พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 152 เลิกคิดเพ้อฝันสักที
ตอนที่ 152
เลิกคิดเพ้อฝันสักที
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูแผ่นหลังของมู่อวี้เฉิงที่เดินจากไปด้วยความรู้สึกสับสน
เรื่องราวมันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง?
เดิมทีพวกเขาตกลงกันว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก ไฉนตอนนี้จึงกลับมาพัวพันกันอีกครั้ง
หากเรื่องนี้ลุกลามออกไปคงจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา!
ทว่าเธอจะทำอะไรได้?
พิจารณาจากทัศนคติของมู่อวี้เฉิงแล้วมันคงจะเป็นเช่นนี้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำได้เพียงเดินไปมาขณะพิจารณาไตร่ตรองอย่างสิ้นหวัง
มู่อวี้เฉิงเดินลงมาอย่างมีความสุข แต่เมื่อเขาลงมาที่ชั้นล่างเขากลับพบเข้ากับเยี่ยชวง
เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามู่อวี้เฉิงด้วยสีหน้าเย็นและเฉยเมย เห็นได้ชัดว่ามีเจตนารมณ์ที่ไม่ดี
มู่อวี้เฉิงจดจำคนตรงหน้าได้ดีว่าเธอคือผู้ใต้บังคับบัญชาของลู่ซีจวี๋ที่ถูกส่งมาปกป้องถงเหมี่ยวเหมี่ยว
หากเขาจำไม่ผิดน่าจะมีอีกคนซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งถึงได้ไม่ปรากฏตัวออกมาในตอนนี้
เขาปรายตามองรอบ ๆ แต่กลับไม่พบอะไรเลย
“คุณมู่ คุณก็น่าจะรู้ผิดชอบชั่วดีว่าตัวเองเป็นถึงประธานมู่กรุ๊ป ทำไมถึงเข้ามารบกวนคุณถงระหว่างที่เจ้านายฉันไม่อยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า? หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ฉันเกรงว่าคนอื่นจะปรักปรำหาว่าคุณมู่ฉวยโอกาสจากคนอื่นหรือเปล่าคะ?” เยี่ยชวงไม่ได้หวาดกลัวมู่อวี้เฉิงเลยสักนิด เธอมองตรงไปที่เขาและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
มู่อวี้เฉิงตะเบ็งเสียงอย่างเผด็จการ “ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นคนของผม ที่ว่าผมฉวยโอกาสจากคนอื่นคุณหมายความว่ายังไง? แล้วคุณเองก็ช่วยกลับไปบอกเจ้านายคุณด้วยนะว่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นคนของผม ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคตมันก็จะไม่เปลี่ยนแปลง เลิกคิดเพ้อฝันสักที”
เยี่ยชวงโกรธจัดมากจนกำหมัดแน่น หากตั้งใจฟังให้ดีคงจะได้ยินกร็อบจากหมัดที่กำเข้าหากันแน่น
“คุณมู่ก็มั่นใจจังเลยนะคะ รีบพูดออกมาแบบนี้ไม่กลัวจะขายขี้หน้าตอนหลังเหรอ?” เยี่ยชวงกัดฟัน
มู่อวี้เฉิงแสยะยิ้ม “ผมไม่พูดเรื่องที่ไม่มั่นใจหรอกครับ ก็แค่บอกตามความจริง อีกอย่างถ้าเจ้านายคุณมีความสามารถจริง ทำไมป่านนี้ยังมัวมาวิ่งไล่ตามถงเหมี่ยวเหมี่ยวอยู่อีกล่ะครับ?”
เยี่ยชวงทนไม่ไหวอีกต่อไป กำหมัดขึ้นแล้วเหวี่ยงใส่ มู่อวี้เฉิง
ทั้งสองคนเริ่มลงมือต่อสู้กันตั้งแต่นั้นมา
มู่อวี้เฉิงไหวตัวทันและรีบเบือนหน้าหนี
เมื่อเห็นอย่างนั้น เยี่ยชวงก็ยกขาขึ้นมาเตรียมจะเตะอัดมู่อวี้เฉิง
ทว่ามู่อวี้เฉิงสามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีดังกล่าวได้สำเร็จ
เขาเอื้อมมือออกไปดึงขาของเยี่ยชวงอย่างแรง
จนจุดศูนย์ถ่วงของเยี่ยชวงไม่มั่นคง ทำให้เธอกำลังจะล้มลง
ในช่วงเวลาวิกฤต เธอรับเกาะกำแพงด้านข้างแล้วพลิกขากลับมา
จนมู่อวี้เฉิงต้องปล่อยเธอไป
เยี่ยชวงก้าวมาข้างหน้าและทั้งสองก็ต่อสู้กันอีกครั้ง
ทักษะของเยี่ยชวงดีมาก ทว่ามู่อวี้เฉิงก็เป็นคนมีความสามารถไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ความแข็งแกร่งระหว่างชายหญิงทำให้เยี่ยชวงเริ่มเสียเปรียบ
คราวเมื่อเยี่ยชวงหันกลับมา มู่อวี้เฉิงก็ก้าวเข้ามาหา
เยี่ยชวงไม่ทันได้ตอบสนองและเห็นว่าลูกเตะกำลังจะอัดเสยเธอ
ในตอนนั้นเอง เยี่ยหานรีบกระโดดออกมาจากมุมมืดดึงตัวเยี่ยชวงออกไป
มู่อวี้เฉิงไม่แปลกใจสักนิดที่เห็นเยี่ยหาน เพราะนี่คือสิ่งที่เขาตั้งตารอคอยมาตั้งแต่แรก
พี่น้องทั้งสองมองหน้ากันและก้าวไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับมู่อวี้เฉิงอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจะมีอีกคนหนึ่งเข้ามาเพิ่ม แต่มู่อวี้เฉิงกลับไม่ได้รู้สึกลำบากใจเลย และยังดูในท่าทีสบาย ๆ
สิ่งนี้ทำให้เยี่ยชวงไม่สบายใจเล็กน้อย เธอฉวยโอกาสจากตอนที่มู่อวี้เฉิงไม่ทันตั้งรับเหวี่ยงหมัดใส่เขาอีกรอบ
แต่กลับนึกไม่ถึงว่ามู่อวี้เฉิงจะคว้ามือของเธอเอาไว้ได้ เขาหักมือเธอไปทางด้านหลังอย่างรุนแรง
วินาทีต่อมา ร่างของเยี่ยชวงก็ชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง
“อ๊ะ!” เธอร้องอุทานด้วยความเจ็บปวด
เยี่ยหานรีบเข้าไปดูอาการหลังจากได้ยินเสียงเธอ
“เป็นอะไรมั้ย?” เยี่ยหานประคองเยี่ยชวงขึ้นมาด้วยความวิตกกังวล
เยี่ยชวงส่ายหัวและจ้องเขม็งไปที่มู่อวี้เฉิง
มู่อวี้เฉิงยกมือขึ้นมาจัดแจงเสื้อผ้าขณะมองดูสองพี่น้องชายหญิง
“เพราะเห็นว่าพวกคุณคอยปกป้องเหมี่ยวเหมี่ยวหรอกนะ ผมถึงไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียงด้วย แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปล่ะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ใช่แค่อาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแบบนี้” น้ำเสียงของมู่อวี้เฉิงเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งและทรงพลัง
เขาพูดและเดินหันหลังกลับออกไป
เยี่ยชวงมองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปแล้วหันไปกระซิบกับเยี่ยหาน “พี่ชาย ฉันว่ามู่อวี้เฉิงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ทักษะฝีมือของเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี”
เยี่ยหานพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “อืม เขาเป็นถึงประธานของมู่กรุ๊ป ไม่แปลกหรอกที่จะมีทักษะฝีมือ”
ถึงแม้ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากันช่วงสั้น ๆ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามู่อวี้เฉิงมีทักษะฝีมือที่เยี่ยมยอดมาก
เยี่ยชวงพยักหน้าและค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนโดยมีเยี่ยหานช่วยประคองตัว
“จะไปโรงพยาบาลมั้ย?” เยี่ยหานมองดูมือของเยี่ยชวง
เยี่ยชวงส่ายหัว “ไม่ต้องหรอก แผลนิดเดียว กลับบ้านไปทายาก็หาย”
…
ณ มู่กรุ๊ป
มู่อวี้เฉิงเรียกหาลู่หมิงทันทีที่เข้ามาในห้องทำงาน “ไปตามสืบมาทีว่าใครหน้าไหนมันกล้าวางยาฉันในงานเลี้ยงธุรกิจเมื่อคืนนี้!”
สีหน้าของลู่หมิงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
นึกไม่ถึงว่าทุกวันนี้ยังมีคนกล้าวางยาท่านประธานของเขาอยู่อีก
“แล้วท่านประธานเป็นอะไรมั้ยครับ?” ลู่หมิงแอบเงยหน้าชำเลืองมองมู่อวี้เฉิง
ดูเหมือนว่าจะถอนพิษได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นสีหน้าของท่านประธานดูมีความสุขมาก เกรงว่า ‘ยาถอนพิษ’ ตัวนี้จะค่อนข้างพิเศษ
มู่อวี้เฉิงเหลือบมองเขาอย่างเฉยเมยและพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีที่น้อยครั้งนักจะได้เห็น “ไม่เป็นไร”
“แต่นายจะต้องตรวจสอบเรื่องเมื่อคืนนี้อย่างละเอียด!” ขณะที่พูดประโยคสุดท้าย อารมณ์ของมู่อวี้เฉิงก็ฉุนเฉียวขึ้น
ลู่หมิงไม่กล้ารีรอรีบพยักหน้าทันที “ครับท่านประธาน ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้!”
ลู่หมิงหันหลังและเดินจากไป
ในขณะเดียวกัน ซ่งอวี่ซีไม่พอใจมากที่ตนเองไม่ได้ครอบครองมู่อวี้เฉิง
และไม่คิดว่าหลังจากวางแผนมายาวนานขนาดนี้ กลับกลายเป็นเธอเองที่มานั่งลำบากแทนคนอื่น*
* ลำบากแทนคนอื่น (替别人做嫁衣) มีความหมายตรงตัวอุปมาถึงสถานการณ์ที่ตนเองลงมือทำงานหนัก แต่คนอื่นกลับได้รับผลประโยชน์ไปแทน
และคนคนนั้นดันเป็นนังสารเลวถงเหมี่ยวเหมี่ยวซะได้!
แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี?
ขณะเดียวกันโทรศัพท์ของซ่งอวี่วีก็ดังขึ้น
เธอไม่แม้แต่จะมองดูและตอบรับอย่างอารมณ์เสีย “ว่าไง!”
ฉือเหวยที่อยู่อีกด้านหนึ่งตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียง เธอคิดว่าตนเองกดหมายเลขโทรศัพท์ผิดจึงรีบยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาดูรายชื่อ
ไม่ผิดหนิ นี่เบอร์โทรศัพท์ของซ่งอวี่ซี
แต่ทำไมปฏิกิริยาของหล่อนถึงได้แปลกประหลาดขนาดนี้?
กล่าวตามหลักเหตุผลแล้ว เมื่อคืนนี้หล่อนน่าจะสมปรารถนาด้วยซ้ำ
ฉือเหวยที่ไม่เข้าใจสถานการณ์รีบถามว่า “อวี่ซีเกิดอะไรขึ้น? อารมณ์ไม่ดีเหรอ?”
“แล้วมีเรื่องอะไรล่ะ!?” ซ่งอวี่ซีพยายามระงับอารมณ์โกรธหลังจากได้ยินเสียงของฉือเหวย ถึงอย่างนั้นน้ำเสียงของเธอก็ยังดูไม่มีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
ฉือเหวยยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากกว่าเดิม “อวี่ซีเกิดอะไรขึ้น? เมื่อคืนเธอ…”
“อย่ามาพูดเรื่องเมื่อคืนกับฉันนะ!” ซ่งอวี่ซีโกรธมากที่อีกฝ่ายกำลังพูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้
ฉือเหวยสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธออย่างชัดเจน
ดูเหมือนว่าแผนการจะล้มเหลว!
“ก็ได้ ๆ ฉันไม่พูดถึงแล้ว อย่าอารมณ์เสียไปเลย” ฉือเหวยปลอบเธอ
อารมณ์โกรธของซ่งอวี่ซีผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินน้ำเสียงของเธอ “เหวยเหวย ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวฉันติดต่อเธอไปอีกทีนะ”
“อืม” ฉือเหวยตอบรับ
หลังจากวางสายลง ดวงตาของฉือเหวยก็ฉายแววความดูถูกเหยียดหยาม “นึกไม่ถึงว่าจัดแจงให้ขนาดนี้แล้วยังจะลงมือพลาดอีก ไร้ประโยชน์จริง ๆ”