่าเขาโง่เขลาและไม่ได้คำนึกถึงเรื่องนี้เลย
หากรู้ไม่ว่าเขาทำการตรวจความเป็นพ่อลูกกับเสี่ยวเป่าตั้งแต่เนิ่น ๆ
ดังนั้นตอนที่เขาขอให้เสี่ยวเป่าเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ เขาคงจะรู้อยู่แล้ว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเริ่มตื่นตระหนก เธอหวาดกลัวว่าตระกูลมู่จะพาตัวเสี่ยวเป่าไป
เธอพยายามบีบบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ลง
เธอมองดูมู่อวี้เฉิงและพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อเราแยกจากกันไปแล้ว ตอนนี้ลูกเป็นของฉันและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ”
เธอพูดและอุ้มเสี่ยวเป่ากลับออกมาในตอนที่ ลิ่นอวี๋เหยียนเผลอไม่ทันระวังตัว
ลิ่นอวี๋เหยียนต้องการไล่ตามพวกเธอออกไป แต่กลับถูก มู่หงจวิ้นหยุดเอาไว้ เธอจึงเงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน “คุณมาหยุดฉันทำไม”
“อวี้เฉิงไล่ตามทันแล้ว นี่เป็นเรื่องของพวกเขา เพราะฉะนั้นคุณอย่าเข้าไปยุ่ง” มู่หงจวิ้นพูดด้วยน้ำเสียงห้ามปราม
ลิ่นอวี๋เหยียนพยักหน้าและก้าวถอยหลัง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินออกมาได้ไม่ไกลก็ถูกมู่อวี้เฉิงหยุดเอาไว้
“หลีกไป” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดจาเย็นชาใส่เขา
ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้และอยากจะหนีจากเขาไปให้เร็วที่สุด
เธอรู้สึกหายใจไม่ออกหากจะต้องอยู่ที่นี่นานอีกสักสิบนาที
ทว่ามู่อวี้เฉิงกลับทำตัวเหมือนกำแพงหนาที่ขวางทางเธอไว้ไม่ให้เธอเดินตรงไปข้างหน้าได้
เธอเดินเบี่ยงไปทางด้านซ้าย มู่อวี้เฉิงก็เดินไปทางด้านซ้าย เธอเดินเบี่ยงไปทางด้านขวา มู่อวี้เฉิงก็เดินไปทางด้านขวา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเงยหน้ามองเขาแล้วถามว่า “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”