พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 213 มีคนมาสร้างปัญหา
ตอนที่ 213
มีคนมาสร้างปัญหา
“แด๊ดดี้ มันเก่งมากเลย” เสี่ยวเป่าพูดและหันไปส่งยิ้มให้มู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงตอบรับเบา ๆ “อืม”
เขามองดูเสี่ยวเป่าด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
พนักงานสวนสัตว์พูดเสริมว่า “โดยปกติแล้ววาฬเบลูกาจะจุ๊บคนที่มันชอบครับ เจ้าหนูลองดูมั้ย?”
เสี่ยวเป่าพยักหน้างึกงัก
เสี่ยวเป่าเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การแนะนำของพนักงานสวนสัตว์
วาฬเบลูกาตัวน้อยกระโดดขึ้นมา ‘จุ๊บ’ ใบหน้าของ เสี่ยวเป่าและรีบว่ายกลับไปอย่างเขินอาย
พนักงานสวนสัตว์พูดติดตลกว่า “ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะหน้าตาดีมากจนวาฬเบลูกาของเราเขินเลยล่ะครับท่านผู้ชม! ขอเสียงปรบมือให้สุดหล่อหน่อยครับ”
เสียงปรบมืออันแสนอบอุ่นของผู้ชมดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง
เสี่ยวเป่ายิ้มมีความสุขมากที่ได้สื่อสารกับวาฬเบลูกา
หลังจากชมการแสดงเสร็จแล้ว มู่อวี้เฉิงก็พาสองแม่ลูกไปรับประทานอาหารเย็นก่อนกลับบ้าน
เสี่ยวเป่าง่วงนอนมากขณะรับประทานอาหาร หัวเล็ก ๆ ก้มสัปหงกราวกับไก่ก้มจิกเมล็ดข้าว
หลังจากรับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย เขาก็เอนกายพิงมู่อวี้เฉิงและผล็อยหลับไป
ทั้งสามคนจึงตรงดิ่งกลับบ้านโดยตรง
กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็สามทุ่มกว่าแล้ว เสี่ยวเป่านอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของมู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงอุ้มเขาขึ้นมายังห้องนอนชั้นบน
หลังจากกลับออกมาจากห้องของเสี่ยวเป่า เขาก็เห็น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยืนอยู่ข้างนอกราวกับว่ากำลังรอเขาอยู่
“มีอะไร?” มู่อวี้เฉิงถาม
“ขอบคุณที่สละเวลามาเที่ยวกับเสี่ยวเป่านะคะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูด
เธออยากจะขอบคุณเขาเพราะว่าเธอไม่ได้มีความสุขเหมือนกับวันนี้มานานมากแล้ว
แต่หลังจากที่มู่อวี้เฉิงได้ยินถ้อยคำเกรงใจของเธอ ดวงตาสีเข้มก็จ้องมองไปทางถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วพูดว่า “มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำ”
หัวใจของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเต้นระรัวหลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว
พลางคิดกับตัวเองในใจว่าเขารู้ความจริงแล้วหรือไม่?
เธอจ้องมองมู่อวี้เฉิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ราวกับอยากจะรู้อะไรบางอย่าง
ทว่าตอนนี้มู่อวี้เฉิงกลับแสดงสีหน้าเย็นชาตามปกติ
“ดึกแล้ว คุณรีบไปนอนเถอะ” มู่อวี้เฉิงพูดขณะปิดบังความรู้สึกในสายตาเอาไว้
จนถึงตอนนี้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ยังนึกสงสัยอยู่
เธอกังวลว่ามู่อวี้เฉิงจะรู้เรื่องอะไรบางอย่างหรือไม่?
ทว่าพฤติกรรมของเขากลับไม่ได้ดูแตกต่างไปจากเดิมเลย
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดอย่างไรก็ยังคิดไม่ออก เธอจึงบอกลาและกลับเข้าไปในห้อง
หลังจากที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินกลับเข้าไปในห้องนอน มู่อวี้เฉิงก็เดินไปที่ห้องทำงาน
วันต่อมา
ทันทีที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาถึงบริษัท กู้ชิงก็รีบวิ่งตรงดิ่งมายังห้องทำงานของเธอ
กู้ชิงดูตื่นตระหนกมากและพูดอย่างวิตกกังวล “ผู้จัดการคะ มีโครงการของบริษัทกำลังถูกโจมตีค่ะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้วและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“มีรายงานว่าสตีเฟนขายเสื้อผ้าที่ไม่ได้คุณภาพค่ะ” กู้ชิงตอบ
สตีเฟนดิวิชั่นเป็นสาขาย่อยของทางสตีเฟนกรุ๊ป มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศจีน
ไม่เพียงแต่จะมีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมด้านเสื้อผ้าด้วย
สตีเฟนมีการออกแบบเสื้อผ้าและร้านขายเสื้อผ้าเป็นของตนเอง
เสื้อผ้าผ่านการตรวจสอบทุกระดับขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบแพตเทิร์นไปจนถึงการผลิต
ดังนั้นคำพูดของกู้ชิงที่บอกว่าเสื้อผ้าของสตีเฟนไม่ได้คุณภาพทำให้ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่เชื่อเลยสักนิด
กู้ชิงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดวิดีโอและพูดต่อว่า “พวกเขาติเตียนว่าเสื้อผ้าของสตีเฟนไม่ได้มาตรฐาน บอกว่าแพ้จนผืนขึ้นตามตัว เลยมาสร้างปัญหาที่ร้านขายเสื้อผ้ากันค่ะ”
ในวิดีโอ คนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันบริเวณทางเข้าร้านขายเสื้อผ้าของสตีเฟน
ขณะที่ลูกค้าผู้หญิงทั้งหลายต่างเข้าไปผลักดึงพนักงานขายเสื้อผ้า
“ผู้จัดการร้านอยู่ไหน? ไปตามออกมาซะสิ!” ผู้หญิงคนหนึ่งตะคอกใส่พนักงานขาย
พนักงานพยายามฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้จัดการไม่อยู่ค่ะ คุณผู้หญิงมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“หลังจากฉันซื้อเสื้อผ้าของสตีเฟนมาใส่ ผื่นคันก็ผุดขึ้นมาตามตัวเต็มไปหมด” ผู้หญิงคนนั้นถลกแขนเสื้อแล้วร้องตะโกนเสียงดัง
“ดูนี่ นี่ นี่ แล้วก็นี่! ฉันแพ้ มันเกิดขึ้นเพราะว่าฉันใส่เสื้อผ้าของพวกเธอ!”
แขน ขาและลำคอของผู้หญิงคนนี้เต็มไปด้วยผื่นแดงที่มีสาเหตุมาจากภูมิแพ้
พื้นผิวที่กลายเป็นสีแดงเถือกดูน่าสะพรึงกลัวมากสำหรับคนที่มีผิวขาวผุดผ่องราวกับหิมะ
พนักงานขายพยายามพูดแนะนำด้วยทัศนคติที่ดี “อย่าเพิ่งใจร้อนไปนะคะ ขอดิฉันตรวจดูก่อนว่าเข้าใจผิดกันไปหรือเปล่า”
ขณะเดียวกันผู้ชายอีกหลายคนเดินเข้ามาที่หน้าประตูและพูดขึ้นเสียงด้วยอารมณ์โกรธจัด “เข้าใจผิดอะไร! แฟนผมก็แพ้เหมือนกัน ตอนนี้เธอเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว! ผมว่าร้านพวกคุณนอกจากจะไม่มีใบประกอบการแล้วยังไม่มีจิตสำนึกด้วย”
“ไปตามผู้จัดการร้านมา ฉันจะคุยกับผู้จัดการ!” หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้นเสียง
พนักงานขายรีบตอบว่า “คุณผู้หญิงต้องขอโทษด้วย จริง ๆ แต่ผู้จัดการร้านไม่อยู่ที่นี่จริง ๆ”
หญิงสาวโกรธมากเมื่อได้รับคำตอบ เธอรีบเดินเข้ามาผลักพนักงานขายจนล้มลงกับพื้น
เธอมองพนักงานขายด้วยสายตารังเกียจแล้วพูดตอบโต้ว่า “ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันจะคุยกับผู้จัดการร้าน ไม่ใช่เธอ ยุ่งยากจริง ๆ”
หลังจากพูดจบ เธอก็เดินเข้ามาในร้าน
“คุณผู้หญิงจะเข้ามาไม่ได้นะคะ” พนักงานหลายคนรีบมาห้ามปรามเธอ
“เกิดบ้าอะไรขึ้นกับพวกเรากันแน่ พวกเราแพ้ขนาดนี้แล้วจะไม่อธิบายอะไรให้ฟังหน่อยเลยหรือไง?” หญิงสาวร้องตะโกนด้วยความโกรธจัด
“ทางเราจะให้คำอธิบายแก่คุณแน่นอนค่ะ แต่ได้โปรดอดทนรอหน่อยได้มั้ยคะ” พนักงานพูดให้ความมั่นใจ
“อดทนรอเหรอ เธอลองมาเข้าโรงพยาบาลเพราะภูมิแพ้กำเริบดูบ้างมั้ยล่ะ!” หญิงสาวเริ่มผลักพนักงานขายอีกครั้ง
“ผมจะบอกให้เอาบุญว่าผมมีใบรับรองจากทางโรงพยาบาลว่าเสื้อผ้าของพวกคุณเป็นต้นเหตุที่ทำให้แฟนผมแพ้ ไปตามผู้จัดการออกมาอธิบายเรื่องนี้เดี๋ยวนี้” ผู้ชายคนนั้นพยายามต่อล้อต่อเถียง
“คุณผู้หญิงคุณผู้ชายเข้ามาคุยกับพวกเราก่อนดีมั้ยคะ? เดี๋ยวอีกสักพักผู้จัดการร้านก็กลับมาแล้วค่ะ” พนักงานขาย เกลี้ยกล่อม
“จะเข้าไปให้ยุ่งยากทำไม พวกเธอคิดจะทำอะไรกับพวกเราหรือเปล่า?” หญิงสาวทำทีตั้งรับ “มาคุยกับฉันที่นี่ซะสิ”
ขณะเดียวกันเสียงร้องตะโกนก็ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ทำให้ผู้คนบริเวณนั้นโกรธจัด
“จะพูดอะไรก็พูดมา! มีอะไรจะพูด ร้านที่ไม่มีใบประกอบการแบบนี้ไม่ควรมีอยู่ด้วยซ้ำ ทุบมันเลย!”
ฝูงชนที่ยืนอยู่หน้าประตูเห็นด้วย
“ทุบมันเลย!”
“ทุบร้านที่ไม่มีใบประกอบการทิ้งซะ!”
ราวกับว่าพวกเขาค้นพบเหตุผลที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้ว กลุ่มลูกค้าหลายคนจึงรีบวิ่งเข้ามาในร้านเตะชั้นวางเสื้อผ้าล้มลงกับพื้น
บางคนถึงกับเหยียบย่ำเสื้อผ้าอยู่หลายครั้งและร้องตะโกนด่าทอ “เสื้อผ้าของพวกเธอไม่ได้มีไว้ให้คนใส่สักหน่อย ทำลายมันทิ้งไปซะโลกนี้จะได้สะอาดขึ้น!”
พนักงานในร้านรีบเข้าไปหยุดพวกเขา แต่กลับไม่สามารถต้านแรงมหาศาลได้เลย
พนักงานจึงร้องตะโกนว่า “ถ้าทำแบบนี้ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”
ทว่าหลายคนกลับไม่กลัว “ก็ลองโทรถามตำรวจดูสิว่าเธอผิดหรือฉันผิดกันแน่”
ขณะที่เธอกำลังพูดตอบโต้ ฝูงชนก็เดินเข้ามาหาพนักงาน เตะพนักงานลงกับพื้นและเริ่มลงมือทุบตี
พนักงานคนอื่นภายในร้านพยายามเข้ามาดึงตัวเธอออกไปแต่กลับล้มลงท่ามกลางความชุลมุน
ในที่สุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มาถึงและกันฝูงชนออกไป
ถึงอย่างนั้นร้านค้ากลับได้รับความเสียหายหนักมาก เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่บนพื้น มีรอยเท้าอยู่ในร้านนับไม่ถ้วน
การตกแต่งและบานกระจกต่าง ๆ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และที่สำคัญประตูร้านค้าก็ถูกทุบจนแหลกเช่นกัน
ทำให้พวกเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปิดกิจการลงชั่วคราว
หลังจากดูภาพวิดีโอแล้ว สีหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวมืดมนลงจนน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก