ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 119 ไฟล์ 13 แพนโดร่าข้างห้อง 4
หลังจบเลกเชอร์คาบ 5 กับ 6 ฉันก็ออกจากมหาลัย หลังจากนี้จะเป็นช่วงที่ฉันไปทำงานพิเศษที่ร้านสะดวกซื้อล่ะนะ แต่ตอนนี้ฉันหาเงินจากโลกเบื้องหลังได้ ก็เลยไม่ต้องไปทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
ฉันคิดว่าอะไรๆ มันก็ง่ายขึ้นนะ แต่ตอนนี้ แม้แต่บ้านของตัวเองก็ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยแล้วเนี่ยสิ เพราะงั้น จะมองหาที่นอกบ้านเพื่อดึงความสนใจของตัวเองออกมาก็ไม่เสียหายอะไรหรอก
การที่อยู่บ้านแต่ผ่อนคลายไม่ได้นี่มันลำบากชะมัดเลย แค่คืนเดียวก็ล้าขนาดนี้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นวานมันต้องส่งผลกับฉันเยอะแหงๆ
จะออกไปสำรวจโลกเบื้องหลังเอาตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว แถมได้ยินมาว่าอาทิตย์นี้ โทริโกะจะมีธุระยุ่งๆ ด้วย เพราะโดดไปหลายคาบ งานที่เธอหมักหมมไว้ต้องสะสางเลยมีเพียบเลยเหมือนกัน
ได้รู้ว่าคนดูจะสวยไร้ที่ติอย่างเธอเองก็เหลาะแหละเหมือนกันทำให้ฉันผ่อนคลายได้นิดๆ เหมือนกันแฮะ ฉันยิ้มออกมานิดๆ พอคิดว่าเธอเองก็มีปัญหาส่วนตัวกับเรื่องรายงานหรืออะไรพวกนี้เหมือนกัน
สู้ๆ นะ โทริโกะ
ไม่สิ ตอนนี้ช่างเรื่องโทริโกะไปก่อน ฉันต้องหาทางออกให้ได้ว่าฉันจะทำยังไงดี
ในระหว่างทางเดินกลับบ้านที่ใช้เวลาแค่ 10 นาที เท้าของฉันมันก็หนักไปหมดเลย
ไม่ชอบเลยให้ตายเถอะ ไม่อยากกลับบ้านเลย…
พูดให้ถูกกว่าคือ ฉันอยากกลับบ้านนะ แต่ไม่ชอบห้องข้างๆ เลยเนี่ยสิ
หรือฉันควรจะลุยซึ่งๆ หน้าไปเลยดีนะ? แต่ ยังไงล่ะ? เอาปืนออกมาแล้วก็ไปถล่มห้องนั่นงี้เหรอ?
“ไม่ ไม่ ไม่…”
ฉันส่ายหัวไปมา แหงล่ะ ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นอยู่แล้ว ไม่ว่าข้างห้องฉันมันจะมีอะไรอาศัยอยู่ก็ตาม ต่อให้ฉันจะใช้ตาขวากับมาคารอฟเป่าให้มันหายไปได้ก็เถอะ ยังไงเสียงปืนก็ต้องเรียกให้ตำรวจเข้ามาดูอยู่แล้ว
ถ้าฉันใช้ปืนไม่ได้ แสดงว่าต้องให้อาคาริมาจริงๆ เหรอเนี่ย? ให้เธอคลั่งด้วยตาขวา แล้วก็ซัดคาราเต้ใส่เจ้าตัวประหลาดนั่นงั้นเหรอ?
ทำแบบนั้นมันก็ทารุณ ไร้มนุษยธรรมเกินไปชัดๆ เลยนะ ฉันไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอก
คุยกับทางกลุ่มวิจัย DS แล้วให้เขาส่งใครมาที? แบบโอเปอร์เรเตอร์จากทอร์ชไลท์ดีมั้ยนะ?
ไม่ล่ะ ไว้ถ้าฉันไม่มีทางเลือกอื่นๆ แล้วจริงๆ ก็อาจจะทำแบบนั้นนะ แต่ฉันไม่อยากทำตามไอเดียนี้เลย ฉันอยากจะคงสถานะความสัมพันธ์กับกลุ่มวิจัย DS ไว้เป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจเท่านั้นมากกว่า พวกเขาไม่ใช่กลุ่มคนที่จู่ๆ ฉันก็จะไปเรียกเพื่อมาแก้ปัญหาส่วนตัวได้ซักหน่อย
แล้วก็ อาจจะแปลกๆ หน่อย แต่ฉันว่าพวกเขาไม่น่าจะมีใครที่ [เชี่ยวชาญ] ในเรื่องที่มันมีเอี่ยวกับโลกเบื้องหลังไปมากกว่าฉันกับโทริโกะแล้วด้วย
“อ่า ให้ตาย ไม่ชอบแบบนี้เลย…”
หนักใจชะมัด แต่ฉันต้องรับมือเรื่องนี้ด้วยตัวเองให้ได้ซักวิธีจริงๆ แล้วล่ะ ถ้าอยู่คนเดียวแล้วมีแมลงสาบเข้ามาในห้อง เราก็ต้องจัดการมันด้วยตัวเองเหมือนกันนี่
พอมาถึงอพาร์ตเมนต์ ฉันก็เหลือบมองดูที่โถงทางเดินชั้น 1 อย่างระแวดระวัง
ตรงนั้น ไม่มีใครอยู่เลย
ฉันมายืนอยู่หน้าประตูห้องตัวเอง มองดูที่ห้อง 103
ฉันไม่รู้หรอก แต่แกอยู่ตรงนั้นรึเปล่า? ลองบุกรุกพื้นที่ปลอดภัยของฉันดูสิ เดี๋ยวรู้เลย…
ฉันเข้าไปในห้องของตัวเอง ก่อนจะลงกลอนคล้องโซ่ทันที ฉันเดินตัดผ่านเสื้อทาทามิมาด้วยก้าวเท้าหนักๆ ทิ้งกระเป๋าลงกับพื้น แล้วก็ไปยืนกอดอกจ้องดูที่กำแพงห้อง 103
โอเค ทีนี้ จะจัดการกับแกยังไงดีนะ?
ฉันคิดว่าตัวเองถูกต้อนจนเสียท่าเลยเมื่อวาน เพราะดันไปทำเรื่องลับๆ ล่อๆ อย่างการแอบฟังนั่นแหละ นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะ
แต่ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมันเหมือนกับพวกมิจฉาชีพประสงค์ร้ายมากๆ ตอนที่เราไม่โต้ตอบ พวกนั้นก็จะมา เพื่อป้องกันตัวเองจากอะไรก็ตามที่เราควบคุมไม่ได้ เราก็ต้องลงมือจัดการเท่านั้น ถ้าไปรอให้อีกฝ่ายเริ่ม เราก็จะไปวิ่งเต้นอยู่ในฝ่ามือของทางนั้นน่ะสิ เราต้องลงมือก่อน
“แต่ ฉันก็ยังใช้ปืนไม่ได้อยู่ดี…”
ถ้ายิงใส่ไม่ได้ บางที อาจจะลองใช้วิธีสันติกว่านี้ดีมั้ยนะ? อย่าง ทุบกำแพง? ถ้าใช้มือเปล่าตบกำแพงแรงๆ จะได้การตอบกลับยังไงนะ?
อืม แบบนั้นแหละ ทำเหมือนกับว่าทางนั้นเป็นเพื่อนบ้านนิสัยเสียก็แล้วกัน
ยิ่งคิดก็ยิ่งตลกแฮะ
“โอเค…”
ฉันยกมือขึ้นมาสูงๆ ก่อนจะเหวี่ยงฟาดใส่กำแพงห้องฝั่งที่ติดกับห้อง 103
*ปึ้ง!!*
“อุหวา!”
เสียงดังกว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ ตกใจหมดเลย
ไม่สิ นี่ใช่เวลาจะมาตกใจที่ไหนเล่า? ฉันดึงสติกลับมา ก่อนจะยกมือขึ้นอีกรอบ
*ปึ้ง! ปึ้ง! ปึ้ง!* ฉันทุบกำแพงซ้ำอีกหลายครั้ง รู้สึกสดชื่นเหมือนกันนะ มั่นใจเลยล่ะว่าเสียงคงดังจนทั้งตึกได้ยินแน่ๆ แต่นี่ฟ้ามันยังสว่างอยู่เลย พวกเขาทนกันได้อยู่แล้วล่ะ แล้วฉันก็จริงจังกับเรื่องนี้ด้วย
ฉันตีไปจนมือเริ่มเจ็บๆ แล้ว ฉันก็เลยหยุดแค่นี้ แล้วก็ฟัง
ไม่ได้ยินอะไรเลย ทำเป็นไม่อยู่บ้านหรือไงนะ?
โอเค ถ้างั้นก็ไปเคาะประตูก็แล้วกัน คราวนี้เป็นตาฉันที่จะไปทำแบบที่ป้า 3 คนนั้นทำแล้วล่ะ
ฉันหันไปเตรียมออกจากห้อง รู้สึกคึกกับเรื่องนี้แปลกๆ
ตอนนั้นแหละ ที่มันเกิดขึ้น
*กิ๊งก่อง*
เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น
ฉันตัวแข็งค้างเลย
*กิ๊ง… ก่อง…*
ดังอีกแล้ว คราวนี้ ข่วงตรงกลางของเสียงยาวแปลกๆ ด้วย
ฉันชักมาคารอฟออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง รู้ดีนะว่ายิงไม่ได้ แต่มันเป็นเหมือนเครื่องรางคุ้มภัยแล้วล่ะตอนนี้
ฉันสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
โอเค ฉันจะไม่ยอมให้เจ้านี่มาทำให้ฉันกลัวได้หรอก ที่นี่มันบ้านฉันนะ
ฉันตั้งมั่นเรื่องนี้อยู่ในใจ และเริ่มจัดการต่อ ฉันค่อยๆ ย่องเงียบๆ ช้าๆ ผ่านห้องครัวไปยืนอยู่ตรงหน้าประตูหน้าห้อง
ถ้าคิดดูด้วยหัวโล่งๆ แล้วเนี่ย ก็เป็นไปได้นะว่าทั้งหมดมันจะเป็นการเข้าใจผิดไปของฉันเอง เมื่อวานนี้ ห้อง 103 ต้องกลายเป็นพื้นที่คั่นกลางแน่ๆ แต่ก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าจะมีคนทั่วไปอาศัยอยู่ตามปกติด้วย แล้วเพื่อนบ้านนิสัยเสีย (ฉันเองนั่นแหละ) จู่ๆ ก็เริ่มทุบกำแพงไม่หยุดแบบนี้ เขาก็ต้องโมโห แล้วก็มาต่อว่าอยู่แล้วล่ะนะ
เอ๊ะ? ยิ่งคิดก็ยิ่งฟังดูเข้าเค้าแฮะ
อืม ฉันคงจะโมโหเกินไปนั่นแหละ ใจเย็นๆ ซักหน่อยแล้วกัน
ฉันค่อยๆ เอาตามองลอดช่องตาแมวที่ประตูอย่างช้าๆ
ภาพข้างนอกประตูถูกย้อมด้วยบรรยากาศของแสงแดดโพล้เพล้ ร่วมกับมุมมองผ่านเลนส์ตาปลา
ตรงนั้น มีคนสีแดงร่างสูงอยู่
รู้สึกตัวอีกที ฉันก็นอนแผ่อยู่ที่พื้นห้องครัว หลังพิงอยู่กับตู้เย็นแล้ว
“เอ๊ะ?”
ฉันกระพริบตาปริบๆ เจ็บหัวจัง มันไม่ใช่ว่าหัวฉันไปกระแทกหรืออะไรนะ มันเจ็บที่ท้ายทอย เหมือนกับตอนที่ฉันใช้ตามากเกินไปอะไรแบบนั้น
ฉันแตะๆ ที่หน้า ก็รู้สึกว่ามันเปียกๆ ฉันนึกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บจนกลัวนิดๆ เลย แต่มันไม่ใช่เลือดไหลหรอก เป็นแค่น้ำตาเฉยๆ ตาขวาของฉันมีน้ำตาไหลออกมาเยอะมากๆ ลงมาตามคอจนเปียกเสื้อฉันไปถึงหน้าอกเลย
ฉันหันไปมองที่นาฬิกา ก็เห็นว่ามันเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว แสดงว่าฉันหมดสติไปเป็นชั่วโมงเลยสินะ
นี่มัน… ชักท่าไม่ดีแล้วสิ ไม่ได้ความอะไรเลย
ไม่ว่าสิ่งที่ฉันกำลังเจออยู่นี่มันจะเป็นอะไรก็ตาม แต่มันอันตรายเกินกว่าที่ฉันจะพยายามจัดการมันคนเดียวได้แน่นอน
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ล้างหน้าในอ่าง ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา เลื่อนหารายชื่อที่มีอยู่ไม่กี่เบอร์มาอันนึง
เพื่อโทรออกไป
“…อึม เออ อาคาริ? โทษทีนะที่จู่ๆ ก็โทรมาหา เออ… คือ เธอจำตอนที่เธอชวนฉันไปค้างที่บ้านเธอวันนี้ได้มั้ย? อือ อื้อๆ นี่ เรื่องนั้นยังรับอยู่หรือเปล่า…?”
TN: อ่าว เอาไม่อยู่ซะงั้น 555
ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r