พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 197 หม่ามี้ ผมอยากกลับบ้านP
ตอนที่ 197
หม่ามี้ ผมอยากกลับบ้าน
เท่าที่มู่อวี้เฉิงจำความได้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่เคยทำให้ใครขุ่นเคืองเลย
ทำไมถึงมีคนใจร้ายโหดเหี้ยมถึงกับลงมือจะฆ่าแกงเธอ หนำซ้ำยังต้องการแม้แต่ชีวิตของเสี่ยวเป่า
ดวงตาสีนิลของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงเรื่อย ๆ เขากัดฟันแล้วถามว่า “ใคร?”
“ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจนครับ แต่ส่งคนไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว น่าจะได้รับแจ้งเร็ว ๆ นี้ครับ” ลู่หมิงตอบ
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงฉายแววอันตรายขณะพูดขึ้นด้วยความขุ่นเคือง “ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าทำร้ายผู้หญิงกับลูกของฉัน มันคนนั้นจะต้องได้ลิ้มลองชีวิตที่ยิ่งกว่าตายทั้งเป็น”
ร่างกายของมู่อวี้เฉิงเต็มเปี่ยมไปด้วยรัศมีเย็นชา น้ำเสียงฟังดูโกรธเคืองอย่างมาก
ลู่หมิงที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่กล้าพูดอะไรเพราะหวั่นเกรงว่าความโกรธเคืองของมู่อวี้เฉิงจะนำภัยพิบัติมาถึงตนเอง
หลายวันต่อมา
ร่างกายของเสี่ยวเปาดีขึ้นมาก
ระยะเวลาในการนอนหลับลึกไม่เพียงแต่จะลดน้อยลง แต่เขายังตื่นขึ้นมาสดใสมากอีกด้วย
หลังจากนางพยาบาลแวะมาให้ยาเสี่ยวเป่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ถามขึ้นว่า “อาการบาดเจ็บของลูกชายฉันหายดีหรือยังคะ?”
นางพยาบาลพยักหน้า “อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้วค่ะ”
“ดีจัง” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบกลับอย่างตื่นเต้น
เสี่ยวเป่ามีความสุขมากหลังจากได้ยินเช่นนั้น เขาจ้องมองนางพยาบาลด้วยดวงตาใสแจ๋ว “พี่พยาบาลฮะ เสี่ยวเป่าไม่ฉีดยาแล้วได้มั้ย?”
เสี่ยวเป่าทำหน้ายู่ยี่เมื่อนึกถึงการฉีดยา
เขาหวาดกลัวทุกครั้งที่พี่พยาบาลจะฉีดยาให้เขา
“ยังต้องฉีดยานะจ๊ะ” นางพยาบาลตอบ
หลังจากพูดจบ นางพยาบาลก็หยิบเข็มฉีดยาและสารละลายขึ้นมา เธอสูบสารละลายเข้าไปในกระบอกฉีดยาและกดไล่อากาศออกเพื่อเตรียมฉีดยาให้เสี่ยวเป่า
ดวงตาของเสี่ยวเป่าที่จับจ้องไปยังเข็มฉีดยาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบเดินเข้าไปปิดตาของเสี่ยวเป่าและพูดปลอบเบา ๆ “เสี่ยวเป่าไม่ต้องกลัว หม่ามี้อยู่นี่แล้ว”
เสี่ยวเป่าที่ได้ยินคำปลอบประโลมของถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยายามระงับความหวาดกลัวเพื่อไม่ให้หม่ามี้วิตกกังวล
“เสี่ยวเป่าไม่กลัวหรอก” เสี่ยวเป่าทำเป็นเข้มแข็ง
หลังจากนางพยาบาลฉีดยาเสร็จแล้ว เธอก็ให้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคอยกดสำลีบนรอยเข็มฉีดยา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรับสำลีมาและกดเอาไว้
แต่หลังจากนั้นเธอกลับรู้สึกทุกข์ใจอย่างมากเมื่อเห็นว่ามือของเสี่ยวเป่ามีรอยช้ำ และดวงตาของเธอก็เริ่มแดงก่ำ
เธอเงยหน้ามองเขาและถามด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “เจ็บมั้ย?”
เสี่ยวเป่าส่ายหน้าและยิ้มปลอบโยนเธอ “หม่ามี้ ไม่เจ็บหรอกฮะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลูบหลังมือของเสี่ยวเป่าเบา ๆ เธอรู้ว่าเสี่ยวเป่ากำลังปลอบไม่ให้เธอรู้สึกกังวลอยู่
เสี่ยวเป่าเห็นว่าเธอกำลังเศร้าอยู่จึงเอื้อมมือเล็ก ๆ ออกไปดึงแขนเสื้อเธอ “หม่ามี้ ผมอยากกลับบ้านแล้ว”
มู่อวี้เฉิงที่กลับมาจากข้างนอกและบังเอิญได้ยินเสี่ยวเป่าพูด
มู่อวี้เฉิงเปิดประตูเข้าไปและถามว่า “เสี่ยวเป่าอยากกลับบ้านเหรอ?”
เสี่ยวเป่าพยักหน้างึกงัก “ฮะ เสี่ยวเป่าไม่ชอบอยู่โรงพยาบาล”
“ทำไมล่ะ?” มู่อวี้เฉิงถามเบา ๆ
“แด๊ดดี้ ก็ที่นี่กลิ่นเหม็นมาก แถมยังต้องฉีดยาอีก” เสี่ยวเป่าตอบ
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและเก็บงำคำพูดของเสี่ยวเป่าเอาไว้ในใจ
หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาตรวจร่างกายอีกครั้ง
หลังจากที่แพทย์ตรวจร่างกายของเสี่ยวเป่าแล้ว มู่อวี้เฉิงก็เข้ามาถามเขาว่า “อาการเขาเป็นยังไงบ้างครับ? จะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่?”
แพทย์ตอบว่า “ตอนนี้อาการของเด็กคงที่แล้วครับ หากไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม อีกสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้ครับ”
และพูดเตือนว่า “แต่ยังต้องให้เด็กพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ แล้วหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ค่อยพาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลใหม่”
“ครับ” มู่อวี้เฉิงตอบ
…
เสี่ยวเป่ายังต้องคอยสังเกตอาการอยู่ในโรงพยาบาลต่ออีกสองวัน
สองวันต่อมา แพทย์เข้ามาตรวจดูสภาพบาดแผลของเสี่ยวเป่า และแจ้งว่า “อาการบาดเจ็บหายดีแล้ว สามารถแจ้งออกจากโรงพยาบาลได้เลยนะครับ”
เสี่ยวเป่ามีความสุขมากจนยิ้มกว้าง ขณะที่ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกว่าหัวใจที่ห้อยต่องแต่งอยู่สามารถปล่อยวางได้ในที่สุด
“หม่ามี้ เราจะได้กลับบ้านแล้ว!” เสี่ยวเป่ายิ้มกว้าง ใบหน้าชื่นมื่น
หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลมาหลายวัน ในที่สุดเขาก็สามารถออกจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อได้สักที
“ใช่” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มตอบรับเบา ๆ
หลังจากที่แพทย์บอกเช่นนั้น มู่อวี้เฉิงก็เดินตรงไปที่ประตูหน้าห้องและโทรศัพท์หาลู่หมิง
“ครับท่านประธาน”
มู่อวี้เฉิงสั่งการอย่างใจเย็น “มาทำเรื่องแจ้งออกที่โรงพยาบาลที”
ลู่หมิงพยักหน้าตอบรับโดยที่ปลายสายไม่เห็น “ครับท่านประธาน”
เขาสั่งการต่อ “แล้วก็จองตั๋วกลับจีนภายในวันนี้เลยล่ะ”
“เดี๋ยวผมรีบจัดการให้ครับ” ลู่หมิงตอบ
หลังจากวางสายลง มู่อวี้เฉิงก็เดินกลับเข้าไปในห้องและเห็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังเก็บข้าวของ
มู่อวี้เฉิงรีบเข้าไปจับมือเธอเอาไว้ จนถงเหมี่ยวเหมี่ยวตกใจกับการเคลื่อนไหวที่กะทันหันของเขา เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาสับสน
มู่อวี้เฉิงพูดอย่างใจเย็น “เดี๋ยวทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว ผมจะพาคุณกับเสี่ยวเป่ากลับจีนเลย ถึงตอนนั้นค่อยให้คนมาเก็บของไป”
“อืม” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวครุ่นคิดหลังจากได้ยินเช่นนั้น
การเดินทางมาเยือนต่างประเทศในครั้งนี้ เธอต้องการจะกลับมาเยี่ยมชายชราเท่านั้น แต่กลับนึกไม่ถึงว่าเธอจะต้องหนีความตายจนเกือบจะตายลงที่นี่และจะต้องรีบกลับประเทศจีนโดยเร็วที่สุด
ทว่าก่อนเดินทางกลับ เธอควรจะไปเยี่ยมชายชราอีกครั้งหรือไม่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลังเลเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
พวกเธอควรจะกล่าวอำลาท่านผู้เฒ่าสตีเฟนก่อนที่จะออกเดินกลับประเทศ
แต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับลังเล หากเขารู้ว่าเสี่ยวเป่าได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เขาคงจะโกรธเคืองน่าดู
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจที่จะไม่บอกท่านผู้เฒ่าสตีเฟนว่าพวกเธอกำลังจะเดินทางกลับประเทศจีน
ประสิทธิภาพการทำงานของลู่หมิงนั้นรวดเร็วมาก ขั้นตอนการทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จสิ้นแล้วและเที่ยวบินกลับประเทศจีนก็มีกำหนดในช่วงบ้านของวันนี้
หลังจากที่มู่อวี้เฉิงพาทั้งสองคนไปรับประทานอาหารกลางวัน พวกเขาก็ตรงไปที่สนามบิน
เสี่ยวเป่ามีความสุขมากเมื่อมาถึงสนามบิน ในที่สุดเขาก็ได้กลับบ้านสักที
เขาจับมือถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วค่อยแต่จะวิ่งรุดไปทางข้างหน้า
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลัวว่าแผลของเขาจะเปิดจึงต้องคอยจับเขาเอาไว้
มู่อวี้เฉิงเดินเข้าไปหาเสี่ยวเป่าและอุ้มเขาขึ้นมา เสี่ยวเป่ากอดคอเขาและยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
ข่าวที่ว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังจะเดินทางกลับประเทศจีนดังไปถึงหูของลู่ซีจวี๋
เขารีบตรงดิ่งไปพบถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่สนามบินโดยไม่ได้บอกผู้เฒ่าสตีเฟน
ลู่ซีจวี๋เดินเข้าไปในสนามบินและมองหาพวก ถงเหมี่ยวเหมี่ยวท่ามกลางฝูงชน
เนื่องจากเขาค่อนข้างโดดเด่นแม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เสี่ยวเป่าก็เห็นเขาได้ในทันที
“คุณลุงซีจวี๋!” เสี่ยวเป่าร้องตะโกนด้วยรอยยิ้มและโบกมือไปมา
มู่อวี้เฉิงรีบจับมือของเสี่ยวเป่าเอาไว้แน่น
ลู่ซีจวี๋ที่ได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่าเดินเข้ามา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เห็นเขาเช่นกัน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเขาและส่งยิ้มให้ “รุ่นพี่ มาส่งพวกเราเหรอคะ?”
“ใช่” ลู่ซีจวี๋พยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ขอโทษนะ เธอกับเสี่ยวเป่าอุตส่าห์เดินทางมาหาแต่ฉันกลับไม่ได้ดูแลพวกเธอให้ดี”
“รุ่นพี่ ฉันก็บอกแล้วไงคะว่ารุ่นพี่ไม่ผิดอะไร” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหัว
ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นกับพวกเขาในประเทศเอ็ม และมันไม่ยุติธรรมที่จะไปถือกล่าวโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของลู่ซีจวี๋