พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 196 คุณเป็นห่วงผมเหรอ
ตอนที่ 196
คุณเป็นห่วงผมเหรอ?
วันต่อมา
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ อาการของเธอดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
มู่อวี้เฉิงตื่นขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวบนเตียง มีเพียงเสี่ยวเป่าเท่านั้นที่ยังนอนหลับสนิท
มู่อวี้เฉิงพาถงเหมี่ยวเหมี่ยวเข้าไปชำระล้างตัวในห้องน้ำ หลังจากเดินออกมาก็เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้น
“แด๊ดดี้” เสี่ยวเป่าที่กำลังนอนอยู่บนเตียงพูดกระซิบเสียงเบา
มู่อวี้เฉิงมีความสุขมากที่ได้ยินเสี่ยวเป่าเรียกตนเองว่าแด๊ดดี้ตั้งแต่เช้าตรู่ จนมุมปากอดยิ้มกว้างไม่ได้
เขากับถงเหมี่ยวเหมี่ยวพากันเดินไปที่ข้างเตียง เสี่ยวเป่ามีความสุขมากที่ได้เห็นหน้ามู่อวี้เฉิง “แด๊ดดี้ แด๊ดดี้”
ถึงแม้ว่าใบหน้าของเสี่ยวเป่าจะซีดเซียวแต่เขาก็ยังคงร้องเรียกต่อไป
เขาหวาดกลัวเล็กน้อยว่าเมื่อวานจะเป็นเพียงความฝัน
เขากลัวว่าหลังจากตื่นจากความฝันแล้วคุณลุงสุดหล่อจะเป็นเพียงแค่คุณลุง ไม่ใช่แด๊ดดี้ของเขา
“อืม” มู่อวี้เฉิงตอบรับเสียงเบา
หลังจากได้ยินเสียงตอบรับ ดวงตาของเสี่ยวเป่าก็สดใสขึ้น
เขาไม่ได้ฝันไป คุณลุงสุดหล่อกลายมาเป็นแด๊ดดี้ของเขาแล้วจริง ๆ
ก่อนหน้านี้เขาอยากให้หม่ามี้กับคุณลุงสุดหล่ออยู่ด้วยกัน และอยากให้คุณลุงสุดหล่อกลายมาเป็นแด๊ดดี้ของเขา
ทว่าในที่สุดความปรารถนาของเขากลับเป็นจริง
คราวเมื่ออยู่โรงเรียนอนุบาล เด็กคนอื่น ๆ มีพ่อแม่มารับกลับบ้าน แต่ตัวเขามีเพียงคุณยายซุนกับหม่ามี้เท่านั้น
เด็กบางคนถึงกลับเอาไปพูดนินทาและหัวเราะเยาะที่เขาไม่มีพ่อ
เขารู้เรื่องทั้งหมดแต่ไม่เคยเล่าให้หม่ามี้ฟังเลย เพราะเขากลัวว่าถ้าหม่ามี้รู้เรื่องนี้เข้าจะเสียใจ
แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเพราะว่าเขามีแด๊ดดี้แล้ว
เสี่ยวเป่ากะพริบดวงตากลมโตและพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “แด๊ดดี้ เสี่ยวเป่าหิวแล้ว อยากกินข้าว”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและตอบรับด้วยดวงตายิ้มแย้ม “ได้ เดี๋ยวแด๊ดดี้ให้คนไปซื้อข้าวมาให้”
เสี่ยวเป่าจ้องมองเขาด้วยสายตาคาดหวัง “แด๊ดดี้ป้อนผมเหมือนเมื่อวานได้มั้ยฮะ?”
“ได้สิ” มู่อวี้เฉิงตอบตกลงในทันที
เสี่ยวเป่ายิ้มมีความสุขเมื่อได้ยินคำตอบรับ
ท่าทางออดอ้อนของเสี่ยวเป่าในตอนนี้ทำให้มู่อวี้เฉิงอยากจะเข้าไปลูบหัวเขา
แต่เมื่อมองดูบาดแผลบนศีรษะแล้ว เขาก็จำใจยอมแพ้ไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้ห้ามปรามที่เสี่ยวเป่าทำตัวออดอ้อนและปล่อยให้มู่อวี้เฉิงป้อนข้าวเขา เพราะว่าตอนนี้เธอยังสับสนอยู่
เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่เห็นเสี่ยวเป่าเรียกเขาว่าแด๊ดดี้
ก่อนหน้านี้เสี่ยวเป่าชื่นชอบมู่อวี้เฉิงมาก แต่ในตอนนั้นเธอคิดว่ามันเป็นเพียงธรรมชาติของพ่อลูกจึงพยายามให้ เสี่ยวเป่าอยู่ห่างจากเขา
นึกไม่ถึงว่ามู่อวี้เฉิงจะให้เสี่ยวเป่าเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ และเสี่ยวเป่าเองก็ดูมีความสุขกับมันมาก
เขาคือพ่อของลูกมาตั้งแต่ต้น แต่ตอนนี้ดันจับพลัดจับผลูจนเสี่ยวเป่าเรียกเขาว่าแด๊ดดี้จนได้
หลังจากนั้นไม่นานลู่หมิงก็นำอาหารเช้าเบา ๆ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการกว่าอาหารของทางโรงพยาบาลมาเสิร์ฟ
คราวเมื่อมู่อวี้เฉิงป้อนข้าวเสี่ยวเป่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็รู้สึกได้ว่าวันนี้เสี่ยวเป่ากินข้าวเยอะกว่าปกติ
หลังจากที่ทั้งสามคนรับประทานอาหารเสร็จแล้ว แพทย์ก็เข้ามาตรวจร่างกาย
แพทย์ที่ดูแลทั้งสองคนมาถึงห้องผู้ป่วยพร้อมกัน และนางพยาบาลที่อยู่ด้านหลังพวกเขาก็ช่วยเปลี่ยนยาให้เสี่ยวเป่า
แพทย์ตรวจอาการของทั้งสองคนและพูดคุยโดยสรุปกับมู่อวี้เฉิงสั้น ๆ
ทว่าพวกเขานำข่าวดีมาฝาก ไม่ใช่ข่าวร้ายอะไร
“อาการของคุณถงดีขึ้นมากแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เลยนะครับ”
“ส่วนเด็กเพิ่งฟื้นตัวจากบาดแผล ร่างกายยังอ่อนแออยู่ จะต้องรอสังเกตอาการที่โรงพยาบาลไปก่อนนะครับ”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าหลังจากได้ยินคำวินิจฉัยของแพทย์
หลังจากนั้นทีมแพทย์ก็กลับออกไป
“หม่ามี้ ร่างกายหายป่วยแล้วเหรอ? เสี่ยวเป่าก็จะรีบหายป่วยเหมือนกัน” เสี่ยวเป่ามองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยว ดวงตาสดใสของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้า ลูบไล้แก้มของเขาเบา ๆ และพูดว่า “หนูก็ต้องนอนให้เยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าพร้อมกับทำตาหยี “อืม เสี่ยวเป่าจะนอนเยอะ ๆ แล้วหายป่วยไว ๆ จะได้กลับบ้านกับหม่ามี้”
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น มู่อวี้เฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปัดเพื่อรับสาย
แต่ถึงอย่างนั้นไม่รู้ว่าปลายสายพูดว่าอะไร มู่อวี้เฉิงเพียงแค่ตอบกลับอย่างใจเย็น “อืม เข้าใจแล้ว”
หลังจากวางสายลง มู่อวี้เฉิงก็ขมวดคิ้ว
ช่วงนี้เขาต้องเดินทางไปมาระหว่างโรงพยาบาลและสถานที่อื่น ๆ ไหนจะทางบริษัทยังรอคอยให้เขาเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการ นอกจากนี้เขายังต้องดูแลถงเหมี่ยวเหมี่ยวและลูกชาย ซึ่งทำให้ใบหน้าของเขาดูเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูใต้ตาสีคล้ำแล้วถามขึ้นด้วยความกังวล “คุณกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อนมั้ยคะ?”
ก่อนหน้านี้มู่อวี้เฉิงงีบหลับอยู่บนโซฟาตัวเล็ก ๆ ถึงแม้ว่าโซฟาจะค่อนข้างยาวแต่ก็ยังดูเล็กเกินไปสำหรับมู่อวี้เฉิงอยู่ดี
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมีการรับรู้ที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เธอรู้ดีว่ามู่อวี้เฉิงนอนหลับเพียงแค่แป๊บเดียวและสภาพการนอนหลับดูไม่ค่อยจะดีนัก
มู่อวี้เฉิงพูดเบา ๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น “ผมไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ฉันคิดว่าสีหน้าคุณดูแย่มากเลยค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้ว ดวงตาใสแจ๋วจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเขา
มู่อวี้เฉิงรู้สึกอบอุ่นหัวใจเมื่อสังเกตเห็นว่าเธอกำลังเป็นห่วง
“เดี๋ยวช่วงบ่ายผมจะงีบสักหน่อย คงไม่น่าเป็นอะไร” เขายิ้มเบา ๆ และถามกลับแกมหยอกล้อ “คุณเป็นห่วงผมเหรอ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นว่าคนตรงหน้าเหนื่อยล้าเต็มทีแต่ก็ยังมีอารมณ์มาหยอกล้อเธออีก มันจึงทำให้เธอพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง กระนั้นคำพูดปฏิเสธก็ถูกกลืนลงคอไปเช่นกัน
เธอหันไปมองเสี่ยวเป่าและทำทีเป็นว่าไม่สนใจมู่อวี้เฉิงอีก
เนื่องจากเสี่ยวเป่าเพิ่งให้คำมั่นสัญญากับ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวว่าเขาจะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงผล็อยหลับไปหลังจากนั้นไม่นาน
จนกระทั่งสิบโมงเช้า ลู่หมิงเคาะประตูห้องและเปิดประตูเข้ามาหลังจากได้รับอนุญาตแล้ว
“ผู้ช่วยลู่” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดทักทายเขาเบา ๆ
“คุณถง เหมือนจะหายดีแล้วสินะครับ” ลู่หมิงทักทายกลับ
“ใช่ค่ะ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
“อะแฮ่ม” เสียงไอเบา ๆ ของมู่อวี้เฉิงหยุดการสนทนาระหว่างทั้งสอง
เขาจ้องมองลู่หมิงด้วยสายตาเฉียบแหลมและถามว่า “มีอะไร?”
ลู่หมิงแอบคิดในใจว่าท่านประธานขี้หึงเกินไปหรือเปล่า เขาแค่ทักทายคุณถงเล็กน้อยเอง
เขาโน้มตัวลงไปหามู่อวี้เฉิงและกระซิบบอกอะไรบางอย่าง
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าและตามลู่หมิงออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูทั้งสองคนด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด พลางคิดในใจว่าทำไมถึงทำตัวลับ ๆ ซ่อน ๆ กันขนาดนี้
แต่แล้วเธอก็คิดว่าลู่หมิงน่าจะไม่ได้คิดอะไรมากนักและคงมาหาเขาเพียงเพราะเรื่องงาน
มู่อวี้เฉิงเดินนำลู่หมิงไปยังมุมตึกของโรงพยาบาลที่ไร้ผู้คนเพ่นพ่าน เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “มีข่าวมาจาก เฟิงเหลี่ยหยางเหรอ?”
ลู่หมิงรายงานด้วยความเคารพ “ครับ แหล่งข่าวบอกว่าเฟิงเหลี่ยหยางตรวจพบตำแหน่งของนายจ้างแล้ว”
ดวงตาสีเข้มดูเย็นชาขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อยู่ไหน?”
ลู่หมิงรู้สึกได้ถึงรัศมีอันน่าสะพรึงกลัวที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของมู่อวี้เฉิง และรีบตอบว่า “ตำแหน่งไอพีอยู่ที่ประเทศจีนครับ และอยู่ในเมืองเป่ยด้วย”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและจ้องมองลู่หมิงด้วยความไม่เชื่อสายตา “จะบอกว่าคนที่ทำร้ายเหมี่ยวเหมี่ยวคือคนในเมืองเป่ยเหรอ?”
“ครับ” ลู่หมิงตอบ
ใบหน้าของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น