พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 161 ทำไมหล่อนถึงได้มีชีวิตยืนยาวนัก
ตอนที่ 161
ทำไมหล่อนถึงได้มีชีวิตยืนยาวนัก
ถงอวิ๋นเหยียนคิดพิจารณาถึงเรื่องนี้และตั้งใจจะติดต่อกับโจวเพ่ยฮวาเพื่อเดินทางออกจากเมืองเป่ยให้ได้
เธอไม่ได้กินไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน จึงวางแผนจะประหยัดพลังงานให้มากที่สุดก่อนแล้วค่อยออกไปยืมโทรศัพท์ใครสักคนเพื่อโทรหาโจวเพ่ยฮวาในตอนเย็น
ถงอวิ๋นเหยียนเอามือกอดเข่าทั้งสองข้าง วางศีรษะแนบกับหัวเข่า ขดตัวลงและค่อย ๆ ผล็อยหลับไป
คืนนั้น พระจันทร์เสี้ยวลอยเด่นเหนือยอดไม้ แมลงหลากหลายส่งเสียงร้องจากทุ่งหญ้าบริเวณโดยรอบ
ถงอวิ๋นเหยียนมองดูความมืดมิดข้างนอกก่อนจะยืดตัวตรงและเดินจ้ำอ้าวออกไป
เธอเดินไปที่ด้านข้างของตัวอาคารซึ่งมีแผ่นเหล็กปิดกั้นอยู่เล็กน้อย เพียงพอสำหรับคนคนหนึ่งที่จะผ่านออกไปได้
แผ่นเหล็กค่อนข้างหนักและแหลมคม คราวเมื่อเดินผ่านจะต้องเกิดรอยขีดข่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่เพื่อติดต่อกับโจวเพ่ยฮวา ถงอวิ๋นเหยียนจึงกัดฟันเดินขึ้นไปข้างหน้า
แผ่นเหล็กขูดไปทั่วผิวหนังของเธอ ทิ้งรอยเลือดเอาไว้ แต่ถงอวิ๋นเหยียนกลับไม่สนใจ
หลังจากออกมาจากอาคารร้าง เธอเดินตรงไปยังทิศทางที่มีแสงสว่าง
อาคารร้างแห่งนี้อยู่ห่างไกล ไม่มีทั้งไฟถนนและกล้องวงจรปิด
ถงอวิ๋นเหยียนเดินไปตามท้องถนนด้วยสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง มองไปตรงหน้าอย่างไร้จุดหมาย แต่กลับไม่มีคนอยู่บนทางเดินเลย
หลังจากเดินไปจนพบเจอคนสัญจรไปมา เธอก็เข้าไปขอยืมโทรศัพท์
“คุณคะ ฉันขอยืมโทรศัพท์โทรหาครอบครัวหน่อยได้มั้ยคะ?” ถงอวิ๋นเหยียนถามอย่างสุภาพ
“ไปให้พ้นนะนังบ้า ฉันเหม็นจะตายอยู่แล้ว!” คนที่เดินสัญจรผ่านไปมาตอบโต้กลับอย่างไร้ความปรานี และเดินปิดจมูกหนีไป
“คุณผู้หญิง ฉันขอยืมโทรศัพท์ของคุณหน่อยได้มั้ยคะ?” ถงอวิ๋นเหยียนดึงชายเสื้อของผู้หญิงอีกคนด้วยท่าทางนุ่มนวลและพูดจาอย่างน่าสงสาร
ผู้หญิงคนนั้นหันกลับมามองเธอ จับมือเธอด้วยสองนิ้วและผลักถงอวิ๋นเหยียนลงไปกองกับพื้นด้วยท่าทางรังเกียจ “นังขอทานตัวเหม็น! เอามือมาแตะต้องเสื้อผ้าของฉันทำไมยะ?”
เพื่อนผู้หญิงคนอื่นที่ยืนอยู่ด้านข้างระเบิดเสียงหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางอันน่าอับอายของถงอวิ๋นเหยียน
ถงอวิ๋นเหยียนที่ถูกหัวเราะกัดฟันแน่น สักวันเธอจะทำให้นังผู้หญิงพวกนี้ต้องชดใช้
ทันใดนั้น กลุ่มพวกนักเลงก็พูดขึ้น “สาวน้อยคนนี้ดูหน้าตาใช้ได้เลยนะ”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น คนอื่น ๆ ก็หันกลับมามองพิจารณาถงอวิ๋นเหยียนอย่างละเอียดถี่ถ้วนและค้นพบว่าเป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ หลายคนจึงเริ่มมีความปรารถนาต่อเธอ
“สาวน้อยมาเล่นสนุกกับพี่สิ เดี๋ยวพี่ซื้อโทรศัพท์ให้”
“จะไปเล่นสนุกกับเขาทำไม มาอยู่กับฉันสักหนึ่งคืน เดี๋ยวฉันซื้อของที่เธออยากได้ให้หมดเลย”
คำพูดสกปรกทุกชนิดยังคงหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ถงอวิ๋นเหยียนหวาดกลัวมากจนรีบลุกขึ้นจากพื้นแล้ววิ่งหนีไป
พวกกลุ่มนักเลงถูกพวกผู้หญิงล็อกตัวเอาไว้ ทำให้พวกเขาวิ่งตามถงอวิ๋นเหยียนมาไม่ทัน ถึงอย่างนั้นถงอวิ๋นเหยียนก็ยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้า
จนกระทั่งมีร้านขายของชำปรากฏขึ้นที่ริมถนน ร้านดังกล่าวดึงดูดความสนใจของถงอวิ๋นเหยียนเป็นอย่างมาก
เธอจงใจทำให้ผมเผ้ายุ่งเหยิงและก้มศีรษะลงเพื่อป้องกันไม่ให้กล้องวงจรปิดในร้านถ่ายติดใบหน้าของเธอ
ถงอวิ๋นแหยียนเดินเข้าไปในร้านค้าด้วยสภาพน่าสงสาร น้ำเสียงฟังดูสะอึกสะอื้น “เถ้าแก่ ฉันเพิ่งถูกปล้นมา พวกมันทุบตีทำร้ายร่างกายฉัน ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณโทรหาครอบครัวให้มารับฉันหน่อยได้มั้ยคะ?”
เจ้าของร้านขายของชำเป็นชายวัยกลางคน เขามองดูหญิงสาวผอมแห้งแรงน้อยที่มีใบหน้ามอมแมม เสื้อผ้าเปื้อนโคลน และบาดแผลมากมายบนร่างกายด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ
“ได้ ๆ ๆ สาวน้อยอย่าร้องไห้ไปเลย เดี๋ยวลุงให้ยืมโทรศัพท์ เธอก็ไปโทรบอกให้ครอบครัวมารับซะนะ” เขาพูดขณะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและส่งให้ถงอวิ๋นเหยียน
“ขอบคุณค่ะเถ้าแก่” ถงอวิ๋นเหยียนขอบคุณอย่างสุดซึ้ง จากนั้นจึงป้อนหมายเลขโทรศัพท์ของโจวเพ่ยฮวา
ณ วิลล่าตระกูลถง
ภายในวิลล่ามีแสงสว่างจ้า และรายการโทรทัศน์กำลังฉายอยู่ในห้องนั่งเล่น
โจวเพ่ยฮวากำลังนั่งอยู่บนโซฟา แม้ว่าดวงตาของเธอจะจับจ้องไปยังหน้าโทรทัศน์ แต่ใจของเธอกลับลอยละล่องไปเรื่อย
เธอวิตกกังวลมาก ถงอวิ๋นเหยียนหายตัวไปหนึ่งวันแล้วและไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นพาเธอกลับมาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง
โจวเพ่ยฮวาขมวดคิ้วขณะมองหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นตาปรากฏอยู่บนหน้าจอ
เธอเอื้อมมือออกไปเตรียมจะกดวางสาย แต่ทันใดนั้นเธอก็คิดว่านี่อาจจะเป็นสายเรียกเข้าจากถงอวิ๋นเหยียนจึงเอื้อมมือออกไปกดรับ
“แม่” เมื่อเสียงของถงอวิ๋นเหยียนดังลอดมาจากปลายสาย โจวเพ่ยฮวาดีใจมากจนแทบกรีดร้อง
เธอรีบยกมือปิดโทรศัพท์และกระซิบตอบ “อย่าเพิ่งพูด”
โจวเพ่ยฮวาเหลือบมองเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน และเห็นว่าพวกเขาไม่ทันได้มองมา เธอจึงหยิบโทรศัพท์เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ
โจวเพ่ยฮวาเปิดก๊อกน้ำให้สายน้ำไหลผ่านมากลบเสียงที่เธอพูดคุยกับถงอวิ๋นเหยียน
“อวิ๋นเหยียนได้ยินแม่มั้ย?” โจวเพ่ยฮวาถาม
“ได้ยินค่ะแม่” ถงอวิ๋นเหยียนตอบ
หลังจากได้ยินคำตอบแล้ว โจวเพ่ยฮวาก็เริ่มถามอย่างวิตกกังวล “ลูกสบายดีมั้ย ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
“แม่คะ ตอนนี้หนูอยู่ที่เขตเหลาเฉิง” ถงอวิ๋นเหยียนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เห็นว่าเถ้าแก่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรที่ส่อไปทางนั้น
“ตอนนี้ตำรวจกำลังตามหาตัวลูกอยู่ ลูกต้องเข้าไปซ่อนก่อน”
“หนูรู้ค่ะ แล้วคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ?”
โจวเพ่ยฮวาสับสนอยู่ครู่หนึ่งที่จู่ ๆ เธอก็พูดถึงเรื่องที่ไม่มีที่มาที่ไป “ลูกหมายถึงใคร?”
“ก็คนนั้นไง” ถงอวิ๋นเหยียนขึ้นเสียง
“อ๋อ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังไม่ตาย มันยังมีชีวิตอยู่และสบายดี ลูกคงจะโดนมันหลอกเข้าแล้วล่ะ”
ถงอวิ๋นเหยียนกัดฟันอย่างเกลียดชังเมื่อได้ยินว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังมีชีวิตอยู่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังไม่ตายเหรอ? ทำไมหล่อนถึงได้มีชีวิตยืนยาวนัก?
ตอนนี้ถงอวิ๋นเหยียนไม่ได้หวาดกลัวอีกต่อไป มีแต่โกรธเคืองที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังไม่ตาย แต่เธอกลับต้องมาหลบซ่อนตัวแบบนี้
ถึงอย่างนั้นเธอไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะอยู่หรือจะตายมากนัก ขอแค่ตัวเองไม่ถูกจับเข้าคุกก็เป็นพอ
“หนูจะไปจากที่นี่ แม่ให้คนเอาเงินมาให้หนูหน่อยสิ”
“แล้วลูกจะไปไหน?” โจวเพ่ยฮวาถามด้วยความเป็นห่วง
ถงอวิ๋นเหยียนค่อย ๆ เดินห่างออกไประยะหนึ่ง เอามือกุมโทรศัพท์และกระซิบว่า “ไม่รู้ แต่เดี๋ยวหนูจะไปซ่อนตัวรอให้ข่าวซาก่อน”
โจวเพ่ยฮวารู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกสาวพูด เสียใจที่ตอนนี้ลูกสาวของเธอต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ
เธอระงับความขมขื่นในใจแล้วพูดว่า “แม่จะหาทาง ลูกพอจะบอกที่ซ่อนให้แม่หน่อยได้มั้ย?”
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้แม่ให้คนมาส่งเงินที่ถนนหมายเลข23ในเขตเหลาเฉิงนะคะ บอกให้คนโยนเงินข้ามกำแพงมาแล้วเดี๋ยวหนูจะออกไปเอาเอง”
“ถนนหมายเลข23 โอเคแม่เข้าใจแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ ถงอวิ๋นเหยียนก็วางสายลง
โจวเพ่ยฮวาถือโทรศัพท์ที่เพิ่งวางสายลงเดินออกไปโดยไม่แสดงสีหน้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกบ้านจึงไม่พบสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับโจวเพ่ยฮวา
ตกกลางคืน หลังจากที่ถงกัวฮุยกลับเข้ามาในห้องแล้ว โจวเพ่ยฮวาก็แอบย่องเข้ามาหาเขา
ถงกัวฮุยเห็นท่าทางของเธอจึงคิดว่าเธอคิดไตร่ตรองดีแล้วและต้องการจะคืนดีกับเขา จึงถามว่า “มีอะไร?”
“อวิ๋นเหยียนโทรมา บอกให้เราส่งเงินไปให้เธอหน่อย เธอจะได้ไปซ่อนตัวที่อื่น”
ถงกัวฮุยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ยังมีหน้ากล้าโทรกลับมาอีก ถ้าไม่ใช่เพราะลูก ตอนนี้พวกเราจะถูกกับขังอยู่แบบนี้เหรอ?”
โจวเพ่ยฮวากลอกตาและยิ้มนุ่มนวล “แต่อวิ๋นเหยียนทำเพื่อคุณไม่ใช่หรือไง? ลูกอยากให้คุณได้หายใจโล่งคอ คุณก็รู้ว่าอวิ๋นเหยียนเป็นเด็กดี ถ้าไม่ใช่เพราะถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำแบบนั้นกับคุณ ลูกจะยอมเสี่ยงทำอะไรแบบนี้เหรอ?”