cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 44 ไฟล์ 5 แผนช่วยเหลือทหารอเมริกันในสถานีคิซารากิ 6

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง
  4. ตอนที่ 44 ไฟล์ 5 แผนช่วยเหลือทหารอเมริกันในสถานีคิซารากิ 6
Prev
Next

ฉันเพ่งมองออกไปจากบนหลังคาของกอร์กอนพยายามมองหาแสงประกายสีเงินนั่นท่ามกลางทุ่งหญ้าฤดูร้อน ทั่วบริเวณมีแต่กลิทช์อยู่เพียบเลย นี่ถ้ามองไม่เห็นล่ะก็ อาจจะหลบไม่พ้นเลยก็ได้ ในจุดที่มีกลิทช์หนาแน่นที่สุดเนี่ย มันกั้นเอาไว้ยังกับว่าเป็นกำแพงเลย แล้วเราก็ต้องอ้อมไปเพื่อหาช่องว่างที่ใหญ่พอจะสามารถให้รถกับกลุ่มคนผ่านไปได้

การชี้บอกทางเนี่ยแหละที่ยากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลย ซ้าย, ขวา, ตรงไป, ขวานิดนึง, หยุดก่อน, แตะซ้าย, ถอยไป 5 เมตร, 30 องศาจากทางขวา… แล้วก็นู่นนี่นั่น ตอนแรก ฉันต้องพยายามลองหลายๆ วิธี แต่มันก็มีขีดจำกัดของความละเอียดในการชี้บอกทิศทางให้พวกเขาด้วยการใช้คำพูดอย่างเดียวอยู่

50 นาทีแรกอันงุนงงผ่านไป พวกเรายังออกมาจากค่ายได้ไม่ถึงร้อยเมตรเลย ไม่ไหวแน่… ความกดดันจากความเงียบจากทั้งในตัวรถทั้งขบวนที่เหลือข้างหลังนี่ทำเอาเหงื่อไหลหยดเป็นเม็ดๆ เลย ฉันต้องค่อยๆ คิดดีๆ แล้วว่าควรจะทำยังไงต่อดี

 

“โซราโอะ เป็นอะไรหรือเปล่า?”

 

โทริโกะถามฉันพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้

 

“ยังไหว… ร้อยโทคะ มีไม้หรือก้านยาวๆ หรือเปล่า? อะไรก็ได้ที่ยื่นไปถึงที่นั่งคนขับได้จากตรงนี้น่ะค่ะ”

“ขอดูก่อนนะ”

 

ผ่านไปแป๊บนึง ก็มีแท่งเหล็กที่ยืดออกได้ส่งขึ้นมาให้ฉัน ตรงปลายมันแยกออกเป็น 2 ทาง แล้วตรงปลายของตัว T ก็เป็นตะขอกลมๆ เหมือนเอาไว้ห้อยอะไรซักอย่าง

 

“มันคืออะไรเหรอคะ?”

“เสาสำหรับห้อยถุงน้ำเกลือครับ”

 

พอฉันยืดเสานั่นออกมาเต็มที่ ปลายมันก็แตะตรงกระจกหน้าฝั่งคนขับไปพอดีเลย

 

“ขอให้ไปตามทางที่ฉันใช้เจ้านี่ชี้ด้วยนะคะ ถ้าฉันแตะที่กระจก 2 ทีก็ให้หยุดรถก่อน นอกเหนือจากนั้นก็ไปต่อด้วยความเร็วเท่าเดิมได้เลยค่ะ”

 

ถ้าฉันพิงมันเอาไว้ช่องว่างที่แขนกลกำจัดทุ่นระเบิด ฉันก็ไม่ต้องคอยถือเสาน้ำเกลือเอาไว้ตลอดเวลาด้วย ตอนที่ฉันโยนตัวน็อตไปที่กลิทช์ที่อยู่ใกล้ๆ มันก็จะโดนหลอม ไม่ก็สว่างวาบ หรือส่งเสียงแปลกๆ ออกมา ทำเอาทหารแถวนั้นสะดุ้งกันทุกครั้งเลย ฉันคิดว่าการเอากระเป๋าใส่ตะปูกับตัวน็อตมาจะเหนื่อยเปล่าๆ ซะอีก แต่ดูเหมือนการช่วยเตือนให้คนอื่นเห็นอันตรายนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน

พวกเราคืบหน้าได้ดีไปอีกซักพักเลย จนมีแสงสว่างวาบมาจากข้างหลังพวกเรา พอฉันหันกลับไปก็เห็นระเบิดลูกใหญ่ขยายตัวขึ้นตรงจุดตั้งค่ายนั่น

พอเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดวิ่งจนมาถึงพวกเรา มันก็ทำให้ฉันสั่นไปทั้งตัวเลย หลังจากมองลูกไฟยักษ์และควันสีดำที่พวยพุ่งขึ้นมาอย่างนิ่งๆ อึ้งๆ อยู่กับโทริโกะ ฉันก็ตระหนกจนยื่นหน้าลงไปหาส่วนข้างล่างในตัวรถเลย

 

“ร้อยโทคะ!? ค่ายมัน!”

“ครับ? อ้อ จริงด้วย ไม่ได้บอกไว้สินะครับ? ไม่มีปัญหา นั่นเราตั้งใจระเบิดมันทิ้งเอง”

 

การตอบกลับอย่างสงบนิ่งของเขาทำฉันชะงักไปเลย

 

“ท- ทำไมล่ะคะ!?”

“เราทิ้งร่องรอยการมีอยู่ของพวกเราเอาไว้มากเกินไปครับ ด้วยสิ่งนี้ สถานี February ก็เป็นแค่เศษซากแล้ว”

“ย- ยังงี้นี่เอง”

 

จบเลย แผนที่ฉันกะจะมาใช้สิ่งของที่ถูกทิ้งเอาไว้ในค่ายนั่น ฉันกลับไปทำหน้าที่สังเกตการณ์ แต่นี่ก็ยังไม่หายอึ้งเลย

 

“โซราโอะ เป็นอะไรเหรอ? ตั้งสมาธิสิ”

“รู้แล้วน่า กำลังทำอยู่ แค่ว่า… เฮ้อ”

 

ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างผิดหวังเลย

 

“…นี่คิดจะทำอะไรไม่ดีอยู่งั้นสินะ?”

 

น้ำเสียงของเธอดูจะเคลือบแคลงสงสัย ส่วนฉันก็หลบสายตาออกมาด้วย

ขบวนรถยังคงเดินหน้าตัดผ่านทุ่งราบมรณะนี่ต่อไป พอฉันใช้ปลายเสาน้ำเกลือทิ่มไป เจ้าสัตว์ร้ายพลังงานดีเซลใต้พวกเรานี่ก็เปลี่ยนทิศทางไปอย่างว่าง่าย รู้สึกเหมือนกำลังใช้แครอทล่อนำทางให้ม้ายังไงก็ไม่รู้แฮะ

ผ่านไปซักประมาณชั่วโมงครึ่ง จำนวนของกลิทช์ก็ลดลงไปเรื่อยๆ แล้วฉันก็ไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางอะไรมากมายแล้วด้วย เริ่มจะเห็นพวกไม้พุ่มเตี้ยโผล่ขึ้นมาในบริเวณรอบๆ เราแล้วด้วย พอเราข้ามเนินเขาที่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียวหนา ฉันก็เห็นป่าครึ้มอยู่ข้างล่างเนินนี่แล้ว

 

“ขึ้นมานี้หน่อยสิคะ ร้อยโท”

 

พอฉันเรียกลงไปที่ส่วนตัวรถ ร้อยโทก็ปีนบันไดขึ้นมา ยื่นหัวออกมาทางประตูหลังคา

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

“ป่านั่น… แน่ใจหรือเปล่าคะว่าเป็นที่ที่พวกคุณทุกคนออกมากัน?”

 

ร้อยโทก้มลงไปดูที่แผนที่ นิ่งคิดอยู่ซักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอีกรอบนึง

 

“น่าจะใช่นะครับ ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืน พวกเราก็เลยไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เท่าไหร่นัก แต่ตัดสินจากระยะห่างและทิศทางแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงเลยล่ะครับ”

“งั้น เราก็เกือบถึงแล้วสินะ?”

 

ถึงร้อยโทจะพยักหน้าตอบโทริโกะ แต่สีหน้าของเขาที่มองเข้าไปในป่าก็ยังตึงเครียดอยู่เลย ระหว่างที่เรายังพูดคุยกันอยู่นี่ ขบวนรถก็เดินหน้าต่อลงไปตามหุบเขาแล้ว ข้างหน้าพวกเราไม่มีกลิทช์ ถ้าพวกเราเดินตรงต่อไปแบบนี้ ก็ตรงเข้าไปในป่าได้แล้วล่ะ

ระหว่างที่ฉันเกาหลังหัวเพราะรู้สึกตึงๆ จากอาการตาล้า ก็มีเสียงจอแจดังมาจากหลังขบวนรถ

ร้อยโทยืนยันสถานการณ์กับลูกน้องของเขาคนนึง ก่อนจะขมวดคิ้วแน่น

 

“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

“มีบางคนกำลังมาครับ”

 

ร้อยโทพูดทิ้งเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะปีนบันไดลงไป

บางคนเหรอ…?

พอฉันหันกลับไปมอง ก็มีทหารอีกหลายคนยื่นคอหันไปมองข้างหลังด้วยความกังวลเหมือนกัน พวกเราเพิ่งจะลงจากเนินมาได้อย่างเรียบร้อย ฉันก็เห็นเหมือนกัน มีใครยืนอยู่ตรงสันเนินเขาด้วย

ร้อยโทกับพวกทหารของเขารีบคุยกันไปมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งฉันแทบจะฟังไม่ทันเลย พวกเขาต้องใช้วิธีฟังรายงานจากทหารวิ่งส่งข่าวมาจากรถคันหลังเพราะไม่ได้ใช้วิทยุสื่อสารกัน

 

“โทริโกะ ฟังออกหรือเปล่าว่าเขาคุยอะไรกันน่ะ?”

 

โทริโกะเอามือป้องหูก่อนจะพึมพำกับตัวเองอย่างสงสัย

 

“เขาพูดว่า… อย่าไป พาฉันไปด้วย…?”

“มีคนรอดชีวิตด้วยเหรอ?”

 

ฉันใช้เสาน้ำเกลือแตะที่กระจกหน้าบอกให้รถหยุด แล้วก็ส่องผ่านกล้องเล็งของ M4 มองดู มันเป็นกล้องเล็งสั้นๆ ถ้าเอาพานท้ายวางกับหัวไหล่ก็ส่องผ่านมันได้ง่ายกว่า

สิ่งที่ฉันเห็นผ่านตาขวา บวกกับกำลังขยายที่เพิ่มขึ้นมา 4 เท่า นั่นน่ะเป็นมนุษย์แน่ๆ แต่งชุดเหมือนกับนาวิกคนอื่นๆ เลย ชุดเครื่องแบบลายพรางสีซีด เสื้อเกราะ แล้วก็หมวกป้องกัน เขาถือปืนที่หน้าตาเหมือนกับแบบที่ฉันใช้ด้วย กำลังโบกแขนมาทางนี้ แต่ฉันไม่เห็นหน้าของเขาเลย อาจจะเพราะเรื่องย้อนแสงล่ะมั้งจากตรงนี้ แต่หน้าของเขามันก็มืดมากๆ เลยนะ

ฉันเพ่งสมาธิไปที่ตาขวาขึ้นอีก แล้วรูปร่างของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ยังพอดูคล้ายๆ กับคนในชุดลายพรางอยู่นะ แต่ร่างกายนี่มันยุ่งเหยิงไปหมดเลย มันดูเหมือนก้อนดินที่ตั้งอยู่กับใบไม้เด็ดมาคลุมเอาไว้เท่านั้นเอง แขนก็ไม่มีด้วยซ้ำ รอยตัดตรงหัวไหล่ก็เหมือนจะถูกคลุมด้วยอะไรซักอย่างที่ดูคล้ายๆ กับมอส ตรงใบหน้าก็มีของอย่างเดียวกันนั่นแหละคลุมอยู่จนมองไม่เห็นสีหน้าเลย ปากที่อ้ากว้างนั่นมีมอสทะลักออกมาด้วย

 

“อุบ…”

 

ตอนที่ฉันยังตัวสั่นขนลุกอยู่นี่ ก็มีทหารปลอมโผล่มาจากสันเขาอีกตัว และอีกตัว แล้วก็อีกตัว โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ เจ้าพวกมนุษย์มอสนั่นเพิ่มจำนวนขึ้นมาเรื่อยๆ บางตัวก็มีแขนแค่ข้างเดียว บางตัวหัวก็หายไปครึ่งนึงแล้ว บางตัวก็มีแผลบาดลึกตรงลำตัว…

 

“ร้อยโท―นั่นไม่ใช่ผู้รอดชีวิต! เป็นศัตรูค่ะ!”

 

ตอนที่ฉันร้องเตือน ร้อยโทก็ตะโกนออกคำสั่งจากในรถทันที

 

“Contact! (เข้าปะทะ!) Open fire! (ยิงได้!)”

 

 

พวกมนุษย์มอสเริ่มวิ่งเข้ามาหาทางพวกเรายังกับว่าได้ยินคำสั่งนั่นด้วย Fire! (ยิง!) Open Fire! (ยิงได้!) คำสั่งถูกส่งต่อกันไปในขบวนรถอย่างรวดเร็ว แล้วที่โอว์แบร์ที่อยู่ท้ายสุดก็เปิดฉากยิงแล้ว ป้อมปืนหมุนกลับไป แล้วปากกระบอกปืนก็สาดกระสุนออกไป

จากนั้น ทหารที่กระจายอยู่รอบขบวนรถเอาก็เริ่มยิงกันแล้วเหมือนกัน พอกระสุนยิงโดนเป้าหมาย พวกมอสก็แตกกระจายเป็นเศษรูปทรงเรขาคณิต พอถูกยิงมากเข้า พวกมนุษย์มอสก็หงายหลังล้มลง ส่งเศษเล็กเศษน้อยสีแดงสีเขียวกระจายเต็มพื้นเลย

 

“พวกเธอ 2 คน เข้ามาข้างในเร็ว มันอันตรายนะ”

 

ร้อยโทรีบเรียกพวกเรา แต่ฉันก็ส่ายหน้า

 

“ไม่ได้ค่ะ ถ้าฉันไม่อยู่ตรงนี้แล้วคอยมองเอาไว้ กระสุนจะยิงไม่โดน”

“แต่ว่า…”

“ร้อยโท! ไม่ต้องห่วง! ยิงไปได้เลย! พวกเราไม่เป็นไรค่ะ!”

 

โทริโกะยื่นหัวตะโกนลงไปในตัวรถ ก่อนจะประตูหลังคารถที่เท้า แล้วก็เอามือทั้ง 2 ข้างมาจับไหล่ฉันเอาไว้

 

“ฉันจะคอยอยู่ข้างๆ เองนะ”

“อื้อ”

 

ฉันพยักหน้าให้นิดๆ แล้วยืนขึ้นในป้อมปืนเพื่อจะมองให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ โทริโกะยังคุกเข่าอยู่ จับ AK เตรียมเอาไว้พร้อม ปากกระบอกปืนหลายอันยื่นออกมาจากห้องรบข้างล่างเรา แล้วกอร์กอนก็เริ่มเปิดฉากยิง ฉันคิดว่าบางทีฉันก็น่าจะต้องช่วยยิงด้วย แต่ก็เลือกจะไม่ทำแบบนั้น การตีกรอบการมองเห็นของฉันเองให้แคบลงเนี่ยมันอันตรายเกินไป ยังไงซะ ฉันก็เป็นหนทางรอดของขบวนรถนี้ด้วย

 

“โทริโกะ ถ้ามีตัวอะไรบุกเข้ามาจากทางด้านข้างก็บอกหน่อยได้มั้ย?”

“ไม่มีปัญหา วางใจได้เลย”

 

พวกมนุษย์มอสวิ่งข้ามสันเขาบุกเข้ามาจากทางข้างหลังทั้งหมดเลย พวกมันวิ่งกันลงมาจากเนินเขาแบบเต็มกำลัง เพื่อแค่จะโดนตาขวาของฉันกับกระสุนปืนซัดเข้าไปใส่ แล้วก็ร่วงลงกับพื้นเหมือนใบไม้ร่วง รู้สึกว่าเสียงกระหึ่มของปืนที่ไม่จำเป็นพวกนี้มันชักจะทำให้ฉันปวดหัวแล้วสิ

เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีตัวไหนคลาดสายตาไปได้ ฉันก็ต้องหันไปหันมาเหมือนกับไฟประภาคาร พยายามจะจับตามองพวกศัตรูเอาไว้ให้หมดอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่มันก็ยังโผล่หัวขึ้นมากันไม่หยุด จนเราค่อยๆ ถูกล้อมแล้ว

 

“โซราโอะ อยู่ตรงนี้คงไม่ดีแล้วมั้ง?”

“นั่นสิ เราต้องเคลื่อนตัวกันแล้วล่ะ”

 

โทริโกะเปิดประตูตรงหลังคาออก แล้วก็ตะโกนลงไปหาทหารที่ยิงปืนกันอยู่ในห้องรบ

 

“เราจะเคลื่อนตัว! ช่วยบอกข้างหลังด้วย!”

 

ฉันใช้เสาน้ำเกลือแตะไปที่กระจกหน้ารถ กอร์กอนก็ร้องคำรามแล้วเริ่มขยับไปข้างหน้าอีกครั้ง ระหว่างที่ฉันยังจับตามองพวกศัตรูที่ขยับเข้ามาใกล้ ฉันก็มองหาต้องมองหาช่องว่างเพื่อดูว่าข้างหน้าปลอดภัยหรือเปล่าด้วย จะยุ่งเกินไปแล้วนะ!

กอร์กอนที่วิ่งลงเนินเขาเร็วขึ้น บดหญ้าตามทางลงไปยังกับว่ามันกระจายกันอยู่แบบนั้น ฉันกับโทริโกะต้องเกาะขอบป้อมปืนเอาไว้ พยายามไม่ให้พวกเราถูกโยนกระเด็นลงไปจากหลังคารถได้กระเด้งอยู่นี่

พอพวกเราเข้าไปใกล้ป่านั่น ฉันก็เห็นรั้วโลหะสูงเกือบ 2 เมตรที่เหมือนจะล้อมรอบป่า เห็นพวกลวดหนามสนิมขึ้นกับสายเชือกสีแดงจำนวนนึงพันอยู่รอบๆ รั้วด้วย พวกนั้นไม่มีแสงเรืองๆ ที่บอกเลยว่ามันเป็นกลิทช์ พอกอร์กอนวิ่งเข้าไปถึงรั้วนั่น แขนกลตรงหน้ารถก็ฉีกรั้วนั่นออกอย่างง่ายดาย ลวดหนามก็ขาดออก ส่งเป็นเสียง *เคร้ง เคร้ง* เด้งออกเฉียดพวกเราไปมากเลย

 

“ระวังหัว!”

 

โทริโกะกระชากตัวฉันลงมาตอนที่กิ่งไม้กิ่งใหญ่วิ่งเฉียดส่วนหลังคาป้อมปืนไป พวกเราเสียหลักจนร่วงลงไปในประตูหลังคารถ ตัวเด้งกับไหล่ หลัง ก้น แล้วก็ขาของพวกทหาร 3 คนที่กำลังสาดกระสุนยิงปืนออกมาจากห้องรบกันอยู่ จนในที่สุดก็ตกลงมากระแทกที่พื้นรถเลย

 

“อูย…”

“ป- เป็นอะไรมั้ย โซราโอะ?”

 

โทริโกะถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก

 

“ไหวอยู่…”

 

ถึงพวกเราจะทุลักทุเลกับการตั้งหลัก แต่สุดท้ายเราก็กลับขึ้นมายืนกันได้นะ

 

“เดอะ เกิร์ลส์! ขับตรงต่อไปแบบนี้ได้เลยใช่มั้ย!?”

 

คนขับตะโกนถามพวกเรา ฉันก็ยื่นหน้ามองออกไปทางจากกระจกหน้ารถ ไม่เห็นสีเงินเรืองแสงในป่ามืดๆ นี่เลย ดูปลอดภัยจนน่าขนลุกยังไงไม่รู้

 

“ไม่มีปัญหาค่ะ ขับตรงต่อไปด้วยความเร็วประมาณนี้ได้เลย”

 

ฉันทิ้งคำแนะนำเอาไว้แบบนั้น ก่อนจะรีบหันกลับขึ้นไป

ตรงหลังคาดาดฟ้ารถ โทริโกะกับร้อยโทกำลังหันปืนชี้ไปข้างหลังพวกเราอยู่ ที่อีกฟากของรถกับทหารที่กำลังยิงศัตรูพลางถอยไปด้วย พวกมนุษย์มอสฝูงใหญ่ก็กรูกันเข้ามาใกล้ เพราะการจับตามองของฉันขาดไป จนพวกมันเข้ามาใกล้พวกเราแล้ว ตอนที่ฉันออกมาที่ท้ายรถแล้วทัศนวิสัยของฉันกว้างออก พวกมนุษย์มอสก็เริ่มถูกหาสกระสุนสอยร่วงทั้งทางซ้ายทางขวาแล้ว

ทันมั้ยเนี่ย? หรือมีใครโดนจัดการไปแล้ว? เยอะแค่ไหนแล้วล่ะ? คำถามมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวฉัน อย่าไปคิดแบบนั้นสิ! นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องจำนวนเหยื่อนะ

ร้อยโทวางปืนไว้กับราวท้ายรถ ยิงปืนออกไปไม่หยุด ปืนของร้อยโทเองก็เป็น M4 เหมือนกัน แต่ลำกล้องหนักพอควรเลย กล้องเล็งก็ใหญ่ด้วย แต่ละนัดที่ยิงออกไป หัวของพวกตัวประหลาดที่อยู่ไกลๆ ก็กระจุย ล้มคว่ำแตกกระจายไปกับพื้นเลย

 

“…ฝีมือดีเลยแฮะ”

 

โทริโกะกระซิบพึมพำกับตัวเอง ตอนที่มองดูร้อยโทอยู่

พอส่วนที่เหลือของขบวนเข้ามาในป่าตามกอร์กอนเรียบร้อยแล้ว การจู่โจมจากพวกนั้นก็หยุดลง อีกฟากของสันเนินก็มีเศษซากของมนุษย์มอสกระจายอยู่เต็มไปหมด และก็มีร่างใหญ่ๆ ปรากฏขึ้นที่สันเขา ก้มลงมามองที่พวกเราด้วย เงานึงมันดูใหญ่เป็นพิเศษเลย ถึงจะเห็นแค่ภาพย้อนแสง แต่ก็เป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ ที่มีเขาแตกกิ่งก้านรูปร่างซับซ้อนอยู่ด้วย ข้างๆ กันนั่นก็มีตัวประหลาด 4 ขารูปร่างผอมเพรียวที่ดูเหมือนยีราฟไร้หัว

เจ้านั่นนี่! ตัวประหลาดที่โผล่มาหาฉันกับโทริโกะเมื่อตอนที่พวกเราเข้ามาที่โลกเบื้องหลังตอนกลางคืนเป็นครั้งแรก ได้ยินมาว่าเจ้า 4 ขานั่นคือหุ่นยนต์ที่พวกนาวิกเอาด้วยแล้วไปเหยียบกลิทช์เข้าสินะ

พอร้อยโทยิงปืนออกไป กระสุนก็พุ่งแหวกไปในอากาศ ส่งให้หัวระหว่างเขา 2 ข้างนั่นระเบิดออกอย่างสวยงาม

สวยเลย! ฉันคิดแบบนั้น แต่ก็คิดอยู่ได้แค่ไม่นาน หัวเจ้าตัวประหลาดนั่นก็ทำเหมือนกับกรอเทปกลับจนมันกลับไปอยู่ในสภาพเดิม

 

“ฮอร์นแมน… นักล่าจากออเธอร์ไซด์ที่ไล่ล่าเราไม่เลิกไม่รา ตลอดเดือนครึ่งที่ผ่านมา”

 

เสียงของร้อยโทมีแต่ความโกรธที่เขาไม่สามารถข่มเอาไว้ได้ แต่ฉันตกใจจนไม่มีเวลาได้ทันไปห่วงเรื่องนั้นเลย ฉันมองดูมันอยู่ แต่มันไม่ร่วงลงไปงั้นเหรอ! นี่ฉันก็มองมันด้วยตาขวาของฉันอยู่ด้วยนะ!

กระสุนโดนเต็มๆ แน่นอน แล้วมันก็ได้ผลอยู่ชั่วเวลานึงด้วย แต่หลังจากนั้น ฮอร์นแมนก็ฟื้นฟูตัวเองกลับมา ดูเหมือนพวกตัวประหลาดในโลกเบื้องหลัง จะมีบางตัวที่ใช้แค่กระสุนอย่างเดียวจัดการไม่ได้งั้นสินะ

 

“…ดูเหมือนพวกมันจะไม่ตามเรามาแล้วนะ”

 

โทริโกะพูดพลางลด AK ลง

พวกศัตรูไม่ไล่ตามเรามาแล้ว ขบวนรถเดินหน้าเข้าไปในป่า เจ้าฮอร์นแมนกับมนุษย์มอสก็จางหายไปจากสายตาของพวกเรา

ฉันยังตกใจกับเรื่องนี้อยู่ จนกระทั่งคนขับรถตะโกนเรียก

 

“เดอะ เกิร์ลส์! นำทางพวกเราต่อที!”

“ค- ค่ะ!”

 

พอสติกลับมากับตัว ฉันก็โทริโกะก็รีบลงมาจากป้อมปืน ฉันเอามือจับไปที่บันไดเพื่อปีนลง แต่พวกทหารในห้องรบก็ยื่นมือขอให้พวกเราหยุดก่อน พวกเขาหันฝ่ามือมาหาฉัน บอกให้ฉันไม่ต้องปีนลงมา

 

“กิ่งไม้มันอยู่เหนือหัวเราเลย มันอันตรายน่ะค่ะ”

 

ฉันบอกพวกเขาไปแบบนั้น

โทริโกะก็ช่วยฉันอธิบายด้วย ก็มันจริงนี่นา―เมื่อกี้ก็เกือบโดนมันฟาดเข้าเต็มหัวแล้วด้วย

ทัศนวิสัยจากเก้าอี้คนขับนี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนนี้ ฉันมองไม่เห็นกลิทช์อยู่ตรงหน้าเราเลย แต่ถ้ามันมีอะไรอยู่ในต้นไม้ข้างหน้านั่น หรืออยู่ในจุดบอดทางซ้ายทางขวาล่ะก็ กว่าฉันจะเห็น มันก็อาจจะสายเกินไปก็ได้

ฉันคิดอยู่ซักพักนึงก่อนจะพูด

 

“…โทริโกะ ฉันว่าจะออกไปข้างนอกซักหน่อย มาด้วยกันหน่อยได้มั้ย?”

“แน่อยู่แล้ว”

 

โทริโกะพยักหน้าให้อย่างไม่ลังเลเลย

พวกเรากลับไปที่ด้านหลังของดาดฟ้าหลังคาหลังรถอีกครั้ง; วิ่งวุ่นไปทั่วเลยล่ะ ตอนที่เราบอกว่าจะออกไปข้างนอกกับร้อยโทที่กำลังฟังรายงานจากทหารส่งสารอยู่ เขาก็ตกใจตาโตเลย

 

“ข้างนอกนั่นมันอันตรายนะ… แต่ ผมว่านั่นคงไม่ต้องบอกก็รู้กันอยู่แล้วสินะครับ”

“พวกเราอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว เพราะงั้นไม่เป็นไรแน่ค่ะ อีกอย่าง จากข้างในรถนี่ก็มองเห็นยากเกินไป อยู่ในนี้จะอันตรายกว่าซะอีก”

 

เราบอกเขาทิ้งท้ายไว้แบบนั้น ก่อนที่ฉันกับโทริโกะจะปีนบันไดลงจากหลังคาดาดฟ้าของกอร์กอนที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ แล้วก็กระโดดลงมายืนกับพื้น ทหารที่อยู่ข้างหลังก็มองมาที่พวกเรากันอย่างตกใจ

พวกเราวิ่งขนาบข้างไปกับกอร์กอน แล้วก็ออกมายืนข้างหน้ามันแทน ฉันกับโทริโกะเริ่มเดินนำขบวนที่ประกอบด้วยทหารหลายสิบคนกับรถทหารอีก 5 คันแล้ว

 

TN: อ่าว กระสุนไม่ทำงานเฉยเลย…

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 44 ไฟล์ 5 แผนช่วยเหลือทหารอเมริกันในสถานีคิซารากิ 6"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF