พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 214 ฉันเชื่อว่าเธอสามารถจัดการเรื่องนี้ได้
ตอนที่ 214
ฉันเชื่อว่าเธอสามารถจัดการเรื่องนี้ได้
“ตอนนี้ลงไปเรียกหัวหน้าฝ่ายแต่ละแผนกมาประชุมวาระเร่งด่วนที่ห้องประชุมกันก่อน” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดสั่งการด้วยเสียงทุ้ม
ตอนนี้สีหน้าของเธอดูจริงจังขึ้นเป็นพิเศษมาก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกอยู่ในใจว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะโหมกระหน่ำ
หลังจากนั้นไม่นานทั้งห้องประชุมก็เต็มไปด้วยกลุ่มคน บรรยากาศตึงเครียดอย่างมาก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งอยู่หัวโต๊ะในที่ประจำตำแหน่ง ส่วนด้านล่างเป็นผู้จัดการฝ่ายจากแผนกการตลาด แผนกการจัดซื้อและแผนกต่าง ๆ
กู้ชิงนั่งลงข้าง ๆ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว คอยพิมพ์ข้อความลงบนคอมพิวเตอร์เป็นระยะ
“ทุกคนเห็นวิดีโอนี้กันหรือยังคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถามเบา ๆ
หลังจากที่เธอพูดจบ วิดีโอที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดถึงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโปรเจคเตอร์ในห้องประชุม
กลุ่มคนที่นั่งอยู่ด้านล่างเงียบกริบ
คนบางส่วนได้ดูวิดีโอนี้ไปแล้ว ขณะที่บางส่วนเพิ่งดูวิดีโอนี้พร้อมกัน
แต่หลังจากดูวิดีโอจบ พวกเขากลับตกตะลึงกังวลว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะต้องรับผิดชอบ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเหลือบมองกลุ่มคนแล้วถามว่า “ในวิดีโอบอกว่าเสื้อผ้าของเราไม่ได้คุณภาพ ลูกค้าใส่เสื้อผ้าเราแล้วเกิดอาการแพ้ พวกคุณดูแล้วคิดเห็นกันว่ายังไงบ้างคะ”
หัวหน้าฝ่ายแผนกจัดซื้อเป็นคนริเริ่มพูดขึ้นเป็นคนแรก “ผู้จัดการถง ไม่มีทางที่เสื้อผ้าของเราจะไม่ได้คุณภาพครับ”
ทัศนคติของเขาชัดเจนและแน่วแน่มาก
“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถาม
“ทางเราไม่เคยเปลี่ยนบริษัทจัดจำหน่ายผ้าเลยครับ ถ้าผ้ามีปัญหาจริง ๆ มันควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว นอกจากนี้เราตรวจสอบทุกครั้งที่มีผ้ามาส่ง เพราะฉะนั้นเนื้อผ้าไม่มีทางมีปัญหาด้านคุณภาพแน่นอน” หัวหน้าแผนกจัดซื้อตอบรับอย่างมั่นใจ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา “แล้วพวกคุณคิดว่าแผนกหรือกระบวนการไหนที่มันมีปัญหา?”
“ของพวกเราไม่มีปัญหานะครับ”
“ของพวกเราก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
คนกลุ่มหนึ่งพยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบโดยบอกว่าแผนกของตนเองไม่มีปัญหาใด ๆ ถึงอย่างนั้นแผนกของพวกเขากลับมีส่วนร่วมกับทางบริษัทมากมาย
ผู้จัดการแผนการตลาดขมวดคิ้วและแนะนำว่า “ผู้จัดการถง ผมว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาไล่ถามปัญหาของแต่ละแผนก แต่เราควรจะจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันมากกว่านะครับ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าตอบรับเงียบ ๆ
ในความเป็นจริงแล้วเป็นอย่างที่หัวหน้าแผนกการตลาดพูด ตอนนี้พวกเขาควรจะค้นหาความจริงของเรื่องนี้กันก่อน
“อันนี้คือร้านที่ไหน เกิดอะไรขึ้น หัวหน้าแผนกการตลาดช่วยบอกฉันทีค่ะ”
“เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบก่อนครับ เพราะฝ่ายการตลาดยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้” ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบตอบ
“วันนี้ฉันอยากจะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าในวิดีโอ ตอนนี้มันส่งผลกระทบร้ายแรงกับทางบริษัทมาก จะต้องเร่งตรวจสอบทันที ทุกคนในบริษัทจะต้องดำเนินการตรวจสอบทุกขั้นตอนและนำมันไปปรับใช้กับทางร้านค้า เข้าใจตรงกันมั้ยคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดถาม
“เข้าใจครับ” ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลงก็มีการออกคำสั่งทีละขั้นตอน
แผนกการตลาดเริ่มตรวจสอบว่าร้านค้าสาขาไหนที่ประสบปัญหาดังกล่าว
ขณะที่แผนกการจัดซื้อเรียกประชุมผู้จัดการร้านทีละรายเพื่อตรวจสอบข้อมูล
ในที่สุดก็ได้รับคำตอบว่าร้านขายเสื้อผ้าของสตีเฟนที่กำลังมีปัญหาอยู่ทางฝั่งตะวันออก
เนื่องจากเสื้อผ้าในร้านส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย แผนกการตลาดจึงสั่งการให้พวกเขาส่งเสื้อผ้ามาคืนคลัง
พวกเขาจำเป็นจะต้องส่งเสื้อผ้าเหล่านี้ไปทำการทดสอบที่สถาบันทดสอบมืออาชีพ เพื่อค้นหาว่าคุณภาพของเสื้อผ้าเป็นไปตามที่ผู้บริโภคกล่าวถึงหรือไม่
ณ ห้องทำงานของผู้จัดการสตีเฟนกรุ๊ป
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกับกู้ชิงก็กลับมาที่ห้องประชุมด้วยกัน
กู้ชิงปิดประตูลงปละถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ผู้จัดการคะ ผ้าของพวกเราก็ดีมาตลอด ทำไมจู่ ๆ ลูกค้าถึงแพ้ได้คะ?”
“เสื้อผ้าของเราใช้ผู้ผลิตเจ้าเดิมมาตลอด ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรมันก็น่าจะเกิดขึ้นนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงตอนนี้หรอก” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูด
“ในเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติกับเนื้อผ้า หรือว่าลูกค้าจะโกหกคะ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหัว “จะไปพูดแบบนั้นไม่ได้หรอก ไม่ว่าเนื้อผ้าจะมีปัญหาหรือไม่ก็ยังต้องรอผลทดสอบก่อน อีกอย่างเราเองก็ตรวจสอบไม่ได้ด้วยว่าผู้ผลิตรายไหนลดจำนวนค่าใช้จ่ายลงแล้วเอาผ้าด้อยคุณภาพมาให้เราหรือเปล่า”
หากแต่ปัญหาอยู่ที่เนื้อผ้าจริง ๆ เสื้อผ้าที่นำออกไปขายแล้วจะต้องนำกลับมารีไซเคิลทั้งหมด
“แล้วเราควรจะทำยังไงดีคะ?” กู้ชิงถาม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “กู้ชิงลงไปตรวจสอบที ถ้าผลการทดสอบออกมาแล้วยืนยันว่าปัญหาอยู่ที่เนื้อผ้าจริง ให้เรียกคืนเสื้อผ้าพวกนั้นทั้งหมดกลับมาทำลาย และไปขอซื้อเสื้อผ้าคืนจากผู้บริโภคในราคาเดิม”
กู้ชิงพยักหน้าและรีบลงไปตรวจสอบเรื่องนี้
ถึงอย่างนั้นการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนของ สตีเฟนกลับไม่ได้ทำให้สิ่งต่าง ๆ คลี่คลายลง
วิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางออนไลน์จนกลายเป็นข่าววงกว้างในเมืองเป่ย ทำให้สถานการณ์ปั่นป่วนมากขึ้น
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสตีเฟนดิวิชั่นเป็นอย่างมาก
ร้านขายเสื้อผ้าร้างไร้ผู้คน ไม่มีใครสนใจและยอดขายเสื้อผ้ายังลดลงอีกด้วย
นอกจากนี้สตีเฟนดิวิชั่นยังได้รับโทรศัพท์จากพันธมิตรคู่ค้าทั้งหลายที่โทรศัพท์มาขอยกเลิกการลงนามการร่วมมือก่อนหน้านี้ โดยอ้างว่า ‘ไม่ต้องการทำงานร่วมกับผู้ที่แสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว’
เหตุการณ์บานปลายต่าง ๆ ทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวปวดหัว
ลู่ซีจวี๋ที่ส่งคนมาคอยจับตาดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวย่อมได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
ผู้ช่วยรับแฟกซ์และรีบเดินไปเคาะประตูห้องท่านประธานแห่งสตีเฟนกรุ๊ป
“ท่านประธาน มีเรื่องเกิดขึ้นที่สาขาย่อยครับ” ผู้ช่วยพูด
ลู่ซีจวี๋ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ผู้ช่วยรายงาน “มีคนร้องเรียนว่าเสื้อผ้าของสตีเฟนไม่ได้คุณภาพครับ ทำให้ลูกค้าเกิดผื่นแพ้จนต้องทุกข์ทรมาน”
ลู่ซีจวี๋ขมวดคิ้ว เสื้อผ้าแบบใหม่ในประเทศจีนถูกวางจัดจำหน่ายในเวลาเดียวกันกับทางประเทศเอ็ม
นอกจากนี้อุตสาหกรรมการผลิตในประเทศจีนยังเติบโตเต็มที่และมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างต่ำ เสื้อผ้าสตีเฟนที่วางจัดจำหน่ายในประเทศเอ็มก็ผลิตขึ้นที่ประเทศจีนเช่นกัน แต่ทำไมสินค้าที่วางจัดจำหน่ายในประเทศเอ็มกลับไม่ได้รับการร้องเรียนแบบเดียวกัน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เข้าใจแล้ว” ลู่ซีจวี๋โบกมือส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยออกไปก่อน
หลังจากที่ผู้ช่วยกลับออกไป ลู่ซีจวี๋ก็กดหมายเลขโทรศัพท์ของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“รุ่นพี่คะ?” น้ำเสียงนิ่งเรียบของถงเหมี่ยวเหมี่ยวดังขึ้นจากปลายสาย
ลู่ซีจวี๋พูดด้วยเสียงทุ้ม “เหมี่ยวเหมี่ยว ฉันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศจีนแล้ว”
น้ำเสียงของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษนะคะ ฉันดูแลไม่ดีเองจนปล่อยให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น”
“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้สั่งการให้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วค่ะ และกำลังนำเสื้อผ้าไปทดสอบอยู่”
ลู่ซีจวี๋พูดอย่างหนักแน่น “อืม ฉันเชื่อว่าเธอสามารถจัดการเรื่องนี้ได้”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มเบา ๆ “ขอบคุณค่ะรุ่นพี่”
“ว่าแต่เหมี่ยวเหมี่ยว เธอกับเสี่ยวเป่าเป็นยังไงบ้าง” ลู่ซีจวี๋ถาม
มุมปากของเธอขดขึ้นจนเป็นรอยยิ้มแล้วพูดตอบว่า “ฉันสบายดีค่ะ เสี่ยวเป่าหายดีแล้ว เหลือรอยแผลเป็นไม่มาก ตอนนี้กระโดดโลดโผนได้แล้วล่ะค่ะ”
“ดีแล้ว แบบนี้ฉันค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย” ลู่ซีจวี๋ตอบกลับอย่างอบอุ่น
“รุ่นพี่ แล้วท่านประธานเป็นยังไงบ้างคะ?”
“ก็เหมือนเดิม หมอบอกว่าต้องคอยดูแลให้ค่อย ๆ กลับมาแข็งแรง อย่ารีบร้อน”
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักพักหนึ่ง พวกเขาก็วางสายลง