พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 217 จงใจใส่ร้าย
ตอนที่ 217
จงใจใส่ร้าย
ณ คฤหาสน์ตี้หลาน
เสียงเครื่องยนต์ที่แล่นเข้ามาดึงดูดความสนใจของ เสี่ยวเป่าเป็นอย่างมาก
เขานอนเอนกายอยู่ริมหน้าต่างบนห้องเรียนหนังสือแล้วมองลงไปเห็นรถยนต์คันสีดำของมู่อวี้เฉิงแล่นเข้ามา
ดวงตาของเสี่ยวเป่าเป็นประกายทันที คุณปู่พ่อบ้านบอกว่าแด๊ดดี้จะพาหม่ามี้กลับมาพร้อมกัน
เสี่ยวเป่าที่นั่งอยู่บนห้องเรียนหนังสือรีบสอยขาสั้น ๆ วิ่งลงไปที่ชั้นล่าง จนทำให้พ่อบ้านที่ติดตามเขามาตกใจมาก
พ่อบ้านรีบติดตามเขามาและบอกว่า “นายน้อย วิ่งช้า ๆ หน่อยสิครับ”
เสี่ยวเป่าหันกลับไปมองเขาด้วยสายตาที่เป็นประกายราวกับมีดวงดาวอยู่ด้านใน “คุณปู่พ่อบ้าน แด๊ดดี้หม่ามี้กลับมาแล้ว ผมจะไปรับพวกเขา” เสี่ยวเป่าพูดขณะยิ้มกว้าง
หลังจากพูดจบ เขาก็วิ่งลงไป
ทุกครั้งที่หม่ามี้กลับมาบ้านช้าเขาจะต้องรีบเข้าไปกอดเธอตลอด หลังจากกอดหม่ามี้แล้วหม่ามี้ก็จะมีพลังฟื้นกลับคืนมา
มู่อวี้เฉิงพาถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับเข้าไปในคฤหาสน์ และทันทีที่เขาเดินเข้าไปข้างใน เสี่ยวเป่าก็พุ่งเข้ามาในอ้อมกอดของถงเหมี่ยวเหมี่ยวราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่
“หม่ามี้ยินดีต้อนรับกลับบ้านฮะ” เสี่ยวเป่าเงยหน้าส่งยิ้มสดใสราวกับดวงอาทิตย์
รอยยิ้มดังกล่าวช่วยขจัดหมอกควันในใจของเธอได้ดี
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลูบผมสั้นของเขาเบา ๆ และตอบกลับอย่างอ่อนโยน “อืม หม่ามี้กลับมาแล้วจ๊ะ”
มู่อวี้เฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเธอยิ้มแย้มและไม่ได้ดูหดหู่อีกต่อไป
คืนนั้นเสี่ยวเป่ายังคงวอแวอยู่กับถงเหมี่ยวเหมี่ยวโดยไม่ปล่อยให้เธอสนใจเรื่องอื่น
แต่หลังจากที่เสี่ยวเป่าผล็อยหลับไป เธอก็เดินกลับเข้าไปนั่งทำงานในห้อง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่สามารถพักผ่อนและปล่อย ปละละเลยเรื่องในบริษัทได้จริง ๆ
ตกดึก ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกกระหายน้ำ เธอจึงเดินออกจากห้องนอนไปเพื่อตั้งใจจะไปจิบน้ำสักอึก แต่เธอกลับบังเอิญเจอมู่อวี้เฉิงที่เพิ่งจัดการธุระเสร็จ
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นเธอและถามเสียงทุ้ม “ยังไม่นอนอีกเหรอ?”
เขาเห็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวเข้าไปพักผ่อนในห้องนอนตั้งแต่หัวค่ำ แต่รูปลักษณ์หน้าตาที่ดูเหนื่อยล้า นอนไม่หลับทำให้เขามั่นใจในความคิดของตนเองมากขึ้น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่อยากโกหกและพูดออกไปตามตรง “อืม ฉันนอนไม่ค่อยหลับน่ะ”
“คุณยังคิดถึงเรื่องที่บริษัทอยู่เหรอ?” มู่อวี้เฉิงถาม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้า
มู่อวี้เฉิงแสดงสีหน้าไม่พอใจและสามารถเข้าใจได้ในทันทีเมื่อเห็นแก้วน้ำในมือของเธอ
“คุณกลับเข้าห้องไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมให้พ่อบ้านเอานมมาให้” น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากจนไม่มีช่องว่างให้เธอได้ปฏิเสธ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ตกตะลึงอยู่กำลังจะปฏิเสธ
แต่เขากลับผลักถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับเข้าไปในห้อง โดยไม่ปล่อยให้เธอคัดค้านแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นมู่อวี้เฉิงก็เดินกลับออกมาจากห้องและกดต่อสายโทรศัพท์
“คุณชาย?” พ่อบ้านตอบรับด้วยความประหลาดใจ
โดยปกติเขาไม่ค่อยโทรศัพท์มาในเวลานี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? พ่อบ้านสับสนเล็กน้อย
“ชงนมขึ้นมาแก้วหนึ่ง ละลายยานอนหลับใส่ลงไปด้วย” มู่อวี้เฉิงพูดสั่งการอย่างกระชับก่อนจะกดวางสาย
การกินยานอนหลับเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องมากนัก แต่พิจารณาจากท่าทางของถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วคืนนี้เธอคงจะไม่ได้นอนทั้งคืน
พ่อบ้านทำตามคำสั่งของเขาและรีบนำนมหนึ่งแก้วขึ้นมาให้
มู่อวี้เฉิงเดินถือแก้วนมเข้าไปในห้องของถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วยื่นให้เธอ “ดื่มนมสักหน่อย จะได้หลับสบาย”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้คลางแคลงใจอะไรและรับแก้วนมขึ้นมาดื่ม
กลิ่นหอมละมุนของรสนมกระจัดกระจายอยู่ในปากสวย ควบคู่ไปกับความอบอุ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงผล็อยหลับไปทันทีหลังจากดื่มนมเสร็จ
มู่อวี้เฉิงนั่งลงข้างเตียง มองดูใบหน้าที่หลับใหลด้วยดวงตาลึกซึ้ง
วันรุ่งขึ้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตื่นขึ้นมาสดชื่นหลังจากนอนหลับสบาย
เธอกับเสี่ยวเป่าอาบน้ำเสร็จแล้วและเตรียมจะลงไปรับประทานอาหารข้างล่าง
แต่กลับคาดการณ์ไม่ถึงว่าจะเจอใครบางคนในห้องนั่งเล่น
ลู่หมิงยิ้มและพูดทักทาย “คุณถง นายน้อยอรุณสวัสดิ์ครับ”
“อรุณสวัสดิ์ผู้ช่วยลู่ ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลยล่ะคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามด้วยความสงสัย
“มีเรื่องต้องรายงานท่านประธานน่ะครับ” ลู่หมิงตอบ
ขณะเดียวกันเสียงทุ้มก็ดังขึ้น “หาเจอแล้วเหรอ?”
พวกเขามองย้อนกลับไปและเห็นว่ามู่อวี้เฉิงกำลังเดินลงบันไดมา ก่อนจะมายืนอยู่ข้างหน้าพวกเขา
“ท่านประธาน” ลู่หมิงพูดทักทายด้วยความเคารพ “คนที่เราส่งไปตามหาเบาะแสลูกค้าคนนั้นเจอแล้วครับ แต่ว่าลูกค้ารายนั้นหลบหนีไปชั่วข้ามคืนและยังจับตัวมาไม่ได้ครับ”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วหลังจากได้ยินเช่นนั้น “แล้วเจอข้อมูลของคนคนนั้นหรือยัง?”
ลู่หมิงพยักหน้า “เจอแล้วครับ พบว่าลูกค้ารายนั้นเป็นแค่เด็กเสิร์ฟในร้านอาหารธรรมดาทั่วไป ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะซื้อเสื้อของสตีเฟนได้เลย แต่จู่ ๆ ก็พบว่ามีเงินก้อนโตถูกโอนเข้ามาในบัญชีของเธอครับ และดูเหมือนว่าเธอจะติดสินบน แต่ใครที่เป็นคนจ้างวานนั้นยังไม่ชัดเจนครับ”
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครเป็นคนโอนเงินเข้ามา?”
“เป็นบัญชีเปล่าครับ ไม่ปรากฏรายชื่อ” ลู่หมิงตอบ
สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวมืดมนลงมาก ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธจัด
ทั้งหลบหนีชั่วข้ามคืนและเงินยังถูกโอนเข้ามาจากบัญชีเปล่า เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเตรียมการมาอย่างดี
เธอเม้มริมฝีปากแน่น ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไปแล้ว เบาะแสเพียงอย่างเดียวถูกตัดขาด ดูเหมือนว่าการสืบค้นหาผู้กระทำความผิดจะไม่จบลงในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ
หลังจากมาถึงบริษัท ถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้จัดประชุมวาระเร่งด่วนอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งอยู่บนโต๊ะที่นั่งประจำตำแหน่งและพูดด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง “เมื่อวานนี้ฉันกับกู้ชิงไปเยี่ยมร้านที่เกิดเรื่องและพบกับลูกค้าที่น่าสงสัย เธอไม่ได้มีพฤติกรรม แปลก ๆ เพียงอย่างเดียว แต่เบอร์มือถือที่ทิ้งไว้ยังเป็นเบอร์ที่ไม่ใช้การแล้ว ฉันคาดการณ์ว่าน่าจะมีคนสร้างสถานการณ์ภูมิแพ้เพื่อจงใจใส่ร้ายพวกเรา”
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น คนที่อยู่เบื้องล่างก็ตกอยู่ในความโกลาหน
พวกเขานึกไม่ถึงว่าในขณะที่บ้านเมืองมีขื่อมีแปจะมีผู้ที่ใช้วิธีการสกปรกใส่ร้ายพวกเขาเช่นนี้
“คุณถง จับตัวคนร้ายได้หรือยังครับ?” ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบถามขึ้นด้วยความวิตกกังวล
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหน้าและพูดด้วยความรู้สึกเจ็บใจ “เราเจอตำแหน่งที่ตั้งของเธอแล้ว แต่เธอหลบหนีไปชั่วข้ามคืน ทำให้ไม่มีร่องรอยของเธอเหลืออยู่เลยค่ะ”
หากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมเธอจะต้องหลบหนีไปด้วย เห็นได้ชัดว่ามันเป็นพฤติกรรมของคนที่รู้สึกผิดในใจ
ทุกคนเริ่มมั่นใจมากขึ้นว่าครั้งนี้พวกเขาถูกใส่ร้าย
ตอนนี้ข่าวว่าสตีเฟนขายเสื้อผ้าที่ไม่มีคุณภาพทวีคูณรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบต่อการต่อยอดขายผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ของสตีเฟน ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างหนัก
“คุณถง เราจะทำยังไงกันแน่ครับ?” ใครบางคนถามขึ้นอย่างวิตกกังวล
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการแก้ไข้โดนเร็วที่สุด และฉันต้องการความช่วยเหลือจากทุกคน…”
ในการประชุมถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้ตัดสินใจว่าทาง สตีเฟนกรุ๊ปจะมีการชดเชยค่าเสียหายให้กับลูกค้าที่เกิดอาการแพ้ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทดสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ยังต้องขอความร่วมมือจากสื่อที่เชื่อถือได้มาแจ้งข่าวสารกับโลกภายนอก ใช้รายงานผลการทดสอบจากองค์กรที่น่าเชื่อถือมาพิสูจน์ว่าเสื้อผ้าของแบรนด์สตีเฟนไม่ได้มีปัญหาเรื่องคุณภาพ จะต้องอธิบายอย่างชัดเจนว่าเหตุการณ์แพ้เนื้อผ้าจากครั้งก่อนถูกใส่ร้าย และทางสตีเฟนกรุ๊ปได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้วเพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจมากขึ้น
และถงเหมี่ยวเหมี่ยวได้เปิดสิทธิประโยชน์ลดราคาลงถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงจากผู้บริโภค