พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 218 มือที่มองไม่เห็น
ตอนที่ 218
มือที่มองไม่เห็น
หลังจากออกคำสั่งการดังกล่าวแล้ว บริษัทก็เริ่มดำเนินการอย่างเร่งด่วน
จากนั้นไม่นานสื่อชั้นนำก็จัดการเผยแพร่รายงาน
ตั้งแต่วินาทีที่เสื้อผ้าถูกจัดส่งไปทดสอบ พวกเขาก็ติดตามถ่ายภาพกันตลอดจนกระทั่งผลการทดสอบออกมา และรายงานผลการทดสอบที่ได้รับการรับรองแล้วต่อหน้าผู้คน
สตีเฟนกรุ๊ปยังเผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพลูกค้าแปลก ๆ ให้สื่อมวลชนนำไปตัดต่ออีกด้วย
กล่าวได้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นการใส่ร้ายโดยฝีมือมนุษย์ และไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณภาพเสื้อผ้าของแบรนด์สตีเฟน ตอนนี้สตีเฟนกรุ๊ปได้โทรศัพท์แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีเมืองเป่ยแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีเมืองเป่ยได้ส่งต่อข้อมูลและตอบรับคดีความนี้แล้ว
หลังจากข่าวถูกเผยแพร่ออกไป ข้อความประกาศมากมาย อาทิ ‘ประกาศชี้แจงจากสตีเฟน’ ‘สตีเฟนถูกใส่ร้าย’ และ ‘สื่อใหญ่ช่วยสตีเฟนชี้แจงข่าวสาร’ ก็ไต่ขึ้นไปบนรายการค้นหายอดนิยมเงียบ ๆ
บางคนถึงกับฉวยโอกาสจากความร้อนแรงนี้มาเขียนรายงานวิเคราะห์ความนิยมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ สตีเฟนกรุ๊ป หลังจากนั้นสตีเฟนกรุ๊ปก็ถูกพูดคุยอย่างร้อนแรงบนโลกอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
ขณะเดียวกันโฆษณาชวนเชื่อได้ออกข่าวอีกครั้งว่าทางสตีเฟนกรุ๊ปได้บรรลุข้อตกลงกับลูกค้าที่เกิดอาการแพ้ผื่นขึ้นแล้ว ทางสตีเฟนกรุ๊ปจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของลูกค้าทั้งหมด จะชดเชยค่าเสียเวลาที่ต้องหยุดงาน เยียวยาสภาพจิตใจและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
นอกจากนี้ทางสตีเฟนกรุ๊ปยังเสนอส่วนลดราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับเสื้อผ้าทุกรายการเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
หลังจากมีข่าวออกมา ชาวเน็ตก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย
“ทั้งที่ถูกใส่ร้ายก็ยังเต็มใจจะจ่ายเงินค่าชดเชยให้คนที่มาสร้างปัญหา สตีเฟนกรุ๊ปนี่ช่างเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบ จริง ๆ”
“แถมยังลดราคาตั้ง50% ฉันล่ะอยากไปลองเลย จะรีบไปซื้อเดี๋ยวนี้แหละ!”
“ผู้หญิงคนที่ป้ายสิ่งสกปรกใส่เสื้อผ้าในร้านค้าเลวทรามมาก ทำร้ายลูกค้าคนอื่นยังไม่พอ ยังทำลายชื่อเสียงบริษัทอีก”
“ถ้าให้ฉันพูดนะ เรื่องนี้จะต้องเป็นฝีมือจากบริษัทคู่แข่งของสตีเฟนแน่ ๆ ในละครโทรทัศน์ก็ทำแบบนั้นไม่ใช่เหรอ?”
“คอมเมนต์บนข้อเท็จจริงถูกเปิดเผยแล้ว”
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้บริโภคบางส่วนที่ไม่ต้องการซื้อเสื้อผ้าต่อ
“ก็แค่ส่วนลด50%เองไม่ใช่เหรอ สละกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้มันแสดงถึงความจริงใจแล้วหรือไง? พวกคุณก็ใจอ่อนกันเกินไป”
“ฉันว่าครั้งนี้คงจะเป็นการละครที่สตีเฟนเป็นคนกำกับ และน่าจะตัดสินบนสื่อด้วย”
“เรื่องใหญ่ถึงกับแจ้งตำรวจเลยเหรอ สิ้นเปลืองทรัพยากรประเทศไปมั้ย?”
กู้ชิงอ่านข้อความแสดงความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตด้วยสีหน้ามืดมนและแน่วแน่ โดยรู้สึกว่าคนพวกนี้น่าจะกู่ไม่กลับแล้ว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสั่งการให้เธอตรวจสอบกระแสตอบรับจากการชี้แจงบนโลกอินเทอร์เน็ต จนถึงตอนนี้ผลการตอบรับออกมาดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ในขณะเดียวกันบางคนก็แสดงความคิดเห็นไปเรื่อยเปื่อย
หลังจากที่กู้ชิงอ่านคอนเมนท์เสร็จ เธอก็ลุกขึ้นไปรายงานผลตอบรับที่ห้องทำงานของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“คุณถงคะ รวบรวมคอมเมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ลองดูสิคะ ผลตอบรับเป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างดี” กู้ชิง รายงาน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าแล้วเปิดรายงานอ่าน
ความคิดเห็นส่วนใหญ่ในหน้ารายงานเป็นไปในเชิงบวก ทำให้ชื่อเสียงของทางสตีเฟนได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาบ้าง
กู้ชิงยังคงพูดต่อ “มีคนบางส่วนแสดงทัศนคติที่ไม่น่าพึงพอใจค่ะ และไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายของพวกเรา”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรมากนักเมื่อเห็นคอนเมนท์ไม่เห็นด้วย
สีหน้าของเธอยังคงเรียบนิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่เป็นไร”
ท้ายที่สุดไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปหมดทุกอย่าง จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งต่อต้านอยู่เสมอ และมันไม่ง่ายเลยที่จะได้รับการยินยอมจากคนส่วนใหญ่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมดในคราวเดียว
โชคดีที่กระแสตอบรับจากการชี้แจงเป็นไปค่อนข้างดี และคนส่วนใหญ่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้
เมื่อสักครู่นี้ฝ่ายการตลาดก็เพิ่งมาส่งข่าวดีเช่นกัน โดยบอกว่าขณะที่ร้านค้าขนัดแน่นไปด้วยฝูงชน และการขาดทุนก่อนหน้านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งที่มู่กรุ๊ป
“ท่านประธาน คุณถงใช้วิธีการได้ฉลาดมากครับ สามารถแก้ปัญหาความสูญเสียทุกอย่างเสร็จสรรพภายในคราวเดียว และยังกู้ชื่อเสียงของสตีเฟนกรุ๊ปได้ด้วยครับ” ลู่หมิงพูด ชื่นชม
มู่อวี้เฉิงเองก็เห็นว่ามาตรการต่าง ๆ ของถงเหมี่ยวเหมี่ยวสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวจนสามารถพลิกกระแสกลับมาได้อย่างแท้จริง
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม สมควรแล้วที่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นคนที่เขาชอบ
วิธีการที่เธอจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นวิธีการที่แก้ไขปัญหาได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ
แต่ผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ยังคงซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังราวกับงูพิษ ไม่รู้ว่ามันจะคืบคลานออกมากัดอีกเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นจะต้องตามหาให้จนเจอ
สีหน้าของมู่อวี้เฉิงแปรเปลี่ยนมาเป็นเย็นชาเหมือนเดิม ก่อนที่น้ำเสียงเย็นชาจะดังขึ้น “ไปสืบมาว่าใครวางแผนร้ายอยู่เบื้องหลัง”
วิดีโอดังกล่าวแพร่กระจายไปบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าได้มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว เพียงแค่รอคอยเวลาที่จะเผยแพร่วิดีโอ
ลู่หมิงโค้งคำนับพร้อมกับน้อมรับคำสั่งการ “ผมจะรีบจัดการทันทีครับ”
หลังจากเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ลูกน้องของลู่หมิงก็สืบค้นเรื่องดังกล่าวได้แล้ว
ลู่หมิงรีบเข้าไปรายงานมู่อวี้เฉิงว่า “ท่านประธาน สื่อเจ้าแรกที่เผยแพร่วิดีโอในเหตุการณ์ดังกล่าวคือจื้อโหยวมีเดียครับ ภายใต้บริษัทของพวกเขามีผู้ใช้งานเวยป๋อที่มีอำนาจอยู่หลายคน ทำให้คำพูดของพวกเขาได้รับอิทธิพลมาก ผมพบว่าหนึ่งในบัญชีผู้ใช้เวยป๋อรายใหญ่ที่มีชื่อว่าสำนักข่าวด่วนเป็นคนส่งต่อข้อมูลนี้ครับ จากนั้นผู้ใช้งานเวยป๋อในบริษัทก็พากันเผยแพร่ข่าวนี้ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างให้โพสต์ข้อมูลด้วยครับ การเคลื่อนไหวเชิงรุกทีละขั้นตอนแบบนี้วางแผนทุกอย่างอย่างแม่นยำมาแล้ว เหมือนกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นอยู่เบื้องหลัง ผมคิดว่ามีใครบางคนอยากจะเล่นงานคุณถงมากกว่าครับ”
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงเมื่อได้ยินข่าวดังกล่าว บริษัทสื่อที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักกล้าเล่นงานคนของเขา คงไม่รู้ซะแล้วว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเป็นยังไง
ในเมื่อยังตามหาตัวผู้บงการไม่พบก็มาเล่นงานสื่อกันก่อนเถอะ
การเก็บระดับเลเวลเวยป๋อให้ได้สูง ๆ ไม่เพียงแต่จะต้องใช้เงิน แต่ยังต้องมีความสามารถและมีโชคด้วย
บริษัทจะต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมหาศาลและใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนาบัญชีผู้ใช้เวยป๋อแต่ละรายให้ทรงอิทธิพลยิ่งขึ้น
การจ่ายค่าจ้างให้กับบุคคลที่โพสต์แสดงความคิดเห็นเป็นเพียงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายก็จริงแต่สามารถทำให้พวกเขาสบายไปพักใหญ่
มู่อวี้เฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันไม่อยากเห็นพวกเขาปรากฏตัวบนอินเทอร์เน็ตอีก”
ลู่หมิงที่ได้ยินเช่นนั้นเข้าใจได้ในทันทีและออกไปสั่งการ
พลางคิดในใจกับตนเองว่ามายั่วโมโหใครไม่ยั่วโมโห ดันมายั่วโมโหท่านประธานของเขา
เกรงว่าการสูญเสียในครั้งนี้น่าจะมากกว่าแฟนคลับที่บริจาคให้อีก
ลู่หมิงแสยะยิ้มอย่างเย็นชาและออกคำสั่งทันที
ภายในวันเดียวกันนั้น ผู้ใช้บัญชีเวยป๋อที่ทรงอิทธิพลได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้ชาวเน็ตประหลาดใจมาก
มีเพียงเสียงคร่ำครวญของพนักงานในบริษัทจื้อโหยวมีเดียเท่านั้น
และทันทีที่สำนักข่าวด่วนรีเฟรชหน้าเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่กำลังเข้าสู่ระบบก็แจ้งเตือนว่าบัญชีผู้ใช้ถูกแบน
เขาร้องอุทานเสียงดังลั่น “อ๊ะ แอคเคาน์ฉันถูกแบน!”
“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้ที่รับผิดชอบจื้อโหยวมีเดียถามขึ้นขณะขมวดคิ้ว
แต่เมื่อเขาเดินไปยังโต๊ะพนักงานสำนักข่าวด่วน เสียงร้องอุทานก็ดังขึ้นอีกหลายครั้ง
“อ๊ะ! ของฉันก็เหมือนกัน มันขึ้นว่าบัญชีฉันถูกแบน!” คนที่ส่งเสียงร้องเอาแต่กุมขมับ
“เกิดอะไรขึ้น? ของผมก็เหมือนกัน!”
พนักงานในจื้อโหยวมีเดียมองหน้ากันด้วยความสับสน
พวกเขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่ผิดกฎหมายอะไร ทำไมบัญชีผู้ใช้ของพวกเขาถึงถูกปิดกั้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาไม่ทันได้ระมัดระวังตัว