พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 211 ไม่มีวันปล่อยมืออีก
ตอนที่ 211
ไม่มีวันปล่อยมืออีก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มแย้มเดินจูงมือเสี่ยวเป่าออกมาจากโรงพยาบาล
นับตั้งแต่ที่เสี่ยวเป่าได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอรู้สึกว่าวันเวลาผ่านไปนานมากและเธอตั้งตารอให้เขาหายป่วยเร็ว ๆ ทุกวัน
แต่เมื่อเห็นว่าตอนนี้เสี่ยวเป่าที่มีสุขภาพแข็งแรงดีกำลังจับมือเธอเดินไปข้างหน้า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาในทันที
“โครกคราก…” จู่ ๆ ท้องของเสี่ยวเป่าก็ส่งเสียงร้องบ่งบอกถึงด้านในที่ว่างเปล่า
เขาหยุดเดินแล้วเอามือกุมท้องน้อย ๆ ด้วยท่าทาง เขินอาย
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเขาขณะยกมือขึ้นมาปิดปากและหัวเราะ
“หม่ามี้!” เสี่ยวเป่าที่ได้ยินเสียงหัวเราะของเธอทำหน้าตาบูดบึ้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดหยอกล้อ “จอมตะกละหิวข้าวแล้วเหรอ?”
“ฮะ” เสี่ยวเป่าตอบตกลงและพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของถงเหมี่ยวเหมี่ยว เขารู้สึกเขินเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
เสียงท้องร้องโครกครากน่าอับอายมาก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกอดเขาขณะที่รอยยิ้มบนใบหน้าดูสดใสขึ้น
มู่อวี้เฉิงมองดูสองแม่ลูกด้วยดวงตาอ่อนโยน
เขาเหลือบมองดูนาฬิกาและเห็นว่าเกือบจะเที่ยงแล้ว “ไปกันเถอะ ไปกินข้าวกันก่อน” มู่อวี้เฉิงพูดเบา ๆ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้าและเดินจูงเสี่ยวเป่าตามเขาเข้าไปในรถยนต์
หลังจากที่คนขับรถสตาร์ทเครื่อง มู่อวี้เฉิงก็ถามว่า “อยากกินอะไร?”
ดวงตาสีนิลจับจ้องไปทางถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นสายตาที่จ้องมองมาจึงหรี่ตามองเสี่ยวเป่าที่อยู่ในอ้อมแขน “เสี่ยวเป่าอยากกินอะไร?”
“เสี่ยวเป่ามีของที่อยากกินเยอะแยะเลย แต่ที่อยากกินมากที่สุดคือปลาผัดซอสเปรี้ยวหวาน” เสี่ยวเป่ายิ้มและพูดตอบขณะเงยหน้าขึ้นมามองจากอ้อมแขน
ในช่วงที่เขาป่วย อาหารที่เขากินส่วนใหญ่ล้วนเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติเบา
เขาไม่ได้กินปลาผัดซอสเปรี้ยวหวานมานานแล้ว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดถึงเรื่องนี้และพยักหน้าตอบรับ “ไปหลานเหร่อถิงกันเถอะ ที่นั่นทำปลาผัดซอสเปรี้ยวหวานอร่อยที่สุดในเมืองเป่ยแล้ว”
ตอนนี้เสี่ยวเป่าหายดีแล้ว ฉะนั้นมาเติมเต็มความปรารถนาของเขาด้วยการเฉลิมฉลองที่เขาหายดีกันดีกว่า
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปที่นั่น” มู่อวี้เฉิงเห็นด้วย
หลานเหร่อถิงตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเป่ย ภายในร้านอาหารถูกดัดแปลงจนมีรูปแบบเหมือนบ้านโบราณ
มู่อวี้เฉิงนั่งอยู่ในรถยนต์และสั่งการให้ลู่หมิงจองห้องอาหารส่วนตัวสไตล์โบราณที่มีวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุด
เมื่อพวกเขามาถึงหลานเหร่อถิง ทั้งสามคนก็เดินลงจากรถและเดินตามพนักงานเข้าไปด้านใน
ภายในร้านอาหารมีสะพานเล็ก ๆ ที่ต้องข้ามลำน้ำไหลผ่าน ทำให้ภายในร้านอาหารดูมีชีวิตชีวามาก
มังกรแกะสลักและเสาไม้ที่ทาสีสวยงามก็ดูตระการตามากเช่นกัน
พวกเขาเดินผ่านลานด้านหน้าเข้ามายังห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ด้านใน
ห้องอาหารส่วนตัวได้รับการออกแบบให้มีเพดานสูงโปร่งและมีก้นกลวงเพื่อที่จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามได้
พนักงานเดินพาทั้งสามคนไปยังห้องสุดท้ายที่อยู่ลึกด้านในสุดทางเดิน
แต่เมื่อเปิดบานประตูเข้าไป ดวงตากลับต้องเป็นประกาย
หลังจากประตูบานเลื่อนไม้ไผ่ที่สูงจรดเพดานถูกเปิดออกก็เผยให้เห็นทัศนียภาพบริเวณลานเล็ก ๆ ที่แยกออกเป็นสัดส่วน แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องอาหารกำลังพอดี ดอกไม้พืชพรรณต่างเปล่งประกายแสดงความงดงามของตนเอง การตกแต่งภายในห้องอาหารเรียบง่ายแต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบโบราณ
ทั้งสามคนเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอันดูแปลกตา
พนักงานเสิร์ฟยื่นสมุดรายการอาหารให้ทั้งสามคนและพูดถามอย่างสุภาพ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกวาดสายตามองและสั่งอาหารบางอย่างในสมุด ทั้งหมดล้วนเป็นอาหารจานโปรดของเสี่ยวเป่ากับมู่อวี้เฉิง
หลังจากใช้เวลาร่วมกันมา เธอก็เริ่มเข้าใจรสนิยมของเขาแล้ว
ดวงตาสีนิลของมู่อวี้เฉิงจ้องมองไปทางเธอขณะที่รอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสัมผัสได้ถึงสายตาเร่าร้อนที่จ้องมองมา เธอจึงเงยหน้ามองเขา “ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะคะ?”
มู่อวี้เฉิงยิ้มเบา ๆ และพูดชมเชย “ดูเหมือนว่าคุณจะสนใจผมขึ้นมาแล้วสินะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่กำลังจ้องมองเขาอยู่จู่ ๆ ก็ได้ยินคำตอบดังกล่าว มันจึงทำให้แก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที
“หม่ามี้เขินแล้ว” เสี่ยวเป่าที่อยู่ด้านข้างปิดปากแล้วแอบอมยิ้ม
“เจ้าเด็กรู้ดี ใครสอนเรื่องแบบนี้ให้นักเนี่ย?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยื่นนิ้วออกไปดีดหน้าผากเขา
หลังจากนั้นไม่นานพนักงานเสิร์ฟในชุดกี่เพ้าสละสลวยก็เดินถือจานอาหารเข้ามา
หลังจากวางจานอาหารลงและเปิดฝาถ้วยแล้ว กลิ่นหอมก็โชยขึ้นมากระทบใบหน้าพวกเขา
ปลาทอดตัวหนึ่งมีสีเหลืองทองดูกรอบอร่อยถูกราดด้วยซอสสีแดงผสมส้มเล็กน้อย มันคือปลาผัดซอสเปรี้ยวหวานที่ เสี่ยวเป่าชื่นชอบ
พวกเขาทั้งสามคนเริ่มลงมือก้มหน้ากินอาหาร มู่อวี้เฉิงตักเนื้อปลาขึ้นมาเลาะก้างปลาออกและใส่ลงไปในถ้วยของ เสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าเงยหน้ามองมู่อวี้เฉิงและส่งยิ้มให้ “ขอบคุณฮะแด๊ดดี้”
มู่อวี้เฉิงยิ้มตอบรับเบา ๆ
เสี่ยวเป่าก้มหน้ากินปลาแล้วจู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างออก ทำให้เขากินเมนูปลาที่ชื่นชอบไม่เอร็ดอร่อยเหมือนเดิมอีกต่อไป
มู่อวี้เฉิงสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเสี่ยวเป่าจึงถามด้วยความเป็นห่วง “เสี่ยวเป่า ปลาผัดซอสเปรี้ยวหวานไม่อร่อยเหรอ?”
เสี่ยวเป่าเงยหน้ามองเขาแล้วส่ายหัว “อร่อยมากฮะ”
“แต่ทำไมหนูดูไม่มีความสุขเลยล่ะลูก” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวถาม
คราวเมื่อมู่อวี้เฉิงพูดขึ้น เธอจึงรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติกับเสี่ยวเป่า
“หม่ามี้ เดี๋ยววันหยุดนี้พาผมไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำได้มั้ยฮะ?” เสี่ยวเป่าถาม
ทันทีที่เขากินปลาเข้าไป เขาก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้หม่ามี้สัญญาจะพาเขาไปที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
แต่ว่าหม่ามี้งานยุ่งมาก ทำให้ไม่ได้ไปเที่ยวกันสักที
“ได้สิจ๊ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบตกลงทันที
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอจึงสามารถพาเสี่ยวเป่าออกไปเที่ยวเล่นได้
ตอนนี้เขาเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านและไม่ได้ติดต่อสื่อสารกับใครเลย หนำซ้ำยังไม่มีเวลามากมายออกไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่อยากให้เสี่ยวเป่าทุกข์ใจ เธออยากให้เขามีช่วงเวลาในวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความสุข
ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวเป่าเพิ่งจะหายดี ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงต้องการตอบรับคำขอของเขาให้มากที่สุด
“จริงเหรอ?” ดวงตาของเสี่ยวเป่าเป็นประกาย “หม่ามี้ว่างพอจะพาผมออกไปเที่ยวแล้วใช่มั้ย?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้า รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของเสี่ยวเป่า
ตั้งแต่เธอเริ่มทำงาน เธอก็ปล่อยปละละเลยเสี่ยวเป่าอยู่บ่อยครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “อืม หม่ามี้ว่างจะออกไปเที่ยวกับเสี่ยวเป่าแล้ว”
“แด๊ดดี้จะไปด้วยกันมั้ยฮะ?” เสี่ยวเป่าพูดตามขณะจ้องมองเขาด้วยดวงตากลมโต
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เพราะ มู่อวี้เฉิงเป็นหนึ่งในผู้บริหารใหญ่ของมู่กรุ๊ปและมักจะทำงานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาจะมีเวลาว่างเพียงพอไปเที่ยวเล่นกับพวกเขาได้มั้ยนั้นยังคงเป็นคำถามอยู่
“เสี่ยวเป่า แด๊ดดี้ยุ่งมาก เดี๋ยวหม่ามี้พาไปเที่ยว…” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
มู่อวี้เฉิงรีบพูดขัดจังหวะเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะปฏิเสธ “ก็ต้องว่างอยู่แล้วสิ”
ดวงตาของเขามืดมนลง ก่อนหน้านี้เขานิ่งเงียบเพราะต้องการดูว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะถามเขาหรือไม่
แต่กลับกลายเป็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวเลือกที่จะปฏิเสธเสี่ยวเป่าโดยไม่แม้แต่จะถามเขา
“จริงเหรอฮะแด๊ดดี้?” เสี่ยวเป่าถามด้วยความเหลือเชื่อ
มู่อวี้เฉิงพยักหน้า “อืม”
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เสี่ยวเป่าจะได้ออกไปเที่ยวกับแด๊ดดี้หม่ามี้!” เสี่ยวเป่ายิ้มกว้างจนดวงตาของเขาหยีลง ดูมีความสุขอย่างมาก
การออกไปเดินเล่นกับคุณลุงสุดหล่อที่เพิ่งเลื่อนสถานะมาเป็นแด๊ดดี้ย่อมทำให้เขามีความสุขมาก
ทั้งสองรู้สึกเศร้าใจอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเป่า
มู่อวี้เฉิงมองดูเสี่ยวเป่าที่กำลังมีความสุขด้วยดวงตามืดมนและไม่ชัดเจน
เสี่ยวเป่าเป็นลูกชายของเขา เขานึกถึงความสัมพันธ์นี้มานานหลายปีแล้ว
และครั้งนี้เขาจะไม่มีวันปล่อยมืออีก