พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 231 คุณยายเป็นใครฮะ
ตอนที่ 231
คุณยายเป็นใครฮะ?
ณ คฤหาสน์ตระกูลมู่
ลิ่นอวี๋เหยียนที่กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่เหม่อลอยจนเผลอทำอาหารหกใส่ตนเอง
“ไอหยา” ลิ่นอวี๋เหยียนอุทาน คนรับใช้จึงรีบเข้ามาช่วยเธอทำความสะอาดทันที
“เป็นอะไรไป?” มู่หงจวิ้นนิ่วหน้าขมวดคิ้ว
ตั้งแต่ภรรยากลับมาจากมู่กรุ๊ปในวันนั้น เธอก็เอาแต่เหม่อลอยราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
ลิ่นอวี๋เหยียนอ้าปากราวกับต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ส่ายหัวและตอบว่า “ฉัน… ฉันไม่เป็นอะไร”
เธอยังไม่ได้บอกมู่หงจวิ้นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวให้กำเนิดหลานชายของพวกเขา
เพราะเธอก็ใช้เวลานานกว่าจะยอมรับเรื่องนี้ได้
ทว่าเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะบอกเรื่องนี้กับมู่หงจวิ้นหรือไม่
มู่หงจวิ้นที่ได้ยินเช่นนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้น
สองสามวันมานี้เขาถามว่าเธอเป็นอะไร แต่ลิ่นอวี๋เหยียนก็มักจะลังเลตลอดจนเขาหยุดถามเธอ
ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เอาแต่เหม่อลอยตลอดทั้งวัน
หลังจากที่มู่หงจวิ้นออกไปที่บริษัท ลิ่นอวี๋เหยียนก็โทรศัพท์ไปหามู่อวี้เฉิง
เธอรอจนกระทั่งโทรติดและได้ยินเสียงของมู่อวี้เฉิงพูดขึ้น “แม่?”
ลิ่นอวี๋เหยียนรีบโพล่งออกไปตามตรง “ถ้าลูกมีเวลาว่างก็พาเด็กคนนั้นมากินข้าวที่บ้านบ้างสิ”
มู่อวี้เฉิงเข้าใจแจ่มแจ้งหลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว ดูเหมือนว่าแม่ของเขาจะยอมรับตัวตนของเสี่ยวเป่าได้แล้ว
เพียงแต่ระยะเวลายอมรับกลับนานกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก
ลิ่นอวี๋เหยียนพูดเสริม “พาเด็กคนนั้นมาก็พอ พามาให้แม่กับพ่อแกดูหน่อย แล้วไม่ต้องพาแม่เด็กมาหรอกนะ”
หลังจากที่ได้ลิ่นอวี๋เหยียนพูดแบบนั้น ดวงตาของ มู่อวี้เฉิงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น
นึกไม่ถึงว่าแม่จะยอมรับเสี่ยวเป่าแต่กลับไม่ยอมรับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว
มู่อวี้เฉิงจึงตอบรับด้วยเสียงเย็นชา “เดี๋ยวผมหาเวลาแวะไปครับ”
ลิ่นอวี๋เหยียนตอบตกลงที่เขาจะพาหลานกลับมา และพูดกำชับว่า “แม่ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อแกเลย แกก็ไปคิดมา ให้ดี ๆ แล้วกันว่าจะบอกเขายังไง”
“ครับ” มู่อวี้เฉิงตอบรับแล้วกดวางสาย
มู่อวี้เฉิงไม่ได้รีบร้อนพาลูกชายกลับไปที่บ้านหลังเก่านัก เพราะว่าวันหนึ่งเขาตั้งใจจะพาทั้งแม่และลูกกลับไปอย่างเปิดเผย
แต่ว่าตอนนี้เขาจะก้าวข้ามผ่านความสัมพันธ์กับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังไงดี?
…
หลังจากลิ่นอวี๋เหยียนได้รับคำตอบจากมู่อวี้เฉิงแล้ว เธอก็ตั้งตารอให้เขาพาหลานชายกลับมา
แต่รอจนแล้วจนรอด รออยู่หลายวันก็ยังไม่มีวี่แววว่า มู่อวี้เฉิงจะพาหลานมาสักที
บ่ายวันหนึ่ง ลิ่นอวี๋เหยียนกลับมาจากงานเลี้ยงและเห็นว่าแม่บ้านออกมาต้อนรับ เธอจึงถอดเสื้อคลุมออกแล้วถามอย่างสบาย ๆ “อวี้เฉิงมาหรือยัง?”
แม่บ้านเอื้อมมือออกไปรับเสื้อคลุมและตอบกลับว่า “คุณนาย วันนี้นายน้อยไม่มาค่ะ”
ลิ่นอวี๋เหยียนที่ได้ยินเช่นนั้นหยุดชะงัก สีหน้าของเธอบึ้งตึงขึ้น
เธอรอคอยมาหลายวันแล้วแต่มู่อวี้เฉิงก็ยังไม่พาหลานชายกลับมาเยี่ยมพวกเธออีก
วันที่เขาตอบตกลงคำพูดขอของเธอ เขาแค่รับปากแบบขอไปทีใช่ไหม?
ในเมื่อเป็นอย่างนั้นเธอก็จะไปพาตัวหลานชายกลับมาเอง
หลังจากตัดสินใจแล้ว ลิ่นอวี๋เหยียนก็โยนเสื้อคลุมใส่มือของแม่บ้านและเดินขึ้นไปยังชั้นบน
แม่บ้านเดินตามเธอขึ้นไปอย่างใกล้ชิด ลิ่นอวี๋เหยียนเหลือบมองแม่บ้านอย่างเฉียบขาดและพูดจาเย็นชาใส่ “ไม่ต้องตามฉันมา”
“ค่ะ” แม่บ้านโค้งคำนับเล็กน้อยและหยุดเดินตาม
ลิ่นอวี๋เหยียนรีบเดินกลับเข้ามาในห้องนอน หยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลออกมาจากลิ้นชัก
ถุงกระเป๋าใบนี้บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับเสี่ยวเป่า เธอส่งคนไปตามสืบหลังจากรู้เรื่องดังกล่าว
แต่เนื่องจากเธอไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้อยู่นาน เธอจึงเมินเฉยและเก็บมันไว้ในลิ้นชัก
ลิ่นอวี๋เหยียนค่อย ๆ คลายเชือกคล้องถุงกระดาษออกแล้วหยิบแผ่นเอกสารขึ้นมามองดู
เธอเปิดดูเอกสารหน้าหนึ่งขณะที่มือกำแผ่นกระดาษเอาไว้แน่น
ลิ่นอวี๋เหยียนเบิกตากว้างและมองดูข้อมูลบนกระดาษด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
เธอนึกไม่ถึงเลยว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าจะอยู่ห่างจากมู่อวี้เฉิงจะหอบลูกพากันเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ตี้หลานซึ่งเป็นคฤหาสน์ภายใต้ชื่อของมู่อวี้เฉิง
เรียวนิ้วที่กำแผ่นกระดาษแน่นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ขณะที่แผ่นกระดาษเริ่มมีรอยยับยู่ยี่
ลิ่นอวี๋เหยียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามระงับอารมณ์โกรธ
เธอเก็บข้อมูลใส่กลับไปในลิ้นชักและพาบอดี้การ์ดมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตี้หลาน
ณ คฤหาสน์ตี้หลาน
เสี่ยวเป่านั่งอยู่หลังโต๊ะโดยมีกองกระดาษวิชาคณิตศาสตร์วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเขา
ข้าง ๆ เขามีอาจารย์ผู้สง่างามคอยเฝ้าดู ถามคำถามและชี้แนะแนวทางความคิดให้กับเขาเป็นครั้งคราว
“อาจารย์ ผมแก้โจทย์ได้แล้ว” เสี่ยวเป่าพูดอย่างมีความสุข
มู่อวี้เฉิงจัดแจงให้เขาเรียนรู้คณิตศาสตร์โอลิมปิกแล้ว และผลลัพธ์ก็ค่อนข้างดี
อาจารย์ยกมือลูบเคราด้วยความพึงพอใจ
เขารู้มานานแล้วว่าเสี่ยวเป่าเป็นเด็กฉลาด เป็นเด็กที่มีความสามารถ แต่ความสามารถที่เสี่ยวเป่าแสดงออกมานั้นกลับทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน อย่าลืมกลับไปทบทวนความรู้ที่เรียนไปในวันนี้ล่ะ” อาจารย์กำชับ
“ผมรู้แล้วฮะ สวัสดีครับอาจารย์” เสี่ยวเป่าเดินออกมาส่งเขาและโบกมือลา
หลังจากที่เสี่ยวเป่ากล่าวอำลาอาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องเรียนอีก
เขามองดูเวลาและรู้ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะกลับมาใน เร็ว ๆ นี้ ดังนั้นเขาจึงไปนั่งรอเธออยู่ที่ห้องโถง
แต่เขานึกไม่ถึงว่าก่อนหม่านี้จะกลับมา ลิ่นอวี๋เหยียนจะมาถึงก่อน
ก่อนหน้านี้ลิ่นอวี๋เหยียนเคยมาที่คฤหาสน์ตี้หลานแล้ว ดังนั้นเธอจึงผ่านด่านรักษาความปลอดภัยเข้ามาอย่างง่ายดาย
บังเอิญว่าวันนี้พ่อบ้านพาคนรับใช้ทั้งหลายออกไปซื้อของ จึงมีเพียงเสี่ยวเป่ากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้นที่อยู่ในคฤหาสน์
ลิ่นอวี๋เหยียนเดินเข้าไปในห้องโถงและเห็นว่าเสี่ยวเป่ากำลังนั่งเรียนรู้บนโต๊ะ
เธอเงยหน้ามองเขาอยู่หลายรอบก่อนจะพูดว่า “ถงเป่ยหานใช่มั้ย?”
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินเสียงเรียกหันไปมอง ดวงตาสดใสฉายแววสงสัย
คนที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาปรากฏตัวในบ้านของเขาได้ยังไง
“คุณยายเป็นใครฮะ?” เสี่ยวเป่าถาม
เธอยิ้มอย่างใจดีแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กบ๊อง ฉันก็เป็นย่าของเธอไง เดี๋ยวคุณย่าพาหนูไปเล่นที่บ้านดีมั้ย? คุณย่าเตรียมอาหารอร่อย ๆ เอาไว้ให้เยอะแยะเลยนะ”
แม้ว่าเสี่ยวเป่าจะไม่รู้ว่าเธอเข้ามาในคฤหาสน์ได้อย่างไร แต่เขาก็รู้สึกว่าหญิงชราตรงหน้ากำลังยิ้มราวกับต้องการลักพาตัวเขา
เสี่ยวเป่าปฏิเสธอย่างสุภาพ “ขอบคุณคุณย่ามากฮะ แต่ว่าผมต้องรอหม่ามี้กลับมาก่อน เพราะงั้นไปกับคุณย่าไม่ได้หรอกครับ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของลิ่นอวี๋เหยียนจางหายไปในทันทีเมื่อเธอได้ยินคำพูดดังกล่าว เด็กคนนี้ไม่รู้วิธีปฏิบัติเหมือนแม่เขาไม่มีผิด
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นหลานชายของเธอ ตราบใดที่เธออบรมสั่งสอนเขาอย่างดี เขาก็จะสามารถเอาตัวรอดได้
เธอยิ้มแย้มทำหน้าตาสดใสอีกครั้ง “ฉันเป็นแม่ของแด๊ดดี้หนูก็หมายความว่าฉันเป็นคุณย่าของหนูไงจ๊ะ เดี๋ยวคุณย่าจะพาหนูกลับบ้านก่อน แล้วค่อยให้แด๊ดดี้มากินข้าวกับพวกเรา”
เธอพูดขณะเอื้อมมือออกไปจับมือของเสี่ยวเป่า โดยคิดพยายามจะพาเขาออกไป
“เหรอฮะ?” เสี่ยวเป่าเหลือบมองเธออย่างสงสัยขณะก้าวถอยหลังหลีกเลี่ยงมือของเธอ
เขาไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าพูดจริงหรือเปล่า ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมติดตามเธอออกไป
หัวใจของลิ่นอวี๋เหยียนเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออกเมื่อเห็นสายตาที่หวาดระแวงของหลานชายจ้องมองมา