ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 120 ไฟล์ 13 แพนโดร่าข้างห้อง 5
“รุ่นพี่! ดีใจนะคะที่มา!”
ตอนที่อาคาริมาต้อนรับฉันที่หน้าประตู เห็นเธอดูดีใจอย่างที่เธอว่าก็ทำให้ฉันโล่งอกได้ประมาณนึง
เธอใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นลายทาง เธอล้างเครื่องสำอางออกไปแล้ว อยู่ในโหมดปล่อยตัวตามสบายสุดๆ ก็รู้อยู่แล้วนะว่าฉันมาตามคำชวนของเธอ แต่แบบนี้จะดีจริงๆ เหรอเนี่ย?
“ขอโทษกับเรื่องนี้ด้วยจริงๆ นะ”
“ไม่เลยค่ะ! เข้ามาได้เลยนะคะ!”
ห้องของอาคาริอยู่ห่างจากฉัน ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที อพาร์ตเมนต์ชั้น 1 ใกล้ๆ กับอู่ซ่อมรถอิชิคาวะ มาลองคิดดูแล้วเนี่ย เธอเคยบอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับนัตสึมิด้วยนี่นะ
ฉันเข้าไปในห้องของเธอ ข้างในก็ดูมีเค้าโครงคล้ายๆ กับห้องของฉันเองเลยนะ แต่ตัวตึกจะดูใหม่กว่า จำนวนรองเท้าที่วางอยู่ตรงทางเข้ากับดีไซน์ที่ดูสมกับผู้หญิงนี่ทำเอาประทับใจเลยแฮะ
“ฉันนึกว่าเธอจะเป็นคนที่นี่อยู่แล้วซะอีก เธอไม่ได้พักอยู่กับครอบครัวเหรอ?”
“ตอนแรกก็เป็นแบบนั้นนะคะ แต่พอครอบครัวฉันต้องย้ายไปที่อื่นเพราะเรื่องงาน ฉันก็เลยพักอยู่นี่คนเดียว การเข้ามหาลัยในท้องถิ่นมันก็ง่าย แล้วฉันก็ยังอยากเรียนกับอาจารย์สอนคาราเต้คนเดิมตั้งแต่ตอนที่ฉันยังอยู่ชั้นประถมด้วย”
“ถึงห้องฉันเองก็เหมือนกันก็เถอะ แต่อยู่ชั้น 1 ของอพาร์ตเมนต์แบบนี้เธอไม่กลัวเหรอ? จากพวกอาชญากรรมน่ะนะ”
“ค่ะ ที่จริงฉันก็ไม่ควรจะต้องกลัวหรอก แต่ดูนั่นสิคะ”
พอฉันมองตามที่อาคาริชี้ไป ก็เห็นว่าครึ่งล่างของหน้าต่างบานนั้นมีรอยครูดบางๆ อยู่มากจนนับไม่ได้เลย
“นี่คือ…?”
“พวกนินจาแมวมาข่วนเอาไว้น่ะค่ะ ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองควรจะอยู่ห้องชั้น 2 น่าจะดีกว่าเยอะเลย”
จะว่าไป ฉันจำลายผ้าม่านนั่นได้นี่นา ตำแหน่งที่วางของทีวีด้วย พวกมันอยู่ในรูปถ่ายในห้องที่อาคาริส่งมาให้ฉันตอนเจอเรื่องของนินจาแมวด้วยนี่นะ
“อ้อ จริงด้วย… ฉันเอาของมาให้ด้วยนะ”
ฉันยื่นถุงพลาสติก 2 ใบจากร้านสะดวกซื้อให้ อาคาริเห็นแบบนั้นก็ร้องเลย
“โห! ไม่จริงน่า! รุ่นพี่ไม่ต้องทำแบบนี้หรอกนะคะ! ขอบคุณมากค่ะ!”
“ไม่หรอก ไม่ใช่อะไรพิเศษหรอกนะ…”
ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษจริงๆ นี่ แค่น้ำชา 2-3 ขวด ถุงมันฝรั่งทอด แล้วก็ของอะไรพวกนั้น ฉันก็พอจะรู้เรื่องการเข้าสังคมอยู่ประมาณนึงนะว่าจะมาหาทั้งๆ ที่มือเปล่าๆ มันก็ไม่ควรหรอก แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะเอาอะไรมาดีเนี่ยสิ ฉันก็เลยซื้อนู่นนี่นั่นที่ดูเป็นตัวเลือกเซฟๆ จากในร้านสะดวกซื้อเอา
แต่ลองนึกย้อนไปแล้วนี่ เวลาที่อาคาริมาที่บ้านของคุณโคซากุระ เธอก็จะซื้อเยลลี่โยกัง โดรายากิ หรือไม่ก็พวกขนมหวานที่ดูเหมาะจะเอามาเป็นของฝากมาด้วยนี่นา แค่นี้ก็ชัดแล้วล่ะว่าทักษะเข้าสังคมของอาคาริน่ะเก่งกว่าฉันเยอะ
ชักเริ่มจะรู้สึกอายๆ แล้วสิ
มันฝรั่งทอดเนี่ยนะ? คิดอะไรของฉันอยู่กันล่ะเนี่ย? เป็นเด็กประถมไปค้างบ้านเพื่อนหรือไงนะฉัน? บางที ถ้าฉันมาตัวเปล่าๆ ไม่เอาอะไรติดมาเลยอาจจะดีกว่าก็ได้มั้ง?
ระหว่างที่ฉันคิดอะไรอยู่เรื่อยเปื่อย อาคาริก็ยิ้มให้ฉัน
“น่าสนุกจังเลยนะคะ เห็นของพวกนี้แล้วนึกถึงสมัยยังอยู่ชั้นประถมเลยล่ะ”
อุก… ถึงจะรู้ดีว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรก็เถอะ แต่มันก็แทงใจดำอยู่ดีนั่นแหละ
อาคาริบอกให้ฉันไปนั่งได้เลย ก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปในครัว ฉันจัดที่จัดทางให้ตัวเอง แล้วก็นั่งที่โต๊ะเตี้ยๆ ในห้อง โต๊ะตัวเล็กๆ กลมๆ ดูน่ารักกว่าตัวที่ห้องฉันอีกแฮะ
ซักพัก อาคาริก็เดินเข้ามา เอาชากับมันฝรั่งทอดมาให้
“นี่ค่ะ รุ่นพี่”
“อ้อ ขอบใจนะ”
ฉันตอบแบบนั้น แต่นั่นมันก็ของที่ฉันซื้อมาไม่ใช่เหรอนั่นน่ะ ฉันก็เลยหยิบมาเคี้ยวกร้วมๆ แบบไม่คิดอะไรอีก
“จะว่าอะไรมั้ยคะถ้าฉันจะขอถามหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
“อ้อ ฉันแค่ไม่อยากจะอยู่บ้านหลังนั้นอีกเท่านั้นเอง”
“เพราะเรื่องส่วนตัวงั้นเหรอคะ? หรือว่าจะ…?”
ตอนที่อาคาริถามอย่างกังวล ในตาเธอก็มีประกายเลย เธอต้องสนใจแน่ๆ เลยพอรู้ว่าปัญหาที่ว่านี่คือเรื่องที่เกี่ยวกับ [ความเชี่ยวชาญ] ของฉันน่ะ
โอ้ให้ตายสิ ฉันตอบเธอไปนิดๆ หน่อยๆ เพื่อตัดรำคาญก็คงไม่มีปัญหาหรอก ยังไงฉันก็ติดเธอเรื่องที่เธอยอมให้ฉันมานอนค้างที่นี่ด้วย
“ฉันตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กับเรื่องนินจาแมวของเธอน่ะ แล้วก็กำลังคิดหาทางอยู่ว่าจะเอายังไงดี”
“ว่าแล้วเชียว! งั้น ให้ฉันช่วยมั้ยคะรุ่นพี่! เดี๋ยวฉันจะอัดเจ้าพวกนั้นให้ยับไปเลย!”
ไฟแรงอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เลย ฉันก็เลยยกมือขึ้นมาทำท่าทางให้เธอสงบลงก่อน
“ใจเย็นๆ ก่อนนะ ฉันไม่อยากให้เธอไปอาละวาดที่บ้านฉันหรอก”
“เอ๋ ไม่เหรอคะ…? แต่ว่า…”
“ฉันเข้าใจว่าเธอเก่งนะ แต่ถ้าเธอคึกมากจนดันไปทำกำแพงห้องเป็นรูเข้า ฉันจะไม่ได้เงินมัดจำคืนเอาน่ะสิ บางทีตอนที่เลือดขึ้นหน้ามากๆ เธอก็เผลอทำอะไรจนเกินไปด้วยใช่มั้ยล่ะ?”
“เอ๊ะ? งั้นเหรอคะ?”
ก็ ต้องโทษเรื่องที่ฉันมองเธอด้วยตาขวาของฉันด้วยล่ะนะ…
ฉันมองไปรอบๆ ห้องของเธอ เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับอาคาริที่ตอนนี้ดูจะซึมไปหน่อยๆ ดี ตรงนี้ก็มีเตียง มีชั้นหนังสือเล็กๆ แล้วก็หิ้งไม้อัดแบบประกอบง่าย ห้องนี้ก็มีพวกของคล้ายๆ กับห้องฉันเลย แต่ก็ให้ความรู้สึกต่างออกไปนิดหน่อย จะเป็นเพราะจำนวนเครื่องสำอางในห้องนี้หรือเปล่านะ?
ระหว่างที่ฉันมองไปทั่ว ท้องฉันก็ร้องพอดี
“รุ่นพี่ได้ทานอะไรมารึยังคะ?”
จะว่าไป ตั้งแต่มื้อเที่ยง ฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา
“ยังเลย…”
“งั้น ดีเลยค่ะ เดี๋ยวฉันทำอะไรให้นะคะ”
“เอ๊ะ!? ไม่ต้องทำอะไรแบบนั้นหรอก”
“ไม่เลยค่ะ ไม่เป็นไร ไม่ใช่ปัญหาเลย ฉันเองก็ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเหมือนกัน! นี่ฉันก็เพิ่งจะหุงข้าวเองค่ะ!”
ถ้าเธอพูดแบบนั้น จะปฏิเสธก็คงจะไม่ดีล่ะนะ ระหว่างที่ฉันงึมงำขอบคุณเธอไป อาคาริก็เข้าไปรื้อหาวัตถุดิบในตู้เย็นแล้ว จากนั้นก็ไปเริ่มทำอาหารต่อเลย
ทำอาหารเองเหรอเนี่ย สุดยอดไปเลยแฮะ…
ฉันถูกยั่วด้วยเสียงผักเสียงเนื้อร้องฉ่าๆ มาจากกระทะ กับกลิ่นน้ำมันงาที่โชยมาร่วมด้วยอีก พอเจอแบบนี้ ฉันก็ยิ่งหิวเข้าไปใหญ่เลย ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งรอแบบไม่มีอะไรทำ มือถือของอาคาริที่วางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้นมาพอดี
“เธอมีสายเข้าน่ะ”
“ช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยคะว่าใคร?”
ฉันลุกขึ้นไปดูที่บนโต๊ะของเธอ คนที่โทรเข้ามาเขียนว่า [อิชิคาวะ นัตสึมิ]
“ขึ้นชื่อคุณอิชิคาวะมานะ”
“ฝากรับให้หน่อยได้มั้ยคะ? ตอนนี้มือฉันไม่ว่างเลย”
“หวา? โอเค ได้ๆ”
ฉันหยิบโทรศัพท์ที่ยังดังอยู่ขึ้นมา แล้วก็กดรับสาย
“ฮัลโหล นี่ตัวแทนของเซโตะพูด”
‘เอ๊ะ? นั่นใครเนี่ย?’
เสียงจากปลายสายดูจะเคลือบแคลงสงสัยน่าดู นี่มันมีอะไรน่าหาเรื่องตั้งแต่เริ่มเลยหรือไงนะ?
“ฉันเอง คามิโคชิ โซราโอะ”
‘เอ๊ะ? รุ่นพี่คามิโคชิ? แล้วไหงรุ่นพี่ถึงมารับสายอาคาริได้ล่ะคะเนี่ย?’
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องของเธอน่ะ เธอให้ฉันมาค้างคืนได้ ก็เล―”
‘เอ๋!?’
“รุ่นพี่คะ ช่วยเปิดเสียงออกลำโพงให้หน่อยได้มั้ยคะ?”
พอฉันทำตามที่เธอขอ อาคาริก็ตะโกนตอบเสียงในสายโดยที่ยังไม่หยุดมือที่กำลังทำอาหารไปด้วยเลย
“นัตซึน! รุ่นพี่แวะมาเล่นด้วยน่ะ! เธอจะมากินข้าวเย็นด้วยกันมั้ย?”
‘ไป!!’
นัตสึมิตะโกนมาแบบนั้น แล้วก็วางไปเลย
ตอนที่ฉันยังงงๆ อยู่เลยว่านี่มันอะไรกันแน่ ประมาณ 3 นาทีต่อมา เสียงกริ่งที่ประตูหน้าห้องก็ดัง ฉันระแวงไปเหมือนกันเพราะเรื่องที่มันเกิดที่ห้องฉันเอง แต่อาคาริกลับร้องตอบอย่างร่าเริง
“มาแล้วววววว”
แล้วเธอก็ไปเปิดประตูให้ นัตสึมิที่ยืนหอบอยู่ก็ถอดรองเท้าแตะออกด้วยท่าทีที่ดูจะชินอยู่แล้ว ก่อนจะเดินมุ่งมาที่ห้องนี้เลย
“รุ่นพี่มาทำอะไรในห้องของอาคาริน่ะ?”
“มาทำอะไร? ฉัน―”
ก่อนที่ฉันจะตอบ อาคาริก็ช่วยตอบแทนแล้ว
“ฉันชวนรุ่นพี่มาเองแหละ”
“เธอน่ะเหรอ?”
“อื้อ รุ่นพี่เจอปัญหานิดหน่อย ก็เลยยังกลับไปที่บ้านไม่ได้ตอนนี้ ฉันก็เลยชวนรุ่นพี่มาค้างกับฉันก่อนน่ะ”
“…งั้นเหรอคะ รุ่นพี่คามิโคชิ?”
“เรื่องมันก็เป็นตามนั้นแหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก”
“…อ้อ งั้นหรอกเหรอ?”
นัตสึมิหย่อนตัวลงนั่งกับพื้น ตอนนี้เธอไม่ได้ใส่ชุดทำงานจากอู่อยู่ แต่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตกีฬา กับเสื้อยืดสีแดงแจ๋อยู่ข้างใน เธอยีผมตัวเองที่ย้อมเป็นสีแดงยกเว้นแค่ตรงรากผม ก่อนจะถามฉันด้วยสีหน้าตึงๆ
“รุ่นพี่จะค้างคืนเหรอคะ?”
“ก็วางแผนไว้ยังงั้นนะ”
“อ้อ เหรอคะ?”
อะไรของเธอเนี่ย?
อาคาริยกจานเนื้อทอดกับผักทอดมาวาง แล้วก็มีหม้อซุปมิโซะตั้งอยู่บนเตาแก๊สด้วย
“นัตซึน ช่วยหน่อยสิ”
“ได้เลย”
นัตสึมิลุกขึ้น เดินไปช่วยหยิบจานอย่างว่าง่าย
“เออ รุ่นพี่ ใช้เป็นตะเกียบใช้แล้วทิ้งนะคะ”
“ไม่มีปัญหาเลย”
“ขอโทษนะคะ ฉันน่าจะเตรียมของให้พอสำหรับแขกด้วยแท้ๆ”
นอกจากจานหลักแล้ว เครื่องเคียง (หัวไชเท้าหั่นแว่นที่เธอหยิบมาจากในตู้เย็น) ซุปมิโซะ แล้วก็ข้าวหุงใหม่ๆ ก็มาวางแผ่อยู่ตรงหน้าฉันแล้ว นี่มันยิ่งกว่ามื้ออาหารดีๆ ที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีกนะ
จานที่ฉันใช้เป็นคนละแบบกับของอาคาริกับนัตสึมิ เป็นของที่ถูไถพอให้ใช้ได้ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลเสียอะไรกับรสชาติเลยล่ะนะ
“อาคาริ เธอทำอาหารเก่งเลยนี่นา?”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันแค่หยิบนู่นนี่มาทอดๆ เท่านั้นเอง”
“แต่ก็อร่อยจริงๆ นะ อาคาริ”
ฉันพูดก่อน นัตสึมิเองก็เห็นด้วย
“ไม่เอาน่า ทั้งสองคนชมกันแบบนั้นมันน่าอายออก”
อาคาริเขินม้วนต้วนไป แล้วนัตสึมิก็ดูจะภูมิใจเพราะอะไรซักอย่าง
อะไรล่ะเนี่ย?
“อ้อ จริงด้วย คุณอิชิคาวะ ฉันอยากจะคุยเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับ AP-1 หน่อยน่ะ”
“ได้ค่ะ มีอะไรเหรอ?”
“ฉันเข้าใจนะว่าตอนนั้นฉันตอบไปปุบปับว่าแสนนึง แต่ฉันจะมั่นใจได้ยังไงเหรอว่าจ่ายไปขนาดนั้นแล้วจะได้อะไรมาบ้าง? คือฉันไม่รู้เรื่องตลาดเลยด้วยเนี่ยสิ”
“อ้อ เรื่องนั้นไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเพราะพยายามจะรูดทรัพย์รุ่นพี่หรืออะไรแบบนั้นหรอก ฉันแค่ไม่เคยยุ่งกับพวกรถทำงานเกษตรมาก่อนเลยเท่านั้นเอง ว่าตามตรง มันก็จะเป็นการที่ฉันค่อยๆ ศึกษาไปด้วยทำไปด้วยนะคะ ฉันเดาว่ามันน่าจะถูกกว่าอะไหล่รถยนต์ทั่วไปอยู่ แต่ถ้าฉันต้องควักกระเป๋าจ่ายไปเยอะเกิน มันก็ลำบากกับพวกเราด้วยเหมือนกัน ฉันก็เลยอยากรู้ก่อนว่ารุ่นพี่สามารถจ่ายได้ไหวแค่ไหน”
“เข้าใจแล้ว ถ้าดูเหมือนจะเกินงบก็บอกฉันนะ เดี๋ยวฉันลองคิดดูอีกทีนึง”
“เคค่ะ แล้วก็ ขอถามอะไรอีกหน่อย? รุ่นพี่คิดจะเอามันไปขับที่ไหนกันคะเนี่ย? คงไม่ใช่ตามท้องถนนอยู่แล้วสินะคะ”
“ใช่ เป็นพื้นที่มันไม่เรียบสม่ำเสมอน่ะ เป็นเนิน เป็นโคลน แล้วก็อะไรพวกนั้น”
“อยากใช้สำหรับออฟโร้ดสินะคะ เค”
นัตสึมิรู้เรื่องโลกเบื้องหลังน้อยกว่าอาคาริอีก เธอคงคิดว่าฉันจะเอาไปขับบนเขาไม่ก็ชายหาดที่ไหนล่ะมั้ง ฉันต้องดูเป็นคนพิลึกแหงๆ เลยเนี่ย
ระหว่างที่ฉันคิดอยู่แบบนั้น อาคาริก็หันมาทางฉัน ส่งสายตาพยายามจะสื่อบางอย่าง คงจะแทนคำพูดว่า ‘เห็นมั้ยล่ะค้า ฉันเก็บเงียบเรื่องโลกนั้นเอาไว้ดีเลยนะคะ’ แต่แน่ล่ะ นัตสึมิสังเกตเห็นท่าทางนี้ ก่อนจะมาจ้องเขม้งที่ฉัน
“อะไรเหรอ อาคาริ? มีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“ไม่มีทางล่ะ เธอต้องกำลังจะพูดอะไรแน่ๆ”
“ไม่มีอะไรจริงๆ นะ โอเคมั้ย?”
ฉันไม่อยากจะติดร่างแหไปโดนเรื่องที่พวกเธอกำลังเถียงกันด้วย ฉันเลยปรบมือเสียงดังทีนึง
“ขอบคุณสำหรับอาหารน่ะ”
“อ้อ! ด้วยความยินดีเลยค่า!”
“ให้ฉันเอาไงต่อกับจานพวกนี้เหรอ?”
“ทิ้งไว้ได้เลยค่ะ รุ่นพี่เป็นแขกนี่นา”
“ขอบใจนะ ฉันเข้าใจว่านี่ก็รบกวนอยู่แล้ว แต่จะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะใช้ห้องอาบน้ำหน่อย? พวกผ้าเช็ดตัวกับของอื่นๆ ฉันเอามาหมดแล้วล่ะ”
“ได้เลยค่ะ! รุ่นพี่ไปก่อนได้เลย!”
ฉันหยิบกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์ค้างคืนมา แล้วก็หนีเข้าห้องอาบน้ำก่อน ห้องนี้ที่อพาร์ตเมนต์ของอาคาริไม่เหมือนกับของฉัน ที่นี่ห้องอาบน้ำกับสุขาจะแยกเป็นคนละห้องเลย น่าอิจฉาเหมือนกันนะเนี่ย นี่ชนะห้องน้ำสำเร็จรูปในอพาร์ตเมนต์ฉันได้แบบไม่เห็นฝุ่นเลย
ฉันรีบถอดเสื้อผ้าแล้วก็ใช้ฟักบัวต่อ ถึงนี่จะเป็นห้องอาบน้ำของบ้านคนอื่นก็เถอะ แต่การอยู่คนเดียวแบบนี้ก็สบายใจเหมือนกันแฮะ ดูเหมือนนัตสึมิจะอิจฉาที่เห็นฉันสนิทกับเพื่อนสมัยเด็กของเธอมากขึ้นล่ะมั้ง แต่เรื่องนั้นมันน่ารำคาญจะตาย ถ้าพวกเธอจะไปตีกันหรือคืนดีกันก็ช่วยไปทำตอนที่ฉันไม่อยู่ด้วยแล้วกันนะ ขอล่ะ แค่อย่าดึงฉันไปเอี่ยวด้วยก็พอ
ฉันอาบน้ำเสร็จ ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเตรียมนอนเรียบร้อย พอฉันเดินออกมาก็เห็นว่าจานชามถูกเก็บล้างหมดแล้ว ที่พื้นก็มีฟูกที่นอนออกมาปูแทน อาคาริกับนัตสึมินั่งขัดสมาธิกันอยู่บนฟูก ดูท่าจะคืนดีกันเรียบร้อยแล้วด้วย ทั้ง 2 คนดูเหมือนจะสนิทกันกว่าก่อนหน้านี้อีก ดูเหมือนเธอจะเลือกคุยกันแทนที่จะเอาปัญหามาทะเลาะกันสินะเนี่ย
“ขอบใจนะที่ให้ยืมใช้ห้องอาบน้ำ แถมยังเอาฟูกออกมาด้วยอีก ขอโทษที่มารบกวนนะ”
“ไม่เลยค่า รุ่นพี่ดูเหมือนจะอดนอนมากๆ เลย ฉันเลยคิดว่ารุ่นพี่น่าจะอยากนอนเร็วๆ สินะคะ”
“เอ๊ะ? แต่นี่มันเพิ่งจะ 4 ทุ่มเองนะ ฉันนอนบนพื้นแบบนี้มันจะไม่ขวางทางเธอเหรอ?”
“อ้อ ไม่หรอกค่ะ รุ่นพี่นอนบนเตียงได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันกับนัตซึนจะนอนที่ฟูกบนพื้นนี้เอง”
“ฮะ? แน่ใจเหรอ?”
“แน่ใจค่ะ!”
นัตสึมิเงยหน้าขึ้นมามองที่ฉัน เหมือนจะพูดว่า ‘มีปัญหาหรือไง?’ ด้วย
เอาจริงๆ นะ นี่เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย?
“อ้อ เหรอ…? งั้น ขอรับไว้ก็แล้วกันนะ…”
เพื่อจะไม่ให้เรื่องมันยุ่งยาก ฉันก็เลยเลือกจะรับเตียงที่เธอยกให้ฉันเอาไว้ด้วยความยินดี
ดูเหมือนเธอเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูเตียงด้วยนะเนี่ย สบายจัง ฉันมุดเข้าไปใต้ผ้าห่ม หันหลังให้พวกเธอ แล้วภาพมันก็ดำลงไปก่อนที่ไฟในห้องจะปิดซะอีก
เสียงกระซิบกระซาบกันของอาคาริกับนัตสึมิยังดังหงุงหงิงอยู่ข้างหลังฉัน เสียงหัวเราะคิกคักของพวกเธอลอยไปถึงในฝันฉันเลยด้วยซ้ำ
TN: ‘เพื่อน’ สมัยเด็กนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ…
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r