ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 92 ไฟล์ 11 เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง 2.2
- Home
- All Mangas
- ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
- ตอนที่ 92 ไฟล์ 11 เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง 2.2
หลังจากที่มองโทริโกะออกไปจากห้องพร้อมกับสีหน้าที่ยังเป็นห่วงอยู่เรียบร้อยแล้ว ฉันก็ปิดประตูตามหลัง
ฟิ่ว… ตกใจหมดเลย หวังว่าเธอจะไม่จู่ๆ ก็ทำแบบนี้อีกนะ เจอแบบนี้ฉันไม่รู้เลยว่าจะตอบเธอยังไงดี…
ฉันควักเอามาคารอฟออกมาจากกระเป๋า เลื่อนลูกเลื่อน ก่อนจะเช็คอีกทีว่าในปืนมีกระสุนเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย ฉันย่อตัวลงข้างๆ โต๊ะ มือข้างนึงจับปืนเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ยื่นออกไปจับเมาท์
ว่ากันตามตรง ฉันเองก็กลัวเหมือนกันนั่นแหละ แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาลังเลแล้ว ถ้าไม่รีบ โทริโกะจะเป็นห่วงแล้วเดินกลับเข้ามาเอานะ
ฉันสูดหายใจเข้าลึกเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง ก่อนจะคลิกที่ลิงค์อันนั้น
หน้าจอเปลี่ยนไปเป็นยูทูป วิดีโอมียอดคนดูเป็นเลขหลักเดียว ผู้โพสต๋ใช้ชื่อว่า [rnurm] ส่วนตรงคำอธิบายใต้คลิปก็ไม่มีอะไรเขียนเอาไว้เลย ฉันเพ่งโฟกัสไปที่วิดีโอ มือทั้ง 2 ข้างกำมาคารอฟเอาไว้แน่น
มันมืออยู่พักนึง ก่อนจะมีเด็กผู้หญิงในชุดกะลาสีปรากฏขึ้นในหน้าจอ
เป็นการถ่ายภาพกว้างเลย: ถ่ายจากหน้าตรง ในมุมที่เสยขึ้นนิดหน่อย ทำให้เห็นแค่ส่วนปากของเธอลงมาถึงประมาณส่วนท้อง ฉากหลังของวิดีโอเป็นกำแพงคอนกรีตสกปรกๆ แบบที่คิดว่าน่าจะเห็นได้ตามซากตึกร้างนั่นแหละ
ฉันจ้องเข้าไปด้วยตาขวา มองหาอะไรก็ตามที่อาจจะผิดแปลกไป ที่อีกฟากนึงของจอนราฉันไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ในห้องนี้ รอบๆ คอมเครื่องนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไรที่เรืองแสงสีเงินจางๆ ออกมาเลยนะ
“สายัณหสวัสดิ์ อุรุมิ รูนะเองน้า”
อะไรน่ะ?
ทันทีที่ได้ยินเสียงนี่ ความรู้สึกชาๆ หนาววูบ เหมือนเต้นตุบๆ มันวิ่งจากหูลงไปในคอลามไปถึงหลังเลย ยังกับว่ามีอะไรวิ่งลงไปตามกระดูกสันหลังยังงั้นแหละ
“ทักทายคนดูหน้าใหม่ด้วยน้า ส่วนพวกเธอที่เหลือ มาเจอกันอีกแล้วนะ ฮิฮิ”
เป็นเสียงของพวกมือใหม่เลย ไม่ได้ฟังดูเหมือนการแสดงอะไรเป็นพิเศษเลย ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเธอเป็นนักพากษ์เสียง ผู้ประกาศ หรือมืออาชีพในด้านการฝึกการใช้เสียงเลยด้วย ถ้าจะให้พูดอะไรบ้าง เธอดูเหมือนจะบีบเสียงอยู่นิดหน่อย แต่ตัวน้ำเสียงของเธอมันมีเสน่ห์ดึงดูดสุดๆ ไปเลย
“ถือว่าขอละกัน ระวังตัวกันด้วยนะ ทุกอย่างจากนี้ไป พวกเธอต้องรับผิดชอบตัวเองกันแล้ว พอฟังจบ อาจจะมีอะไรบางอย่างเกิดขี้นกับพวกเธอก็ได้ ถ้าไม่อยากเจอดี ก็ปิดคลิปไปซะก่อนตอนนี้เลย”
แต่ละคำที่เด็กผู้หญิงคนนี้พูด ความรู้สึกสั่นตุบๆ มันก็ยิ่งมากขึ้นๆ ยังกับว่าเธอกำลังกระซิบอยู่ข้างหูฉันเลยงั้นแหละ
ครั้งแรกเลยที่ได้ยินเสียงอะไรแบบนี้ มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างที่เข้าหูมา หมุนวนอยู่ในหัว แล้วก็ดึงให้สติสัมปชัญญะของฉันหมุนตามไปด้วย เหมือนกับว่าโดนดึงให้จมดิ่งลงไป…
“พร้อมกันแล้วสินะ? ถ้างั้น ขอต้อนรับสู่กระซิบเล่าเรื่องผีกับอุรุมิ รูนะอีกครั้ง เรื่องในวันนี้คือเรื่องของผู้ หญิง ตา ฟ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
าาาาาาาาาาา 。。。。。。。。。。。。。。。。。
。。。。。。。。。。。。。。。。。。。。
。。。。。。。。。。。。。。。。。
。。。。。。。。。。。。。。
。。。。。。。。。。。
。。。。。。。。
。。。。。
。。
。
。
。。
。
。。
。
。
。
。
。
。
。
。
。
。
。
。
。。
。
。。
。
.
.
.
.
“—โซราโอะ!”
“อุหวา!?”
เสียงตะโกนใส่หูทำเอาสะดุ้งโหยงเลย
“เป็นอะไรหรือเปล่า? เกิดอะไรขึ้น?”
โทริโกะยืนอยู่ข้างๆ ฉันแล้ว ฉันก็ส่ายหน้าตอบ
“…ฉันทำอะไรอยู่เหรอ? ได้พูดอะไรหรือเปล่า?”
“เธอแค่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างเท่านั้นเอง”
โทริโกะตอบกลับมาอย่างงงๆ พร้อมกับหันออกไปมองที่หน้าต่างบานนั้น
ข้างนอกหน้าต่าง… ฉันเปิดบานเกล็ดที่ปิดอยู่ตลอด แล้วก็ยืนอยู่ตรงนั้น มองเหม่อออกไปข้างนอกเพราะอะไรไม่รู้ ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ มาคารอฟที่ควรจะอยู่ในมือของฉัน ตอนนี้มันก็วางอยู่บนโต๊ะ แต่ฉันจำไม่ได้เลยว่าเอาไปวางไว้ตั้งแต่ตอนไหนกัน
ข้างนอกก็ไม่ได้มีอะไรน่าสังเกตเป็นพิเศษ ก็แค่กำแพงที่มีมอสขึ้นเต็มไปหมด กับแสงอาทิตย์ยามเย็นสีส้มที่สาดเข้ามาในห้องเท่านั้นเอง
“ผ่านไปกี่นาทีแล้วน่ะ?”
“5 นาทีแล้ว วิดีโอเป็นไงบ้าง?”
พอเธอพูดแบบนั้น ฉันก็รีบหันไปมองที่หน้าจอคอม ที่จอยูทูปตอนนี้ กลายเป็นภาพพื้นหลังสีเทา กับเครื่องหมายตกใจสีดำในวงกลมตรงกลางไปซะแล้ว หรือก็คือ : [ไม่พบวิดีโอที่ค้นหา]
“…ดูเหมือน มันจะหายไปแล้วนะ”
ฉันพึมพำตอบไป ทั้งที่ตัวเองก็ยังรู้สึกงงอยู่เลย
“สุดท้าย เราก็ยังไม่รู้อะไรอยู่ดี”
คุณโคซากุระบ่นอุบ
“ให้ตายสิ หลังจากที่มาทำบ้านคนอื่นเขาวุ่นวายไปหมด…”
“คนที่ทำเรื่องวุ่นวายก็คือโคซากุระเองไม่ใช่หรือไงเล่า?”
“โอ้ย เงียบไปเลย ยัยบ้านี่”
พวกเราอยู่ระหว่างเดินกลับไปที่สถานีกัน ระหว่างที่ฟังโทริโกะกับคุณโคซากุระคุยกันอยู่ข้างหลัง ฉันก็คิดถึงเรื่องที่เพิ่งจะเกิดเมื่อกี้
คนที่ลงวิดีโอคนนั้น อัปโหลดวิดีโอลงเน็ตในเวลาที่เหมาะเจาะมากๆ แล้วพอฉันเห็นมันแล้ว เธอก็ลบวิดีโออันนั้นออกไป เหมือนกับว่ามันทำหน้าที่ของมันเรียบร้อยแล้ว นี่ยังกับว่า พวกเรากำลังถูกแอบมองอยู่เลย
นี่พวกเราถูกเฝ้าสังเกตการณ์อยู่จริงๆ เหรอ? หรือว่านี่มันเป็นอีกปรากฏการณ์นึงของโลกเบื้องหลัง? จะยังไงก็เถอะ มันคงไม่จบแค่นี้หรอก ถ้าวิดีโออันนั้นมันเป็นเรื่องแนวรับผิดชอบตัวเองจริงๆ จะต้องมีอะไรซักอย่างเกิดขึ้นกับฉันที่ได้ดูมันแน่ๆ
“นี่ พวกเธอจะค้างคืนที่นี่ซะเลยมั้ย นี่ก็ดึกขนาดนี้แล้วด้วย”
“ไม่ได้ดึกขนาดนั้นซักหน่อย นี่ยังไม่ทุ่มนึงเลยด้วยซ้ำ”
“รอบๆ นี่มันก็มืดตึ๊ดตื๋อแล้วนี่ไง!”
คุณโคซากุระยังพูดกับโทริโกะต่อด้วยเสียงแหลมแสบหู เป็นครั้งแรกเลยแฮะที่เธอตัดสินใจเดินมากับพวกเราที่กำลังจะกลับบ้านกันมาถึงสถานีแบบนี้ ปกติเธอจะแค่ ‘ส่งๆ’ ให้พวกเรารีบๆ กลับกันได้แล้วแบบห้วนๆ แล้วก็ตะเพิดพวกเราออกมาจากบ้าน แต่ดูเหมือนวันนี้เธอจะกลัวมากจนรับมือเองไม่ไหวเลยสินะ
“…ถ้าจะเอายังงั้น ก็ได้นะ แต่มีเตียงให้พวกเรานอนด้วยเหรอ?”
“ไม่มีหรอก แต่นอนที่โซฟาก็ได้นี่”
“เรา 2 คนนอนที่โซฟาอันเดียวไม่ได้ซะหน่อย”
“งั้น ก็โต้รุ่งทั้งคืนเลยก็ได้ ฉันเองก็จะไม่นอนเหมือนกัน”
“เอายังไงดีล่ะ โซราโอะ?”
โทริโกะถามมาแบบนั้น ฉันก็ตอบกลับไปโดยไม่หันไปหาเลย
“คุณโคซากุระคะ แน่ใจแล้วเหรอคะว่าจะเอาแบบนั้น?”
“หมายถึง?”
“ฉันคิดว่า เพราะฉันดูคลิปอันนั้นไปแล้ว อาจจะมีอะไรบางอย่างตามติดฉันมาแล้ว ถ้าเกิดพวกเราอยู่ด้วยกัน คุณเองก็อาจจะติดร่างแหไปด้วยก็ได้นะคะ”
“กึก…”
“นั่นสินะ จริงด้วย โคซากุระ ฉันรู้อยู่แหละว่าเธอกลัว แต่ฉันว่าคืนนี้เธอนอนอยู่คนเดียวน่าจะดีกว่านะ”
“เธอ 2 คนอยู่ด้วยกันก็พูดได้สิ!”
“งั้น ไหนๆ ก็เดินมาจนถึงสถานีแล้ว อยากไปกินมื้อเย็นด้วยกันมั้ยคะ? ไว้คุณได้ดื่มซักหน่อย ฉันมั่นใจเลยล่ะว่าต้องอารมณ―”
ตอนที่ฉันเริ่มจะพูด ฉันก็รู้สึกเหมือนโดนดึงผมมาจากข้างหลัง
“โอ้ย! นี่… หยุดเลยนะ!”
ฉันหันกลับไปมองอย่างโมโห แต่โทริโกะกับคุณโคซากุระก็จ้องกลับมามองฉันด้วยสายตาที่สงสัยและไม่เข้าใจ พวกเธอยืนอยู่ห่างจากฉันไปเกือบ 3 เมตร―ไม่ใช่ระยะที่เธอคนไหนจะเอื้อมมาดึงผมฉันได้เลย
เอ๊ะ? ฉันคิดอยู่แบบนั้น แล้วชั่วขณะต่อมา ก็มีร่างๆ นึงที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเธอ เข้ามาในลานสายตาของฉัน แล้วมันก็สะดุดตาฉันเลย
อุรุมะ ซัทสึกิ
เงานั้น ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยแม้แต่จะกระดุกกระดิก ตอนนี้มันเริ่มจะเคลื่อนไหวแล้ว
แขนที่สวมเสื้อผ้าสีดำอยู่ยกชูขึ้นมา แล้วเอื้อมเข้าไปหาบ่าของโทริโกะ
“โทริโกะ!”
ฉันร้องลั่น แล้วก็วิ่งเข้าไปหาเธอ คว้าไหล่ แล้วก็ดึงกระชากเข้ามาอย่างแรง
“อุหวา!?”
โทริโกะก็ล้มคะมำมาข้างหน้า แต่เธอก็เอามือค้ำพื้นเอาไว้
“โอ้ย! ทำแบบนี้ทำไมน-”
ฉันแทบจะไม่ได้ฟังโทริโกะเลย
ตอนนี้ ฉันยืนอยู่ใกล้กับอุรุมะ ซัทสึกิมาก มากจนแทบจะแตะตัวเธอได้อยู่แล้ว ชวนให้นึกถึงเมื่อตอนที่ต้องเจอกับท่านฮัชชาคุเลย
ฉันเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วอุรุมะ ซัทสึกิก็เหลือบสายตาลงมามองที่ฉัน ตาสีน้ำเงินสว่างจ้าคู่นั้นของเธอ สีเข้มยิ่งกว่าตาขวาของฉันซะอีก มันดูเหมือนหลุมลึกที่น่ากลัวที่ดิ่งลงไปถึงก้นบึ้งของโลกเบื้องหลังเลย ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองจะตกลงไปในหลุมนั่น แล้วฉันก็สติหลุด เหมือนกับจะคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
เป็นตอนนั้นแหละ ที่มีเสียงเบรกของรถ แล้วก็มีรถตู้สีขาวขับมาจอดข้างๆ พวกเรา ฉันเหลือบไปมองที่รถคันนั้นในวินาทีต่อมา แล้วก็มีชาย 2 คนออกมาทางประตูเลื่อนที่เปิดอยู่แล้ว เข้ามาจับตัวฉัน
“เอ๊ะ…!?”
ก่อนที่ฉันจะทันได้ตอบโต้อะไร ฉันก็โดนอุ้มขึ้น โยนเข้าไปในรถตู้คันนั้น ตอนที่กระแทกกับพื้นรถที่ปูด้วยผ้ายาง ฉันก็หายใจหอบพะงาบๆ ข้างในรถยังมีผู้ชายอยู่อีก 2 คน ซึ่ง 2 คนนั้นก็กดฉันเอาไว้กับพื้น ก่อนจะเอาถุงปิดทึบมาคลุมหัว
คนพวกนี้มันใครกันเนี่ย!?
พอฉันพยายามดิ้นขัดขืน ฉันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่หลังคอ ตอนที่ฉันคิดว่า โดนอะไรทิ่มงั้นเหรอ ความมึนง่วงมหาศาลก็โถมเข้าใส่สติของฉันทันที เรี่ยวแรงของฉันมันหายไปหมด ลืมเรื่องดิ้นหนีไปได้เลย―แค่ถ่างตาตัวเองให้ตื่นยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ มีใครซักคนมานอนอยู่ข้างๆ ฉันด้วย แถมยังร้องโอดโอยด้วยเหมือนกัน
โทริโกะ…!
ฉันได้ยินเสียงย้ำเท้า แล้วตัวรถก็ยุบลง ประตูเลื่อนปิด เครื่องยนต์เริ่มร้องคำราม ตัวรถก็กระชากแล้ววิ่งออกไป มีบางคนอยู่นอกตัวรถ กำลังตะโกนอยู่ด้วย ตะโกนชื่อของฉันอยู่
พอคลื่นของความง่วงมันท่วมฉันจนมิด สติของฉันก็จมลงสู่ความมืด
TN: อ่าว… เดี๋ยว!? ช็อตฟีลเกิน!