พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 138 คงจะดื่มมากไป
ตอนที่ 138
คงจะดื่มมากไป
หลังจากผ่านไปครึ่งทาง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ผละตัวออก
เธอจ้องมองมู่อวี้เฉิงด้วยสายตาว่างเปล่า และรีบวางแก้วไวน์ลงหลังจากกลับมาสติอีกครั้ง วิ่งกลับเข้าไปในห้องราวกับกำลังวิ่งหนี
“ปัง~”
เสียงประตูปิดดังปัง แผ่นหลังของถงเหมี่ยวเหมี่ยวยืนชนบานประตู ขณะที่หัวใจกำลังเต้นระรัว
เมื่อกี้มู่อวี้เฉิงจูบเธอ!
สัมผัสนุ่มละมุนยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากบาง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหัวแล้วเดินไปที่เตียง
“คงจะดื่มมากไป นอนซะ! นอนซะที!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบนอนลงบนเตียงและดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม
มู่อวี้เฉิงที่ยังคงยืนอยู่ข้างหน้าต่างบานสูงมองดูร่างบางของถงเหมี่ยวเหมี่ยววิ่งหนีหายไป เขาเม้มริมฝีปากด้วยความรู้สึกค้างคาราวกับยังไม่พอใจ
เช้าวันรุ่งขึ้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินออกมาจากห้อง
มู่อวี้เฉิงตื่นขึ้นมาแล้วและกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา
“อรุณสวัสดิ์!” มู่อวี้เฉิงเงยหน้าพูดทักทายหลังจากได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงค่อย ๆ ตอบกลับ “อรุณสวัสดิ์ค่ะ!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเขาและหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้อีกครั้ง ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ค่อย ๆ กลายเป็นสีแดงระเรื่อ
“ติ๊งต่อง~”
“เดี๋ยวฉันไปเปิดประตูค่ะ!” หลังจากพูดจบ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เดินไปที่ประตูห้องและแอบถอนหายใจ
“สวัสดีครับ อาหารเช้ามาเสิร์ฟครับ” พนักงานบริการยืนอยู่ด้านนอกบานประตู
“ค่ะ เข้ามาได้ค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนำทาง
“ขอให้พวกคุณทั้งสองทานอาหารให้อร่อยนะครับ!”
พนักงานบริการเข็นรถบรรทุกอาหารเช้าเข้ามาและเดินกลับออกไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกอึดอัดที่พวกเขาต้องนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน แต่มู่อวี้เฉิงดูสงบมาก
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเขาและเห็นว่าสีหน้าของเขายังคงดูปกติ ความตึงเครียดข้างในจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
หลังอาหารเช้า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนั่งขมวดคิ้วอยู่บนโซฟา
ไม่รู้ว่าผลการพิจารณาของเคเอ็นกรุ๊ปจะเป็นยังไงบ้าง?
มู่อวี้เฉิงอ่านความคิดของเธอออกและขณะที่เขากำลังจะปริปากพูดอะไรบางอย่าง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก่อน
เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกไปเปิดประตู
ชายคนหนึ่งในชุดสูทรองเท้าหนังยืนยิ้มแย้มอยู่หน้าประตูห้อง เขาพูดทักทายอย่างสุภาพทันทีที่เห็นมู่อวี้เฉิง “สวัสดีครับ ใช่คุณมู่หรือเปล่าครับ?”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้า “คุณเป็นใคร?”
ชายคนนั้นแนะนำตัวเอง “สวัสดีครับคุณมู่! ผมลิสท์เป็นผู้ช่วยของท่านประธานเอวิสันครับ”
มู่อวี้เฉิงเข้าใจว่าเขามาที่นี่เพื่อประกาศผลการประมูล
“เชิญเข้ามาก่อนสิครับ” แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องด้วยกัน
มู่อวี้เฉิงกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาพูดคุยกับลิสท์ที่ห้องนั่งเล่น
“นี่คือคุณถงจากสตีเฟนกรุ๊ปใช่มั้ยครับ?” ลิสท์มองดู ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วถาม
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยักหน้า “คุณคือใครคะ?”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวนึกไม่ออกว่าเธอรู้จักบุคคลนี้ด้วย
“ลิสท์เป็นผู้ช่วยของคุณไอครับ”
ผู้ช่วยของคุณไอ?
กล่าวคือเขาเดินทางมาที่นี่เพื่อประกาศผล
จู่ ๆ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็เริ่มกังวล
เธอเหลือบมองมู่อวี้เฉิงแล้วถามว่า “ผู้ช่วยลิสท์มาประกาศผลเรื่องการประมูลเมื่อวานนี้ใช่มั้ยคะ?”
ลิสท์เหลือบมองพวกเขาทั้งสองคนแล้วพยักหน้า “ใช่ครับ วันนี้ผมเดินทางมาที่นี่เพื่อบอกเจตนารมณ์ของคุณไอ”
“แล้วผลการตัดสินของคุณไอล่ะครับ?” มู่อวี้เฉิงถาม
ลิสท์ยิ้มแย้ม “การออกแบบของพวกคุณมีความคิดสร้างสรรค์มาก และการออกแบบก็เหมาะสมกับเด็กมากครับ คุณไอให้ความสนใจกับผลงานของพวกคุณมาก”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกเหลือเชื่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ผู้ช่วยลิสท์กำลังจะบอกว่าคุณไอพอใจกับผลงานของพวกเรามากเหรอคะ?”
“ใช่ครับ คุณไอต้องการร่วมมือกับพวกคุณสองคน”
ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวดีใจมากจนแทบจะกระโดดขึ้นจากโซฟา “ดีเลยค่ะ!”
ในที่สุดการทำงานหลายวันก็สำเร็จลุล่วง!
ตอนนี้เธอสามารถวางใจได้แล้ว
มู่อวี้เฉิงมองดูรอยยิ้มกว้างของถงเหมี่ยวเหมี่ยวขณะที่รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“คุณไออยากทานข้าวเย็นกับพวกคุณทั้งสอง ไม่ทราบว่าพอจะสะดวกมั้ยครับ?”
“ได้เลยค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวตอบตามตรง
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าเล็กน้อย
ทั้งสองคนเดินตามลิสท์ออกจากโรงแรมไปและตรงดิ่งไปที่ภัตตาคารอาหารในโรงแรมห้าดาวสุดหรู
พวกเขาทั้งสองมาถึงห้องอาหารส่วนตัวและพบว่าเอวิสันได้รออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นพนักงานบริการจึงเข้ามาเสิร์ฟอาหารให้ทีละคน
เอวิสันเห็นพวกเขาทั้งสองเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นยืนและจับมือพวกเขา
จากนั้นพวกเขาจึงนั่งลงและเริ่มรับประทานอาหาร
“คุณถงผมชอบแนวคิดของคุณมาก ไม่ทราบว่าคุณไปได้แนวคิดนี้มาจากไหนครับ?” เอวิสันเอ่ยถามด้วยความสนใจ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้ม “ในตอนแรกที่ฉันได้รับโครงการนี้มา ฉันยังไม่มีแนวคิดอะไรมากนักหรอกค่ะ อีกอย่างฉันไม่ใช่นักออกแบบมืออาชีพด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เอวิสันก็เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ “แล้วสุดท้ายคุณคิดมันออกได้ยังไงครับ?”
“แต่หลังจากมองดูร่างผลงานการออกแบบของนักออกแบบ เปรียบเทียบกับแนวคิดบางส่วนในบริษัทของคุณก่อนหน้านี้ ฉันก็เกิดความคิดและทำแนวคิดนี้ออกมาค่ะ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดตามความจริง “แต่ว่าฉันไม่ได้เป็นมืออาชีพ จึงได้นำแนวคิดนี้ไปบอกเล่าให้นักออกแบบในทีมฟัง สุดท้ายผลงานชิ้นนี้ก็เสร็จสมบูรณ์แบบ และนี่คือผลงานจากความพยายามที่พวกเราในทีมทำร่วมกันค่ะ”
เอวิสันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ความอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่รับความดีความชอบไปเพียงลำพังของถงเหมี่ยวเหมี่ยวทำให้เขารู้สึกชอบเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
“คุณสามารถเริ่มค้นมันจากมุมมองของเด็ก และพิจารณาประเด็นด้านความปลอดภัยอย่างรอบคอบ มันจึงแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนเอาใจใส่มากเลยครับ” เอวิสันชมเชย
“ขอบคุณคำชมนะคะคุณไป ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยที่ได้รับโครงการ”
“ผมคิดว่าความพิถีพิถันของคุณถงและทักษะด้านธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของคุณมู่ช่วยทำให้ความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายง่ายขึ้นครับ”
จากนั้นเอวิสันก็ยกแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วพูดว่า “แด่คุณทั้งสอง ผมหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะผ่านพ้นไปด้วยดีครับ!”
มู่อวี้เฉิงกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวรีบยกแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นมาตอบรับ “แด่ความร่วมมือของเรา!”
หลังรับประทานอาหาร ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือและบรรลุข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นไม่นานทั้งสองฝ่ายก็ลงนามบนสัญญาความร่วมมือ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูสัญญาในมือและยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ไม่ทราบว่าคุณทั้งสองจะอยู่ที่นี่อีกนานมั้ยครับ? ผมสั่งให้คนพาไปเที่ยวชมรอบ ๆ ได้นะครับ ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์อีกหลายแห่ง ฉันคิดว่าพวกคุณน่าจะชอบ” เอวิสันพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น
“ขอบคุณคุณไอมากค่ะ แต่ฉันยังต้องกลับไปสะสางงานที่บริษัทต่อ ส่วนคุณมู่เองก็ต้องกลับไปทำธุระด้วย พวกเขาเลยจะเดินทางกลับกันในวันพรุ่งนี้ค่ะ คราวหน้าถ้ามีโอกาสพวกเราจะไปเยี่ยมชมแน่นอนค่ะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวปฏิเสธ
มู่อวี้เฉิงที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ผู้หญิงคนนี้คิดเผื่อเขาหมดเลยสินะ
พวกเรา? คราวหน้า?
จะว่าไปก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ
“ขอบคุณคุณไอมากครับ แต่ครั้งนี้พวกเราคงจะต้องรีบกลับกันก่อน เอาไว้คราวหน้าพวกเราจะมาใหม่นะครับ”
มู่อวี้เฉิงพูดขึ้นโดยจงใจเน้นคำว่า ‘คราวหน้าพวกเรา’
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่เพิ่งตระหนักได้ถึงกับพูดไม่ออก
เธอแค่พูดเป็นพิธีรีตอ ใครบอกว่าครั้งหน้าจะมากับเขากัน!